สวัสดีค่ะ ทริปนี้ ทรายจะพาเพื่อนไปเที่ยว "สุโขทัย" กันค่ะ
ทริปนี้ เราพักกันที่ " Legendha Sukhothai Resort " (เลเจนด้า สุโขทัย รีสอร์ท)
ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ใกล้กลับ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ค่ะ เพื่อนๆ สามารถปั่นจักรยานไปได้ หรือแจ้งทางโรงแรมได้ค่ะ ทางโรงแรมมีบริการรถรับ-ส่ง (มีค่าใช้จ่าย) ไว้คอยบริการ แต่ถ้าเดินคงไกลไปสักนิดค่ะ แต่สำหรับรีวิวนี้ ทราย จะพาเพื่อนๆ ชอบในส่วนของรอบๆ Legendha Sukhothai Rresort และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ก่อนแล้วกันนะคะ ในส่วนของ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เดี๋ยว ทราย แยกออกไปอีกรีวิวนะคะ (เดี๋ยว เอามาแปะให้ในนี้นะคะ)
ทราย เดินทางถึง " Legendha Sukhothai Resort " ประมาณช่วงบ่ายโมงค่ะ ทางโรงแรมใจดีมากๆ ให้ ทราย สามารถเช็คอิน ได้ทันทีเลยค่ะ
welcome drinks ที่นี่ เป็นน้ำฝรั่งสด ค่ะ อยากมากสดชื่นมากๆ เพราะอากาศช่วงนี้กำลังร้อนๆ
เรามุ่งหน้าสู่ห้องพักของเราคืนนี้ค่ะ
ห้องพักของเราเป็น ห้องแบบ Deluxe Room (ปัจจุบัน ทางโรงแรมกำลังทยอยทำการ Renovate ยังไม่แล้วเสร็จ 100% ซึ่งไม่มีผลกระทบอะไรกับการเข้าพักค่ะ)
หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว ทราย ขอเดินสำรวจและเก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ
ทางเดินภายในโรงแรม มีต้นไม้ ร่มรื่นมากๆ เลยค่ะ เดินกันเพลินเลย
บริเวรณ "สระว่ายน้ำ"
มุมนั่งเล่น ภายในโรงแรม
สะพานไม้สีแดง ซึ่งถือว่าเป็น อีกหนึ่งจุด ที่ห้ามลืมเก็บภาพสวยๆ นะคะ
หลังจากเดินสำรวจโรงแรมจนเหนื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาออกหา (หมูกระทะ) กินแล้ว ..... 555
ร้านที่เราเลือกแบบสุ่มๆ ไป คือ "ร้านโอชา ซีฟู๊ด หมูกระทะ บุฟเฟ่ต์" ค่ะ
ที่เลือกร้านนี้ เพราะว่า มีอาหารให้เลือกเยอะ มีซีฟู๊ดด้วย (จัดให้เป็นชุดตามจำนวนคน) ค่ะ
หลังจากอิ่มท้องแล้ว เราก็รีบกลับมาที่โรงแรมค่ะ เพราะเราได้ข่าวว่าที่โรงแรมทุกคืน เวลา 2 ทุ่ม จะมีการแสดงแบบไทยๆ มาโชว์ให้แขกที่มาทานข้าว หรือเข้าพักชมค่ะ
หลังจากชมการแสดงเสร็จ ก็เดินกลับห้องพักค่ะ ด้านหน้า ก่อนข้ามสะพานแดง
จะเจอ พี่สาวคนสวย นั่งร้อยมะลิปลาตะเพียนสานตัวเล็กๆ น่ารักห้อยอยู่ด้วย อยากบอกว่า "หอมมาก"
แสงไฟยามค่ำคืน ภายในโรงแรมค่ะ
เช้านี้ เราจะไปใส่บาตร ที่วัดตระพังทอง ค่ะ วัดนี้ ตั้งอยู่เกาะกลางน้ำ โดยมีสะพานไม้เป็นตัวเชื่อมระหว่างวัดกับฝั่งค่ะ ทุกๆ เช้า ณ สะพานไม้แห่งนี้ จะมีพระมารับบิณฑบาตร ค่ะ ถ้าเพื่อนๆ อยากมาใส่บาตร หรือเก็บภาพสวยๆ ทราย เเนะนำให้เพื่อนมาถึงบริเวรวัด ให้ทันเวลา 6.00 - 6.30 น. นะคะ เพราะพระ ท่านจะเดินผ่านสะพานแค่รอบเดียวเท่านั้น ส่วนของที่จะใช้ใส่บาตร เพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้บริเวณหน้าวัดค่ะ
หรือใครขี้เกียจออกไป เพื่อนๆ ก็สามารถใส่บาตรที่โรงแรมได้นะคะ ทุกๆ เช้าจะมีพระมารับบิณฑบาตรค่ะ
หลังจากออกไปเก็บภาพเรียบร้อย ก็หิวกันมาเลยค่ะ ... 555
เมนูโปรดที่ชอบมาก ก็คงเป็นขนมครกค่ะ เป็นขนมครกแบบโบราณนะ ทราย ชอบมากๆ หาทานยากมากใน กทม. (แถวบ้านทราย) คุณป้าที่ทำขนมครก ท่านเล่าให้ฟังว่า ทานตื่นมาเตรียมของทำขนมครกตั้งแต่ ตี 4 ทานตั้งใจทำมาก อยากให้ทุกคนได้ทานขนมครกอร่อยๆ
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ ก็อาบน้ำ อาบท่า เตรียมตัวเก็บกระเป๋า
ก่อนกลับ เราก็ขอสำรวจรอบๆ โรงแรมอีกสักรอบ เพราะได้ข่าวว่า ประตูด้านข้างของทางโรงแรม สามารถเดินไป "วัดช้างล้อม" ได้
สำหรับใครที่ชอบ ส่งโปสการ์ด ทางโรงแรม ก็มีจำหน่ายนะคะ มีตู้ให้ส่งด้วย
บริเวณนี้ ทราย ขอเรียกว่า "ลานกิจกรรม" นะคะ .... 555
ทางโรงแรมมีกิจกรรมให้เพื่อนๆ ทำ เช่น การใส่ชุดไทย , การพิมพ์พระ
กิจกรรมเหล่านี้ ใครสนใจแจ้งทางโรงแรมได้เลยนะคะ
"บริเวณจำลองห้องครัวแบบไทยโบราณ" ทุกวัน เวลา 18.00 น. บริเวณนี้ จะมีพ่อครัว แม่ครัว มานั่งทำอาหารไทย กันค่ะ
เดินไปเรื่อยๆ เราจะเจอสะพานแขวนค่ะ
หลังจากเดินข้ามสะพานแขวนมา เพื่อนๆ จะเจอประตูทางออกด้านข้างค่ะ
เพื่อนๆ จะเจอ "วัดช้างล้อม"
หลังจากเดินกลับมาจาก "วัดช้างล้อม" ทราย ก็มานั่งพักให้หายร้อน ที่ Lobby คุยโน่นนั่นนี่ กับพี่ๆ พนักงาน อยากบอกว่า พี่ๆ พนักงานที่นี่ น่ารักทุกท่านเลยค่ะ
ในที่สุด ก็ถึงเวลากลับแล้ว ของที่ระลึกที่ทางโรงแรมฝากกลับไป ไว้ทานระหว่างเดินทาง
ก็เป็นขนมกลีบลำดวนค่ะ อร่อยมากๆ
สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า ขอขอบคุณ " Legendha Sukhothai Resort " (เลเจนด้า สุโขทัย รีสอร์ท) ขอบคุณพี่ๆ พนักงานทุกๆ ท่านที่ดูแล ทราย เป็นอย่างดี ประทับใจมากๆ ค่ะ โอกาสหน้า จะกลับไปใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ รอบนี้ ลืมเอาชุดว่ายน้ำไป รอบหน้า ถ้าได้ไปอีกสัญญาว่าจะไม่ลืมแน่นอนค่ะ.....
S Travel My Story
วันพฤหัสที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.34 น.