#คลองยัน ทริปเดินป่าระยะไกล 7 วัน 6 คืน ระยะทาง 86 กิโลเตร เส้นทางแห่งขุนเขาและสายน้ำกับมิตรภาพจากเพื่อนร่วมทาง 4 -10 ธันวาคม 2563🍀
#คลองยัน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของ แม่น้ำพุมดวง และแม่น้ำตาปี สภาพป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้นประมาณ 98 เปอร์เซนต์ มีพันธุ์ไม้เด่นเช่น ยาง ตะเคียน หลุมพอ จำปา เสียดช่อ นาคบุตร รักเขา
คลองยันไหลผ่านพื้นที่ 2 จังหวัด คือสุราษฎร์ธานีและระนอง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ คีรีรัฐนิคม วิภาวดี ไชยา และท่าฉาง ในจังหวัดระนอง ครอบคลุมตำบลบางหิน อำเภอกะเปอร์ สุราษฎร์
🐒คลองยันอยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง แถมเชื่อมต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ของจังหวัดระนองอีกด้วย ส่วนต้นกำเนิดนั้นเกิดจากเทือกเขาตอนกลางของพื้นที่โดยมีความยาวประมาณ 70 กิโลเมตร จึงทำให้ตลอดคลองสายนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ และสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์
🐆ภูมิประเทศในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน ความลาดชันของพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยันพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเหนือ มีลักษณะเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน มียอดเขาหลังคาตึกเป็นจุดเด่น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,010 เมตร ลักษณะเป็นภูเขาดินดานและ หินทราย เป็นจุดกำเนิดของต้นน้ำคลองยัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีและ ต้นน้ำลำคลองกะเปอร์ จังหวัดระนอง
-ต้องทำหนังสือขออนุญาตเดินป่าระยะไกล
-เหมาะสำหรับเปลและเต็นท์
-มีทากเยอะโดยเฉพาะทากเข็ม
-เป้ต้องแพคกันน้ำให้มากที่สุด
-ฟิตร่างกายมาให้พร้อม
-มีคืนแรกเท่านั้นที่มีสัญญานโทรศัพท์
-เส้นทางโหด ลื่น ไกล ถ้าใครมีโรคประจำตัวควรพิจรณา
-ควรมีขนมและอาหารแห้งติดเป้
-คนนำทางกลุ่มบ้านนาพาเที่ยว ตุลา (โทร0841742824)
-ต้องแวะทานจิ้มจุ่ม หมูย่างเนย ส้มตำโคตรอร่อย ร้านส้มตำปากเปิด อยู่ก่อนถึงวัดบ้านนาประมาณ 2 โล(โทร083 789 3287)
-มีร้านของสดใกล้ๆ วัดมีของขายหลายอย่าง
-มีตลาดนัดเช้าทุวเช้าวันพฤหัสเผื่อใครของขาด
-มีร้านขนมอร่อยตรงทางผ่านไปยังหน่วย
จบทริปคลองยันในตำนาน 7 วัน 6 คืน ระยะทาง 86 กิโลเมตร กับธรรมชาติที่งดงามเกินคำบรรยายและเส้นทางเดินป่าที่โหดสุดๆ ใครมีแผนจะมาบอกเลยออกกำลังกายมาเยอะๆ
📸 เช 📸 saravut naipreedee
#Huaweithailand
#MSR
#Fjallraven
#Gregory
#Asolo
#fjallraventhailand
#thailandoutdoor
สมาชิกในทีมทั้งหมด 23 คน ประกอบด้วย จนท.ป่าไม้ 5 นาย หน่วยพิทักษ์ป่าวังน้ำเย็น (หัวหน้าทอน พี่วุฒิ พี่เสริฐ พี่นพ) จนท.ป่าไม้จากส่วนกลาง 1 คน (พี่วุฒิ) ทีมคนนำทางและลูกหาบ 5 คน (ตุลา ต้น อาร์ม ข้าวปุ้น บังกลอเลีย) นักท่องเที่ยว 13 คน (เช ลุงวุฒิ พี่วุฒิ พี่นิ่ม พี่เอ พี่แตร ฮ้อง กุ้ง พี่ป้อก พี่เอก โจ ออย)
เชขอยกบทความที่ 1 ในสมาชิกได้เขียนถึงการเดินในครั้งนี้(บทความจากแม่จ๋า)
"ตั้งแต่เปิด route นี้มา เพิ่งมีคนจบ route 17คนครับ"
คนนำทางกล่าว...
4คนแรก... เดินเท้าและล่องแพไม้ไผ่
อีก13คนคือกลุ่มเราเดินเท้าจนครบ route
.... องค์ประกอบแห่งความสำเร็จในครั้งนี้มีหลายสิ่ง
สิ่งแรก... ทุกคนที่ตัดสินใจร่วมทริป
ย่อมมั่นใจในความแข็งแรงทั้งกายใจของตนมาพอสมควร... คงไม่มีใครอยากเป็นภาระของใคร
ส่วนถ้าอะไรจะเกิดกับกายใจในขณะเดินทาง... อันนั้นก็คงเหนือการควบคุมจริงๆ... และพวกเราต่างก็ไม่ประมาท
อีกสิ่งคือ"ทีมเวิร์ก"... ทุกคนในทีม ตั้งแต่กลุ่มคนนำทาง กลุ่มเจ้าหน้าที่ และสมาชิกในทริป ล้วนมีพื้นฐานจิตใจที่ดี ยินดีช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่ต้องร้องขอและไม่ปริปากบ่น เราต่างเชื่อฟังและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
สิ่งต่อมาคือ"โชคดี"
โชคดี... ที่ไม่เจอฝน พายุ หรือภัยธรรมชาติใดๆซึ่งมันคืออุปสรรคใหญ่
โชคดี... ที่มีเจ้าหน้าที่ออกสำรวจร่วมไปกับเราถึง5คน... ซึ่งทุกท่านรับภาระกับแม่ไปเต็มๆค่ะ😁😁😁ขอกราบงามๆ
โชคดี...ที่ไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆกับสมาชิก แม้จะล้มลุกคลุกคลานกันไปบ้าง แต่ก็พอจะฝืนสังขารได้
....
พวกเราไม่ได้เก่งกว่าใครที่จบ route
พวกเราแค่มีกายใจที่เข้มแข็งและโชคดี
ทริปนี้แม่โคตรภูมิใจในตัวเอง... พูดเลย!!!
ปล.อยากให้กลุ่มคนที่รักและชื่นชอบการเดินทางสายนี้ได้มาสัมผัสค่ะ
#คลองยันในตำนาน
จุดรวมพล
ก่อนออกเดินทาง 1 วัน ไปจ่ายตลาด ซื้อของแห้ง ของสด แล้วมารวมตัวกันที่บ้านของพี่วุฒิและอาปัญญาเพื่อจัดการรวนของสดให้แห้ง ที่เลือกบ้านของพี่วุฒิเพราะพื้นที่กว้างขวางและสะดวกแถม รถที่จะใช้เดินทางก็เป็นรถของพี่วุฒิ เราจะได้จัดของขึ้นรถกันได้เลย เสบียงถือเป็นหัวใจสำคัญของทริป การจัดเสบียงในทริปเดินป่าระยะไกลหลายๆ วันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับทริปนี้ อาหารการกินครบ มีขนมหวานสลับให้ทานกันวันเว้นวันอีกด้วย
เช้าวันที่ 2 ธ.ค. 63 ออกเดินทางจาก กทม.- มุ่งหน้าสู่จ.ระนอง
แวะไหว้ศาลพ่อตาหินช้าง จ.ชุมพร
(ขอให้ทริปนี้การเดินทางราบรื่น ขอให้ฝนไม่ตก ขอให้ทุกคนปลอดภัย) พร้อมจุดประทัด 200 นัด
เราไปถึงกันราวสี่ทุ่ม ตุลาจัดการขอหลวงพ่อให้พวกเรานอนที่วัด ตอนแรกกะนอนเพียง 1 คืน แต่ด้วยพายุฝนที่ตกหนัก ทางหัวหน้าจึงส่งคนมาบอกง่าให้งดเข้าป่าก่อน รอฝนหยุดตก เพราะนำป่ามาทำให้รถข้ามห้วยไม่ได้
ว่าง 1 วัน ก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียไปเปล่าๆ นั่งจัดเสบียง ซื้อของเพิ่มเติม จัดแจงชุดยาอันไหนเกินหรือซ้ำก็คัดออกไป ดูแหล่งพลังงานสำรองที่แบกกันตกคนละโลได้ จัดชุดเครื่องครัวเลือกว่าจะเอาอันไหนไปดี (ขอบคุณพี่วุฒิที่ให้ยืมหัวแก้ส)เครื่องกรองน้ำพกพาควรมีติดตัวไปกันทุกคนอันนี้แนะนำ
ปล.ที่กะเปอร์จะมีตลาดนัดครึ่งวันเช้าทุกวันพฤหัสค่ะ ของกินพื้นบ้านเยอะมาก ขนมจีนอร่อย ไก่ทอดอร่อย มีร้านขายกิปิเคยแท้ด้วย ลองสอบถามตุลาดูนะคะ ให้ตุลาพาไปซื้อ
สำหรับเรื่องอาหารการกินมื้อเย็นฝากท้องกันร้านส้มตำปากเปิดบอกเลยอร่อยแซบมาก มีจิ้มจุ่ม อาหารตามสั่ง ย่างเนย ตำทะเลรวม ตำกุ้งสด แกงส้มหลดบัว ใบเหลียงผัดไข่ อร่อยมาก
ร้านส้มตำปากเปิด อยู่ก่อนถึงวัดบ้านนาประมาณ 2 โล(โทร083 789 3287)
ส่ในมื้อเช้าเดินจากวัดไปประมาณ 300 เมตร จะมีร้านค้าขายข้าวกล่อง ขนมจีบ หมูย่าง จัดหาดูแลตัวเองกันที่นี่สำหรับมือเช้าและมื้อเที่ยงในป่า
เช้าวันที่ 4 ธ.ค.63 หลังทานข้าวเสร็จ ลูกหาบก็มาจัดเสบียงเตรียมขึ้นรถโฟวิลไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าวังน้ำเย็น ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
ระหว่างทางไปหน่วยเราต้องข้ามน้ำกัน 3 จุด บางจุดต้องลงเดินเรียกว่าเปียกกันตั้งแต่เช้า
เก้าโมงเศษก็ขึ้นเป้ พร้อมออกเดินทาง (วันนี้ฟ้าแจ้มใสมาก ทั้งๆที่เมื่อคืนราวตีสองฝนก็ตกลงมาอีก ทำเอาใจหายไม่น้อย)ช่วงแรกจะเดินตามทางถนนประมาณ 500 เมตร หลังจากนั้นชีวิตก็ไม่เคยได้รู้จักทางราบอีกเลยจนถึงแค้มป์ #ยับ
วันที่ 4 ธ.ค.63 วันนี้เราเริ่มต้นเดินป่ากันที่หน่วยพิทักษ์ป่าวัฝน้ำเย็น ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง การเดินทางมาจากวัดบ้านนามายังหน่วยต้องใช้รถโฟวิลขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะต้องข้ามลำห้วยถึง 3 ครั้ง ใช้เวลาเดินทางจากวัดบ้านนามายังหน่วยฯ ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง สมาชิกในทีมทั้งหมด 23 คน ประกอบด้วย จนท.ป่าไม้ 5 นาย หน่วยพิทักษ์ป่าวังน้ำเย็น (หัวหน้าทอน พี่วุฒิ พี่เสริฐ พี่นพ) จนท.ป่าไม้จากส่วนกลาง 1 คน (พี่วุฒิ) ทีมคนนำทางและลูกหาบ 5 คน (ตุลา ต้น อาร์ม ข้าวปุ้น บังกลอเลีย) นักท่องเที่ยว 13 คน (เช ลุงวุฒิ พี่วุฒิ พี่นิ่ม พี่เอ พี่แตร ฮ้อง กุ้ง พี่ป้อก พี่เอก โจ ออย) เราเริ่มออกกันจากหน่วยประมาณ 9.20 น. เดินตามถนนลูกรังไปประมาณ 500 เมตร ก็เดินตัดขึ้นเขา ทางชัน เละและลื่นมาก เหนื่อยเอาเรื่องเลยสำหรับวันแรกเพราะเป้มีน้ำหนักมาก แถมดันเขากันยาวๆ ทั้งวัน ระหว่างทางจะมองเห็นน้ำตกสายรุ้งละออกดาวจากไกลๆ วันนี้เราเดินกันประมาณ 8 กิโลเมตร ตั้งแค้มป์กันที่บริเวณสันห้วยตาผาด ด้านบนไม่มีแหล่งน้ำ ต้องเดินลงไปตักน้ำในหุบ ไกลพอสมควร
วันแรกของในเป้บนหลังของแต่ละคนหนักอึ้ง เชบอกว่าให้ของที่ชอบไปกินและของเยียวยาจิตใจในวันท้ายๆ พี่เอขนเป๊ปซี่กับนมสดไปกินทุกวัน ตอนเย็นจะได้เสียงเปิดกระป้องแป๊บซี่จนชินหู กุ้งมีขนมไปเต็มเป้ แม่จ๋ากับพี่นิ่มมีเวย์โปรตีน กับหมูหวงในกระเป๋า อิอิ ส่ในพี่แตรกับฮ้องมีขนมมาแบ่งให้กินตลอดคือสาหร่ายอบแห้ง
พักทานข้าวกลางวันแล้วออกเดินทางต่อ
ระหว่างทางก่อนถึงแค้มป์จะมองเห็นน้ำตกสายรุ่งละออกดาว
ถึงแค้มป์ก็จัดการกางเต็นท์ทำอาหาร จุดนี้มีแหล่งน้ำแต่ต้องลงไปตักในหุบ เสียงตุลาตะโกนมาว่า 50 เมตรเองพี่เช!!! พวกสาวๆ จึงพากันเตรียมอุปกรณ์จะลงไปอาบน้ำแต่พอกลับขึ้นมาไม่มีใครอาบน้ำเลย มีแต่เสียงหอบแฮกๆ และบอกว่าไกล ทางชัน แอบคิดในใจดีนะไม่ลงไปด้วย 5555 ได้ยินเสียงบ่นตุลากันว่าไหนบอกว่า 50 เมตรเอง ใกล้ๆ ตุลาบอกกลับมาว่า 50 เมตรในระยะความสูง ไม่ใช่ระยะทาง 😁😁😁
วันที่ 5 ธ.ค.63 เราเริ่มเดินออกจากแค้มป์สันห้วยตาผาด ในเส้นทางสันห้วยวังน้ำเย็น เราเดินกันขึ้นๆ ลงๆ เขา 700-1000 เมตร สลับกันไปเดินขึ้นยอดแล้วยอดเล่าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตัดลงจากเขา จนเงลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสี่โมงเย็นถึงได้เดินตัดลงเขา ปรับโหมดเดินแทบไม่ทันจากเขาชันๆ มาลงเขาชันๆ ยาวๆ เดินยาก เพราะทางเป็นดินหนังหมูลื่นๆ เละๆ แถมเดินไนท์เทรลด้วย กว่าจะถึงแค้มป์ห้วยหินปูนก็ปาไปสองทุ่ม บอกเลยว่ายับ เดินกันจนหมดแรง!! สภาพตัวเต็มไปด้วยโครน รองเท้าขี้โคลนเกาะจนหนักอึ้ง วันนี้ถือว่าเดินโหดที่สุด เดินกัน 17 กิโลเมตร
วันนี้คิดว่าคงไม่เห็นบัวผุดแล้ว เพราะเมื่อวานเดินมาทั้งวันไม่เจอเลย แต่หลังจากออกเดินกันพักใหญ่ ก็ได้เห็นบัวผุดแล้ว ดีใจมากๆเลย ว่าแต่เจอมาหลายรอบทำไมถึงไม่ได้กลิ่มเหม็นของเจ้าดอกไม้ชนิดนี้ อย่างที่เขาบอกกัน
บัวผุด
[ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rafflesia kerri Meijer]
กาฝากชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บนรากของพืชจำพวกเถาองุ่นป่า [Tetrastigma] เป็นดอกเดียวมีขนาดใหญ่ กลิ่นเหม็นมาก ออกดอกเดือนพฤษภาคม - ธันวาคม ดอกตูมคล้ายหม้อขนาดใหญ่ มีกลีบหนาเส้นผ่าศูนย์กลาง 70-80 ซม. บานอยู่ได้ 4-5 วัน
หลังจากชมของสวยงามแล้วก็เดินดันเขากันต่อไป ระหว่างทะมีมะนาวป่าขึ้นเต็มไปหมด เลยเก็บมาดมและชิมกันอย่างสนุกสนาน
ระหว่างเจอหอยทากตักเล็ก กิ้งกือโบราณ กล้วยไม้จิ๋ว โฮย่า
ทางวันที่ 5 ก็สวยเหมือนเดิน ป่าดิบ มีหมอกปกคลุมเนื่องจากเมื่อวานมีฝนตกลงมานิดหน่อย
พักทานข้าวกลางวันแล้วออกเดินทางกันต่อ สภาพมอมแมนมากเพราะทางเดินเป็นดินโครน แต่ป่าโคตรสวยยยยนนให้ 10 เต็ม 10
วันนี้เดินดันเขาและลงเขา เดินขึ้นยอด 900 ลงมา 800 แล้วก็เดินดันยอด 1000 ต่อ บางทีเดินลงมาที่700 เดินดันไปที่ 900 อีก เดินแบบนี้จนถึงบ่ายสี่โมงเย็น
บ่ายสี่โมงเย็นเดินลงเขา จากคงามสูง 900 เมตร ลงไปแค้มป์ด้านล่าง บอกเลย #ยับแน่นอน
เดินกันราวสองทุ่มเศษๆ ก่อนจะไปถึงแค้มป์ในวันนี้ต้องข้ามน้ำก่อนจะถึงแค้มป์ห้วยหินปูน คืนนี้คงจะเหนื่อยกันมาก จนท.และคนนำทางจึงหยุดตั้งแค้มป์กันตรงนี้ ทำเลตรงนี้ยังไม่ค่อยปลอดภัยนักหากมีน้ำป่า ที่กางเต็นท์น้อย มีต้นไม้แห้งยืนต้นตาย ที่ผูกเปลก็มี แต่ต้องบุกป่าผ่าดงกันนิดหนึ่ง
แค้มป์ห้วยหินปูน วันนี้สังเกตดูหลายๆ คนล้าจากการเดิน เพราะเดินกันเยอะ ทำให้อาหารหมดเรียบภายในพริบตา บางคนทาน 3 จานเลยก็มี☺️☺️☺️
วันที่ 6 ธันวาคม 64เช้ามาก็พอมีเวลาดื่มด่ำวิวยามเช้าก่อนเริ่มต้นออกเดินทางกันต่อ
วันที่ 6 ธ.ค.63 ออกเดินจากแค้มป์ห้วยหินปูนจุดหมายปลายทางอยู่ที่ปากหินปูนคลองยัน (ห้วยหินปูนจะมีปลาพวงชมพู ซึ่งเป็นปลาเฉพาะถิ่น)วันนี้เจอดอกบัวผุดระหว่างทางหลายดอก การเดินในวันนี้ต่างจากวันแรกมากเพราะจะเดินกันให้น้ำเป็นส่วนใหญ่ จะมีบ้างที่เดินตัดป่าเพื่อเลี่ยงวังน้ำลึก ตลอดเส้นทางจะมีน้ำตกตามรายทาง เป็นน้ำตกที่ไหลลงมายังคลองหินปูน ไฮไลท์ให้ถ่ายภาพ การเดินในวันก็ไม่ง่ายเลย ในห้วยหินปูนลื่นมาก เพราะหินถูกขี้ตะไคร่เกาะ บางจุดต้องปีนหินลัดเลาะไปกับลำห้วย บางจุดก็ต้องโยนเป้ลงน้ำแล้วเกาะเป้ลอยตามน้ำไป บางจุดต้องขนเป้ข้ามไปก่อนแล้วคนค่อยข้ามไปทีหลัง (วันนี้ถุงนอนเปียกเพราะถุงที่ห่อถูกหนามหวายเกี่ยวจึงทำให้น้ำเข้า) ราว 17.30 น. จึงถึงแค้มป์ปากห้วยหินปูนคลองยัน (เป็นขุดที่ห้วยหินปูนไหลลงมาบรรจบกับคลองยัน ก่อนถึงแค้มป์ต้องเดินทวนขึ้นไปเหนือน้ำแล้วเกาะเป้ ให้กระแสะน้ำพาข้ามไปอีกฝั่ง วันนี้บอกเลยว่าเปียกทั้งวัน ยับอีกเช่นเคยเดินกัน 15 กิโลเมตร!!! แต่ทางเดินสวยมาก คลองยันโคตรสวย น้ำเป็นสีเขียวมรกตตัดกับหาดทรายสีขาวสวยเกินจะหาคำไหนมาบรรยาย
เดินตามห้วยหินปูนไปเรื่อยๆ
น้ำตกรู
ระหว่างทางฟินมาก สวยมาก เดินแล้วดีต่อใจมากกกก ถึงจะไม่ดีต่อขาเท่าไรนัก
แวะทานอาหารกลางวันกันริมน้ำหินปูน กินข้าวไปก็ดึงทากออกจากตัวกันไปด้วย ระหว่างทานข้าวก็พยายามดื่มด่ำกับบรรยากาศ ณ.ตอนนั้นไว้ให้ได้มากที่สุด ขนาดกำลังเขียนรีวิวก็อินอยู่กับช่วงเวลานั้น
บางจุดต้องกอดเป้ลอยไปตามน้ำบางจุดต้องไต่แนวหินลื่นๆ
น้ำตกเล็กๆ ระหว่างทางแบบนี้มีเยอะมาก แต่จะมีน้ำแค่ช่วงหน้าฝนเท่านั้น
ถ่ายภาพกันชนิดไม่กลัวกล้องพัง อยากเก็บภาพบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆ ทุกคน
17.30 น. เดินกันมาถึงจุดที่ห้วยหินปูนไหลลงมาบรรจบกับคลองยัน จากจุดนี้เราจะต้องเกาะเป้ลอยตามกระแสน้ำเพื่อไปขึ้นอีกฝั่งแล้วเดินต่อไปอีกไม่ไกลก็จะถึงจุดตั้งแค้มป์ #เปียกด้วยยับด้วยวันนี้
ตุลาบอกตลอกทางว่า อีก 200 เมตรก็ถึงแล้วบอกตั้งแต่บ่ายสาม ยันห้าโมงเย็น 200 เมตรในตำนานไม่มีจริง กี้ๆๆๆๆๆ
คดข้าวมา คดข้าวมา
วันที่ 7 ธ.ค.63 วันนี้เราจะเดินจากแค้มป์ปากห้วยหินปูน-คลองยัน ไปตั้งแค้มป์กันที่ลานหินลาด(ลานหินลาด เป็นลานหินทอดแนวยาวราว 2.5 กิโลเมตร) วันนี้เดินไม่ต่างจากเมื่อวานเลย คือเดินตามลำห้วยสลับกับเดินตัดเข้าป่า บางจุดก็ต้องใช้เป้เกาะข้ามน้ำกันอีกแล้ว บางจุดที่อันตรายก็ใช้เชือกในการช่วยตอนข้ามน้ำเพื่อความปลอดภัย บางจุดต้องปีนแนวหินกันอีกเหมือนเดิมราวห้าโมงกว่าก็เดินถึงแค้มป์ เส้นทางสวยมากๆ อีกเช่นเคย ระหว่างทางมีน้ำตกที่ไหลลงมาบรรจบกับคลองยันหลายจุด ระหว่างทางเดินขึ้นไปชมยังจุดชมวิวที่จะมองเห็นคลองยันในมุมสูงและมองเห็นเขายั่วกัน วันนี้จุดที่ยากที่สุดคือต้องข้ามกระแสน้ำเชี่ยวตรงจุดสุดท้ายก่อนถึงลานกินลาด จุดนี้ใช้กันพอสมควร วันนี้เราเดินกัน 15 กิโลเมตร บอกเลยว่ายับ!!!
หลังจากทานข้าวเช้าก็ออกเดินทางกันต่อ วันนี้ตุลาบอกว่าเราจะขึ้นเขาเพื่อไปหาทางถนนเก่าจะได้เดินกันง่ายๆ ฟังแล้วดีต่อใจ..... ตัดมาที่หน้างานจริง เดินตัดเขาชันมาก ลื่นมาก กว่าจะเจอทางถนนเล่นเอาตับแลบ
แวะทานอาหารกลางวัน กลุ่มหน้าที่เดินมาก่อนเจอกวางกำลังเดินลงจากหน้าผามากินน้ำด้วย หลังทานอาหารกบางวันก็ออกเดินทางต่อ ระหว่างทางเจอเต่าหก 2 ตัว เต่าหกดำำ เพชรดำแห่งปืนป่า เต่าหกเป็นเต่าบกที่ใหญ่ที่สุด
เดินขึ้นเขาตัดสลับกับลงน้ำ
ระหว่างทางตุลาแวะพาชมวิวมุมสูงและวิวเขายั่วกัน
ตรงจุดนี้เป็นจุดที่อันตรายที่สุด ใช้เวลาข้ามกันนานพอสมคใรต้องอาศัยความร่วมมือกันทุกๆคน ทริปนี้ดีที่ลุงติดเชือกไปด้วย ช่วยเซฟได้หลายจุดเลย
เราชอบจุดนี้มากที่สุด... เส้นทางสวย
ถึงแล้วแค้มป์คลองยัน-หินลาด
บรรยากาศแค้มป์คลองยัน เราจะค้างที่นี่กัน 2 คืน ถือโอกาสได้ตากผ้าไปด้วยเลย
วันที่ 8 ธ.ค.63 วันนี้เป็นวันที่ Happy ที่สุด เพราะเราจะนอนที่แค้มป์ลานหินลาดกันอีกคืน วันนี้ได้ตากผ้าที่เปียก บริเวณนี้มีจุดให้เดินเล่นกันสองจุดคือเดินเลาะไปตามลานหินลาดหรือเดินป่าไปชมก้อนหินใหญ่ รูปทรงแปลกๆ วันนี้ จะเดินราว4 -10 กม.แล้วแต่เราจะเลือกเดิน วันนี้ไม่ยับ!!!
คลองยันเป็นห้วยขนาดใหญ่มีธารน้ำสีเขียวมรกต มีลำห้วยหลายสายที่ไหลลงมาสู่คลองยัน
คดข้าวมาๆ
เตรียมอำลาแค้มป์คลองยัน แล้วออกเดินทางต่อ
วันที่ 9 ธ.ค.63 วันนี้จะเดินออกจากแค้มป์ลานหินลานตัดออกปากห้วยหินลาด(เป็นบริเวณที่ห้วยหินลาดไหลลงมาสู่คลองยัน) วันนี้ก็เหมือนเดิมเปียกกันแต่เช้า เดินลุยน้ำกันทั้งวัน ระหว่างทางมีหินก้อนใหญ่ๆ สวยและแปลกตามาก ระหว่างทางมีผักกูด มีใบหูหมี มีหอยหก วันนี้เดินกันประมาณ 19 กิโลเมตรก็ถึงแค้มป์ คืนนี้ก็เหมือนเช่นเคยแค้มป์ตั้งอยู่ริมน้ำ เดินกันยับ!!!
เดินตามลำห้วยไปเรื่อยๆ ระหว่างจะมีหินก้อนใหญ่ๆ ให้ถ่ายภาพเยอะมาก คาดว่าน่าจะมีดอกลิ้นมังกรด้วย
ที่ห้วยหินลาดจะมีหอยหก ปกติชาวบ้านจะนำไปทำเป็นอาหารพบได้ทั่งไปแต่ปัจจุบันห้วยที่หมู่บ้านเริ่มหายากแล้วเหลือแต่ในป่าที่พอมีตัวให้เห็น
ระหว่างทางวันนี้เดินไปเก็บผักไปด้วยหาผักกูดหาใบหูหมีไปผัดกินในมื้อเย็น
เส้นทางก่อนถึงแค้มป์ในวันนี้ค่ะ
แค้มป์วันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ในป่า
วันที่ 10 ธ.ค.63 เดินจากแค้มป์ห้วยหินลาดกลับหน่วยพิทักษ์ป่าวังน้ำเย็น ช่วงแรกจะเดินขึ้นเขายาวๆ ตามด้วยเดินบนสันเขาประมาณ 2 กม. และเดินลงเขาทีาชันมากกันยาวๆ จนลงมาที่ห้วยวังน้ำเย็น ระหว่างทางจะมีน้ำตกขนาดกลางที่ชื่อว่สน้ำตกวังน้ำเย็น มีอยู่ประมาณ 3 ชั้น จากน้ำตกวังน้ำเย็นเดินต่อประมาณ 1 กม. ก็จะถึงหน่วย วันนี้เดินกัน 8 กิโลเมตร
โอ้ยยย ทางสวยจัง
น้ำตกระหว่างทาง ก่อนถึงหน่วยประมาณ 1.5 กม.
ป่าสวยมากๆ
หลังจาดจุดนี้ไปจะต้องเดินอีก1 กม.ก็จะถึงหน่วยพิทักษ์ป่าวังน้ำเย็น
เขียนถึงทริปคลองยัน...
เทรลเดินป่า 7 วัน 6 คืน ถือว่าโหดเอาเรื่อง เริ่มต้นการเดินด้วยทางชัน!! จบที่ทางชัน!! เส้นทางส่วนมากจะเดินในคลอง ในห้วย ข้ามน้ำเป็นร้อยๆ รอบ ปีนลัดเลาะตามแนวหิน มีไต่ผา เดินมันส์มาก ถ่ายรูปเยอะมาก มีอะไรให้ถ่ายเยอะแยะไปหมด เป็นทริปที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็เกาะเป้ลอยไปตามน้ำได้ 555 เดินจนขาเสียดสีกันเป็นแผล ส่วนหนึ่งมาจากการแช่น้ำเป็นเวลานาน ได้แผลกลับมาเยอะมาก ทั้งหนามเกี่ยว ลื่นล้ม ทากกัด เห็บกัด แพ้ใบไม้มีพิษ(สามแก้วเยอะมาก) เป็นทริปที่พอไปถึงแค้มป์ก็วางเป้ทำอาหารกันเลย ต้องตื่นนอนแต่เช้ามืด ลุกขึ้นมาก่อไฟทำอาหารเช้า ห่อข้าวกลางวัน ล้างจาน ทำแข่งกับเวลาที่มีไม่มาก เป็นทริปที่แทบไม่ได้ดูแลตัวเองเลย น้ำไม่ได้อาบ หน้าไม่ได้ล้างกันยาวๆ เกือบ 7 วัน บางวันนอนชุดที่เดินป่าเลยก็มีเพราะหมดแรงจริงๆ มีแค่แปรงฟันก่อนนอน สำหรับทริปนี้ถือเป็นสุดยอดทริปของปี 2563 เลยก็ว่าได้ ครบทุกรส ครบทุกรูปแบบ หากใครมีเวลา มีโอกาส ก็มาเดินเส้นนี้ดูค่ะ มันได้อะไรเยอะแยะที่มากกว่าการเดินป่า บางอย่างมันยากที่จะบอกเล่า มันต้องมาเจอด้วยตนเอง #คลองยัน ❤️
I'm Che
วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2564 เวลา 13.30 น.