Contact and Follow me at Facebook Fan Page or Govivigo Blog

---

บันทึกการเดินทาง 9 ก.ย. 60

สวัสดีค่ะวันนี้อจะพาเข้าวัดค่ะ อยากเป็นสายบุญกับเค้าบ้างหลังจากเดินสายบาปมานาน อร่า นอกจากจะได้ทำบุญไหว้พระแล้วที่นี่ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ยังมีอีกส่วนที่น่าสนใจไม่แพ้การทำบุญเลยค่ะ

ถ้าการเข้าวัดไม่ใช่แค่ได้บุญแต่ได้รับความรู้ด้วยล่ะ น่าสนมั้ย?

ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช

ศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งนี้ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของพระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เปิดให้เข้าชมในวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.

ติดต่อสอบถาม โทรศัพท์ 0 2623 3329, 0 2623 1227 หรือ เว็บไซด์วัดไตรมิตร

ค่าบริการ คนไทยฟรี ต่างชาติ 140 บาท

การเดินทาง

เดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ไปยังสถานีหัวลำโพง จากนั้นขึ้น รถประจำทางสาย 5, 73 หรือ 507 ไปลงยังวัดไตรมิตรวิทยาราม

เดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนตัว / จากถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาทางถนนเจริญกรุง เมื่อผ่านแยกหัวลำโพง จะข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ผ่านแยกไมตรีจิตต์ เลี้ยวซ้าย จะเห็นวัดไตรมิตรอยู่ทางขวามือ สามารถจอดรถได้ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร คนไทยฟรี ชาวต่างชาติคนละ 140 บาท แต่ที่จอดมักหาค่อนข้างยากแนะนำมารถโดยสารดีกว่าเนาะ

---

เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ แพนจะบอกความความจริงแล้วแพนไปเดินเตร็ดเตร่อยู่ย่านนี้เป้นประจำอยู่แล้ว เข้าพิพิธภัณฑ์ก็ค่อนข้างบ่อย แพนชอบที่เลยเลยจะเอามาแนะนำกันนะจ๊ะ พิพิธภัณฑ์ชั้น 2 จะแสดงถึงการโยกย้ายถิ่นฐาน ของชาวจีนมาสู่ประเทศไทย จากอดีตจวบจนถึงปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 6 ห้อง ตามนี้

ห้องที่ 1 เติบใหญ่ใต้ร่มพระบารมี

ทำความรู้จักเบื้องต้นเกี่ยวกับชุมชนชาวจีนสำเพ็งและเยาวราช ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์ไทยมาตลอด ในห้องแรกจะมีวีดีทัศนืฉายด้วยนะคะ แต่ฉายเป็นรอบๆต้องดูตารางเอา

ห้องที่ 2 กำเนิดชุมชนจีนแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๒๕ - ๒๓๙๔)

จะมีหุ่นจำลองกับภาพวาดผนังบอกเล่าถึงจุดกำเนิดของชุมชนจีนที่สำเพ็ง และการเข้ามาของชาวจีนโพ้นทะเลในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1-3 จนสำเพ็งกลายเป็นย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ในยุคนั้นเลยล่ะค่ะ

ห้องที่ 3 เส้นทางสู่ยุคทอง (พ.ศ. 2394 - 2500)

เรียกว่าเป็นยุคเฟื่องฟูเลยค่ะ พัฒนาการของชุมชนจีนจากตลาดสำเพ็งสู่ความเป็นย่านธุรกิจสมัยใหม่บนถนนเยาวราช แถมโมเดลจำลองถนนเยาวราชทั้งเส้นเลย

ห้องที่ 4 ตำนานชีวิต Hall of Fame

ห้องนี้จะมีวีดิทัศน์แสดงตำนานชีวิตของบุคคลชาวเยาวราชที่เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แก่อนุชนรุ่นหลังอย่างเราๆๆด้ศึกษาและทำตาม

ห้องที่ 5 พระบารมีปกเกล้าฯ

แกลเลอรี่ภาพถ่ายและวีดิทัศน์ แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ ในรัชกาลที่ 9 ต่อชุมชนเยาวราชค่ะ

ห้องที่ 6 ไชน่าทาวน์วันนี้

แสดงภาพลักษณ์อันโดดเด่นในแง่มุมของเยาวราชที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "ไชน่าทาวน์" ของประเทศไทย แหล่งกินอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยล่ะค่ะ ทั้งวัตถุดิบต่างๆก็หาได้จากพาหุรัด สำมเพ็ง เยาวราชนี่เอง

ถ้าดินจนรอบศูนย์ประวัติศาสตร์ชั้น 2 จนครบแล้วก็ขึ้นไปอีกชั้นเพื่อชม

นิทรรศการหลวงพ่อทองคำ

"จากพุทธศิลป์สุโขทัย สู่พุทธสมัยปัจจุบัน"

ที่จะบอกเล่าเรื่องราวโดยสรุปเกี่ยวกับองค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร และการอัญเชิญมาประดิษฐานในพระมหามณฑป ภายในวัติไตรมิตรแห่งนี้ค่ะ

รวมถึงกรรมวิธีในการปั้น หล่อ หลอม วัตถุดิบที่ใช้ และขั้นตอนการทำทั้งหมดเลยค่ะ

ภายในพระมหามณฑปจะมีพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด 2 ชั้นตามที่เล่ามานะคะ แต่ไม่หมดเพียงเท่านี้ ทุกคนต้องขึ้นไปอีกชั้นเพื่อเสพวิวมุมสูงดูความสวยงามของวัดแบบนี้ค่ะ

และตบท้ายด้วยการเข้าไปกราบสักการะ

องค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ)

เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย สร้างด้วยทองคำเนื้อเจ็ดน้ำสองขา เคยมีปูนพอกทับและลงรักปิดทอง ต่อมาเกิด เหตุการณ์ปูนกระเทาะทำให้องค์พระพุทธรูปทองคำที่ซ่อนอยู่ภายในปรากฎออกมา เลยได้รับการบันทึกในหนังสือกินเนสส์บุ๊คว่าเป็น "ปูชนียวัตถุที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก". ว้าวเลยมั้ยคะ

และก็จบวันเดย์ทริปสั้นๆของแพนนะคะ จากนั้นก็เดินเข้าเยาวราชหาของกินกันต่อไป อร่อยพุงกางแล้วก็กลับบ้านนอน ฮร่า ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ แล้วแพนจะมาเล่าเรื่องอื่นให้ฟังใหม่โอกาสหน้าเนาะ

กู้ดดดดดดด บายยยยยยยยย