สวัสดีจ้า ทริปนี้ลงใต้กันอีกแล้ว ช่วงนี้ร้อนๆอยากหาทะเลสวยๆคนไม่เยอะมาก เลยตกลงปลงใจได้เป็นเกาะสุรินทร์ครับ ต้นปีนี้เน้นทะเลก่อนภูเขาเดี่ยวรอฝนมาค่อยไปล่าหมอก แต่จะว่าไปภาคใต้นี้ก็มีทะเลหมอกหน้าร้อนให้ชมด้วย ทริปนี้เลยคุ้มค่ามากได้ทั้งทะเลฟ้าใสและทะเลหมอกขาวๆ จะเป็นอย่างไรไปดูได้เลยครับ

ทริปนี้ไปกันวันที่10-12/3/2561

ตารางทริปคร่าวๆนะครับ

วันแรก ขับรถทั้งคืนมาเช้าที่อุทยานนั้้งเรือมายังเกาะสุรินทร์ กางเต็นหาดไม้งามและออกดำน้ำรอบบ่าย

เช้าที่สองออกดำน้ำเหมาลำ เกาะตอรินลา อ่าวผักกาด อ่าวเต่า อ่าวสัปปะรด และขึ้นหาดหมู่บ้านมอร์แกน กลับฝั่งแวะเที่ยวตะกั่วป่า สะพานเหล็กโคกขนุน ถนนคนเดินตะกั่วป่า และเข้าที่พัก เขาหลัก

เช้าที่สามตื่นแต่เช้ามืดขึ้นเขาไข่นุ้ยชมทะเลหมอก และวิว 360 องศา ลงมากินมื้อเช้าที่จุดชมวิวชายทะเลบ้านบ่อดาน -วัดท่าไทร-ปิดท้ายด้วยจุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลีกลับ กทม.


ดูคลิปกันก่อนได้ครับ รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 fix 35 tam 70-300vc tokina 11-20 f2.8(ในที่สุดก็ถอยเลนส์ไวด์จนได้พึ่งถอยก่อนมาได้3วันประเดิมทริปแรกเลย) และgopro 4silver

และฝากเหลี่ยมพาเที่ยว ด้วยจ้า


เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 3 ทุ่มจากดอนเมือง มุ่งตรงยิงยาวๆ มากินข้าวตรงทับสะแกร้านโต้รุ่งที่รถทัวร์มาลงทั้งคืน แวะทุกครั้งที่ลงใต้อร่อยไม่แพงครับและยิงยาวมาถ่ายดาวที่หาดประพาสเพราะว่าน่าจะมืดดดีเข้าจากถนนหลักเส้นที่มาไม่ไกล

พาหานะวันนี้พี่บิ็กวีโก้คันเดิม รอบนนี้สมาชิก 5 คน

ช่วงที่ไปพระจันทร์ยังสว่างเกือบครึ่งดวงครับเลยอดถ่ายช้างเลย มีแต่ดาวให้ชม

จากนั้นก็ขับมาต่อมาที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เลย เปิดทั้งคืนเข้ามาจอดรถนอนรอเช้าได้เลยครับห้องน้ำก็สอาด มาถึงประมาณ ตี 5 กว่าๆ งีบถึง 7 โมงกว่าก็ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปติดต่อเรือที่เราคุยยไว้

ผมติดต่อเรือกับซาบีน่าทัวร์ครับได้ราคาไป-กลับคนละ 1500 บาทสปีดโบ็ท ซาบีน่าอยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าอุทยานเลยเห็นชัดเจน เมื่อเช็คอินแล้วก็รับเชือกสีส้มไปผูกกับสัมภาระและไปรอที่ท่าเรือ


ก่อนจะไปอย่าลืมเติมพลังมื้อเช้าร้านไก่ทอดหน้าประตูอุทยานนั้นแหละ ขอบอกว่าไก่ทอดเด็ดมาก

กินมื้อเช้าเสร็จซื้อตุนไว้กินมื้อกลางวันบนเกาะด้วยเลยจะได้ประหยัด

ข้าวหมกไก่อร่อยครับไก่ทอดเด็กจริงต้องลอง

ระหว่างรอเรือครับ

ระหว่างนั้นมีเจ้าเหยี่ยวหรืออินทรีย์หรืออะไรผมก็แยกไม่ออกบินกันประมาณ 4 -5 ตัว

ดูทรงสง่าดีจริงๆ

ได้เวลาขึ้นเรือเป็นสปีทโบ็ทลำใหญ่ ค่อยยังชั่วที่จริงไม่ชอบสปีปโบ็ทเลย แต่ดูมาถ้าไม่สปีดจะนานมาก เลยต้องยอมนั้งแต่โชคดีว่าเป็นลำใหญ่ไม่กระแทกเหมือนลำเล็กๆที่เคยนั้งมาครับ เร็วดีด้วย


นั้งมาประมาณ 1 ชั่วโมงหน่อย เราก็มาอยู๋ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าใส แบบงามมาก

แต่ยังไม่ถึงตัวหาดที่เราจะพักต้องนั้งเรือหางยาวเล็กเข้าไปอีกทีเพราะว่าเรือใหญ่เข้าไม่ได้ครับ รอเรือเล็กมารับแล้วไปส่งที่หาดไม้งาม จุดกางเต็นมีสองหาดคือหาดไม้งาม และอ่าวช่องขาด

มาถึงก็รักแรกพบเลย





ลงเรือเล็กแล้วไปหาดไม้งาม

ถึงแล้วก็รอสักพักเรือขนสัมภาระจะตามมา จากนั้นก็แบกกของเดินเข้ามาอีกฝั่งประมาณ 200 เมตรครับก็จะถึงโซนกางเต็นแล้ว


ติดต่อจ่ายเงินค่าเข้าอุทยานกันก่อนครับจากนั้นก็ไปหาที่กางเต็นเราเต็นส่วนตัวจะได้อยุ่ดซนหลังๆเลย


และส่วนมากก็จะไม่ได้ติดทะเลเพราะเป็นเต็นเช่าจองที่ไว้หมดแล้ว ได้แถวสองครับ

กางเต็นเสร็จเรียบร้อยก็เตรียมไปดำน้ำรอบบ่ายกัน เขาบอกว่าที่นี้ลิงเยอะ ล็อคเต็นท์กันให้ดีนะครับเพราะมันเปิดเป็นด้วย ของขนมหากล่องใส่ไว้เลย

ค่าเรือดำน้ำจะไปกับซาบีน่าหรือกับอุทยานก็ได้ครับ ราคาคนละ 200 บาทต่อรอบ

ระหว่างรอเรือดำน้ำหน้าหาด

ได้เวลาลุย รอบบ่ายของอุทยานจะพาไป 2 ที่นะครับ รอบเกาะมีจุดให้ดำประมาณ 10กว่า จุด ขอยืมรูปจากเน็ต บ่ายนนี้ถ้าจำไม่ผิดเราจะไปอ่าวสุเทพและเกาะมังกรครับ และเรือจะวนมาส่งที่หาดไม้งามฝั่งที่กางเต็นเลย





วันที่ไปคนไม่เยอะเท่าไหร่ครับที่เกาะสุรินทร์


ขอหัวเรือหน่อย




ไปดูรูปใต้น้ำกันครับ








ต้องบอกว่าใต้น้ำที่เกาะสุรินทร์ที่ไปสองวันนี้ ประการังแต่ละจุดอยู่ในช่วงฟื้นฟูครับ อาจจะไม่สวยมากแต่มีความอลังการและหลากหลายทางธรรมชาติจริงๆครับ









หมู่หน่อย


ที่นี้น้ำใสมากครับ มองเห็นประการังชัดเจนแม่จะอยู๋ลึกมาก










หลังจากดำกันจบแล้วก็มาที่หน้าหาดเราครับ


เจอเจ้าลิงเจ้าถิ่นแล้วครับ ฝรั่งที่กางเต็นอยู่นานแล้วบอกว่า ที่นี้มี mucky อยู่กันเป็น family นี้ยังสมอลมี Bigๆ กว่านี้อีก 555


ดูเกรี้ยวกราดพอสมควรครับระวังของกันให้ดี555





แต่ยังไม่จบครับเราสามารถดำน้ำเล่นหน้าหาดได้ต่อครับ และที่สำคัญทีเด็ดอู่แถวๆหน้าหาดเรานี้เอง


ในรูปคือเดินไปได้ใกลมากๆๆ น้ำลงครับเดินไปไกลสุดๆยังไม่ถึงหน้าอกเลย








ช่วงนนี้น้ำลงครับ



ปล่อยให้เพื่อนดำต่อไปสองคนพอดีมีกล้องอยู่เลยไม่ได้ลงไปดำตรงนั้นด้วย


แล้วก็เจอเจ้านีโม่ครับ




ว่ายไปมาดูน่ารัก




แล้วก็เจอพี่เต่าทะเลด้วย ว่ายไปมาอยู่หน้าหาดเรานี่เอง


ที่สำคัญเป็นพี่เต่าสามขาแรร์ไอเท็มของเกาะสุรินทร์ด้วย ไม่รู้ว่าทำไมถึงมีแค่3ขานะครับ


ดูเหมือนช้าแต่ไวเหมือนกันนะ




ฝรั่งเล่นวอลเล่บอล


เจออีกแล้ว


เล่นกันจนเกือบเย็นก็ไปอาบน้ำ


ห้องน้ำที่นี้ดีมากครับอาบสบายส้วมอย่างดี


จากนั้นก็มากินข้าวเย็นกันที่อุทยาน เขาบอกว่าไม่ให้ทำอาหารเองครับ




อาหารก็ตามสั่งถ้าราดข้าวก็ตก80-100ครับ แต่ถ้าสั่งเป็นกับข่าวกินด้วยกัน ผมว่าคุ้มกว่าอิ่มดี หมดนี้ 590 บาท 5คนถือว่าไม่แพงเท่าไหร่ครับ


อิ่มแล้วก็มานั้งต่อหน้าเต็น ครับ ลมแรงมากช่วงแรกแรงจนกลัวเต็นจะปลิวผับๆๆๆๆ แต่พอหลัง2ทุ่มลมก็สงบสบาย


หลอดไฟนี้ไม่ต้องกลัวเรื่องช็อตเพราะใช้ไฟจากถ่าน AA 3ก้อนครับ แต่คืนนั้นร้อนไปหน่อยครับคงเพราะเต็นที่ใช้ไม่เหมาะกับทะเล ผมใช้ K2 ที่เคยใช้ประจำรูระบายอากาศน้อยครับ เหมาะกับตามที่สูงหนาวๆมากกว่ากันลมได้ดีแต่กับทะเลไม่ค่อยเหมาะเท่าไร

เช้าต่อมาวันนี้เราเตรียมตัวไปดำน้ำอีกรอบก่อนกลับ รอบนี้ติดต่อขอเหมาลำ 2000 บาทนั้งได้ไม่เกิน 10 คนที่เหมาเพราะว่าอยากไปมอแกนด้วยถ้าไปตามโปรแกรมถ้าคนอื่นดำน้ำนานเวลาน้อยอาจจะไม่ได้ไปมอรแกนครับเลยเลือกเหมาดีกว่าจะได้ไปดำจุดไหนก็ได้หลายจุดกว่าครับ


เติมพลังมื้อเช้าด้วยมาม่า+ปลากระป๋อง


ห้อยโหนกันหน่อย

ได้เวลา9โมงเรือออกครับ


ที่เราจะไวันนี้ก็คือ เกาะตอรินลาเขาว่ามันมีฉลามอยากเจอ อ่าวผักกาด อ่าวเต่า อ่าวสัปปะรด และขึ้นหาดหมู่บ้านมอร์แกน

จะเจอไหมเดี่ยวไปดู


ที่แรกเกาะตอรินลา ปลาเยอะหลากหลายมากครับ



แต่น่าเสียดายพี่เรือพาดำๆๆดำเยอะมากดำจนเหนื่อย เจอเจ้าฉลามอยู่แว้บเดียว เสี้ยวิจริงๆไกลๆแล้วก็ว่ายไปอย่างเร็ว555 สรุปเลยไม่ได้ถ่ายเลย เห็นอย่แว้บเดียวแบบไกลๆ

หลังจากนั้นก็ดำอ่าวไผ่ต่อ หลังจากดำเสร็จอาการหมดสภาพก็มาไม่รู้เพราะเมาเรือหรือยังไงวันนี้คลื่นแรงหน่อย เมาจนอวกพุ่ง แฟนก็แทบจะไม่ไหว 555 หมดแรง ผมเลยอวกไปมาม่าออกมาหมดเลย



แวะอีกจุดก่อนขึ้นหมู่บ้านมอร์แกน






ไปพักให้หายเวียนหัวที่มอร์แกนครับ




หมู่บ้านทรงเหมือนกันหมด





รูปไม้แกะสลักฝีมือชาวมอแกนครับ

นี่ไม้แท่งแบบนี้แหละ แล้วสลักมือออกมาจนเป็นรูปต่างๆ


หลังจากสนทนาได้สักพักพี่เขาก็ชวนคุยเล่าประวัติมอร์แกนให้ฟังแล้วยังพาเดินไปที่บ้านที่เก็บหนังสือ

ชี้ให้ดูว่ามอร์แกนมีมายังไงแต่แกก็เล่าว่าก็เกิดไม่ทันอยู่ดีเพราะมีมานานมากแล้วและอีกอย่างที่เล่าคือว่าชาวมอแกนนี่นามสกุลเดียวกันหมด เชื่อสายเดียวกันหมดเลย ยีนแต่ละคนเหมือนกันทำให้หน้าตาจะคล้ายๆกันครับทั้งหมู่บ้าน



ตลอดทั้งหมู่บ้านจะมีของขายส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือช่วยกันอุดหนุนได้ครับ


ได้เวลากลับเกือบเที่ยง ถ่ายรูปกับพี่ๆหน่อย

กลับมาถึงก็เตรียมกลับครับกินมื้อกลางวันอีกมื้อที่อุทยาน


บ่ายโมงกว่าก็นั้งเรือจากหาดไม้งามมาลงที่อ่าวช่องขาด รอคนที่เที่ยววันเดย์ทริปมารับกลับตอนบ่าย 3 ครับระหว่างนี้ก็นั้งเล่นนอนเล่นรอ







พอบ่ายสามกว่าก็นั้งสปีทโบ็ทกลับครับ เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ประทับใจครับมีโอกาศต้องมาใหม่ต้องดำน้ำให้ครบทุกจุดครับ ที่สำคัญที่น้คนน้อยกว่าสิมิลันมากครับช่วงวันที่ไปสิมิลันนี้แน่นเลยแต่ที่สุรินทร์คนน้อยครับ


หลังจากถึงฝั่ง4โมงกว่า เตรียมหาที่นอนคืนนี้ครับ วางแผนไว้ว่าตอนเช้าจะขึ้นเขาไข่นุ้ยตอนแรกว่าจะนอนตะกั่วป่าแต่กลัวว่าจะเช้าไปเลยหาที่พักใหม่แถวเขาหลักจะได้ใกล้ๆหน่อย วันนี้เลยจะแวะเที่ยวตะก่วป่าไปเลยเขาที่พักมืดๆ ตัวเหนี่ยวๆไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่ดำน้ำนั้นแหละ

ที่แรกก็สะพานโคกขนุนทางผ่านก่อนเข้าตะกั่วป่า เป็นสะพานเหล็กที่ชาวบ้านขี่มอไซข้ามกันจริงๆระหว่างถ่ายก็มีมอไซด์มาต้องหลบกัน555



เข้าไปอีกหน่อยก็หาของกินเล่นกันถนนคนเดินตะกั่วป่า


ย่านเมืองเก่า




ตอนเย็นจะเป็นถนนคนเดินภาพวาดตามผนังต่างๆเลยอาจจะเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้นะครับ








มาถึงที่พัก เกือบ2ทุ่มเลย ตัวเหนี่ยวเหนอะหน่ะ




ที่พักขอเราคืนนี้ซันไชน์อินรีสอร์ท โทรมาตอนมืดแล้วเลยได้ราคาที่ 1000 บาทห้องรวม 5 คนเลย แอร์เย็นห้องใหม่สอาด อยู่ริมถนนหลักเลยออกไป7-11ง่ายๆใกล้ๆและแหล่งบันเทิงครับ




วันนี้เรากินชาบูกันหน้าห้องพักนั้นแหละเพราะที่จริงซื้อจะไปกินที่เกาะสุรินทร์แต่เขาบอกว่าห้ามทำอาหารเลยอัดน้ำแข็งไว้ท้ายรถ เย็นนี้เลยไม่ต้องเสียตังเพิ่ม


หลังจากอิ่มคืนนั้นก็ออกไปดูแสงเสียงตะกั่วป่าหน่อยครับแต่อหล่งบันเทิงส่วนใหญ่เป็นของฝรั่งครับคนไทยอย่างเราไม่ค่อยใช้แนวเท่าไหร่ กลับมานอนเที่ยงคืนเตรียมลุยแต่แต่เช้า


ตื่นแต่ตี5กว่าอายน้ำเตรียมตัวลุยต่อวันนี้จะวิบากนิดหน่อย ทางขึ้นเขาไข่นุ้ยจะเป็นทางดินครับ วิบากพอประมาณแต่ไม่ยากมากขับ 4 เดิมๆขึ้นได้สบายถ้าขับ2มีฝีมือหน่อยก็น่าจะไหวครับมีชันๆนิดหน่อยตรงใกล้ถึงยอด ส่วนรถเก๋งหมดสิทธิ์ครับ


ตอนมาถึงไม่มีที่ท่าว่าจะมีทะเลหมอกครับมาถึง7โมงกว่าแล้วท้องฟ้าสดใสแต่อากาศเย็นๆ แต่พอเดินมาถึงยอดต้องร้องว้าว ฝั่งที่เป็นหุบเขาด้านนี้ทะเลหมอกเพียบเลย




ทีเด็ดภาคใต้ครับเที่ยวทริปเดียวได้ลุ้นทั้งทะเลฟ้าใสและทะเลหมอกขาวๆ ถ้าไปเหนือไม่มีน้ำทะเลให้เห็นนะครับ 555


ไปดูกันเลย












สวยงดงามครับ


มาดูอีกฝั่งบ้างจะมองเห็นวิวทะเลครับ


นู้นไกลๆหมอกคลุมหน่อยจะมองไม่ชัดในรูป




8โมงแล้วก็ลงครับ


เส้นทางก็ประมาณนี้ครับแต่บางช่วงต่างระดับเยอะหน่อย




เจอทางคอนกรีตแล้วเย้ปลอดภัยดี


ลงจากเขาไข่นุ้ยครับหาชายหาดกินมื้อเช้าชาบูครับหมูยังเหลือประหยัดอีกมื้อตอนแรกจะไปกินที่ชาดหาดแถววัดท่าไทรแต่ขับเลย


เลยเจอป้ายชายทะเลบ้านบ่อดาน เลยเลี้ยวเข้าไป สวยสงบมากน้ำทะเลฟ้าใสสวยสุดแนวสนยาวว เป็นแนวชาดหาดเดียวกับวัดท่าไทรครับ




หลังจากถ่ายรูปกินชาบูเสร็จก็ไปต่อครับ สงบมากครับที่นี้หรืออาจจะยังเช้าอยู่






มาต่อที่วัดท่าไทรครับ อุโบสถริมน้ำ








และที่สุดท้ายของทริปนี้ จุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลี อยู่ไม่ไกลจากวัดท่าไทรเท่าไหร่วิ่งไม่นานก็ถึง รอบนนี้มาที่โต๊ะหลีบ้างเพราะว่ารถขับถึงข้างบนเลยลองดู


วิวกว้างสูงกว่าเสม็ดนางชีครับแต่ผมว่า มุมของเสม็ดนางชีสวยกว่าอยู่ใกล้ๆกันห่างกัน 2 กิโลครับ





เหลี่ยมเนวิเกเตอร์มาแล้วครับอิอิ






ระหว่างทางขับออกมาเจอแนวเขาน่าจะกำลังปรับปรุงเพื่อจะทำอะไรสักอย่างขอแวะถ่ายหน่อย




จากนั้นก็แวะเข้าไปข้าวในเมืองพังงาอีกรอบ แล้วยิงยาวกลับกทม แวะกินข้าวอีกทีแถวสามร้อยยอด


ถึงกทมโดยปลอดภัยทุกคน จบที่เที่ยงคืนพอดี

สรุปค่าใช้จ่ายนะครับ

น้ำมัน 2120 2280 1500

ข้าวต้ม 265

ข้าวเหนี่ยวไก่ เช้าเที่ยง ขนม 1000

เรือไปกลับ 7500

ค่าเช่าชูชีพ 200

ค่าเข้าอุทยาน 500

ดำน้ำรอบบ่าย 1000

ค่าข้าวเย็นที่อุทยาน 590

ค่ากางเต็นคนละ80 400

ค่าเรือดำน้ำเช้าที่สอง 2000

ค่าข้าวกลางวันก่อนกลับ 500

ค่าโค๊กสองวันบนเกาะ 350

ค่าที่พักเขาหลัก 1000

ค่าเข้าอ่าวโต๊ะหลีคนละ30 150

ข้าวกลางวันกลับ 230

ข้าวเย็นแถวสามร้อยยอด 720

ที่เหลือจิปาถะเล็กน้อย ทุกอย่างหาร 5 รวมๆแล้วตกคนละประมาณ 4500 บาทถือว่าไม่แพงมากครับเพราะ หนักไปทางค่าเรือไปกลับและดำน้ำที่เกาะสุรินทร์ครับที่เหลือก็ไมได้ใช้อะไรเยอะเลย น่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะครับใครจะไปแนะนำสัก2คืนน่าจะดีครับไปถึงแล้วผมเสียดายรอบน่ามีโอกาศจะมาใหม่ครับเกาะสุรินทร์

แล้วพบกันทริปหน้ากับเราสองคนสวัสดีจ้า

บอย อรรถพล

เหลี่ยมพาเที่ยว

 วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.42 น.

ความคิดเห็น