สวัสดีวันหยุดยาว และช่วงแห่งการท่องเที่ยวภาคเหนือนะฮะ
เคยเป็นไหม ที่รู้สึกว่า ไม่มีที่เที่ยวให้ไปแล้วว่ะ ห๊าาาหาาาห่าาาาฮ่าา
มันอารมณ์แบบ ที่นี่ก็ไปแล้ว ที่นั่นก็เคยแล้ว มันดูตันๆถื้อๆ แต่ก่อนได้แค่คิดเท่านั้นแหละ
เก็บกระเป๋าเลย ไม่ว่าจะเหนือ ใต้ ออก ตก ใกล้ไกลแค่ไหน
แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ... เราเลื่อนเมาส์ลงไปเรื่อยๆ เจอคำว่า " ลี้ "
ชื่อมันฟังดูคุ้นๆนะ แต่ยังไม่เคยไปเลย
แถมยังเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในภาคเหนืออีกด้วย
แต่แม้งไกลใช้ได้เลย เป็นที่มาของชื่อกระทู้เลยฮะ - ไกลเป็นหมื่น " ลี้ " -
.
.
.
ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))
PageFacebook : https://www.facebook.com/Workingdaysareover
.
..
ครั้งนี้เราเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาราว 8 - 9 ชั่วโมง
อาจจะเหนื่อยและนานไปหน่อย แต่เอาจริงๆเราอยากได้บรรยากาศข้างทางด้วยอะ
เลยต้องยอมทนๆเอา บวกกับการที่รู้ตัวว่าจะไปเที่ยวช้าไปหน่อย ตั๋วเต็มหมดแล้ว
เราขับรถออกจากกรุงเทพ เช้าวันเสาร์ ตรงไปยังจังหวัดนครสวรรค์
ตัดผ่านจังหวัดกำแพงเพชร ตาก ลำปาง และลำพูน
ระหว่างทางมีฝนตกนิดหน่อย ตามความต้องการของเรา
ที่อยากได้บรรยากาศแบบ ป่าๆ เปียกๆ เป็นไงล่ะ ได้สมใจเลย
.
.
.
.
.
เราหาข้อมูลก่อนไปนิดหน่อย เรื่องที่พัก ถ้าใครมาเที่ยวลี้
เลยอยากแนะนำที่นี่ ชื่อว่า " บ้านไพลิน รีสอร์ท " ชื่อก็ง่ายๆไทยๆนี่แหละฮะ
ลองเข้าไปดูเพจเค้าได้ https://www.facebook.com/baanpailyn/
ไปสืบรู้มาอีกอย่างนึงว่า ชื่อรีสอร์ทมาจากชื่อเจ้าของรีสอร์ทเนี่ยแหละ55555555
แต่เดิมทำใจไว้แล้ว ว่ามาเมืองเล็กๆ คงหาที่พักดีๆยาก
แต่ที่นี่ไม่ใช่เลย เราว่านี่น่าจะเป็นที่พักที่ดีที่สุดใน " ลี้ " เลยก็ว่าได้
" บ้านไพลิน รีสอร์ท " จะต้อนรับคุณตั้งแต่คุณขับรถเข้าเมืองลี้เลยแหละ
โดยรวมรีสอร์ท ตกแต่งด้วยของไทยๆ สไตล์ภาคเหนือ ใช้เสาที่เป็นไม้เก่า
ผสมกับ ผนังปูนเปลือยที่กำลังนิยมกันในสมัยนี้
.
.
.
.
.
ไปนั่งอยู่ตรงระเบียงกันบ้างเหอะ
ที่นี่คงชนะที่อื่นด้วยอันนี้แหละ แม้งสุดๆ ปกติกว่าจะได้เห็นวิวแบบนี้ ต้องแต่งตัวออกจากห้อง เดินขึ้นเขา
แต่นี่ แค่เดินออกมาตรงระเบียง คุณก็ได้สัมผัสธรรมชาติ
ถือแก้วกาแฟ หรือชาอุ่นๆสักแก้ว จิบไปพรางชมวิวไป ในราคาที่ไม่ถึง 1,000 บาท
มาเหอะ อยากให้ลอง
.
.
.
.
.
เดี๋ยวจะพาไปเดินดูรอบๆกันบ้าง ที่นี่รายล้อมไปด้วยต้นไม้
ล้อมทั้งหน้า ล้อมทั้งหลัง ใครที่ชอบธรรมชาติ รับรองไม่ผิดหวัง
อย่างที่บอกไปตอนแรกฮะ ที่นี่ต้องแต่งแบบไทยๆ เหนือๆ
ของที่คุณจะพบเจอเป็นปกติก็พวกไม้แกะสลัก หรือของเก่าต่างๆ
.
.
.
.
.
หลังจากที่พักผ่อนเอาแรงได้สักพัก ก็เสิร์ชหาข้อมูลที่เที่ยวกันหน่อย
จากการที่ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาเลย ด้นสดหน้างานกันล้วนๆ
เราเจออันนึงคือ จุดชมวิวเมืองลี้ แต่ด้วยความที่เรารู้ตัวช้ากันเกินไปหน่อย
มาถึงที่นี่ก็เล่นเอาค่ำแล้ว ไร้วี่แววของผู้คน ทั้งพระทั้งเด็กวัด เตรียมตัวเก็บข้าวของกันหมดแล้ว
เราก็ได้แต่ ยกมือไหว้ สวยๆ ตามสไตล์คนไทย พรางชี้นิ้วขอขึ้นไปข้างบน
เรายืนอยู่บนจุดชมวิว แบบ Private มากๆ ส่วนตัวสุดๆ เหมือนทั้งลำพูนมีแค่เราอยู่คนเดียว
ส่วนวิวที่ได้ ไม่ต้องพูดมากครับ ไปดูรูปเอา
.
.
.
.
.
ถ่ายอยู่ที่จุดชมวิว เกรงใจสถานที่เอามากๆ ในภาพอาจจะไม่เห็นว่ามันมืด เพราะเราเปิดชัตเตอร์นาน
ได้เวลากลับแล้วแหละ ไปถ่ายรูปแถวๆที่พักเล่นกันเหอะ
เราชอบถ่ายไฟเล่นตอนกลางคืนเอามากๆ จริงๆเราก็ถ่ายไม่ได้สวยเท่าไหร่หรอก
แต่เราหลงรักภาพแบบนี้ เพราะมันแตกต่างจากภาพจริงที่เราเห็น
ทั้งรายละเอียด เส้นของแสงไฟ ดูมันเย้ายวนให้เปิดชัตเตอร์รับมันนานๆ
ภาพดาวที่ได้ ถ่ายจากระเบียงหลังห้องนะครับ ขนาดสถานที่ไม่ได้มืดมาก ยังเห็นชัดขนาดนี้
.
.
.
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น เราไปทานอาหารเช้าที่ " คาเฟ่ เดอ ลิน " อยู่ภายใน " บ้านไพลิน รีสอร์ท " นี่แหละครับ
เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่ทำกันเองในครอบครัว มีกาแฟ ขนมเค้ก กับอาหารคาวนิดหน่อย
แอบสงสารพี่เจ้าของเหมือนกัน เพราะช่วงที่ไปเป็นวันหยุดยาว แขกเยอะ แกดูวุ่นๆ
เราสั่งข้าว 1 จาน พร้อมกาแฟและเค้ก ตามสเต็ปครับ ถึงร้านจะเล็กแต่รสชาดไม่เล็กเลยแหละ
.
.
.
.
.
จุด check in ต่อไป คือ น้ำตกก้อหลวง อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง
จากการหาข้อมูลของเราเมื่อคืน สรุปว่า สวย แต่มีคนเตือนว่ามันปิดนะ อาจจะเข้าไม่ได้
เราก็หาได้ฟังคำเตือนนั้นไม่ คิดจะตีกรุงต้องตีให้แตก ทุบหม้อข้าวแล้วเข้าตีเมืองทันที
ผ่านที่ทำการอุทยานมาได้ 10 - 15 km นะ ถ้าเราจำไม่ผิด สถานที่ก็ดูเงียบๆอย่างที่เค้าเตือนกันนั่นแหละฮะ
มีเจ้าหน้าที่เดินมา เราก็ยกมือไหว้สวยๆ พรางชี้นิ้วไปที่น้ำตก 555555 มุขเดิม
แต่พี่เจ้าหน้าที่ใจดีครับ แกอนุญาตให้เราเข้าไปถ่ายรูปได้ แต่ห้ามเล่นน้ำนะ เพราะไม่มีคนดูแล
จากทางเข้า เดินไปถึงน้ำตก ประมาณ 500 เมตร เหนื่อยใช้ได้เลย
แต่ก็อีกนั่นแหละเหมือนทั้งลำพูนมีแค่เราอยู่คนเดียว ก็เล่นมาช่วงที่เค้าปิด
มันก็จะแบบ Private ไปอีก แต่ก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ไม่ต้องถ่ายติดหัวทัวร์จีน ฮ่าาาาาห๊าาาาาา
.
.
.
.
.
หลังจากออกจากที่นี่ ความโชคดีของเราก็เหมือนจะจบลง
เราขับรถเตรียมตัวจะไปที่อ่างเก็บน้ำ แต่คงด้วยสภาพถนน และไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว บวกกับรถเราเตี้ยเอง
เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย แต่เราก็ผ่านมาได้แหละ แต่ก็แอบหมดสนุกเล็กๆ
จบทริปลำพูนกันแบบทุลักทุเลนิดหน่อย หลังจากนั้นก็เลยไม่ได้กดชัตเตอร์ถ่ายรูปอีกเลย
แต่รูปที่ถ่ายมาคงเก็บความประดับใจไว้ได้เยอะแล้ว ป่าเปียกๆ ฝนชื้นๆ ที่เราอยากเจอเราเจอครบเลย
ขอบคุณเมือง " ลี้ " ที่ยังแอบเก็บการท่องเที่ยวดิบๆ แบบนี้ไว้อยู่
ขอบคุณ " บ้านไพลิน รีสอร์ท " ที่น่านอนและน่าเที่ยวในเวลาเดียวกัน
ขอบคุณ เวลา สถานที่ และผู้คน ที่ใจดีแบ่งบันภาพอันสวยงามของสถานที่ให้เร
และขอบคุณความโชคดี ที่ยังไม่จากไป พาเรารอดกลับมาเขียนรีวิวนี้ได้
.
..
.
ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))
PageFacebook : https://www.facebook.com/Workingdaysareover
.
.
ปล.ติชมได้นะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
.........................................................
Hexagon169
วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.26 น.