สวัสดีจ้าาา...เมื่อวันที่ 16-17ธันวาคม ที่ผ่านมา ซ้อไปเที่ยวภูชี้ฟ้ากับแก๊งเพื่อนที่มหาลัย เป็นช่วงที่อากาศที่จังหวัดเชียงรายกำลังหนาวเย็น(มากกกก) ทริปนี้พวกเราไปเที่ยวกันแบบลุยๆ เดินทางโดยเหมารถสองแถว หน้ามหาวิทยาลัยไปกัน ส่วนที่พักเลือกนอนแบบเต้นท์ จะได้ก่อกองไฟ นำของกินไปปิ้งย่างกินเล่นกันได้ มาดูโฉมหน้าผู้ร่วมชะตากรรมกันทั้งหมด 7 คนกันจ้าา ซ้ออยู่หน้าสุดหน้าก็จะบวมๆ 3ส่วน4ของรูปคือหน้าซ้อ 555
การเดินทาง เบอร์ลุงชัยสองแถวหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 06-4341-9730 ลุงใจดี อยากแวะตรงไหนระหว่างทางได้หมด ทริปของเราหนึ่งคืนสองวัน ลุงชัยแกนอนค้างที่ภูชี้ฟ้าด้วยลุงคิดราคา ราคา 3000 บาทที่นอน เราเลือกนอนกันที่ Good view @ ภูชี้ฟ้า ที่เลือกที่นี่เพราะเพื่อนเราเคยมาพักแล้วครั้งนึง บอกว่าโอเค เรื่องห้องน้ำสะดวก มีเครื่องทำน้ำอุ่น ที่พักอยู่ติดถนน แล้วก็ห่างจากทางขึ้นไปอุทยานไม่ไกลมาก มีอาหารเช้า มีให้เลือก 3 อย่าง มาม่า,กาแฟหรือโอวัลตินกับขนมปัง,สุดท้าย ข้าวต้ม เลือกเมนูไหนก็ได้ แต่เลือกได้แค่ 1 อย่างเท่านั้น ที่นี่เราสามารถนอนเต้นท์ของที่พักได้ หรือ จะเอาเต้นท์มาเองก็ได้ มีที่ชาร์จแบตบริการ ราคา 40บาท/ครั้ง( ต่อหนึ่งชิ้น) ที่พักมีให้เลือกหลายขนาด มีขนาดกำลังพอดีนอนได้ 3 คนสบายๆ กับ ใหญ่หน่อยนอนได้ 6 คน มีทั้งแบบกลางแจ้ง และแบบมีหลังคา
ราคาที่พัก แบบเต้นท์ นอน 2 คน ราคา คืนละ 500 บาท นอน 3 คน ราคา คืนละ 700 บาท
สนใจสอบถาม 063-565-9465 ***ไม่ได้ค่ารวิวแต่อย่างใดนะคะ***
อาหาร ใกล้กับที่พักมีร้านขายหมูกระทะ ราคาชุดละ 500 บาท แล้วก็จะมีพ่อค้าเดินเอาของกินมาขายช่วงเย็นๆ ก็จะมีเมนูพวก มัน ข้าวโพด มันดิบนะสำหรับเอาไปปิ้ง แล้วก็ พวกลูกชิ้น อันนี้แนะนำควรเตรียมของกินไปเองเยอะๆ ถ้ามาสายกิน เพราะช่วงดึก ไม่มีร้านค้าที่ไหนเปิดแล้วจ้า เดี๋ยวจะมานอนหิวกันนะ อีกอย่างซ้ออยากจะบอกว่า หมูกระทะไม่อิ่มเล้ยยย เตามันร้อนไม่ทันใจวัยรุ่น ส่วนน้ำจิ้มก็... แต่เอาเป็นว่าได้กินกับเพื่อนก็สนุกไปอีกแบบเนอะ มองข้ามตรงนี้ไปก็ด้ายยย!! พวกฝืนเชื้อเพลิงต่างๆ เราต้องซื้อต่างหากนะ ราคา มัดละ 50บาท หาซื้อได้จากที่พักเลย เค้ามีเตาให้ มาพร้อมตะแกรงเหล็กสำหรับปิ้ง หรือ อีกตัวเลือกที่ดี คือ พกทุกอย่างมาจากบ้านเอง สามารถทำอาหารกินเองได้ พวกโต๊ะเก้าอี้ก็เอามาเองได้ เหมือนมาปิกนิกกับครอบครัว
14:00 pm. วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม เรารวมตัวกันที่หอมุก นัดลุงชัยมารับที่นี่ พวกเรา เตรียมผ้าห่มของตัวเองไปด้วยกลัวหนาวเกินไปนอนไม่หลับ
ยกของขึ้นรถ ครบแล้ว ตอนนี้พร้อมลุยกันแล้ววว...
ลุงชัยแกขับเรื่อยๆไม่แรงมาก แกบอกออกเวลานี้ชิวๆ ทันพระอาทิตย์ตกดินแบบสบายๆ ระหว่างทางเราบอกลุงไว้แล้วล่วงหน้าว่าช่วยแวะ 7-11 ให้หน่อยเพราะคงต้องหิวข้าวกันแน่ๆ มื้อนี้ฝากท้องไว้กับ 7-11 ละกัน
หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รถกำลังขับขึ้นเขาทางเริ่มชัน วิวสองข้างทางธรรมชาติ มองดูได้เรื่อยๆสบายตา
เกาะแน่นๆหน่อยนะ น้องนะ
16:40 pm. เราถึงที่พักกันแล้วดูเหมือนเราจะเป็นชุดสุดท้ายที่มาถึง เจ้าของแจกคูปองอาหารให้ พร้อมกับชี้แจ้งกฏต่างๆ คือ งดใช้เสียงหลัง 4 ทุ่ม
เราเห็นทุกคนกำลังทำอาหารกินกัน ช่วยกันยกของลงเสร็จ ไปเตรียมทำอาหารมื้อเย็นกินกันดีกว่า พวกผู้ชายไปหา ซื้อฝืนมาก่อไฟ แยกกันไปสั่งหมูกระทะ เช่าเสื่อเพิ่มด้วย 50 บาท หิวแล้วไปกินข้าวกัน...
ระหว่างกินข้าวมีน้องชาวเขาแวะมา ชวนให้ถ่ายรูปด้วย น่ารักดี น้องเต้นเก่ง กล้าแสดงออก พูดเก่งด้วย555 ชวนน้องมาถ่ายรูปกันแล้วอย่าลืม ให้ค่าขนมน้องกันด้วย น้ำใจเล็กๆน้อยๆ
ตอนนี้ 6 โมงเย็นแล้ว พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน สวยมาก ท้องฟ้าไล่เฉดสีจากเข้มไปอ่อน ตัดกับสีเขียวของภูเขา
คนมีคู่อารมณ์ก็จะประมาณนี้ ❤
หมูกระทะหมดแล้วต่อด้วย ลูกชิ้น ไส้กรอก มัน ข้าวโพด ปิ้งกันดีกว่าาา อากาศหนาวๆ นั่งล้อมกองไฟ จิบเบียร์ เปิดเพลงฟัง นั่งคุยกับเพื่อน นอนดูดาวบนท้องฟ้า เท่านี้ก็มีความสุขสุดๆแล้วว่ามั้ยล่ะ : )
ประมาณ ห้าทุ่ม ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมเข้านอน หนาวแบบนี้เรื่องอาบน้ำลืมไปได้เลย อิ้อิ้ แต่ซ้อตั้งใจว่าเที่ยงคืนจะออกมาถ่ายดาวบนท้องฟ้าสักหน่อย
ต้องบอกว่า ของจริงสวยมาก สวยแบบโอ้ยย!! ใครจะทนไหว นั่งมองดูดาวได้นานๆ คืนนี้เจอดาวตกด้วยนะ ตอนแรกก็ออกมาถ่ายรูปอยู่คนเดียว สักพักเพื่อนก็มาแจมด้วย ทีนี้ก็ยาวเลย ถ่ายรูปเล่นกัน ตอนนี้ลมข้างนอกแรงมาก สั่นไปถึงไส้
ถ่ายรูปจนสะใจกันแล้วก็แยกย้ายกันไปนอน
วันที่สอง เวลาตี 4:30 รถสองแถวมารับคนขึ้นไปบนอุนทยาน ค่ารถไป-กลับ คนละ 60 บาท เราตื่นตอนตี 3:50 ไปล้างหน้าแปรงฟัน ลมข้างนอกพัดแรงมาก มือ ขา นี่สั่นไปหมด คนพร้อมแล้ว รถพร้อมแล้วออกเดินทางกันเล้ยยย!! หนาวๆแบบนี้กอดกันดีกว่าจะได้อุ่น
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง หาอะไรกินรองท้องก่อนก่อนดีกว่า มีพวก กาแฟ โอวัลติน มาม่า ไข่ปิ้ง ไข่ต้ม หมูปิ้ง
โชคไม่ดีของซ้อและเพื่อนอีก 3 คน พวกเราซื้อหมูปิ้งมากินกัน แต่หมูปิ้งมันเสียคือกัดคำแรกนี่เปรี้ยวมาเลยจ้า อารมณ์เสียเลย เจอแบบนี้ตอนนั้นจะโมโหหิวแล้วด้วย555 เลยต้องซื้อมาม่ามา ย้อมใจ เห้ออ
อิ่มกันแล้ว ทีนี้พร้อมลุยแล้วจ้าา ก่อนทางขึ้นมีไฟฉายขาย ถ้าไม่ได้พกมาเองแนะนำให้ซื้อเพราะทางมันยังมืด ถ้าเลือกขึ้นตอนยังไม่สว่าง ควรเก็บแบตมือถือไว้ถ่ายรูปข้างบนดีกว่า
เดินขึ้นมาก็ทำเอาเหงื่อแตกใช้ได้เลย ระหว่างทางจะมีบางช่วงที่มีหินเยอะ เดินกันระวังๆนะค้าา พอขึ้นมาท้องฟ้าใกล้จะสว่างแล้วไปจับจองพื้นที่ มุมดีๆตั้งกล้องกันดีกว่า
เริ่มมองเห็นทะเลหมอกแล้ว โอ้ยยยดีงาม!
ท้องฟ้าสว่างแล้ว
ถ่ายกับเพื่อนสาวหน่อยยย
หนุ่มๆบ้าง
ขอซ้อถ่ายบ้างสิ เพื่อนเพื๊อนน!!
รูปรวมบ้าง
พวกเราเห็น ที่ถ่ายรูปด้านล่างเลยตกลงกันว่าจะลงไป มีทางไปได้สองทาง แต่ทางที่เราเลือกมันใกล้ แต่มันค่อนข้างชัน เป็นบันไดดินลงไป
ลงทางธรรมดาโลกไม่จำ เพื่อนข้างหน้าบอกว่าระวังตรงนี้นะมันลื่น เพื่อนพูดยังไม่ทันขาดคำ ลื่นไปแล้วจ้าาา ฝากรอยไว้ที่ภูชี้ฟ้า กันคนละลื่น ไม่เจ็บเท่าไหร่ หร๋อออ555 แต่คุ้มกับวิวที่ได้เจอ
เมฆลอยผ่านตัวเราไป คือ มันรู้สึกดีมากอะแกเอ้ยย! จุดชมวิวตรงนี้จะอยู่ด้านล่างของหัวสิงแวะถ่ายรูปได้สบายๆ
เดินจนหมดแรงแล้ว ท้องร้องแล้วเด้อออ ! ลงไปกินข้าวกันดีกว่า พอฟ้าสว่างก็มองเห็นวิวข้างทางที่เราขึ้นมา
อาหารเช้า เราเลือกกินข้าวต้มกัน อร่อยใช้ได้ มีไข่ต้มด้วยแต่เสียเงินเพิ่ม ฟองละ 10 บาท
กินข้าวเช้าเสร็จ ไปนอนต่ออีกสักหน่อย เอาแบตกล้องไปชาร์จด้วย นอนในเต็นท์ วิวข้างนอกก็จะประมาณนี้
ชิม Strawberry สดๆจากไร่กันหน่อย
ขากลับเราตกลงกันว่าจะแวะ ค่าเฟ่ควายชมพูกัน ตอนแรกคิดว่าจะเน้นขายของหวาน แต่พอเข้ามาจริงๆแล้วที่นี่ขายอาหารด้วย คือ เน้นของคาวเลยแหละ มีเมนูเยอะ ราคาเอื้อมถึง
เป้าหมายเราคือ มากินของหวาน เลยเลือก Bingsu strawberry กับ Bingsu ore รสชาติถือว่าผ่าน
ที่ค่าเฟ่ควายชมพูมี มุมถ่ายรูปน่ารักๆด้วยนะ เด็กน่าจะชอบ ดูจากเพื่อนเราเป็นต้น เพื่อนยุนิดนึงนี่เอาใหญ่555
ยังไม่หมดแค่นี้แน่นอน
ไม่มีใครยอมใคร
จบแล้วทริปนี้ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ทริปหน้าซ้อจะไปเที่ยวไหน ฝากติดตามด้วยนะคะ : ) บรั้ยยยย
อาซ้อพาเพื่อนเที่ยว
วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 04.04 น.