มุลาอิ เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ ตั้งอยู่ในเขตปกครองกระเหรี่ยง DKBA เป็นสถานที่ศักดิ์ที่ชาวพุทธในพม่าจะไปแสวงบุญ ที่นี่น่าไปเที่ยวไปทำบุญมาก มีทิวทันศ์ที่สวยงาม ด้านบนกินเจอย่างเดียว ห้ามเอาเนื่อสัตว์ขึ้นไปเด็ดขาด มีเจดีย์อยู่ 2 ยอด ยอดบนสุดสูงจากระดับน้ำทะเล 2078เมตร ผู้ชายขึ้นได้เท่านั้น ส่วนผู้หญิงขึ้นได้ยอดล่างต่ำลงมา 20-30 เมตร



ยอดเขามุลาอิ อยู่ในจังหวัดเมียวดี พม่า ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 15 กม. มีพระธาตุเจดีย์บนยอดเขา ตั้งอยู่กลางหุบเขา เราควรเคารพตามกติกา ความเชื่อของคนในสถานที่



ข้ามด่านบ้านวาเลย์ พบพระแล้วนั่งรพ 4Wd ไปกับคนนำทาง รถแล่นไปตามทางแดง จนเข้าทางภูเขาแคบและชันราว ๆ อีก 2 ชม.ก็ถึงวัดที่อยู่ด้านบนเขามูลาอิ ด่านข้ามแดนเป็นด่านทหาร ข้ามไปได้ เลยโดยใช้บัตรประชาชน



ประวัติของพระธาตุมอละอิ ตามประวัติเล่าว่าใน "รัฐมอญ" มีพระเกศาธาตุ (ชาวมอญเรียกว่า "ธาตุศก") จำนวน 15 แห่ง ในจำนวนนั้น "ฤาษีกัปปะ" ได้นำพระเกศาธาตุไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์มอระอิ 1 เส้น และ "ฤาษีนารทะ" อัญเชิญพระเกศาธาตุ 1 เส้น ไปบรรจุไว้ที่มอระอะเจดีย์ บนภูเขาชื่อ "อะโรนะเทนโปดอพญา" เมื่อปี พ.ศ. 114 คำจารึกที่ฐานพระเจดีย์ ทราบว่า "พระเจดีย์มอละอิ" ยกฉัตรเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1154 (พ.ศ.1697) มีรูปปั้นเทวดาทั้งสี่ทิศยืนอยู่ที่เสาหงส์(ที่มา ตามรอยพระพุทธบาทhttp://www.tamroiphrabuddhabat.com/xmb/vi...)

เมื่อไปถึงพระธาตุมอละอิแล้ว มีข้อห้ามต่างๆดังนี้ 1.ห้ามมีเพศสัมพันธ์ 2.ทานอาหารเจเท่านั้น ไม่ดื่มสุราของมึนเมาต่างๆ และไม่ฆ่าสัตว์ 3.ห้ามถ่ายรูปคู่ชายหญิง 4.ห้ามชายหญิงจับมือถือแขน5.ห้ามชายและหญิงนอนด้วยกันต้องนอนแยก6.ห้ามผู้หญิงไปตักน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์7.ห้ามผู้หญิงขึ้นไปพระธาตุด้านบน ให้อยู่ที่พระธาตุด้านล่าง 8.ถอดรองเท้าก่อนขึ้นเจดีย์ 9.ผู้หญิงห้ามใส่กางเกงต้องนุ่งผ้าถุง ผ้าซิ่น 10.ห้ามผู้หญิงทำอาหาร ให้ผู้ชายทำอาหารให้ทาน เพื่อที่ผู้หญิงจะได้บำเพ็ญตนแสวงบุญได้เต็มที่



ขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

ภาพสวยๆ จากเพื่อนร่วมทริป ali asghar pu prateep

หากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยนะคะ

ทริปนี้ถือว่าเป็นการเดินป่าที่ได้บุญด้วย เพราะสถานที่ที่เราจะไปมีเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านบน ครั้งนี้มีสมาชิกไปร่วมทริป 10 คน มี เช พี่ปู พีทราย ลุงจืด อาลี พี่ศรัทธา จิ๋ว ต้น ต้อง และอิม

นอกจากนั้นจะมีพี่คนขับรถ และลุงจ่า เป็นคนพาพวกเราข้ามแดนไปในครั้งนี้ หลังจากที่ข้ามแดนไปได้ไม่นาน ด้านขวามือของพวกเราคือที่ทำการของทหาร D.K.B.A.

ตามด้วยบ้านพักของทหาร วัด

บ้านเรือนของชาวบ้านยังมุงด้วยใบตองตึง แต่ก็มีบ้างบางหลังเริมทำด้วยปูนและมุงหลังคาด้วยสังกะสีและกระเบื้อง เชได้สอบถามว่าทำไมคนถึงยังมุงหลังคาด้วยใบตองตึง พี่เขาบอกว่าสมัยก่อนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการปะทะกันอยู่ตลอดเวลา เสียงปืนดังทั้งวัน หากมีการปะทะกันพวกหทารจะเผาบ้านเรื่อน ผู้ชายจะถูกฆ่า ผู้หญิงจะนำไปทรมาน ชาวบ้านจึงปลูกบ้านกันแบบนี้

ถนนและโรงพยาบาลเหล่านี้สร้างโดย พล.ต.นะคะมวย หรืออองมิน ผบ.กกล.โกละทูบอ (กะเหรี่ยงพุทธ หรือ DKBA) ผู้บัญชาการผู้นำกะเหรี่ยง DKBA หรือกะเหรี่ยงโกละทูบอ (เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 55 ปี)

ระหว่างทางจะมีชาวบ้านเรี่ยรายเงินเพื่อนำไปสร้างวัด และขับรถต่อไปก็จะผ่านด่านของกองกำลังที่มีชื่อว่า B.G.F.

สภาพการเดินทาง มีฝุ่นเยอะมากๆ ต้องหาอะไรมาปิดหน้า ปิดจมุก หันไปดูเพื่อนหลังรถอดขำไม่ได้ เนื้อตัว ผมเผ้ามีแต่ฝุ่นหัวแดงเถือกกันถ้วนหน้า

อ่อลืมบอกไปว่าก่อนหน้านี้แวะชื้อน้ำส้มมา 1 แพค ระหว่างทางพี่คนขับรถจะลงไปไหว้ศาลแทบทุกจุดที่เราผ่าน

เราแวะกันที่ตลาดบ้านตะนอทะ อาหารการกินขนทฃมดูแปลกตาแต่เครื่องดื่มหน้าตาคล้ายที่ขายในบ้านเรา

สองข้างทางมีแต่เขาหัวโล้น แทบไม่มีต้นไม้อะไรขึ้นมาเลย สิ่งที่เห็นคือชาวบ้านกำลังแผ้วถางที่ มองไปทางไหนก็มีแต่เขาหัวโล้นกับควันไฟ

ระหว่างทางจะมีโรงทาน 3 จุด มีนำสมุนไพรและอาหารให้ทานฟรีเป็นอาหารเจ พ่อครัว เป็นผู้ชายทั้งหมด วันนั้นขออาสาพี่เขาไปช่วยปอกหัวใช้เท้า เขาก็ให้ลองทำ คนที่นี่น่ารักมากๆ ค่ะ (เช แนะนำให้ติดอาหารไปปรุงเอง)

ระหว่างทางทหารจะช่วยกันทำถนนเพื่อขึ้นไปยังยอดเขา จะมีคนมาขอเงินไปทำบุญเพื่อซื้อ หิน ปูน ทราย ก็ช่วยทำบุญกันไปค่ะ ถนนสร้างจากแรงศรัทธา จากมฃทหารและชาวบ้าน กลางคืนชาวบ้านจะมาช่วยกันนั่งเรียงหินเพื่อทำถนน

เช ถามพี่คนขับรถว่าเราสามารถขับรถมาเองได้มั้ย พี่แกบอกว่าได้แต่ยังไม่อยากให้ขับกันมาเอง เพราะทางชัน และการสื่อสารของสัญญาณ เรายังไม่รู้ คนที่นี่จะบีบแคฃตรเมื่อถึงโค้ง เพื่อเป็นการบอกให้ทราบว่าจะมีรถสวนมา เชเองเห็นด้วยว่าคนที่ไม่ชำนาญเส้นทางหากขับรถมาเอง อาจเกิดอุบัติเหตุได้

จุดแวะพักที่ 2 ตรงนี้จะมีบ่อน้ำทุกคนต้องอาบเพื่อชำระร่างกายให้สะอาด จะแยกเป็นสองฝั่ง ชายและหญิงไม่ปะปนกัน จากตรงนี้ไปผู้หญิงจะต้องนุ่งซิ่น มีโต้ะสำหรับปะแป้งทาหน้าด้วยทานาคาไว้ให้ และยังมีร้านขายของตรงนี้ด้วย

ยอดเขาด้านหน้าคือที่ประดิษฐานของพระธาตุเจดีย์

ด้านบนก็มีร้านรวงเยอะพอสมควร พอไปถึงด้านบนเราลุงจ่าก็พาไปไหวศาล

หลังจากไหว้ศาลกันแล้วก็เดินทางขึ้ยฃนไปยังยอดเจดีย์ จากจุดนี้จำทฃมองเห็นจุดที่เราจะเดินไปพักค้างแรมในคืนนี้ด้วย

ด้านบนจะมีเจดีย์ 2 ยอด ผู้หญิงไม่สามารถขึ้ยไปยังยอดบนสุดได้

ดอกไม้ควรจัดหาไปให้พร้อม เพราะที่นั่นไม่มีขาย

ภาพด้านบนก่อนที่จะขึ้นไปยังพระธาตุที่ห้ามผู้หญิงขึ้น

(เราจะเห็นทุกคนถือไม้ไผ่ ที่ด้านบนมรใบไผ่ปักอยู่ เช จะอธิบายให้ฟังในตอนท้ายนะคะ)

ด้านบนคือพระธาตุของผู้ชาย ด้านล่างคือพระธาตุที่ผู้หญิงจะมากราบไหว้ได้

ระหว่างทางมีกุหลาบป่า และกล้วยไม้บานทั่วทั้งเขา

หลังจากไหว้พระ สวดมนต์ขอพร หลังจากนั้นพวกเราก็เตรียมตัวจะเดินไปยังที่พัก

ภาพที่เห็นจนชินตา ทหารและอาวุธ สงคราม

จัดการสัมภาระแล้วก็เริ่มเดินไปยังที่พักแรม

ระหว่างทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางเข้าไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์

จากปากทางห้ามผู้หญิงลงมายังบ่อน้ำแห่งนี้ เขามีความเชื่อว่าถ้าผู้หญิงลงมาตักน้ำ น้ำจะแห้งขอดไปทั้งปี

มีต้นไม้แคระด้านบนสันเขา

บางคนอาจคิดว่าก็แค่ต้นไผ่ แต่สำหรับไผ่ชนิดนี้มันหายากไผ่ต่อเตียวเป็นชื่อกะเหรี่ยง อาจเพราะพบมากบริเวณเขาต่อเตียว เรียกตามชื่อเขา มีพบในป่าทุ่งใหญ่ กับเขาทางฝั่งพม่าผมจำชื่อไม่ได้ ที่อื่นไม่รู้ข้อมูล ที่อื่นอาจเรียกชื่ออื่น ชื่ออย่างเป็นทางการยังไม่ยุติ

ข้อมูล wild walker



ไผ่หายากชนิดนี้ พบที่ยอดไถ่ผะ มุลาอิ และพะวี (สงสัยจะชอบที่สูงๆ ระดับ 1700 -1800 อัพ) ที่ไถ่ผะ ชาวบ้านจะตัดส่วนข้อมงกุฏมาเป็นเครื่องรางให้เด็ก

สันเขาบริเวณนี้สวยมากๆ มองไปไกลสุดลูกหู ลูกตา

เมื่อถึงงที่หมายก็จัดการตั้งแค้มป์ และออกไปถ่ายภาพเล่น

ทุ่งหญ้าสีทอง กับวิวที่อลังการ

สวยมากกกกกก

หลังจากนั้นมาช่วยกันทำอาหาร ผู้หญิงห้ามทำนะคะ นั่งสวยๆ ชมวิวไป ทริปนี้แต่ละคนช่วยกันทำอาหาร พี่ปูทำกระเพราเป็ดเจ อาลีทอดลูกชิ้นเจ แต่เกือบล่มไม่เป็นทาฃ่า ลุงจืดต้องมาช่วยทอดอีกที

หลังจากทานข้าวก็นั่งชมบรรยากาศกาศยามค่ำคืน ด้านบนอากาศหนาวมาก ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวมาให้พร้อม ไม่มีที่สำหรับผูกเปล

ควรออกจากแค้มป์ไม่เกิน 10.00น. เพราะแดดจะร้อนมาก ทริปนี้เราเดินทางกลับด้วยออฟโรดเช่นเดิม

ทริปนี้ขอบคุณเพื่อๆ ทุกคนมากนะคะ ที่มาร่วมทริปด้วยกัน

พี่ศรัทธาและน้องในกลุ่มนำของและขนมมามอบให้ชาวบ้านด้วยค่ะ

I'm Che

 วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.10 น.

ความคิดเห็น