เที่ยว แม่ฮ่องสอน ใน 1 วัน แบบไม่มีรถส่วนตัว(700 บาท/คน)

หนาวนี้.. ไปเที่ยว “แม่ฮ่องสอน” กัน!

แม่ฮ่องสอน เป็นจุดหมายน่าไปโดน ในช่วงหน้าหนาวนี้ ของใครหลายๆ คนเลย เป็นจังหวัดที่เหมาะสำหรับไปเที่ยวในหน้าหนาวเป็นอย่างมาก สภาพกาศหนาวถึงใจ มีภูเขาสลับซับซ้อน มีทะเลหมอกสวยงามในหลายๆ จุด มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย..

ซึ่งการที่จะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั้น วิธีที่สะดวกที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น การเช่ารถขับเอง ไม่ว่าจะเช่ารถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ เพราะ สามารถแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ที่ต้องการได้ ซึ่งก็มีหลายคนที่ไม่สะดวกที่จะเช่ารถขับเองด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง เช่น ขับรถไม่เป็น ไม่ชำนาญทาง ขี้เกียจขับรถ เป็นต้น แต่ก็มีวิธีที่จะเที่ยว แม่ฮ่องสอน ได้ครบตามจุดสำคัญ นั่นก็คือ การซื้อ Day Tour ซึ่งสามารถไปเที่ยวได้ใน 1 วัน ในราคา 700 บาท เท่านั้นเอง!

สำหรับ Day Tour แม่ฮ่องสอน นั้น จะเริ่มต้นที่ “ปาย” จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งหลายคนที่จะไป แม่ฮ่องสอน ส่วนใหญ่จะผ่านมาทาง จ.เชียงใหม่ อยู่แล้ว จากนั้น จึงต่อรถ ไปยัง “ปาย” ซึ่งที่ ปาย นี่เอง ที่สามารถซื้อ Day Tour ได้ ตามร้านทัวร์ทั่วๆ ไป หรือ หาเดินซื้อตาม ถนนคนเดินปาย ได้เลย.. ซื้อในคืนนั้น แล้วเช้าวันถัดไปก็เดินทางได้เลย..

#ค่ารถโดยสาร เชียงใหม่ – ปาย ราคา 150 บาท/เที่ยว รถออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่ 6.30 – 17.30 น. ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 3 ชั่วโมง

#ค่าPackage Day Tour 700 บาท/คน พาไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 9 สถานที่ ดังนี้

#ปางอุ๋ง / #บ้านรักไทย / #น้ำตกผาเสื่อ / #ภูโคลน / #สะพานซูตองเป้ / #พระธาตุดอยกองมู / #ถ้ำปลา / #กระเหรี่ยงคอยาว / #จุดชมวิวกิ่วลม หรือ #จุดชมวิวจ่าโบ่ (ควรสอบถามโปรแกรมให้แน่นอนก่อนนะครับ)

โดยรถตู้นำเที่ยวจะมารับ ที่พักในปาย เวลา 04.00 น. และกลับมาส่งในเวลา 18.00 น.

(ไม่รวมอาหารเช้า และอาหารกลางวัน แต่..จะมีแวะพักทานอาหาร ให้เลือกซื้อทานได้เองตามอัธยาศัย)

ก็ถือว่า.. ได้เที่ยวแบบสะดวกสบาย คุ้มค่าดีเหมือนกัน เป็นทางเลือกหนึ่งในการมาเที่ยว แม่ฮ่องสอน ครับ!


#เที่ยวแม่ฮ่องสอน

#เที่ยวแม่ฮ่องสอนครั้งใหม่ไม่เหมือนเดิม

#DoiSter #TATMaeHongSon

#MaeHongSon

#CHAILAIBACKPACKER


เที่ยว แม่ฮ่องสอน ใน 1 วัน!

1. ปางอุ๋ง

หลังจากรถตู้ไปรับนักท่องเที่ยวจากที่พักต่างๆ ในตัวเมืองปาย จนครบ ในเวลาประมาณ 04.00 น. ก็มุ่งหน้ามายัง #ปางอุ๋ง เป็นที่แรก ใช้เวลาเดินทางก็ราวสองชั่วโมงกว่า จะมาถึง ปางอุ๋ง ในช่วงเวลาเช้าพอดี ได้เจอกับบรรยากาศยามเช้า สายหมอกฟินๆ อากาศหนาวได้ใจ ซึ่งจะมีเวลาชมบรรยากาศในรอบบริเวณนี้ราวๆ หนึ่งชั่วโมง

ปางอุ๋ง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยต้นสนที่ปลูกเรียงรายอยู่รอบอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ ทำให้ได้บรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติสวยงาม ยิ่งถ้าได้เดินทางมาช่วงเช้าๆ มีสายหมอกลงต่ำเหนือผิวน้ำ จะได้พบกับภาพที่สวยงาม จนชื่อว่า.. เป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” เลยทีเดียว

กิจกรรมที่ห้ามพลาด ก็คือ การล่องแพไม้ไผ่ ซึ่งสามารถมาใช้บริการได้ในราคา 150 บาท/30 นาที สามารถนั่งได้ลำละ 2 คน(ไม่รวมคนพาย)

การนั่งแพไม้ไผ่ ก็ได้บรรยากาศดีเหมือนกัน ราวกับได้ลอยลำแหวกไปบนสายหมอก ซึ่งก็ได้รับความนิยมอย่างดีครับ

ยามเช้าอากาศดี ชมบรรยากาศไปโดยรอบอ่างเก็บน้ำ

จะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น กันที่ ปางอุ๋ง ซึ่งเดินเล่น ถ่ายรูปเล่น ไม่นาน.. พระอาทิตย์ ก็จะเริ่มโผล่พ้นเนินเขาให้เห็น


2. บ้านรักไทย

นั่งรถออก จาก ปางอุ๋ง ไม่ไกล ก็มาถึง #บ้านรักไทย ซึ่งในอดีตเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน อยู่ไม่ห่างจากชายแดนพม่า เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง ที่นี่จึงขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกชา จึงสามารถพบเห็นผลิตภัณฑ์ชา ตามร้านต่างๆ ที่คนขายมักจะเชื้อเชิญให้เข้าไป นั่งจิบชาฟรี พร้อมกับชมบรรยากาศ ของหมู่บ้านรักไทย มาที่นี่.. แล้วจิบชาร้อนๆ ชมวิวสายหมอก ผืนน้ำ และทิวเขา มันช่างฟินจริงๆ นะ!

บรรยากาศของ #หมู่บ้านรักไทย (สำหรับมื้อเช้า จะทานกันที่นี่ตามอัธยาศัย ซึ่งเมนูแนะนำก็หนีไม่พ้น ขาหมู หมั่นโถว ของเขาดีจริง!!)


3. น้ำตกผาเสื่อ

รถมาจอดให้แวะเที่ยว #น้ำตกผาเสื่อ ซึ่งจากทางเข้าอาจเข้าใจว่าต้องใช้ระยะทางเดินอีกไกลถึงจะถึงตัวน้ำตก แต่ไม่เลยครับ เดินไปตามทางที่ทำไว้อย่างดี ไม่กี่สิบเมตรก็ถึง มีบริเวณจุดยืนชม และยืนถ่ายรูปด้วย

#น้ำตกผาเสื่อ เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 15 เมตร ในช่วงฤดูฝนจะมีน้ำไหลเต็มหน้าผา คล้ายกับเสื่อที่ปูลาดลงมา จึงเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกผาเสื่อ” นั่นเอง

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยว #น้ำตกผาเสื่อ คือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – กันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน (ถ้ามาช่วงหน้าหนาวน้ำก็อาจจะน้อยๆ หน่อยนะครับ)


4. ภูโคลน คันทรี คลับ

#ภูโคลนคันทรีคลับ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และการให้บริการด้านสุขภาพ และความงามด้วยโคลนและน้ำแร่ธรรมชาติ หากสนใจก็สามารถพอกหน้า พอกตัว ด้วยโคลน เพื่อสุขภาพได้ ราคาไม่แพง

โคลนที่นี่ เป็นโคลนบำบัดผิวที่มีคุณประโยชน์ มีแร่ธาตุหลากหลายชนิดเทียบเท่ากับโคลนจากต่างประเทศ ที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนัง และระบบไหลเวียนเลือด

นอกจากนี้ ภูโคลน คันทรี คลับ ก็มีผลิตภัณฑ์ และ บริการหลายอย่าง ที่เกี่ยวกับโคลนธรรมชาติ ให้เลือกตามความพอใจ


5. สะพานซูตองเป้

แล้วก็เดินทางมาถึง สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง #สะพานซูตองเป้ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก เป็นสะพานที่มีความยาว ประมาณ 500 เมตร สร้างผ่านทุ่งนา และแม่น้ำสายเล็กๆ เพื่อเชื่อมระหว่างสวนธรรมภูสมะ และหมู่บ้านกุงไม้ เพื่อให้การสัญจรได้สะดวก

#สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานที่เกิดจาก การร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุสงฆ์ และชาวบ้านกุงไม้สัก ในการสร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมา แสดงออกถึงความมี ศรัทธา อันแรงกล้า ซึ่งคำว่า “ซูตองเป้” นั้น เป็นภาษาไทใหญ่ ที่แปลว่า ความสำเร็จ (สะพานซูตองเป้ จะสวยในช่วงนาเขียวเขียวขจี ถ้าได้มาในช่วงหน้าหนาวก็เป็นช่วงที่เก็บเกี่ยวไปแล้วครับ)


6. หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว

มาเที่ยวชม หมู่บ้าน #กะเหรี่ยงคอยาว ที่ภายในหมู่บ้าน(บ้านห้วยเสือเฒ่า) จะได้ชมวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ บ้านเรือน ของ ชาวกะเหรี่ยงคอยาว ซึ่งสามารถมาอุดหนุนสินค้า ของที่ระลึกต่างๆ หรือ จะถ่ายรูปกับ กะเหรี่ยงคอยาว ไว้เป็นที่ระลึกก็ได้

สินค้าและของที่ระลึกส่วนใหญ่ ก็จะเป็นพวกเสื้อผ้า และเครื่องประดับ ที่ราคาไม่แพงมาก

เป็นสินค้าที่ทำมือกันขึ้นมาเอง สำหรับขายให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นการสร้างรายได้ สนใจก็สามารถอุดหนุนกันได้ครับ


7. พระธาตุดอยกองมู

#พระธาตุดอยกองมู ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมานาน ตั้งอยู่บน ดอยกองมู ที่รถสามารถขึ้นมาถึงข้างบนได้(หรือ ใครอยากออกแรงลองเดินขึ้นบันไดมาก็ได้) ด้านบนจะพบกับ พระธาตุเจดีย์สีขาวองค์ใหญ่ ของวัดพระธาตุดองกองมู ลักษณะเป็นเจดีย์แบบมอญ มีฐานแปดเหลี่ยม ประดับลวดลายปูนปั้น แลดูสวยงาม

ด้านหน้าขององค์พระธาตุ นี่เองก็เป็นจุดชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่สวยงาม สามารถมองเห็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยทิวเขารอบด้าน และยังมองเห็น สนามบินแม่ฮ่องสอน อยู่ใกล้ๆ กันอีกด้วย

ส่วนด้านหลัง ขององค์พระธาตุ ก็จะมีร้านค้า ร้านกาแฟ ที่สามารถมานั่งเล่น จิบกาแฟชมวิวมุมสูงเพลินๆ ได้ครับ


8. ถ้ำปลา

#ถ้ำปลา ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ที่ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นสถานที่ที่สามารถพบกับบรรดาฝูงปลาพลวงจำนวนมากที่มาอยู่อาศัยในถ้ำแห่งนี้

ที่นี่.. เลยกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มาเดินเล่นชมธรรมชาติ หรือ ให้อาหารปลาก็ได้ครับ


9. จุดชมวิวกิ่วลม

รถจะพามาจอดแวะเที่ยวตรงจุดสุดท้ายที่ #จุดชมวิวกิ่วลม ซึ่งอยู่ระหว่างทางขากลับเข้าสู่เมืองปาย ห่างจากปาย ราว 20 กิโมเมตรเท่านั้น ในยามเย็นเช่นนี้ จะได้รอชมพระอาทิตย์ตกพอดี เป็นการชมวิวสวยๆ ส่งท้ายสำหรับวันนี้…

#จุดชมวิวกิ่วลม เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของแม่ฮ่องสอน มีลมพัดโชยตลอดทั้งปี บรรยากาศรอบด้านจะมองเห็นวิวของทิวเขาซ้อนสลับไปไกลสุดลูกตา ยิ่งช่วงยามเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตกอย่างนี้ จะได้พบภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น อากาศเย็นสบาย ชิลจริงๆ ครับ

หลังจากชมพระอาทิตย์ตกเรียบร้อยแล้ว ในเวลาประมาณ 18.00 น. รถก็พามุ่งหน้ากลับสู่ เมืองปาย เช่นเดิม และ วนส่งนักท่องเที่ยวตามที่พักต่างๆ จนครบ เป็นอันจบทริป Day Tour เที่ยว “แม่ฮ่องสอน” ใน 1 วัน

ซึ่งสำหรับผมเอง คิดว่า.. การมาเที่ยว #แม่ฮ่องสอน ในรูปเดย์ทริปแบบนี้ ก็ดูสะดวกสบายดีครับ ไม่ต้องขับรถเที่ยวเอง ไม่ต้องลำบากวางแผนเส้นทางเที่ยวเอง นั่งสบายๆ มีคนขับให้ดีกว่า และ หากรู้สึกเหนื่อยในระหว่างทางก็แอบงีบหลับได้ด้วย เป็นทางเลือกหนึ่งในการมาเที่ยว แม่ฮ่องสอน ครับ!



การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER

Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker

Instagram : CHAILAIBACKPACKER

Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9

E-mail : [email protected]

Website : www.chailaibackpacker.com

CHAILAIBACKPACKER

 วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.33 น.

ความคิดเห็น