ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ อากาศกำลังสบาย เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวเป็นที่สุด คงไม่มีอะไรดีกว่าการแพ็คกระเป๋าไปสัมผัสลมหนาวที่ภาคเหนือ และครั้งนี้จุดหมายปลายทางของ "ดินสอขอเขียน" อยู่ที่ "จ.เชียงราย"

เราเริ่มต้นเอาฤกษเอาชัยด้วยการไหว้พระ ขอพรที่ "วัดร่องเสือเต้น" แลนด์มาร์คแห่งใหม่องจังหวัดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นวัดที่มีความสวยงามน่าชม ซึ่งเกิดจากการสร้างสรรค์ของ “นายพุทธา กาบแก้ว” หรือ "สล่านก" ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง

เมื่อก้าวไปในวัดก็จะพบกับความสดใสสวยงามองวิหารสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทอง ซึ่งสีน้ำเงินฟ้าของตัววิหารนั้นแสดงถึงธรรมะของค์สมเด็จพระพุทธเจ้าที่ขจรขจายไปทั่วโลก ส่วนภายในตัววิหารก็มีภาพจิตรกรรมว่าด้วยเรื่องราวของพุทธประวัติ มีความอ่อนช้อยสวยงาม สุดท้ายคือพระประธานนามว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" พระประธานสิงห์หนึ่งสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้

ส่วนบริเวณด้านหลังวิหาร ยังมีพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติสูงเทียบเท่าวิหารตัดกับสีน้ำเงินฟ้าสลับทอง เป็นภาพที่งดงามยิ่ง ใกล้ๆ กันนั้นยังมี "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" ภายในบรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงฆปรินายก

"วัดห้วยปลากั้ง" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อมาที่ "ดินสอขอเขียน" ได้ไปเยือน ทันทีที่มาถึงก็จะพบกับ "พบโชคธรรมเจดีย์" เจดีย์สูง 9 ชั้น รูปทรงแปลกตาลักษณะเป็นทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดงมีรูปปั้นมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันได ล้อมรอบด้วยเจดีย์ เล็กๆ 12 ราศี นอกจากนี้ยังมี "เจ้าแม่กวนอิม" สีขาวองค์ใหญ่ ตั้งเด่นเป็นสง่าให้เราได้กราบไหว้กันอีกด้วย


จากนั้นเรามุ่งหน้าไปยัง "ไร่ชาฉุยฟง" เพื่อสัมผัสความเขียวจีของไร่ชานับพันๆ ไร่ น่าเสียดายที่วันนั้นฟ้าครึ้ม ภาพออกมาจึงไม่สวยอย่างที่ใจต้องการ

นอกจากจะมีไร่ชาให้ชมแล้ว ยังมีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑจากไร่ชานั่นคือ "ชาอู่หลง" เบอร์ต่างๆ สามารถช้อปปิ้งฝากใครๆ ได้อย่างสบายใจ

ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือการนั่งจิบชาไปพร้อมๆ กับการชมไร่ชา ซึ่งครั้งนี้ "ดินสอขอเขียน" สั่ง "เค้กมะพร้าว" เนื้อเบานุ่ม แทรกด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อน ตามด้วย "เครปเค้กชาไทย" แป้งเครปบางนุ่ม ละมุนลิ้น สัมผัสได้ถึงรสของชาไทยได้อย่างแท้จริง ส่วนเครื่องดื่มขอแนะนำ "ชาไทย" รสหวานหอม รือจะสั่ง "ชาอู่หลงน้ำผึ้งมะนาว" ก็เป็นเมนูที่เรียกความสดชื่นได้ดีทีเดียว

อิ่มท้องกันแล้ว ขอแวะไปชมความสวยงาม หลากหลายสีสันของดอกไม้เมืองหนาวที่ "สวนแม่ฟ้าหลวง" กันต่อ งานนี้บอกเลยว่า ยิ่งเดินยิ่งเพลิน เพราะดอกไม้เมืองหนาว่างพร้อมใจออกดอกกันบานสะพรั่งไปทั่วทั้งสวน

และสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของวันนี้คือ "วัดพระธาตุดอยตุง" วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดเชียงรายมาช้านาน ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือกระดูกไหปลาร้าซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย

โดยมีตำนานกล่าวไว้ว่าประมาณปี พ.ศ. 1454 พระมหากัสสปะเถระพร้อมด้วยพระเข้าอชุตราช กษัตริย์ผู้ครองเมืองโยนกนาคพันธ์ พร้อมด้วยข้าราชบริพารได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสถิตไว้ ณ ดอยแห่งนี้ และได้ปักตุงหรือธงบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เป็นตุงตะขาบมีความยาวถึงพันวาปักไว้บนยอดดอยปล่อยชายตุงปลิวสะบัดถึงที่ใดให้หมายเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ ดอยนี้จึงได้ชื่อว่า "ดอยตุง" มาจนถึงปัจจุบัน

และทั้งหมดนี้ก็คือความสนุก ความสุข และความประทับใจจากการได้มาเยือนเมืองเหนือเมืองนี้ "เชียงราย"



ติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวของ "ดินสอขอเขียน" ได้ที่ https://www.facebook.com/EatAndTravelWithTT/



ความคิดเห็น