ไป...ดูทะเลหมอกกับเรา มั๊ย!! ที่.. " เ ข า โ ป ก โ ล้ น "

และจะพาไป..นอนโฮมสเตย์ด้วย

อากาศหนาวๆ แบบนี้ มันใช่...เลย!!

...

"ร่ อ ง เ ข า น ค ร ชุ ม " มีหมู่บ้านเล็กๆ ซ้อนตัวอยู่ในร่องเขา อากาศเย็นสบายตลอดปี บรรยากาศเงียบสงบ ตกบ่ายๆ ปั่นจักรยานชมภายในหมูบ้าน ชมบ่อเกลือพันปี ดูคุณตาจักสาน พิพิธภัณฑ์ลุงช่วง ที่นี่เก็บถ้วยชามโบราณอายุกว่า 700 ปี และตกเย็น เดินเล่นตลาดนัดชุมชนเล็กๆ ก่อนกลับเข้าที่พัก กับอาหารพื้นเมืองของชาวนครชุม อย่างหลามไก่ ผัดผักกูด ยำผักกูด ไข่ป่าม

ในยามเช้า สำหรับนักล่าหมอก จะมีกิจกรรมขึ้นเขาโปกโล้น เพื่อชมทะเลหมอกในร่องเขานครชุม มองเห็นวิวไกลๆ สุดลูกหูลูกตา และสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากจุดนี้ เดินเท้า ไป-กลับ ประมาณ 3 กม.

ถามว่าเหนื่อยมั๊ย!! ตอบเลยว่าไม่ ..ไม่เหลือ 555+

แต่พอได้เจอ หมอก...บอกเลยว่าหายเหนื่อยทันที..

ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

• ที่พัก 450 บาท / ต่อท่าน อาหาร 2 มื้อ เย็น-เช้า อาหารพื้นบ้านของนครชุม
• ค่ารถจากที่พักไปตีนเขาโปกโล้น เหมาคัน = 200 บาท (นั่งได้ 10 คน)
• ค่าไกด์นำทางขึ้น-ลง เขาโปกโล้น 2 ท่าน = 100 บาท
• ค่าแก๊สรถส่วนตัว ไป-กลับ 950 กม. = 1000 บาท

ข้อมูลสำหรับท่องเที่ยวนครชุม

• หมู่บ้านนครชุม หมู่บ้านเล็กๆ เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนในช่วงวันหยุด
• สำหรับนักล่าหมอก เขาโปกโล้น จำเป็นต้องมีไกด์ เพื่อป้องกันการเดินหลงได้ครับ และถือเป็นการช่วยอุดหนุนคนในพื้นที่ด้วยครับ
• ในช่วงเทศกาลไกด์อาจไม่พอ แต่ไม่ต้องกังวลเนื่องจากทางชุมชนจะมีน้องมัคคุเทศก์เป็นน้องๆ นักเรียนที่อยากหารายได้ระหว่างเรียน
• สำหรับการจองที่พัก แนะนำในติดต่อส่วนกลาง อบต. นครชุม หรือที่เพจนครชุมโฮมสเตย์ โฮมสเตย์วิถีชนบท จะมีเจ้าหน้าที่จัดคิวเรื่องที่พักของชาวบ้านที่เข้าร่วม เพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนอย่างทั่วถึง
• สำหรับการเดินขึ้นเขาโปกโล้น สิ่งที่ต้องเตรียม ไฟฉาย รองเท้าผ้าใบ น้ำดื่ม

ติดต่อที่พักและไกด์

FB : นครชุมโฮมสเตย์ โฮมสเตย์วิถีชนบท

Tel : 095-568-3380

การเดินทาง

มุ่งหน้าจาก กรุงเทพ ประมาณ 6 โมงเช้า > อยุธยา > อ่างทอง > สิงห์บุรี > พิจิตร > พิษณุโลก > จาก อ.นครไทย ไปอีกประมาณ 30 กม. ก็จะถึงนครชุม ระยะทางประมาณ 470 กม.

---

#เขาโปกโล้น

ถึงแล้วจุดชมวิวนครชุม จากตัวเมืองนครไทย มาประมาณ 30 กม.

ถึงแล้วที่พักคืนนี้ บ้านป้าคำผั่น (ศิลาฤกษ์)

ชอบที่นั่งเล่นหน้าบ้าน

พัดลม กาน้ำร้อน พร้อม

ห้องน้ำ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะครับ เป็นน้ำจากเขา เย็นๆๆๆๆ ใจจะขาด 55+

ตกบ่าย แดดร่มลมตก ได้เวลาปั่นจักรยานสำรวจหมู่บ้านกันแล้ว

เราได้นัดกับ พี่ตั๊ม ไกด์ประจำหมู่บ้านไว้ ระยะทางตลอดทริปประมาณ 4 กม. เท่านั้น

พิพิธภัณฑ์ลุงช่วง ที่นี่เก็บถ้วยชามโบราณอายุกว่า 700 ปี

โดยตาช่วงได้ใช้พื้นที่บ้านของตนเองทำพิพิธภัณฑ์

เพื่อเก็บเป็นเรื่องราวให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของนครชุม

ที่ต่อไป ไปดูคุณตา ทำจักรสาน

ไม้พวกนี้สงสัยกันหรือไม่ว่าเอาไว้ทำอะไร คุณตาได้บอกว่าเมื่อจักรสานเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ต้องนำไปผิงไฟ เนื้อไม้จะแห้งสนิท จักรสานจะแข็งแรงทดทานครับ (พึ่งจะทราบเลยนะนี่)

#ไม้ฟืน

#บ่อเกลือพันปีบ้านนครชุม

ชาวบ้านจะตักน้ำในบ่อนี้เอามาต้มให้ระเหยออกไปหมดจะได้เกลือสินเธาว์เอาไว้ใช้ น้ำเค็มที่ผุดขึ้นจากใต้ดิน

ใครอยากได้เกลือไว้ใช้ สามารถมาตักเพื่อนำไปต้มได้จากที่นี่ครับ

หลังจากปั่นจักรยานชมหมู่บ้านกันมาเกือบ 2 ชม. พี่ตั๊ม แนะนำให้มาเดินตลาดชุมชนเล็กๆ

ขายของที่หาได้จากท้องถิ่น

หลังจากกลับมาจากตลาด อาหารเย็นก็มารอแล้วครับ หิวๆ

หลามไก่ ผัดผักกูด ยำผักกูด ไข่ป่าม

ช่วงเช้าเราได้นัดหมายเวลากับไกด์ไว้ ตี 5 ตรง จะมีรถมารับ

เพื่อไปที่ตีนเขาโปกโล้น ระยะทางประมาร 3-4 กม.

และเดินเท้าต่อประมาณ 1.6 กม.

และนี่ก็คือไกด์พี่ตั๊ม ตัวเป็นๆ ผู้หยั่งรู้ของหมู่บ้าน

ผมแอบถ่ายแกนะ ตอนนี้กำลังถ่ายรูปให้กลุ่มนักท่องเที่ยวสาวๆ อยู่ 55+

บ่อเสือตก ตามตำนานเล่าต่อกันมา มีเสือตัวหนึ่งมากินน้ำ และได้พัดตกลงไปในบ่อน้ำแห่งนี้

ด้วยความรึกของบ่อน้ำ ทำให้เสือไม่สามารถขึ้นมาจากบ่อนี้ และเสียชีวิตในที่สุด

(ไกด์ได้บอกว่าบ่อน้ำมีความลึกราวๆ 4-5 เมตร เลย)

เขาโปกโล้น นครชุม #เมืองต้องห้ามพลาด

ถึงแล้วตีนเขา ช่วงเช้าไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมืดมาก มาถึงตีนเขา ราวๆ ตี 5 ครึ่ง

สำหรับขากลับเราลงมาถึงประมาณ 8 โมงเช้า

หลังจากตามล่าหมอกกันเรียบร้อย ข้าวเช้าก็ได้มารอเราแล้ว หิวๆ

ข้าวต้ม ไข่ป่าม ผัดผักกูด อร่อยมากๆ

ขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปกับเรา

ฅนชอบเที่ยว >> ไปเที่ยวกับเราต่อ www.facebook.com/KonChopTieow