"เหมืองปิล๊อก บ้านอีต่อง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี" หมู่บ้านเล็กๆมีเขาล้อมรอบ อากาศเย็นตลอดปี ไปเที่ยวกับ มะนาวก้าวเดิน นะคร่า

ในอดีตอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยแร่ธรรมชาติโดยเฉพาะ "ดีบุก"

เคยมีกิจการทำเหมืองแร่จำนวนมากที่นี่

แต่ทุกวันนี้หลงเหลือไว้เพียงกลิ่นอายของอดีตกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเรื่องราวและความอบอุ่นแฝงไว้


ด้วยที่ว่าไม่ไกลนี้ล่ะค่ะ ทริปเหมืองปิล๊อก หมู่บ้านอีต่อง ถึงมาโดยไม่ได้วางโปรแกรมมากมายอะไรเลย ก่อนเดินทางไม่กี่วันก็ทำการจองที่พัก และไปซื้อตั๋วรถทัวร์ มะนาวเลือกไปรถขนส่ง บขส. เพราะไม่ต้องไปเปลี่ยนรถให้เหนื่อยที่กาญจนบุรี

รถโดยสาร บขส. 999 จากกรุงเทพฯ(หมอชิต) - ด่านเจดีย์สามองค์ ลงที่อำเภอทองผาภูมิ ราคา 288บาท รถมีเที่ยวเดียวเวลา 06:30 น. ถึง อ.ทองผาภูมิ 12:00 น.

ซื้อตั๋วตรงช่องที่21 นี้นะค่ะ ไม่รับจองผ่านเวปค่ะเพราะระยะทางใก้ล ควรมาซื้อก่อนล่วงหน้าเดินทาง

รถสะอาด บริการดี มีจอดเลี้ยงอาหารกลางวันด้วยค่ะ ที่ร้านอาหารเรนู บริเวณน้ำตกไทรโยค

รถทัวร์จอดที่ ถนนเทศบาล1 เราก็นั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปขึ้นรถโดยสารเดินทางต่อไปที่หมู่บ้าน อีต่อง ราคา 15บาท

รถสองแถวประจำทาง สีเหลือง เขียนข้างรถว่า ทองผาภูมิ - อีต่อง ค่าโดยสารคนละ 70 บาท มี 3 รอบ 10:30 - 11:30 - 12:30 ใช้เวลาวิ่ง2ชั่วโมง 399 โค้ง จอดที่หมู่บ้านอีต่องเลยค่ะ

มาทันรอบ 12:30 น. พอดี ออกเดินทางไปเที่ยว เหมืองปิล๊อก บ้านอีต่องได้

ผ่านโค้งแบบนี้ มาประมาณ200โค้ง รถก็จอดให้ลงไปชมวิว 20 นาที แก้วิงเวียนโค้งค่ะ

มีจุดรับสัญญาณโทรศัพท์ด้วย รีบโทรบอกผู้ปกครองด่วน!! ตอนแรกคิดขำๆว่า ไม่มั่ง ที่บ้านอีต่องจะไม่มีสัญญาณหร่อ? มะนาวขอบอกไว้เลยว่า ดีแทคตายสนิท นอกนั้นยังพอมีค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ส่วนใหญ่ที่บ้านพักจะมี ไวไฟ ให้บริการฟรีค่ะ


มะนาวขอเช็คอินได้ครึ่งหนึ่งก็พอใจแล้ว

มาถึง 14:30 น. ตรงตามที่อ่านรีวิวท่านอื่นๆมา3ฉบับ เรียกว่า กว่าจะเดินทางได้ มะนาวก็อ่านจนจำขึ้นใจ

สดชื่น ได้ออกจากเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย พักผ่อนสบายๆ2คืน กับธรรมชาติ

ที่พักคืนแรกของมะนาว "เลิฟปิต๊อกโฮมสเตย์"

https://www.facebook.com/lovepilokhomestay/ วันธรรมดาราคา 800บาท วันหยุด 1,000บาท พร้อมอาหารเช้า

มะนาวอยู่ชั้น2 ที่พักดีงามค่ะ สะอาดลมเย็นจนหนาวเลย ขนาดบ่ายๆนะค่ะ

ไม่มีแอร์นะค่ะที่พักที่บ้านอีต่อง เพราะ อากาศเย็นตลอดทั้งปี

นั้นไม่ใช่เครื่องทำน้ำอุ่นนะค่ะ ที่นี้เค้าใช้เครื่องทำน้ำร้อน มีวิธีการเปิดละเอียดยิบ

อาบน้ำพักผ่อนกันก่อน พร้อมแล้ว ก็จะเดินวนรอบแรก(อยู่สองคืน มะนาววนหลายรอบค่ะ ถ่ายภาพมาอวดหลายๆสภาพอากาศเลยค่ะ)

เรียกว่า หมู่บ้านเล็กๆจริงๆเลยค่ะ แต่ ก็ทำให้ทุกๆคนที่ไปประทับใจ

ไปไหว้พระที่ วัดเหมืองปิล๊อกกันก่อน

จุดกางเต้นท์ฟรี อยู่ด้านหน้าของวัดเหมืองปิล๊อก ติดกับโรงเรียนเลย

เดินย้อนกลับลงมา

ไปหาข้าวกินกัน


เริ่มหิว ก็มองหาร้าน "ครัวเจ๊ณี"

ได้กินปูพม่าครั้งแรกล่ะเรา

มันก็แปลกดีเนอะ อยู่ในป่าในเขา แต่ได้กินอาหารทะเลสดๆ อร่อย และไม่แพงด้วย ปูพม่าผัดผงกะหรี่จานนี้ 250 บาท ผัดเห็ดรวม 80 บาท รสชาติจัดจ้าน อร่อยมากค่ะ

อิ่มข้าวแล้ว ก็ขยับมาร้านติดๆกันเลย หาน้ำหวานๆขนมปัง กินก่อนนอน

เดินย่อยกันก่อน ชมบรรยากาศยามเย็นของบ้านอีต่องที่แสนสงบ นักท่องเที่ยวที่มาก็ทำตัวน่ารัก ไม่ส่งเสียงดัง พักผ่อนกันแบบเงียบๆ

จากกรุงเทพฯ มาถึงที่บ้านอีต่อง 333 กิโลเมตร นับนิ้วแล้ว มาจากหมอชิต 06:30 ถึง 14:30 ก็รวมๆ 8 ชั่วโมงเอง ฟินๆว่าม่ะ

ตื่นเช้ามาไม่รีบร้อน แต่วันนี้จุดเช็คอินเพียบ

อยากจะไปมากมาย "เขาช้างเผือก" นี้ล่ะมั่งที่ทำให้เหมืองปิล๊อก มีคนเริ่มผ่านเข้ามาและทำให้มีคนเริ่มรู้จักมากขึ้นจนทุกวันนี้ (มะนาวได้คุยกับคนพื้นบ้าน เค้าบอกมาเช่นนี้นะค่ะ)

ตอนแรกสงสัยว่านี้คือโรงแรมร้าง? ถามชาวบ้านมา ได้คำตอบว่า นี้คือบ้านพักของคนที่ได้สัมปทานโครงการณ์เหมืองปิล๊อก แต่ตอนนี้เหมืองปิดไปแล้ว จึงไม่มีใครอยู่

แต่ที่มะนาวสนใจคือ น้ำตกเล็กๆตรงด้านใน ที่มีความใสจนมองเห็นปลาคราฟ

สงสัยอีก ปลาคราฟมาจากไหน ได้คำตอบมาว่า คือปลาที่ คนที่ได้สัมปทานโครงการณ์เหมืองปิล๊อกเค้านำมาเลี้ยง และไม่ได้พากลับไปด้วยตอนเหมืองปิด

ไปกันต่อ ออกกำลังกายกันนิด เดินขึ้นเขาไปชม "อุโมงค์เก่า" ชมวิวมุมสูงบ้านอิต่อง ไม่ต้อง งงค่ะ เพราะทางเดียวกันกับที่จะไปเนินช้างศึกนั้นแล


ไห้วพระขอพร "ศาลเจ้าพ่อสะด่อง"

เดินเล่นๆเหมือนเดินสวนหลังบ้าน

จะใช่ อุโมงค์เก่า รึเปล่านะ แต่ยังงัยก็ไม่ขอเข้าไปล่ะค่ะ มันแคบๆมืดๆน่ากลัว

ชมวิวรับลมเย็นๆพอหายเหนื่อย ถ้าจะไปเนินช้างศึกก็เดินขึ้นเขาไปอีก 800 เมตร แต่มะนาวตั้งใจขับมอเตอร์ไซค์ไปชมพระอาทิตย์ตกเย็นนี้ จึงเดินกลับ บ้านอิต่องไปกินข้าวเพิ่มพลัง

สายแล้ว ท้องเริ่มร้อง กลับบ้านพักทานอาหารเช้ากันก่อน

ป้ายเขียนที่ระลึก ราคา20 บาท มะนาวก้าวเดิน เขียนความในใจผูกกับสะพานที่ตลาดอีต่องไว้ ใครไปอย่าลืมมองหาน่าค่ะ

อาหารเช้าจัดไว้รอเลย ทานได้เท่าไหร่จัดไป ฟรี

กินข้าวเช้าชมบรรยากาศ

สายแล้วก็ทำการย้ายห้องพัก

คืนที่2มะนาวพักที่ " ที่พักโฮมสเตย์ปิล๊อกต๊อกแต๊ก บ้านอีต่อง 080-7788315 "

https://www.facebook.com/Piloktoktakhomestay/

ค่าห้อง1,000บาทพร้อมอาหารเช้า

ได้ชั้นล่าง คืนนี้มะนาวจะสั่ง หมูจุ่มมากินหน้าบ้าน

ห้องสะอาด บรรยากาศใก้ลชิดมากขึ้นจากเมื่อวาน

ก่อนจะไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่น หาซื้อเสบียงไปด้วยดีกว่า อารมณ์ประมาณปิคนิค เท้าแช่น้ำตก กินขนม แต่มาสะดุดตาที่ข้างฝาพนัง มีหลานคนนำสติ๊กเกอร์ตนเองมาติด มะนาวเสียดายจริงๆไม่ได้เอามาด้วย อดติด มะนาวก้าวเดิน เลย

เช่ารถมอเตอร์ไซค์ 250 บาท เติมน้ำมัน 2ขวด ขวดละ40บาท ไปเที่ยวน้ำตกจ๊อกกระดิ่นกันได้

มาถึงจุดๆนี้ กรุณาใช้ความระมัดระวังสูงที่สุดในการขับขี่

มาถึงด้วยความปลอดภัย ร่าเริ่งมากๆ จ่ายค่าเข้าคนละ 40 ค่ารถมอไซค์ 20 แต่!!! ห้ามนำอาหารเข้าไป อดเลย ปิคนิค อกหักอย่างแรง เดี๋ยวค่อยออกมานั่งกินแถวๆนี้ก็แล้วกัน

แรกเห็นก็สดชื่น รู้เลยว่า งานนี้ไม่เปียกไม่ได้ล่ะ

ไม่เคยได้ใก้ลชิดน้ำตกขนาดนี้ ตื่นเต้นมากมายค่ะ

มาถึงแล้วววว "น้ำตกจ๊อกกระดิ่น" ป.ล เพื่อความสนุกสนานนานๆ กรุณาใส่รองเท้าลงไปเล่นน้ำตกค่ะ หินมีความคมบาดเท้าเจ็บจุง

ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาแห้งพอดี ผ่านบ้านอีต่องเลยไปที่ เนินเสาธง

เนินเสาธง เป็นจุดที่ตั้งธงประเทศไทยและประเทศพม่า ริมชายแดนฝั่งอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี บริเวณจุดนี้เป็นจะมีเจ้าหน้าที่ทหารจากประเทศไทย และประเทศพม่าดูแลตลอด การที่จะเดินข้ามไปยังฝั่งพม่านั้นไม่สามารถข้ามไปได้ แต่ตรงจุดบริเวณเนินสาธงสามารถมองเห็นวิวฝั่งประเทศพม่า

ขี่มอเตอร์ไซค์มาอีกนิด " จุดเฝ้าตรวจช่องมิตรภาพ" เป็นชายแดนไทย – พม่า ไม้กั้นในรูปด้านล่างเป็นไม้กั้นฝั่งไทย


กลับเข้าตลาดใส่เสื้อตัวใหม่ ราคา 150 บาท

และ น้ำแร่ ธรรมชาติ ตราอีต่อง ติดตัวไปดื่มบนเนินช้างศึก

ทางไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ ขี่มอเตอร์ไซค์ชิวล์ๆ

พอขึ้นมาถึง มะนาวอยากจะกรี๊ด สวยมากเลย วันนี้ฟ้าเป็นใจ

จุดนี้ละนะค่ะที่ก้างเต้นท์ได้ อยากจะนอนเต้นท์ขึ้นมาบัดนาวเลยค่ะ

เรียกว่า กดภาพรัวๆ แถมเก็บวีดีโอกลับมาอีกเพียบ

มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่ แค่ยิ้ม ทักทายกัน มะนาวก็ได้พบเพื่อนใหม่กลับมา

ใช้เวลาซนอยู่ที่ เนินช้างศึก ตั้งแต่17:00น. ถึง 18:30 น. ลงมาก็หิวสิค่ะ สั่งหมู่จุ่มให้เค้าไปส่งที่หน้าห้องพักราคาชุดนี้ 199บาท อิ่ม อร่อย แต่อย่าช้า เพราะก๊าซที่ให้มามันจะหมดก่อนหมู

เช้านี้ต้องลา บ้านอิต่อง ซะแล้วสิ จะกลับกรุงเทพฯแล้ว แต่ยังออกเสียง บ้านอีต่องไม่ถูกเลย

ก่อนจาก ขอถ่ายภาพอีกรอบล่ะกัน และมีที่พัก5แห่ง พร้อมเพจในการติดต่อ มาฝากท่านที่จะเดินทางไป เหมืองปิล๊อก บ้านอีต่อง ราคาใก้ลๆกันค่ะ 800-1,000บาท

1. Love ปิล๊อกโฮมสเตย์098-3815999,088-4553823 line id:lovepilok

https://www.facebook.com/lovepilokhomestay/

2. .ที่พักบ้านทานตะวันโฮมสเตย์ปิล๊อก บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก 080-7815729

https://www.facebook.com/Banthantawanhomestaypilok...

3. ที่พัก อาร์มโฮมสเตย์บ้านอีต่อง - armhomestay เหมืองปิล๊อก 086-1703410

https://www.facebook.com/Armhomestay/?fref=ts

4. ที่พักโฮมสเตย์ปิล๊อกต๊อกแต๊ก บ้านอีต่อง 080-7788315

https://www.facebook.com/Piloktoktakhomestay/

5.Pilok Camp Coffee - ปิล๊อก แคมป์ คอฟฟี่ & โฮมสเตย์

https://www.facebook.com/pilokcampcoffee/?fref=ts

มีรถออกจากบ้านอีต่อง สองเที่ยว คือ 6:30 น. และ 7:30 น. ราคาเท่าเดิม 70 บาท

เช้านี้มะนาวกลับไว เลยไม่ได้อยู่ทานอาหารเช้าของที่พัก แต่ที่ตลาดก็มีหมูปิ้งหอมๆขาย มีหมามองแต่เหมือนจะสนใจหมูปิ้งมากกว่า สนใจมะนาวนะ


ไม่อยากกลับเลย บอกตรงๆ ชอบที่นี้มากมาย ยังเที่ยวไม่หมดเลย นี้ขนาดหมู่บ้านอีต่องเล็กๆนะ แล้วมะนาวจะกลับมาอีกแน่นอน


มะนาวกลับรถรอบ 7:30 น. แอบตื่นเต้นจะทันรถ บขส. ที่แวะเข้ามารับผู้โดยสารที่ ทองผาภูมิ รอบ 10:00 น.ไหมนะ? มีรอบเดียวเหมือนตอนขาไป

คุณลุงขับเลยมาส่งที่จุดขึ้นรถ บขส. ทันเวลาพอดี ค่าตั๋วรถกลับ 218 บาท

ถ้าไม่ทันรถ บขส. ก็มีรถตู้ และรถเมล์ ไปถึง กาญจนบุรีค่ะ แล้วต่อรถกลับกรุงเทพฯ

สรุปค่าใช่จ่ายกันนิด

ค่าห้องพักคืนแรก และ คืนที่สอง 800+1,000=1,800 บาท

ค่ารถ บขส. ไปและกลับ 288+218=506บาท

ค่ารถโดยสาร ทองผาภูมิ-อีต่อง ไปและกลับ 70+70=140 บาท

ค่ารถมอเตอร์ไซค์ และ น้ำมัน 250+80=330บาท

ค่าเข้าน้ำตกจ๊อกกระดิ่น(สามารถเข้าอุทยานทองผาภูมิได้ด้วยค่ะ) คนและรถ 40+20=60 บาท

รวมแล้ว 2,836 บาท ***อาหารเครื่องดื่มต่างหากค่ะ

ฝากเพจบ้านๆของมะนาวก้าวเดินไว้ด้วยค่ะ >>> https://www.facebook.com/manowjourney/

และ ผลงานรีวิวทั้งหมดของมะนาวก้าวเดิน >>> https://th.readme.me/id/ManOvv

มีวีดีโอ การเดินทางของทริป มาฝากให้ชม ด้วยคร่าาาาา

คำว่า "ปิล๊อก" มาจากความเป็นมาของหมู่บ้านอีต่อง
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี
ย้อนไปในอดีตได้มีการสำรวจเหมืองแร่วุลแฟรมที่บริเวณหุบเขาแห่งหนึ่ง
เรียกว่า "นัตเอ่งต่อง" แปลว่า ภูเขาแห่งเทพเจ้า
หรือเขาเทวดา
โดยชาวพม่ามักจะลักลอบนำแร่มาขายให้ชาวอังกฤษซึ่งปกครองพม่าในขณะนั้น
ต่อมาปี พ.ศ. 2482
ทางราชการไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีสำรวจการเหมืองแร่
และกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าไปดำเนินการเปิดเหมืองแร่
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ เหมืองแร่ในเขตนี้ของไทยเป็นครั้งแรก
การเปิดเหมืองแร่ในสมัยนั้น
มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรกับกรรมกรชาวพม่า
เพราะไทยห้ามกรรมกรชาวพม่านำแร่ไปขายให้กับอังกฤษ
แต่ไม่เป็นผลจึงเกิดการปะทะกันทำให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก
จึงมีสภาพเหมือนเมือง "ผีหลอก" ซึ่ง ชาวพม่า ได้พูดเพี้ยน เป็นคำว่า "ปิล๊อก" อันเป็นที่มาของชื่อเหมืองแร่และตำบลในเวลาต่อมา

แต่มะนาวขอรับประกัน ไปมาแล้ว ไม่มีผีหลอก แน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่ติดตาม มะนาวก้าวเดิน เสมอมานะค่ะ แล้วไปเที่ยวด้วยกันอีกทริปหน้าค่ะ....


มะนาวก้าวเดิน

 วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.04 น.

ความคิดเห็น