" ผาแดงหลวง "

ครั้งแรกที่ผมเห็นที่นี่ จากเพจท่องเที่ยว อันนึง เมื่อกลางปี ก็ตะลึงไปชั่วขณะ
เห้ย นี่มันที่ไหนว่ะ ทำไมสวยขนาดนี้ ไอ้เราก็นักเดินทาง อ่านรีวิวก็เยอะ ทำไมไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นที่นี่เลย

วันนั้นก็เลยมาหาข้อมูล ถึงได้รู้ว่า อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูน
โห.. นี่ตรู พลาดที่สวยๆ แบบนี้ไปได้ไง วันนั้นเลยโทรติดต่อเจ้าหน้าที่ ถามรายละเอียด

ได้คำตอบว่า เค้าให้ขึ้นได้หลังฤดูฝน ต้องรอถึงปลายเดือน พฤศจิกายน กันเลยทีเดียว
โห ตั้งครึ่งปี อืม เอาว่ะ รอก็รอ

แล้วก็รอ รอ รอ อดทน เฝ้ารอ แล้วก็ลุ้นว่า อย่าเพิ่งให้ใครรู้จัก
อย่าเพิ่งดังนะ อยากให้ที่นี่ ยังใหม่ ยังธรรมชาติที่สุด

ไม่อยากต้องไปแก่งแย่งถ่ายรูปกับใคร ไม่อยากเจอความวุ่นวาย
อยากไปเสพ ธรรมชาติ ความสวยงาม แบบเต็มๆ

แล้วในที่สุด ความหวังก็เป็นจริง เราเป็นกลุ่มแรกของปีนี้ครับ
ที่มาเปิดป่า เปิดเส้นทาง ไปจุดชมวิวผาแดงหลวง

ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ผมว่า เป็นจุดดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่เคยเจอมาเลย

ถึงแม้ช่วงที่เราไป ฟ้าจะไม่เปิดเต็มที่ แต่ก็สวยสุดๆ วิวนี่ระดับร้อยล้านกันเลยทีเดียว
สวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไง ดีต่อใจมากๆ

มารู้จักกับ " ผาแดงหลวง " กันครับ

หลายคนได้ยินชื่อ ผาแดงหลวง คง งง ๆ ที่นี่ ที่ไหนฟร่ะ เอาตรงๆ ผมเองก็ไม่รู้จักครับ 55+
ผมมารู้จัก กับผาแดงหลวง เมื่อกลางปีที่ผ่านมานี่เอง จากเวบท่องเที่ยวเพจนึง
ที่บังเอิญไปเจอแบบผ่านๆ แต่สะดุดตา สะดุดใจสุดๆ

เห้ย อะไรจะสวยเบอร์นั้น รีวิวที่เจออันแรก ยังยกให้เป็น สวิส เมืองไทย
แต่ผม คงไม่เอาไปเปรียบเทียบกับที่ไหน เพราะทุกที่ มันจะมีเสน่ห์ ในตัวของมันเอง

จุดชมวิวผาแดงหลวง จะอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูนครับ
นั่นไง จ.ลำพูน หลายคน คงคิดเหมือนผม จ.ลำพูน มีอะไรเที่ยวว้า.. 55+

หลับตาแพ๊บ..... ใช้หมอง .....

555+ นึกไม่ออกครับ แต่ที่ดังๆ ก็มีพระธาตุหริภุญไชย แล้วก็อุทยานแห่งชาติแม่ปิงนี่แหละ
ที่พอจะคุ้นๆ แต่ก็น้อยคนนัก ที่จะรู้ว่าในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง
จะซ่อนสถานที่ ที่มีความสวยงาม วิวระดับร้อยล้าน แบบนี้ไว้
มาดูกันว่า อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรกันบ้างนะครับ

จากแผนที่ จุดท่องเที่ยวหลักๆ ก็ตามรูปเลยครับ
ที่ดังๆ ก็แก่งก้อ โรงเรียนเรือนแพ (หนังคิดถึงวิทยา) น้ำตกก้อหลวง ทุ่งกิ๊ก

ส่วนผาแดงหลวงเราต้องนั่งรถ 4W จากทุ่งกิ๊กเข้าไปอีกนะครับ ไปนอนค้างแรมที่ จุดกางเต๊นท์ถ้ำยางวี
แล้วตอนเช้า ก็ต้องนั่งรถ 4 W ไปอีก ราวๆ 1 ชม. และเดินเท้าอีกราวๆ 1 กิโล กว่าๆ ครับ

อะ เรารู้กันแล้วว่า ผาแดงหลวงอยู่ที่ไหน มาดูเรื่องการเดินทางกัน
สำหรับผม ทริปนี้เรามากัน 15 คนก็วิธีที่ง่ายที่สุดคือการ เหมารถตู้ครับ

ส่วนใครไม่มีรถส่วนตัว หรือจะฉายเดี่ยว หรือมาแพ๊คคู่ หรือมาไม่เยอะ
แนะนำให้นั่งรถมาลงที่ อ.ลี้ จ.ลำพูนครับ จากนั้นโทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานให้มารับ

ค่าเสียหาย ก็ลองติดต่อสอบถามพี่ที่อุทยานได้ครับ ผมไม่แน่ใจเรื่องราคา
แต่พี่แกเคยบอกว่า ถ้ามารถทัวร์ แกจะไปรับครับ
สำหรับการจะเข้าไป จุดชมวิวผาแดงหลวง ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน เท่านั้นนะครับ

เบอร์ติดต่อ ติดต่อได้ที่พี่เจ เป็นหัวหน้าหน่วย ที่นี่ครับ นิสัยดี น่ารัก ใจดี แถมตลกด้วยครับ 55+
อย่ารอช้ากดไปกันได้เลยครับ เอ้า.. เบอร์ 093-1308439

นี่ครับพี่เจ ใจดี น่ารัก ดูแลพวกเราอย่างดี ตลอดทริปเลย ขอบคุณก๊าบ

การขึ้นผาแดงหลวง เราจะต้องไปนอนที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ปิงที่ มป.12 (ถ้ำยางวี) นะครับ
ซึ่งต้องนั่งรถ 4W ขึ้นไปเท่านั้น หรือมอเตอไซค์ลุยๆ สักหน่อย

รถ 4W ก็ติดต่อพี่เจ ได้เลยครับ ราคาจะอยู่ที่ 5 คน 3,500 บาท , 6 คน 3,800 บาท , 7 คน 4,100 บาท และ 8 คน 4,400 บาทครับ
1 คัน พี่เค้าขอจำกัดคนแค่ 8 นะครับ เพราะไม่งั้นรถอาจขึ้นไม่ไหว ซึ่งก็จริงๆ ทางก็โหดเอาเรื่องครับ

ต้องนั่งเจ้านี่ อีกต่อนึงครับ เพื่อไปจุดกางเต๊นท์
เราต้องไปขึ้นรถ 4W ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ปิงที่ มป.3 หรือทุ่งกิ๊ก นะครับ
แหมชื่อน่าไปจริงๆ 55+
เพราะจะเป็นจุดสุดท้าย ที่รถทั่วไป สามารถเข้าได้ครับ เลยจากจุดนี้ไปจะต้องใช้ 4W แล้ว

ที่ทุ่งกิ๊ก ก็มีทั้งบ้านพักบริการ มีห้องน้ำสะอาด เรียกว่าไปนอนพักเล่นๆ สักคืนก็ได้ครับ
หรือจะใช้สูตร แบบผม คือขึ้นไปไม่ได้อาบน้ำ แล้วลงมาอาบข้างล่าง ทีเดียวก็ได้ครับ 55+

มันชื่อทุ่งกิ๊ก จริงๆ ครับ
ที่ผาแดงหลวง ต้องใช้เวลา 2 เดือน เอ้ย 2 วัน 1 คืนนะครับ ในการจะขึ้นไป 55+
ไปนานขนาดนั้น กลับมาโดนไล่ออกกันพอดี
แล้วต้องไปนอนเต๊นท์ เท่านั้นนะครับ เพราะบ้านพักกำลังปรับปรุง เสร็จแล้วรับรอง สะดวกสบาย

ใครไม่มีเต๊นท์ก็ไม่ต้องกลัวครับ มีเต๊นท์ให่เช่า ราคาแสนเป็นกันเอง เต๊นท์ละ 250 บาท ถูกเว่อร์ๆ
แต่ผมไปกันเยอะ พี่เจเลยลดให้ นี่ไง บอกแล้วใจดีฟุตๆ เหลือเต๊นท์ละ 150 เท่านั้นเอง เองงงงง
แผ่นรองนอนก็มีให้เช่า อันละ 30 บาท ถุงนอนก็อันละ 20 บาท
เป็นไงละครับ ถูกเว่อร์ ๆ กับการไปดูวิว หลักร้อยล้าน แบบนี้

ต้องนอนเต๊นท์แบบนี้กันครับ ใครกางเป็น ช่วยเจ้าหน้าที่กางได้เลยครับ
แต่ แต่ ที่นี่ ไม่มีไฟฟ้านะครับ 55+ สัญญาณโทรศัพท์ ก็ไม่มี
แต่ผมว่าก็ดีนะครับ เราจะได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติได้เต็มที่

ส่วนห้องน้ำ หายห่วงครับ มีห้องน้ำ 2 ห้อง อาบได้ มีน้ำให้ใช้ ห้องน้ำ ก็จัดว่าดีเลยทีเดียว
เป็นแบบนั่งเหมือนชักโครก แค่ต้องราดน้ำเอง แค่นั้น มีสายฉีดด้วย
โอเครเลยแหละ สำหรับการไปนอนกลางป่าแบบนี้

ส่วนอาหาร การกิน ก็ต้องทำกินเองนะครับ แต่พี่เค้ามีเตาให้เรายืม 2 เตาครับ ต้องเอาถ่านไปเอง
สนุกตรงนี้แหละ กลุ่มผมเลยจัดหมูกระทะ กันไปเลย เพราะรถเข้าถึง ที่กางเต๊นท์ สบาย 55+

ตามแผนการตอนแรก เรากะจะไปเช้ากันที่ ตัวเมืองลำพูน เพื่อเวาะซื้อของ และไหว้พระธาติหริภุญไชย
แต่เนื่องจากออกจากกรุงเทพกันช้า และนัดเรือไว้เวลา 09.00 น. พี่คนขับรถตู้ คาดว่าเราจะมาไม่ทัน

เพราะถ้าเราเข้าตัวเมืองลำพูน เหมือนมันจะอ้อม และเราต้องขับย้อน ลงมาอีกกว่า ร้อยกิโล
เราจึงเปลี่ยนแผน ไปเช้าที่ อำเภอลี้ ครับ

มาถึง อำเภอลี้ ราวๆ 7 โมง ก็เวาะทานข้าว ซื้อสเบียงกันครับ เมนูอาหารเย็นเราวันนี้คือ หมูกระทะครับ อิอิ
พอเห็นรถเข้าถึงหน่อย จัดหนักกันเลยทีเดียว ถึงจะนอนเต๊นท์กันก็เถอะ 55+

เวาะซื้อผัก และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น ช้อน ถ้วยกระดาษ น้ำดื่ม
อย่าลืมถ่านนะครับ มีเตาให้ แต่อย่าเป็นคนไม่เอาถ่านนะครับ เดี๋ยวจะไม่มีอะไรกิน อิอิ
ที่ตลาดเช้า อ.ลี้ มีแทบจะทุกอย่างนะครับ มาหาซื้อเอาที่นี่กันได้เลย
อ้อ ใครจะเอาหมูมา ก็อย่าลืมเอากล่องโฟมมาด้วยละครับ เดี๋ยวจะเสียซะก่อน

ร้านค้าเยอะแยะเลยครับ เซเว่นก็มีนะเออ

ได้ของครบก็ได้เวลาลุยกันละ จาก อ.ลี้ ไปอุทยานแห่งชาติแม่ปิง
จะเป็นทางขึ้นเขานะครับ โค้งเยอะเหมือนกัน ใครขับมาเองก็ระวังนิดนึง แต่ทางดีครับ

จุดหมายแรกของเราวันนี้ ก็ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ปิง โดยเรานัดกับพี่เจ ไว้ที่นี่ครับ
มาถึงพี่เจ ก็พาไปแนะนำสถานที่ต่างๆ บอกเส้นทางที่ต้องไป

แถมซื้อบัตรเข้าอุทยานไว้รอเลย เพื่อให้เราไม่เสียเวลา แหม..ดูแลดีมากครับ
อ้อ แผนการท่องเที่ยววันนี้ พี่เจก็เป็นคนแนะนำให้นะครับ
ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง ควรไปที่ไหนก่อน

สถานที่แรกที่เราจะไปลุยกัน วันนี้คือ แก่งก้อ ครับ จะเป็นการนั่งเรือชมวิว
และไปเวาะเยี่ยม โรงเรียนเรือนแพ ต้นฉบับ จากหนังเรื่อง คิดถึงวิทยา ครับ

จากที่ทำการอุทยาน ไปแก่งก้อ ก็ไม่ไกลครับ ขับมาแพ๊บเดียว ราวๆ 20 นาที

นี่ครับแก่งก้อ สวยกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย ดูในรีวิว ตอนน้ำแล้งๆ มันแห้งๆ เหมือนจะไม่สวย
แต่ตอนเรามาน้ำเยอะ แถมกำลังเขียว ชอุ่มไปทั่วเลยครับ

ถามจากคนขับเรือ น้ำที่นี่ จะขึ้นลงตามการเปิดของเขื่อนภูมิพล นะครับ
คือไม่สามารถคาดเดา ตามฤดูกาลได้
เปิดตอนไหน น้ำก็ลง ไม่เปิดนานๆ น้ำก็ขึ้น ทำให้การมาสร้างที่พัก ในเขื่อนที่นี่ จะสามารถเที่ยวได้ในระยะ สั้นๆ ไม่คุ้มกับที่ลงทุนครับ

มาถึงต้องถ่ายรูป หมู เอ้ย หมู่กันหน่อย นี่แหละครับ คนบ้าทั้ง 15 คน 55+
ได้เวลาไปล่องเรือกันละ ลุย..
พร้อมมาก แต่ละคน ค่าเหมาเรือลำใหญ่แบบนี้ ก็ไม่แพงครับ 1,800 บาท ตกคนละ 100 นิดๆ เท่านั้นเอง เรือลำเล็กๆ ก็มีนะครับ
Unseen อีกอย่างนึง ที่ไม่ได้คิดมาก่อนคือ วิวระหว่างทางไป โรงเรียนเรือนแพ สวยมากกกกก ครับ ไปดูวิวระหว่างทางกัน
นั่งมาสักพัก ก็ถึงละครับ โรงเรียนเรือนแพ จากหนัง คิดถึงวิทยา

ครูสอง มาละจร้า เด็กๆ ครูแอน อยู่มั้ย 55+


เงียบ..กริบ... 55+

ก็เราดันมาวันเสาร์ครับ ทั้งอาจารย์ ทั้งนักเรียน ก็กลับบ้านซิครับ 55+ ไม่มีคนเลย
มีแต่แมว กะหมา เฝ้าแพครับ วิ่งมาเล่นกันใหญ่เลย คงตื่นเต้น นานๆ จะมีคนมา

เนี่ยครับ ครู และนักเรียนจริงๆ ที่นี่ ใครต้องการเอาของมาบริจาค หรือมาเยี่ยมเด็กๆ
ให้มาวันธรรมดานะครับ หรือโทรบอกครูมาดก่อน ติดต่อได้ที่เบอร์นี้นะครับ 087-1799506

วันเราไปไม่ได้โทรบอก เลยมาไม่เจอครับ ไปดูบรรยากาศบนโรงเรียนเรือนแพกันครับ ไอ้กลมๆ บนพิ้นนะ คนนะครับ 55+
จะว่าไปตอนนี้โรงเรียนแพ ก็ได้รับความช่วยเหลือไปหลายๆ อย่าง ก็มีทุกอย่าง แทบจะครบละครับ
เราก็เดินเล่นกันสักพัก ก็ตัดสินใจกลับ ก่อนกลับเลยถ่ายรูปเป็นที่ระทึกซะหน่อย

ได้เวลากลับละ ครูสองไปละนะ ครูแอน 55+
ขามาว่าวิวสวยละ ขากลับ ดันสวยกว่าขามาอีกครับ 55+ ไปชมรูปกัน

ไป - กลับ ใช้เวลาราวๆ เกือบ 2 ชม. ครับ กลับมาถึงราวๆ 11.45 น. ก็เลยกินข้าวเที่ยงกันที่แก่งก้อเลย
ที่นี่ จะมีร้านอาหาร ริมน้ำอยู่ หลายร้านครับ บรรยากาศดีทีเดียว

กว่าจะกินข้าวเสร็จ ก็ปาไปบ่ายโมงกว่า ต้องรีบไปจุดหมายต่อไปครับ น้ำตกก้อหลวง
ก็ขับรถไปอีกราวๆ 30 นาทีครับ แล้วต้องเดินเท้าต่ออีกราวๆ 400 - 500 เมตร

ก่อนหน้าที่เราจะไป 2 - 3 วัน ฝนตกครับ น้ำเลยไม่เป็นสีฟ้า แต่จริงๆ น้ำจะเป็นสีฟ้าแบบนี้ครับ

ส่วนใครจะเล่นน้ำก็ได้นะครับ แต่ต้องใส่ชูชีพ ค่าบริการอันละ 20 บาทครับ
กลุ่มเรามี 2 หน่วยกล้าลุย กระโดดจ๋อม ลงไปแช่เรียบร้อย เนี่ยครับ วันที่ไปน้ำจะขุ่นนิดนึง

อยู่ได้สักพักเราก็ต้องไปต่อครับ เพราะนัดรถ 4W พี่เจ ไว้ 15.00 น.
แต่เราไปช้ากันเกือบครึ่งชม. ครับ พี่เจ เกือบหนีกลับบ้านละ 55+ ดีนะที่ยังรอ ขอโทษก๊าบ..

มาถึงก็ย้ายของกันครับ ต้องเปลี่ยนพาหนะกันแล้ว

ได้เวลาแอดแวนเจอร์ละครับ ลุย..
ทางที่ไปช่วงแรก ก็จะค่อนข้าง เหมือนเข้าป่านิดนึงครับ เป็นทางลูกรัง ต้นหญ้ายาวเฟื้อยเลยทีเดียว


นั่งไปเรื่อยๆ เซลฟี่ กันไป มีโหดบ้าง ขรุขละ บ้าง


มีหลุมตรงนี้ครับ ที่ทำเอากันชน ดังครื้น เลยทีเดียว นึกว่าไปซะละ


แต่เราก็เซลฟี่ ไปเรื่อยๆ ครับ 55+


ก็ต้องนั่ง 4W กันไปอีกราวๆ ชม. นิดๆ เราก็มาถึง หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ปิงที่ มป.12 (ถ้ำยางวี)

ซึ่งเป็นจุดกางเต๊นท์ของเราคืนนี้ครับ

จะมีบ้านพัก 2 หลัง กำลังปรับปรุงครับ ห้องน้ำจะอยู่บนบ้านพักนะครับ มี 2 ห้อง สะอาด

เป็นแบบนั่งคล้ายชักโครก แต่ต้องราดน้ำเองครับ มีสายฉีดด้วย ก็ถือว่าโอเครเลยครับ

พอมาถึงเจ้าหน้าที่แนะนำว่า มันมีจุดชมวิว ใกล้ๆ ที่พักด้วย ชื่อจุดชมวิวก้อน้อย

ต้องเดินไปอีกราวๆ 500 เมตรครับ ก็ต้องจัดครับ เดี๋ยวแสงหมด ค่อยกลับมากางเต๊นท์กัน

จุดชมวิวก้อน้อยครับ วิวสวยดีเหมือนกัน

ต้องถ่ายรูปหมู ซะหน่อย บ้า กันมาก ถ่ายรูปตลอด 55+

ที่นี่เค้าทำที่นั่งไว้ เป็นขั้นๆ สำหรับดูวิวด้วยนะครับ ยังกะโรงหนัง 55+

ดูวิว ถ่ายรูปกันสักพัก ก็ต้องรีบกลับมาช่วย เจ้าหน้าที่กางเต๊นท์ครับ เพราะมากันเยอะ

อ้อ ที่นี่ ไม่มีไฟฟ้า นะครับ เตรียมไฟฉาย อุปกรณ์ต่างๆ กันมาให้พร้อม สัญญาณโทรศัพท์ ก็ไม่มีนะครับ


กางเต๊นท์เสร็จ ก็มืดพอดี ได้เวลามื้อเย็น ที่อุตส่าขนกันมาละครับ ใช่แล้ว หมูกระทะ นั่นเอง เองงงง เย้ๆ

จัดหนักกันเลยทีเดียวครับ มื้อนี้

กินเสร็จก็นั่งสังสรรค์ กันสักพักครับ เล่นเกมส์กันไปเรื่อย แนะนำให้ลองไปเล่นกันดู ฮา สุดๆครับ

ชื่อเกมส์ขอ 3 คำ ก็นั่งล้อมวงกันนี่แหละครับ แล้วให้มีคนเริ่มคนนึง คิดมา 3 คำ แล้วกระซิบไปที่คนข้างๆ

อย่าให้คนอื่นได้ยิน แล้วก็กระซิบ ได้แค่รอบเดียวนะครับ พอครบวง ก็ไล่เฉลยจากคนสุดท้าย กลับมา

ผิดคนไหน หรือคู่ไหน ก็หาไรให้กินครับ 55+ แล้วให้คนผิด เป็นคนเริ่มใหม่

ลองไปเล่นดูครับ ผมว่าสนุกดีนะ 55+

สังสรรค์กันสักพัก ก็ได้เวลานอนครับ อ้อ ไฮไลค์ อีกอย่างของที่นี่คือ ดาวครับ ที่นี่ดาวเยอะมาก

อาจเพราะวันที่พวกเรามา เป็นข้างแรมด้วย เลยมองเห็นได้ชัด

แถมมองเห็นทางช้างเผือก ด้วยตาเปล่า ได้ด้วยนะครับ

แต่กล้องที่มี แต่ละคน ไม่สามารถถ่ายมาได้เลย มีแต่มือถือกะกล้อง แอคชั่นแคม 55+

ก็มีพี่คนนึงในทริป ใช้กล้องใหญ่ แต่ก็ต้องรอรูปกันนิดครับ ขอมาเขียนรีวิวก่อนละกัน


มาถึงช่วงสำคัญ กับไฮไลค์ของทริปนี้ กับการไปจุดชมวิวผาแดงหลวงครับ
การไปจุดชมวิว เราต้องตื่นกันตั้งแต่ ตี 3 ครับ ล้างหน้าแปรงฟัน กว่าจะได้ออกกัน ก็ราวๆ เกือบตี 4

จากจุดที่พัก ไปผาแดงหลวง ต้องนั่งรถ 4W ไปอีกราวๆ 12 กิโล
ทางช่วงนี้ก็โหดเอาเรื่องครับ มีขึ้นเนินเรื่อยๆ แต่ไม่ชัน ขรุขละ เป็นหลุ่มเป็นบ่อ มาหมด

แถมกลุ่มเราดันไปเจอ แจ๊คพ๊อต รถติดหล่มครับ 55+
ถึงว่า พี่เจบอก ให้รอหลังหน้าฝน เพราะถ้าทางมันเปียก หรือชื้น มันจะมีแต่โคลนครับ ขึ้นยากมาก

ต้องลงมาช่วยกันเข็นรถ ตั้งแต่ตี 5 ครับ 55+ ทุลักทุเลสุดๆ

แล้วที่แย่กว่านั้น ดันผ่านไปได้คันเดียวครับ 55+ พี่เจแกเลยตัดสินใจ ให้รถอีกคันรอที่นี่ ทำอาหารเช้ารอ

ให้เรา 15 คน รวมเจ้าหน้าที่ด้วย ก็ 16 คน อัดกันไปครับ อือหือ ขออย่าให้เจอหล่มอีกเลย ไม่งั้นแย่แน่

แต่ก็ผ่านมาได้ครับ เพราะมีแค่ช่วงนั้นช่วงเดียว ที่พื้นเปียกครับ และเป็นโคลนครับ

ขับมาสักพักก็จะมีจุดจอดรถ จากจุดจอดรถ เราต้องเดินเท้าไปอีกราวๆ 1 กิโลกว่าครับ

จะเป็นทางขึ้นเนินเรื่อยๆ ครับ ไม่ชันมาก เดินได้ทุกคนแน่นอน

เดินมาไม่นาน ก็ถึงครับ แสงเช้ามาพอดี โชคเรายังดี ฟ้าไม่ปิดมาก แต่ก็ไม่เปิดเต็มที่ครับ


แถมมาช่วงนี้ ปลายฝน เราได้เจอทะเลหมอกด้วยครับ ไปชมภาพกัน


ในใจตอนนั้น ก็เริ่มคิดละครับ ถ้าฟ้าปิดทำไงเนี่ย อุตส่าดั้นด้นมาตั้งไกล ลุยกันมาแบบสุดๆ

ถ้าฟ้ามืด อากาศปิด ละแย่เลย แต่มาถึงแล้วก็ต้องรอลุ้นกันไปครับ เลยขอพี่เค้าอยู่นานๆ


และแล้ว สวรรค์ก็เป็นใจครับ อาจจะไม่เต็มที่ แต่อย่างน้อย

เราก็เริ่มเห็นแสงอาทิตย์ ส่องทะลุเมฆลงมาบ้างละครับ บอกเลยว่ามันสวยมากกกกก.....


เวลาที่แสง ของพระอาทิตย์ กระทบกับผิวน้ำ จนเป็นสีทอง มันช่างสวยงาม เกินบรรยายจริงๆ ครับ

มุมเท่ห์ๆ ก็มา

ยิ่งอยู่ไปเรื่อยๆ ทุกๆ นาที ภาพที่เห็น มันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ครับ สวยไปคนละแบบ

วินาทีนั้น ภาพเหล่านี้ มันสะกดทุกลมหายใจ จริงๆ ครับ

ค่อยๆ สว่าง ขึ้นทีละนิด ค่อยๆ สวยไปทุกวินาที

เวลาเปลี่ยน เพียง วินาที ภาพก็เปลี่ยน ไปทีละนิดครับ

ยิ่งสว่าง ยิ่งสวย

นี่แหละครับ จุดชมวิวผาแดงหลวง จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ผมเคยเจอมา

มันสวยมากจริงๆ อยากจะบอกว่า ภาพที่เห็น ยังไม่เท่าที่ไปสัมผัสด้วยตาตัวเองเลยครับ

และนี่คือที่มาของชื่อผาแดงหลวงครับ เพราะถ้าเดินลงมาอีกนิดนึง มันจะมีจุดที่มองย้อนกลับไปเห็น หน้าผาที่เรายืนถ่ายรูปกันครับ

จะเป็นสีแดงแบบนี้เลยครับ สวยงามสุดๆ

และนี่แหละครับ Unseen Thailand จุดชมวิวผาแดงหลวง อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.ลำพูน

จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ที่สวยระดับร้อยล้าน สวยอันดับต้นๆ ในประเทสไทยครับ

วิวสวยแบบนี้ รูปหมู่เราก็มาครับ ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือ ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก

แถมวันที่ไปมีกลุ่มเราเพียงกลุ่มเดียว

ทำให้ได้อยู่กับธรรมชาติเต็มๆ กันเลยครับ เลยได้จัดรูปกันมาแบบเต็มๆ 55+

อยู่ชื่นชม ความสวยงาม ของธรรมชาติ แบบเต็มๆ ได้ไม่นาน

คราวนี้ของจริงครับ หมองลง หนากันเลยทีเดียว

มองไม่เห็นอะไรเลย โชคดีสุดๆ ถ้ามาแล้วหมอกฟรุ้งแบบนี้ คงจบข่าว

ไม่ได้เห็นวิวระดับร้อยล้าน แบบนี้แน่นอน

สักพักก็เดินกลับลงมาที่รถกันครับ แล้วก็นั่งรถกลับไปกินข้าว จุดที่รถติดหล่ม เมื่อเช้าครับ

พี่เจ้าหน้าเค้าทำข้าวต้มไว้รอเรียบร้อย ดูแลดีมาก จริงๆ ครับ

มื้อเช้าของเรา ข้าวต้มครับ

กินมันกลางป่านี่เลย 55+

บทสรุปทริปนี้ เหมือนจะมาง่ายๆ มาพักผ่อน แต่เอาเข้าจริงๆ ก็แอบเหนื่อยกันนิดหน่อย

ปวดก้น ไปตามๆ กัน เพราะนั่งรถเยอะมาก แถมต้องลุย ทางวิบาก เข็นรถก็มา

ต้องนอนเต๊นท์ อยู่แบบไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

แถมฮา ท้องขด ท้องแข็ง ทั้งกิจกรรมเล่นเกมส์ สนุกๆ และการได้มากับเพื่อนๆ ที่รู้ใจ

เล่นมุข 5 บาท 10 บาท ก็ฮากันไป แถมได้ฉายาประจำตัวกันทุกคน 55+

และได้มาเจอวิวสวยๆ ระดับร้อยล้านแบบนี้ ทริปนี้ ดีต่อใจสุดๆ ละครับ


และแล้วก็ได้เวลากลับครับ ลากันด้วยภาพหมู่ของแก๊งคนบ้า 15 คน

ที่มาเติมเต็มสีสัน ให้ทริปนี้สนุกมากๆ ครับ

แล้วก็ขอขอบคุณ พี่เจ หัวหน้าหน่วยอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ที่ดูแลพวกเราอย่างดี ตลอดทริปด้วยครับ


แล้วคงได้เจอกันใหม่ รีวิวหน้า

สวัสดีครับ

เที่ยวไปเมาไป

 วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.48 น.

ความคิดเห็น