Go to 'K h a o Y a i' : คิดจะมาก็มา คิดอยากไปก็ไป ก็มันใกล้เเค่เนี๊ยยยยยะ
------
เคยมีอารมณ์แบบอยู่ดีๆก็อยากออกไปเที่ยวแล้วก็คว้าเป้ คว้ากล้องวิ่งออกไปแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะกันมั้ย บางทีก็เเค่อยากไปที่ไหนง่ายๆโง่ๆ ไม่ต้องไกล ขอแค่ได้ออกไปฝากกายไว้ในใจธรรมชาติก็พ๊ออออ...อออออ
เขาใหญ่ จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์อารมณ์อยากจะเที่ยวแบบนี้ได้ดีที่สุดสำหรับผมและอีกหลายๆคน ป่าเขาและความเขียวที่อยู่ใกล้ๆแบบ
ไม่ต้องดิ้นรนไปไหนให้มันไกล เที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืนก็ได้ ไม่ต้องลาพักร้อนให้มันเปลือง ถึงจะมีเวลาสั้นๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องนอนอยู่แต่ในบ้านเพราะนึกไปว่าเวลาที่มีมันไม่พอ เราต้องถือคติว่า เวลาจะมากจะน้อย มันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคนคิดจะเที่ยว 55555+
เอาจริงๆแล้ว 'เขาใหญ่' เป็นโซนที่มีที่เที่ยวเยอะมากกกก จะให้กลับไปซ้ำๆ สักสิบรอบก็คงยังเที่ยวไม่หมด เพราะมีสถานที่ใหม่ๆโผล่ขึ้นมา ให้ได้ไปเช็คอินกันตลอด มีทั้งแบบที่ธรรมชาติสร้างและมนุษย์สร้างมากมาย ก็เลือกเที่ยวได้ตามแนวที่ชอบ ไม่ว่าจะที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ก็จะเน้นสไตล์ประนึงว่าอยู่เมืองนอก โอ้วววววว หันซ้ายหันขวา บอกไม่ถวกเลยชริงๆว่า นี่อยู่ประเทศไทยแน่หรอ คืออิตาลี คือฝรั่งเศสรึเปล่าาาาาา
มาครั้งนี้ผมได้มาพักที่ Escape Khao Yai โรงแรมสไตล์โมเดิร์นๆจากเครือแสนสิริ ที่แบบว่าแค่ได้ยินชื่อก็การันตีดีไซน์แล้วว่า สวยล้ำแน่นอน ซึ่งพอได้มาแล้วก็ไม่มีผิดหวังจริงๆครับ #ความน้อยแต่มากเรียบแต่โก้ มันเป็นแบบนี้นี่เอง เหมาะกับความคูลๆใน ตัวผมมาก 55555+
เมื่อชีวิตกินดีอยู่ดีในที่พักดี๊ดี เราก็จะชีพจรลงเท้าหาที่วิ่งเล่นกันในเขาใหญ่ บอกเลยว่าทริปนี้ผมจะพาไปทุกแนว ใครจะหวานมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง หรือจะชอบแบบรักสัตว์ หรือจะอยากไปสไตล์ดูขลังๆ เร้นลับๆหน่อย ผมก็จัดมาให้หมดในทริปเดียว เป็นทริป 2 วัน 1 คืนที่ไปตามรอยแล้วจะได้ทุกรสชาติกลับมา มาเขา่ใหญ่ทั้งทีจะเอาแต่มาวิ่งเข้าออกร้านกาแฟ ก็ไม่ต้องหลับต้องนอน กันพอดี มาเที่ยว 2 วัน แต่ตาค้างไป 7 วัน ซัดแต่กาแฟกับเบเกอรี่มันก็คงจะใช่เรื่อง....เกริ่นกันมานานแสนนาน พร้อมแล้วก็กางปฎิทิน เอานิ้วจิ้มเลือกวัน และออกเดินทางไปกับ ค น ห ล ง ท า ง กันเลยดีกว่าาาา...
#001 : Go to Escape
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/L7Q4csdN6RR2
Fanpage https://www.facebook.com/escapehotels/
--------
แน่นอนครับ การมาเที่ยวเขาใหญ่ กลิ่นอายความเก๋ของสถานที่จะเป็นภาพแรกที่เรานั้นคิดถึงแน่นอน เอาง่ายๆว่า ถ้าอยากจะมาเช็คอิน แล้วดูมี #ความฮิปในไลฟ์สไตล์นิดๆ ที่นี่คือใช่มากกกก สายตาคนรอบข้างจะรู้สึกได้ว่า ‘ไปเขาใหญ่หรออออ มันจะชิลดีนะเทอออ เกร๋ๆ’ นี่ครับ อารมณ์มันเป็นแบบนี้จริงๆ 5555+ เพราะทุกสถานที่ที่อยู่ในเขาใหญ่ คือเหมือนถูกคัดสรรมาแล้วว่า มันต้องจะฮิป ดูวัยรุ่น ดูทันสมัย อย่างที่พักของผมในวันนี้ ก็ต้องบอกเลยว่าสวยงามแล้วก็ดูโมเดิร์น เหมาะกับไลพ์สไตล์คนที่ชอบอะไรแนวนี้มาก
โรงแรม Escape ในเครือของแสนสิรินั้น จริงๆมีอยู่ 2 โลเคชั่น คือหัวหินกับเขาใหญ่ อย่างที่ผมมาพักที่เขาใหญ่นี้ ไม่ว่าจะ ดีไซน์หรืออะไรต่างๆก็ดูลงตัวและทันสมัยชัดเจน ผมชอบในความคุมโทน และความใส่ใจในการตกแต่งของที่นี่มาก มันดูละมุนๆ แบบเท่ๆ บอกไม่ถูก อีกอย่างที่ชอบมากคือดีไซน์ทุกอย่างมีแรงบันดาลมาจากธรรมชาติ รวมๆสีที่เราสัมผัสได้มันก็จะเป็นแนวเอิร์ธโทนๆหน่อย การตั้งชื่อห้องอาหาร หรืออะไรก็เอาคำที่หมายถึงธรรมชาติมาตั้ง เดินทางไหนก็ดูมีคอนเซ็ปต์ดี
เอาละครับ มาถึงแล้วววว Escape เขาใหญ่ ทางมาก็ง่ายมากครับ จิ้มตาม GPS ขับมาตามเส้นทางก็เจอเลย อยู่ติดถนน หาง่ายมาก แถมอยู่ใจกลางที่รอบๆมีจุดให้เที่ยวมากมาย มานอนที่เดียวสะดวกต่อการออกไปเที่ยวสุดๆ จะเลี้ยวซ้าย จะเลี้ยวขวา อะไรๆก็อยู่ใกล้ ไปหมด ที่นี่ก็จะมีแบ่งเป็น 2 ส่วนนะครับ คือส่วนที่เป็นโรงแรม กับคอนโด
มาถึงก็มาหน้า lobby เช็คอินกันเลยครับ บรรยากาศดีมากกก ดูโล่งโปร่งสบาย แถมมีภูเขาล้อมรอบ
ตรงชั้นล่างจะเป็น lobby นะครับ ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องอาหาร บอกแล้วว่าวิวดี๊ดี มาเดินเล่นดูรอบๆกันครับ
มีจักรยานไว้ให้ลูกค้าได้ปั่นเล่นไปมาภายในโรงแรมได้ด้วยยยย เป็นทรงแบบคลาสสิคๆหน่อย สีก็สวย ใช้เป็นพรอพในการโพสท่า ถ่ายรูปไปได้ด้วยอีก
ตรงนี้จะเป็นโซนสระว่ายน้ำส่วนกลางนะครับ อยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรมเลย เตรียมชุดกันมาให้พร้อมนะครับบบ เป็นสระว่ายน้ำที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ มาแล้วอิน ฟินกับสถานที่แน่นอน
เอาครับ พูดแล้วก็ไม่รอช้า เรามาที่ห้องพักกันเลยดีกว่า ขับรถมาก็อยากพาร่างลงไปนอนบนเตียงนุ่มๆกันเเล้วววว ห้องของผมในวันนี้ จะเป็นแบบ Pool Villa นะครับ
ดูจากภายนอกกันก่อน ก็จะเห็นว่ามีบันไดให้เดินขึ้นไปนั่งเล่นบนดาดฟ้ากันได้ด้วย ถ้ามาหลายๆคน ผมว่ามีปาร์ตี้เล็กๆกันบนนั้นได้เลย ครับ หรือกลางคืนๆ จะมานั่งดูดาวก็ได้เหมือนกัน
เปิดประตูเดินเข้ามาก็ต้องแอบตื่นเต้นร้องว้าวกันไป เพราะห้องสวย ดูคลีนๆ ดูเรียบๆ แต่ดูมีอะไร มองไปเห็นวิวสวยๆจากห้องพักอีก กว้างขวางมาก แล้วก็ดูเป็นส่วนตัวดีมากจริงๆครับ
เข้ามาดูกันใกล้ๆอีกที ด้านนอกประตูตรงนั้นจะเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวของเรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบมาก มาแค่ตัวกับหัวใจ และเสื้อผ้าก็พอครับ ที่เหลือที่นี่เค้ามีให้หมดครบจบในห้องเดียว
ลองเดินออกมาดูด้านนอกกันบ้างครับ มีสระว่ายน้ำ กับเก้าอี้ยาวๆ สำำหรับนอนขี้เกียจยืดแข้งยืดขาฟังเพลงรับลมรับแสงตะวัน ชิลสุด
สุขกาย สบายอุราปะละ 5555+ บรรยากาศแบบนี้แทบไม่อยากขยับตัวไปไหน แค่นอนเฉยๆกินลมชมวิวก็มีความสุขแล้ว
การตกแต่งที่นี่แทบจะทุกอย่าง จะเน้นเป็นสไตล์ไม้ๆ ดูแล้วอบอุ่น น่ารักดี อย่างที่บอกว่าเน้นความเป็นธรรมชาติ ดอกไม้สดอะไรก็จะไม่ใช้ เลยยยยนะครับ จะเน้นเป็นหญ้าแห้ง ดอกไม้อบแห้ง อะไรแนวๆนี้
อุปกรณ์ในห้องน้ำก็มีให้ครบครัน สำหรับคนขี้ลืมแบบผมนี่ สบายไปอีกนะ บางครั้งชอบเอามาไม่ครบ หรือบางทีก็ขี้เกียจขนมาให้หนัก กระเป๋า 5555+
เอาล่ะครับ สำรวจห้องกันจนทั่วแล้ว เก็บข้าวของนอนพักกันสักแปป แล้วเราจะออกไปกินข้าวกลางวันกันสักหน่อย ท้องเริ่มจะร้องแล้ว
ด้วยความหิว ผมก็มุ่งหน้ามาที่ห้องอาหาร Green Oak Bistro อย่างเร็วไว ห้องอาหารที่นี่ก็บรรยากาศดี สวยมากเช่นกันครับ วิวสวย การตกแต่งก็ดูเรียบๆ คลีนๆ สบายต๊าาาา สบายตาาาาา ห้องอาหารนี้ ในตอนเช้าก็จะสำหรับทานอาหารเช้าของแขก ที่มาพักทุกคน ส่วนมื้อกลางวันกับมื้อเย็น ก็จะเปิดเป็นร้านอาหารให้เข้ามานั่งทานกันได้ สำหรับใครที่ไม่อยากออกไปข้างนอกให้มัน ร้อน ก็มานั่งกินข้าวแอร์เย็นฉ่ำกันในนี้
มาแล้ววววว มื้อกลางวันของผม เซ็ตนี้ทั้งเซ็ต บอกเลยว่าคุ้มมากกกกก แค่ 999 บาท กับข้าวจัดเต็ม กับปลาทอดตัวโตๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวร้อนๆ พ่อครัวที่นี่เค้าทำอาหารไทยแบบจัดจ้านถึงใจ ใครชอบรสแบบไทยๆแท้ๆ รับรองว่าชอบมากแน่ๆ กินแล้วมัน ถึงเครื่องดีครับ ผมชอบมากๆ
เมนูเซ็ตแบบนี้จริงๆจะมีเลือกให้เลือกประมาณ 3-4 แบบ ใครชอบแบบไหนก็เลือกสั่งได้เลยครับ แต่เซ็ตนี้พูดกงๆเลยว่าเดี๋ยวอีกแปปเดียว เหลือแต่จานเปล่าๆแน่นอน 55555+
ส่วนห้องนี้จะเป็นห้องอาหารบริเวณ Roof Top อยู่ใกล้ๆ Green Oak ครับ ตกแต่งสไตล์ Tea House หน่อยๆ ซึ่งทางโรงแรมแอบบอกผมมาว่าในอนาคตจะทำเป็นห้องอาหารสไตล์ Italian Homemade
ตกเย็นมา เราก็มาดูบรรยากาศกันหน่อย แล้วที่เห็นอยู่นี่จะเป็นฟิตเนส มาใช้บริการกันได้ตามสบายเลย
หญ้านี้ผมไม่เเน่ใจว่าเรียกว่าอะไร แต่เห็นปลูกไว้ทั่วรอบโรงแรมเลยครับ มันทำให้ดูละมุนๆดีนะผมชอบ ถึงแม้ผมจะหน้าหนวดๆ รุงรัง ไปหน่อย แต่มุมอ่อนโยนผมมีครับบอกเลย 55555+
เริ่มจะค่ำแว้วววว ได้เวลาอาหารเย็นแล้วล่ะ ในจุดนี้ในแต่ละเวลา เช้า กลางวัน เย็น ผมว่ามมันให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ช่วงจริงๆ เดินมาดูกี่ที่ก็ไม่เบื่อ แล้วเเสงสีไม่เคยซ้ำ โดยปกติแล้ว ในช่วง low season แบบนี้ ทุกๆวันเสาร์ ก็จะมีจัดเป็นดินเนอร์แบบ out door สำหรับแขก จะมีนักร้องมานั่งร้องเพลงเพราะๆ ให้เราได้กินไปฟังเพลงไปอย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางธรรมชาติและภูเขา คือมันดี ไปอีกกกก แต่ถ้ามาช่วง high season ก็จะย้ายไปจัดด้านนอกบริเวณลานหญ้าเลยครับ อารมณ์แบบนั่งกินชิลๆในสวน
เห็นบรรยากาศดีๆแบบนี้ แต่อีกไม่นานเลยครับ ลมฝนมาาาา 5555+ เราก็ต้อง move ทุกสิ่งอย่างขึ้นไปข้างบนชั้นสองกันแทน นั่งกินข้าวแบบได้กลิ่นไอของฝน
นั่งร้องที่นี่ร้องเพลงเพราะมากกกก ทั้งไทย ทั้งสากล ฟังเพลินจริงๆครับ ลื่นหูมาก นานๆจะมีโอกาสได้ฟังเพลงที่นั่งร้องสดๆ แล้วเสียงเหมือนฟังเทปแบบนี้สักที (ฟังเทป !?! พูดซะรู้อายุ 5555+ ใครเกิดไม่ทันก็ผ่านเลยไปนะครับ นี่ผมแก่แล้วจริงๆใช่มั้ยยยย)
เชิญมามุงอาหารกันเลยดีกว่า ใครหิว อยากกินอันไหนก็เล็งไว้นะ ผมจะแบ่งให้ จัดเต็มทั้งแนวไทย และสากล เฉกเช่นเดียวกับเพลง ที่ได้นั่งฟัง 5555+ แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้นครับ อร่อยด้วยนะเออ ไม่ได้มีดีแต่หน้าตานะ
แถมตอนนี้ทางโรงแรมมีเซ็ตโปรโมชั่นสุดคุ้ม มีให้เลือกอีกหลายเซ็ต ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 330 บาท เท่านั้นคุ้มสุดๆ เข้ามาในห้องอาหาร Green Oak แล้วบอกพนักงานเลย สั่งเซ็ต Green Season Menu กันได้เลยครับผม
งานเสต็กก็มาครับ มีทั้งปลา ทั้งหมู ในจานเดียว ได้ลิ้มรสเนื้อทั้งสองแบบ
Cocktail ที่นี่ก็มีนะครับ อย่างอันนี้ชื่อ Wild Honey Old-Fashioned อันนี้ผมจะชอบมาก เพราะว่าชอบกินรังผึ้ง ที่ให้มาด้วย แอบมีขอเพิ่มอีก 5555+
อิ่มท้องกันแล้ว เรามากลับห้องพักกันดีกว่า ตั้งใจไว้แล้วว่า จะมาขอแช่น้ำในสระเล่นสักหน่อย
เช้าแล้ววว เป็นค่ำคืนในการนอนหลับที่สบายมากกก เพราะเตียงนุ่มดูดวิญญานไปเลย 5555+ แต่ถ้าจะไม่ให้ลุกก็ไม่ได้ เพราะต้อง ออกเดินทางหาที่แวะเที่ยวกันอีก
ตื่นมาก็หิวละ ไปกินอาหารเช้ากันดีกว่า ยังคงเป็นที่ Green oak bistro เช่นเคยยยย
ไลน์อาหารเช้าที่นี่ จะมีให้เลือกหลายอย่างครับ แถมอร่อยแทบทุกกกกอย่าง ผมนี่เดินตักๆๆ นับครั้งไม่ถ้วน
หลังจากกินข้าวเช้ากันเรียบร้อย ก็เตรียมตัว check out แล้วออกเดินทางต่อ ได้เวลาต้องบอกลาที่ Escape เขาใหญ่กันไปแล้ว กับที่พักที่ต้องบอกว่า เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนจริงๆครับ ผมว่าที่นี่เหมาะทั้งกับการมาเป็นครอบครัว คู่รัก และกลุ่มเพื่อน ไม่ว่ามากันเป็นแบบไหน ก็เต็มอิ่มกับความเป็น Escape อย่างแน่นอน แถมมาเที่ยวได้ง่ายๆ ใกล้ๆ ใช้เวลาน้อย แต่ได้เที่ยวมาก คุ้มเกินค่าน้ำมันแบบไม่ต้องมานั่งคำนวณเลยชริงชริ๊งงงง
ใครสนใจที่พัก ก็ติดต่อสอบถามไปได้ที่
Fanpage escape - sansiri hotel collection
ห้องพักก็มีจะให้เลือกมากมายหลายแบบ เริ่มต้นที่ Deluxe, Deluxe Corner, Sunken Heated Pool Villa (แบบที่ผมพัก), Escape Grand One-Bedroom Pool Villa และ Three-Bedroom ราคาก็จะขึ้นอยู่กับ ช่วงเวลาที่เข้าพัก และโปรโมชั่นในแต่เดือน หรือจะโทรไปสอบถามกันก็ได้ตามเบอร์นี้เลยครับ…
Tel : 063-196-4999
http://www.escape-hotel.com/khaoyai/
Line : @escapehotels
ก่อนที่เราจะออกเที่ยววันนี้กันอย่างสบายใจ ผมจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Escape Journey กันก่อน เพราะมันคงจะดีมว๊ากกกก ถ้าได้เที่ยวที่สวยๆ แถมยังได้ส่วนลด แล้วก็ยังได้สะสมคะแนนเอาไว้แลกของรางวัลต่อได้อีก คือยิ่งกว่าลดแลกแจกแถม มันช่างดีต่อเงินในกระเป๋าของเราเป็นอย่างยิ่ง
วิธีร่วมกิจกรรม Escape Journey
- ง่ายมากครับ แค่กด add line : @escapehotels แล้วเข้าไปที่หน้าบัตรสะสมคะแนน
- เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวตามสถานที่ที่ร่วมรายการ
- เอาบัตรสะสมคะแนนใน line ที่ได้ ไปขอแสกนเพื่อสะสมแต้มจากแต่ละที่ได้เลยครับ (อย่าลืมโชว์หลักฐานว่าเป็นลูกค้าของ escape ด้วยวิธีใดก็ได้ครับ)
- สะสมจนครบก็กลับไปขอแลกรางวัลที่โรงแรมได้เลยยยย
ซึ่งในส่วนของของรางวัลนั้น
- สะสมครบ 3 แต้ม สามารถกลับมาแลกรับ เมนู Signature Dish ที่ห้องอาหาร Greek Oak Bistro ในโรงแรมเอสเคป เขาใหญ่
- สะสมครบ 6 แต้ม แลกรับ Cash Voucher มูลค่า 500 บาทสำหรับห้องอาหาร ที่โรงแรม
- สะสมครบ 9 คะแนน จะได้รับ Escape Club Membership เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมายตลอดปี อาทิเช่น Best Rate Guaranteed, อัพเกรดห้อง* และอื่นๆอีกเพียบบบบ
-----
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวฮิปๆที่เข้าร่วม วันนี้ผมก็รวบรวมมาให้ไว้เเล้ว โดยแต่ละที่ก็จะลดค่าเข้าให้ (สูงสุดถึง 200 บาท) หรือให้เข้าฟรี, มีส่วนลดในการซื้อ ส่วนลดอาหาร และแถมฟรีด้วย
ชอบที่ไหน อยากไปที่ไหน ตามมาดูลิสกันเลยครับ...
1. ฟาร์ม หมอ ปอ
2. SCENICAL WORLD WATER PARK
3. ไร่องุ่น GRANMONTE
4. BONANZA EXOTIC ZOO
5. PRIMO PIAZZA
6. THE CHOCOLATE FACTORY
7. DAIRY HOME
8. KLANG PANA ROSE GARDEN
9. SWEET & GREEN FARM
10. GREEN OAK BISTRO
11. LOBBY AT ESCAPE KHAO YAI HOTEL
------
#002 : Go to Sweet & Green Farm
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/cRcujG5hUbA2
Fanpage
https://www.facebook.com/sweetandgreen/
--------
สถานที่แรกที่ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวกันก็คือ Sweet & Green Farm มันก็จะออกแนว Healthy หน่อยๆ สำหรับใครที่รักสุขภาพ ก็แวะมาเดินเล่นกันที่ฟาร์มปลูกผัก ผลไม้ปลอดสาร ที่ต้องบอกว่าเป็นเกรดพรีเมี่ยมเลย มาแล้วก็เดินเล่นถ่ายรูปรอบๆได้ อาจจะยกเว้นในส่วนของโรงเรือนที่ห้ามเข้าไป แถมยังมีสินค้าที่ได้จากผลผลิตที่จะซื้อไปเป็นของฝากติดไม้ติดมือก็ได้ครับ
แยมผลไม้ที่ทำเองจากผลผลิตชั้นดี รับรองว่ารสชาติอร่อยแน่นวล
เราสามารถเดินเล่นไปรอบๆดูบรรยากาศกันได้ตามสบาย อาจจะมีตรงโรงเรือนแบบนี้ที่ห้ามเข้าไปเด็ดขาดนะครับ เพื่อเป็นการไม่รบกวนพืชผัก
เดินกันจนทั่วแล้ว อาจจะยังไม่จุใจ ตามมาสถานที่ต่อไปกันเลยครับ...
------
#003 : Go to Granmonte
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/cBmeCYEvAEx
Fanpage
https://www.facebook.com/granmonte/
--------
เอาใจคนรักการจิบไวน์ กับการพามาทัวร์ไร่องุ่นที่กว้างขวางมากกกก เนื้อที่รวมๆประมาณ 100 ไร่ คิดในใจ ชาติไหนจะมีบุญเป็นเจ้าของที่ดินในเขาใหญ่ขนาดนี้บ้างเน้อออออ 5555+
ที่ไร่องุ่นแห่งนี้ ในช่วง high season ประมาณปลายๆปี หรือต้นปีนี่พีคมากนะ เพราะจะมีหมอกลอยปกคลุมไร่องุ่นไปหมดเลย นักท่องเที่ยว นักจิบไวน์นี่แวะเวียนมาจากหลายมุมโลกเลยนะครับ เพราะขึ้นชื่อมากสำหรับคนในวงการนี้ เพราะ คุณนิกกี้ เจ้าของไร่ คือเป็นไวน์เมคเกอร์หญิงคนแรกของประเทศไทย ทำให้ต่างชาตินี่รู้จักและหาโอกาสมาชิมไวน์กันถึงถิ่น ฟังแล้วก็ภูมิใจ๊ภูมิใจที่คนไทยสร้างชื่อระดับโลกแบบนี้
มาที่นี่จะเข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายนะครับ เดินเล่นเอง ชมไร่องุ่นไปรอบๆ ดูซื้อของฝาก ยกเว้นจะนั่งรถชมไร่ เข้าไปดูการผลิตไวน์ และชิมไวน์ทั้งหมด 4 แก้ว แบบนี้จะเสียคนละ 300 บาทครับ
ก้าวเข้ามาในไร่ คือรู้สึกได้ถึงความสดชื่นเลย พอดีว่าผมมาช่วงเช้า อากาศก็จะชุ่มฉ่ำๆหน่อย มีกลิ่นดิน มีกลิ่นหญ้า จากฝนที่ตกลงมา
ตรงนี้จะเป็นโซนร้านค้าที่ขายของฝากต่างๆ มีให้เลือกเยอะมากกก ทั้งของกิน ทั้งของใช้ น้ำองุ่นอร่อยๆ และไวน์
มาชิมน้ำองุ่นกันสักหน่อย หวานอร่อยจริงๆครับ เป็นผลผลิตจากที่ไร่นี้ ที่นำมาทำเป็นน้ำองุ่นขายนอกเหนือจากไวน์
มารอบนี้ จะมี เจ้าหน้าที่ชื่อ พี่กร เป็นคนพาเราทัวร์ไร่องุ่น และคอยบรรยายให้ความรู้ ให้มีรอยหยักในสมองเรื่ององุ่นๆเพิ่มเข้าไปในหัวบ้าง ดูเหมือนสมองส่วนมากจะมีแต่เรื่องเที่ยว 5555+
ไวน์รสเด็ด ที่ขึ้นชื่อของไร่กรานมอนเต้ ใครมีโอกาสได้มา ต้องมาลองชิมกันนะครับ
เดินถัดมาอีกหน่อย ก็จะมีห้องอาหาร ให้เราได้นั่งกินข้าวท่ามกลางไร่องุ่นสวยๆ ผ่านมาแถวนี้หิวๆก็มาฝากท้องกับอาหารอร่อยๆที่นี่กันได้
มุมนั่งจิบกาแฟชมวิวก็มีน๊าาา
เดินเล่นไปรอบๆไร่ ก็จะเจอกับสะพานอิฐสวยๆมุมนี้ เห็นแล้วนึกว่าอยู่ต่างประเทศ มุมนี้เด็ดและร่มรื่นสุด
ต่อไปเราก็จะมาทัวร์ไปรอบๆไร่องุ่นอันกว้างขวาง ด้วยเจ้ารถคันสีม่วงน่ารักๆ คันนี้เลย
มาช่วงนี้ องุ่นอาจจะยังมีไม่เยอะเท่าไหร่ เที่ยวที่นี่แนะนำมาช่วงปลายปีๆ หรือต้นปีไม่เกิน ก.พ. นะครับ อากาศจะดี เเล้วองุ่นก็โตเต็มไร่ เป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยว นักท่องเที่ยวก็สามารถมาลองตัดองุ่นกันเองกับมือได้เลย ซ้อมไว้ๆครับ เผื่ออนาคตจะได้เป็นเจ้าของไร่กับเขาบ้างงงงง
เอาล่ะครับ ต่อไปหลังจากเต็มอิ่มกับบรรยากาศรอบไร่กันแล้ว ก็เข้าไปดูกันในห้องผลิตไวน์ เรียกว่าเที่ยวแบบเข้าถึงจริงๆ ถังที่ใช้บรรจุไวน์ที่เราเห็นเป็นถังใหญ่ๆ อันนี้จะเป็นถังไม้โอ๊คที่นำเข้ามานะครับ สนนราคาใบละประมาณ 8หมื่นนน โอ้วววว ฟังไม่ผิดครับ นี่แหละการันตีได้เลยว่าไวน์จะรสเลิศขนาดไหน
ซึ่งรสและกลิ่นของไวน์ บอกเลยว่าถังไม้โอ๊คนี่มีผลมากกกก กลิ่นและรสจะแปรผันไปตามแหล่งที่มาของไม้โอ๊คของแต่ละประเทศ ฟังแล้วดูมีที่มาที่ไป ก็เป็นความรู้ใหม่ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย
มาถึงไร่องุ่น ที่เป็นต้นกำเนิดการผลิตไวน์ทั้งที จะพลาดการชิมไวน์ชั้นดีไปได้อย่างไรรรร ดูข้างหลังผมสิครับ รางวัลการันตีเยอะแยะ มากมาย แถมยังมีนักชิมไวน์จากมุมต่างๆทั่วโลกแวะมาเยี่ยมเยียนที่นี่กันอยู่ตลอด ว่าแล้วก็เอาสักหน่อยครับ
------
#004 : Go to Farm Mor Por
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/QMdWUESmFuR2
Fanpage
https://www.facebook.com/farmmorporr/
***สำหรับลูกค้าโรงแรม Escape มาที่นี่เข้าฟรีนะครับ
--------
เอาครับ งานสวน งานไร่มาครบแล้ว ต่อมางานฟาร์มกันบ้าง เอาให้สุดครับทริปนี้ 5555+
ขับเลยออกมาเรื่อยๆ เราก็จะไปหลงกันที่ ฟาร์หมอปอ ที่นี่จะมีสัตว์ต่างๆ ให้เราได้มาสัมผัส มาเรียนรู้การเลี้ยงดูแบบได้ลองลงมือทำ กิจกรรมมีหลายอย่างทีเดียว มาลองให้อาหารสัตว์ เก็บไข่ไก่ ขี่ม้า จูงม้า นั่นนี่ มาเที่ยวแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบ อย่างผมมาก็ได้เพื่อนใหม่กลับไปหลายตัว ไปคุยกับมันมาหมดแล้วครับทุกตัวในฟาร์มนี้ 😁😁
ที่นี่จะมีมาสายพันธุ์หายากจากต่างประเทศ บอกเลยว่าตัวใหญ่กว่ามาทั่วไปหลายเท่ามากกกกก เท่าที่ถามเหมือนเป็นม้าสำหรับลากเกวียนในต่างประเทศ ตัวใหญ่ สวยสง่ามาก
ต่อไปเรามาบุกเล้าไก่กันหน่อย ตอนเปิดประตูมานี่อารมณ์เหมือนพวกหนังการ์ตูนอ่าครับ ที่พอเปิดประตูแล้วไก่เป็นร้อยเป็นพันมายืนออกันตรงหน้าประตู แล้วทุกสายตาจ้องมาที่เราคนเดียว 5555+
แหม...จิกรองเท้ากันอร่อยเลย วิ่งกรูกันเข้ามาตรึมมมม
เดินไปเดินมา ก็มาเจอเจ้าหมูน้อยจมูกชมพูน่ารักมาก ดูมันสิครับ ตัวนิดเดียว ผมลองถามพี่เจ้าหน้าที่ดูว่่าลองอุ้มได้มั้ย ? พี่แกบอก 'ได้ แต่แม่มันจะร้องหน่อย'
อ้าวววว 5555+ แล้วผมจะเอามาอุ้มทำไมละ ให้แม่มันตกใจร้อง ก็ไม่สิเนอะ
คิดไปคิดมา ก็อยากจะลองเป็นคาวบอยดูสักวัน ได้ขี่มาเลี้ยงสัตว์ รีดนมวัวงี้ ท่าทางจะมีความสุขดี
เดินไปเดินมาหลายที่ท่าทางจะเริ่มร้อนกันแล้วใช่มั้ยครับ ตามมาครับ ผมจะพาไปแช่น้ำคลายร้อนกันในที่ต่อไปเลย
------
#005 : Go to บ่อน้ำผุด หมูสี
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/iuD5zfuqaTP2
--------
มาเขาใหญ่ทั้งที ต้องแวะมาที่บ่อน้ำผุดแห่งนี้กันหน่อย กลายเป็นที่เล่นน้ำคลายร้อนของคนแถวนี้ บอกเลยว่าบรรยากาศคึกคักคับคั่งมากครับ 5555+
เข้าฟรีอีกเช่นเคย แต่ถ้าเช่าห่วงยาง ก็มีให้บริการตรงทางเข้า รอบๆนี่ของกินขายเยอะมากครับ เข้าไปข้างในอารมณ์เหมือนคนมาปิกนิกทีเดียว ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว ปูเสื่อนั่งกินส้มตำ ชิลดีเชียว แต่อาจจะต้องระวังเรื่องขยะกันหน่อย ผมว่าอนาคตถ้าแบ่งโซนให้นั่งกินข้าวด้านนอก ก็จะดูเป็นระเบียบมากขึ้น ธรรมชาติจะได้ไม่ช้ำเพราะการที่คนนิยมไปเที่ยวกันเยอะๆ
บ่อน้ำผุดที่นี่ น้ำก็จะออกเขียวๆหน่อยครับ แต่สีแต่ละบ่อก็จะคนละเขียวกันไปนะครับ เหมือนว่าบ่อแรกกก ที่อยู่ในสุด น่าจะเป็นบ่อต้นน้ำรึป่าว อาจจะห้ามการเข้าไปเล่น เพราะเท่าที่สังเกตุดู คือไม่มีคนลงบ่อนี้เลย ทำให้บ่อนี้ดูใสสุด และเขียวที่สุด ถัดออกมาเรื่อยๆ ก็จะเขียวจางลงเรื่อยๆ จนบ่อสุดท้ายเป็นสีออกน้ำตาลๆไปเลย แต่คนนิยมมากันเยอะมากครับ ตัวเล็กตัวน้อยยันวัยผู้ใหญ่ ก็มาพักผ่อนหย่อนร่างแช่น้ำกันที่นี่
------
#006 : Go to วัดศิมาลัยทรงธรรม
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/tGMoD7CGMg52
--------
เล่นน้ำกันจนฉ่ำปอดแล้ว อาบน้ำแต่งตัวขึ้นจากบ่อแล้วเราไปเที่ยววัดกันดีกว่า มาวัดครั้งนี้รับรองว่าจะไม่มีคำว่า 'น่าเบื่อ' อีกต่อไป ผมให้คำนิยามวัดนี้ว่า น่าแปลก และ น่าทึ่ง มาก จุดเริ่มต้นจากภาพถ่ายที่เห็นเพียง 1 รูป ที่เป็นถ้ำ แล้วมีเศียรพระล้อมรอบอยู่ตรงปากเข้าถ้ำที่ search ขึ้นมาจาก Google ทำให้ผมต้องออกไปหาวัดนี้ให้เจอ แล้วยิ่งไปถึง ยิ่งมีแต่มุมน่าทึ่งเยอะมาก ดูลึกลับได้อารมณ์ที่แตกต่างจากวัดทั่วไปจริงๆ
เข้ามาถึง ด้านล่างจะมีถ้ำที่มีหลวงพ่ออยู่หนึ่งท่าน ดูแลบริเวณถ้ำนี้ครับ ทุกก้าวที่เดินเข้าไป ผมได้แต่มองไปมองมารอบๆ เหมือนตื่นเต้นไปหมด ยิ่งเดินเข้าไปอินเนอร์ยิ่งมานะบอกตรงๆ 5555+
ในส่วนของอาคารต่างๆที่นี่ ที่เห็นเป็นลายๆ เล็กๆในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเสา เพดาน หรืออะไรก็แล้วแต่ นี่ไม่ใช่ลายกระเบื้องนะครับ แต่คือการเอาพระที่หล่อจำนวนนับล้าน มาเรียงต่อกันในทุกส่วนของอาคาร งานละเอียดมากกกก
เดินไปเดินมากันจนมาถึงถ้ำ แค่ทางเข้าก็กินขาดแล้ว ข้างในจะเป็นยังไงน๊่าาาา
โอ้ววว โครงกระดูกแขวนมาแต่ไกล ใจมันหวิวๆบอกไม่ถวก 5555+
เดินเข้ามาเรื่อยๆภายในถ้ำ มุมนี้คือทำเอาอึ้งไปเลยครับ สวยมาก แต่ก็ดูลึกลับมากเช่นกัน
วัดที่นี่จะมีจุดให้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงของเขาใหญ่กันด้วย
ส่วนนี้จะเป็นวัดศิมาลัยทรงธรรมเหมือนกัน แต่จะเป็นด้านหลังที่อยู่บนเขานะครับ ยังสร้างไม่เสร็จแต่ก็สวยมาก ขับรถเข้ามาทีแรกคือสะดุดตามาเลยยยย
------
#007 : Go to โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว (สาขาปากช่อง)
พิกัดที่ตั้ง
https://goo.gl/maps/n9ycS3r9x7A2
Fanpage
https://www.facebook.com/CoffRoaster/
--------
วิ่งไปทั่วมาทั้งวันแล้ว ได้เวลามุ่งหน้ากลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงอย่างกทม. เมืองมหานครของเรา รู้สึกเศร้าเล็กน้อย 5555+
แต่ระหว่างทางกลับก็ขอแวะหาร้านกาแฟนั่งเล่นสักหน่อย หย่อนร่างอันแสนเหนื่อยไปกับบรรยากาศชิลๆ พูดถึง #โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว ก็ใช่เลยครับ ตามชื่อเลย จริงๆจะมีอีกสาขาซึ่งอยู่ที่วังน้ำเขียว ที่สาขานั้นจะมีแพยื่นออกมาในน้ำ ให้เข้าไปถ่ายรูป เรียกว่ามุมเด็ดมุมขายกันเลย แต่ในเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนบัดนนี้แล้ว จะให้วนรถไปโน่นอีก คงจะไม่ไหว ก็ขอแวะสาขาระหว่างทางกลับ ขับไปเจออย่างบังเอิญๆ ตอนแรกที่ลงจากรถแอบดีใจ ว่านี่จะได้มาแวะถ่ายมุมเด็ดแล้วววว
แต่เปล่าเลยครับ แห้วกิน 5555+
ไม่ทันนึกว่าคนละสาขากัน ลงไปถามพนักงานอย่างตั้งอกตั้งใจ ที่ไหนได้ คนละที่วะ
ถึงไม่ได้มุมนั่งแพ แต่มุมนี้ก็แอบเด็ดสวยดีเหมือนกัน ได้นั่ง outdoor แบบท้าฝนเพราะมาหน้าฝนอ่าเนอะ แต่บรรยากาศก็ดี๊ดีนะครับ ผมชอบเลยทีเดียว นั่งเพลินเชียว ปิดท้ายทริปนี้ กันด้วยบรรยากาศร้านโรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว กับเส้นทางในทุกๆที่ที่ผมไป แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางของ ค น ห ล ง ท า ง ครั้งต่อไป เราะเติมเต็มประสบการณ์ ชีวิตจากการเดินทางไปพร้อมๆกันครับ...
ค น ห ล ง ท า ง
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.44 น.