สวัสดีจ้ากลับมาพับกบ เอ้ยพบกับพวกเราครอบครัวตะลอนเที่ยวอีกแล้ว ทริปหน้าฝน ทริปเบาๆ 3 วัน 2 คืน ไปเที่ยว เลย เพชรบูรณ์ จุดหมายหลักๆทริปนี้ บ้านไฮตาก และ ภูทับเบิก และเพิ่มถนนลอยฟ้าสุดสวยไปอีกสองเส้น เส้นท่าลี่ ภูเรือ และเส้นทางขึ้นภูทับเบิกลอยฟ้า บ้านนาสะอุ้ง จะสวยแค่ไหนไปชมกันได้เลย
ตารางทริปนี้ ไปช่วงเดือน ก.ค.
เช้าแรกเชียงคาน ถนนลอยฟ้าท่าลี่ คาเฟ่ระเบียงเมาว เข้าบ้านไฮตากนอนภูพันดาว
วันที่สอง ไปนอนต่อภูทับเบิกขึ้นทางบ้านนาสะอุ้งสันหลังมังกรถนนลอยฟ้าวิวสวยมาก นอนที่วิมานหมอกภูทับเบิก ทะเลหมอกสวยๆ
วันสุดท้ายแวะท้ายเขื่อนป่าสักบ้านท่าฤทธิ์
แวะชมคลิปกันก่อนได้ รูปทั้งหมดถ่า่ยจาก Nikon D7200 fix35 tamron70-300 และ Iphone12
ถ้าพร้อมแล้วก็เก็บของขึ้นรถแล้วไปกันเลยยย
ออกเดินทาง 2 ทุ่มได้ทริปนี้ไปเรื่อยๆชิลๆ ทริปนี้ทดสอบทริปแรกของน้อง Xpander Hev หลังจากเอาไปดมแก้สติด LPG มา เป็นยังไงเดี่ยวไปดูกัน
ขับมาเรื่อยๆ อยู่ดีๆก็ง้วง ง่วง สงสัยเริ่มจะแก่จริงๆโต้รุ่งไม่ไหวเดี่ยวนี้ จอดนอนปั้มแถวๅ หล่มเก่า ตอนตี 3 กะจะนอน40 นาที ดันชั่วโมงกว่า เลยต้องซิ่งกันหน่อย เส้นจากหล่มเก่ามาด่านซ้ายทางโค้งพับผ้าขึ้นลงเขา
น้อง xpander ทำได้ดีมาก ใส่ Tramac B เบรคแทบไม่ต้องแตะ ถึงช่วงโค้ง ยกคันเร่ง รถหน่วงได้ รีเจนแบตกลับ พอออกโค้ง เหยียบส่งต่อ ขับเส้นนี้สนุกมากๆครับ กำลังมันต่อเนื่องไม่แพ้กระบะไทรทันเลย สำหรับเส้นทางภูเขา ที่มีขึ้นลงสลับโค้งแบบนี้ แบตเตอรี่ไฮบริดเพียงพอต่อการใช้งาน ขับมันส์มาก ที่กล่าวมาคือใช้พลังงาน LPG ด้วย การทำงานของ LPG เนียนกริ้บสมูท ไม่มีสะดุดเลย
ระหว่างทางก่อนจะเข้าตัวเมืองเลย เกือบจะเช้าพอดี เจอทะเลหมอกไกลๆขอถ่ายรูปสักนิด
ทะเลหมอกเชียงคานหรือป่าวนะ ตอนแรกตั้งใจจะไปเช้าเชียงคานภูทอก แต่ไม่ทันละ
หวดกันต่อภูทอกรอแปป
ระหว่างทางเจอหมอกอยู่เรื่อยๆ
วิ่งมาจนจะถึงเชียงคานหมอกหนาจัดมาก สงสัยจะก้อนที่เราเห็นไกลๆตอนมะเช้ามืดนี้
แล้วเราก็มาถึงภูทอก 7 โมงกว่า ที่ภูทอกเชียงคานนี้ผมมาประมาณ 5 ครั้งได้ทุกครั้งที่มาเชียงคานก็จะมาเช้าดูทะเลหมอก แต่บอกเลยว่าผมแห้วทุกรอบ เหมือนเขาให้ผมกลับมาดูอีกครั้งๆให้ได้
ในที่สุดรอบนี้เราก็ได้เห็นทะเลหมอกบนภูทอกเสียที แต่เป็นหมอกหน้าฝน มันก็สวยไปอีกแบบนะครับ อ่าไปดูกันเลยยย
มีหมอกให้ชื่นใจครับเช้า วันนี้คนน้อย
ฝั่งนี้หมอกเริ่มฟุ้งไม่แน่ใจถ้ามาแต่เช้ามืดอาจจะเห็นเป็นทะเลหมอกหรือป่าว
ฟ้าเริ่มเปิด
แม่สาวน้อยของพ่อ
ลูกชายตอนนี้เกือบ 1 ขวบ แล้วครับทริปนี้เริ่มจะเดินได้แล้ว
ซูมเข้าไปดูหมอกกันบ้าง
วิวโค้งแม่น้ำโขงสวยงาม
หน้าฝนมันเขียวสดชื่นสุดๆ
สมาชิกทริปนี้พี่สาวไปด้วยกันทุกทริป รถไม่เต็มไม่ออก ชิดในๆเลยพี่ เดี่ยวไม่มีคนหารค่าน้ำมัน 5555
ถ่ายกันจนหนำใจอยู่เกือบชั่วโมงยุนะก็ลงกัน
ค่ารถคนละ 40 บาทรวมขึ้นลง เด็กๆฟรี
ลงมาเชียงคาน แวะขับวนสักรอบ
วนไปจอดตรงวัดแล้วเดินมากินมื้อเช้าที่ จุ่มนัวยายพัด
อิ่มอร่อยกันไปมื้อเช้านี้
กินเสร็จก็มาเดินย่อยถนนคนเดินรอบๆเชียงคาน
ชมบรรยากาศยามเช้าที่ไร้ผู้คน
แดดเริ่มร้อนได้เวลาเดินทางต่อ
แวะเติมแก้สอีกถัง ที่เชียงคาน ทริปนี้หลังจากที่ขับชิลๆตอนแรก และมาตื่นสายเลยต้องทำเวลา ซัดแหลก แก้สเลยหมดไวพอสมควร ถังนี้เลยวิ่งได้ 300 โล จากปกติได้ 400 กว่าโล ถัง 42 ลิตร เติมเติมถังจะได้แค่ประมาณ 80% อยู่ประมาณ 33ลิตร +- ขับแบบเขี่ยนๆแบบนี้ HEV ก็มีเห็นเลขตัวเดียวเหมือนกันนะครับ 9 โลลิตรได้ครับถังนี้ แต่ด้วยบรรทุกมาเต็มลำและแบกขึ้นหลังคาอีก ตอนเดินทางกลางคืน จะเปิดสามแถว ผู้โดยสารนอนกันสองแถวหลัง เลยต้องเอาของขึ้นบนหลังคา เดี่ยวมาดูกันว่าจบทริปหมดแก้สไปกี่บาท
จากเชียงคานจะไปภูเรือ วิ่งเส้นถนนลอยฟ้าท่าลี่ วิวระหว่างทางสวยๆ
รถก็ไม่ค่อยมีแต่วิวดีครับ
มุมที่เห็นมานานแล้ว ได้มาสักที วิ่งวนไปวนมาหามุมสวยๆ
เส้นนี้รถน้อยมากครับ คงเพราะมันชันพอสมควรและเปลี่ยวรถน้อย แต่จริงๆก็มาได้ไม่ได้ยากอะไรเท่าไรนะครับผมว่า แต่ควรมาตอนกลางวันนะ
ถนนตรงยาวมากๆๆ เรามองเห็นทั้งเส้นนะครับ ถ้ามีรถมาไกลๆ ไมไ่ด้ยืนถ่ายรูปนะครับ อันนี้เห็นว่าไม่มีรถเลยไปถ่ายแแปปเดียวครับ
สวยงามตามท้องร่องครับ
ออกจากถนนลอยฟ้า มาเส้นหลักเลี้ยวซ้ายเขาไปอีกหน่อย แวะคาเฟ่ ระเบียงเมาว์ เป็นคาเฟ่ที่วิวดีมาก แถวๆคาเฟ่เหมือนมีเป็นลานกางเต็นท์ด้วย คาดว่าถ้ามีฝนตกเช้าๆน่าจะมีหมอกสวยๆเช่นกันนะครับโซนนี้ น่าสนใจ
วิวดีมากกก
ลมอย่างเย็น
อากู๊ดชอบค้าบ
ใครมองหน้าหาเรื่องหรอ จะเอาป่ะละ
คนบ้ารถก็จะหาถ่ายแต่รถทั้งทริปนะครับอย่าเบื่อกันเลย
กลับมาใช้โกโปรถ่ายบ้างเนื่องจากแต่ก่อนกระบะมันยาวถ่ายได้ไม่เต็มคัน ใช้คันนี้ถ่ายได้เต็มคันพอดีสำหรับ โกโปร 4 hero ตัวเก็าเก่าาา ปัจจุบันเขาออกโกโปร 13 กันแล้ว เรายังใช้ตัว 4 อยู่เลยก็มันไม่พังซะที
ออกจากคาเฟ่ ขับมากันต่อไม่นานมาก เราก็ถึงจุดหมายของเราวันนี้ บ้านไฮตาก แวะจุดชมวิวข้างบนกันก่อน
วิวมันสวยมันกว้างดีมากครับ
ที่นี้ ที่พักจะเรียงหน้ากระดาน วิวคล้ายกัน มองไปข้างหน้าฝั่งเดียวประมาณ 180 องศา แต่ที่มันสดชื่อสบายตาคือมองลงไปมีแต่ป่าเขียวๆ สวยงามสดชื่นดูไม่แออัดดีครับ
ที่นอนของเราคืนนี้ ลานพันดาว แคมปิ้งครับ
บ้านของเราหลังนี้ สวยน่ารัก
ข้างในมี 1 ห้องนอน ห้องนั้งเล่นและห้องน้ำ และชานหน้าบ้าน
วิวจากหน้าบ้านมองออกมาก็จะประมาณนี้
อากาศดี แถมมีแอร์อีกปิดแอร์ฉ่ำนอนสักตื่นขับรถมาทั้งวันทั้งคืน
ตกเย็นก็ต้องหมูกระทะกับอากาศเย็นๆ และวิวสวยๆ
ร้อนๆแก้หนาว
แสงเย็น
นั้งกันจนมืดตกกลางคืนอากาศหนาวต้องใส่เสื้อกันหนาว เย็นใช้ได้เลยขนาดหน้าฝนที่ฝนไม่ตกหลับสบาย
ตื่นมาแง้มดูว่ามีหมอกไหมตอนใกล้สว่าง เสียดายเมื่อคืนไม่มีฝน เช้านี้เลยอดดูหมอก มีแค่หมอกบางๆ อากาศเย็นๆ
Good morning คนมีลูกจะเข้าใจไม่เคยได้ตื่นสาย 6โมงกว่าไอตัวเล็กตื่นทุกวัน ให้นอนตอนไหนก็จะตื่นตอน 6 โมงกว่าทุกที 5555
ผมหนาวอ่าพ่อ
มันชื่นหัวใจ
ที่พักที่นี้จะมีมุมที่ตกแต่งเป็นแนวญี่ปุ่นๆน่ารักๆครับ
เราก็อยู่กันจนสายๆก็เก็บของออกเกือบ 11 โมง
ก่อนออกเดินทางไปทับเบิก แวะคาเฟ่เสวนาริมเขา
ที่นี้เป็นคาเฟ่และมีห้องพักด้วย วิวดีอยู่ติดด้านหน้า
วิวดีวิวงาม น้ำอร่อย
ไฮตากเป็นอีกที่ที่ผมจะกลับมาซ้ำแน่นอนขอมาชมทะเลหมอกหน้าฝนให้ได้ครับ ที่นี้ยังไม่ค่อยวุ่นวายครับคนยังไม่เยอะมาก แนะนำมากันนะครับ
ออกจากไฮตาก ไปกันต่อภูทับเบิก รอบนี้ไปทางด่านซ้าย ขึ้นเส้นทางที่ทำใหม่ บ้านนาสะอุ้ง เขาว่าวิวสสวยมากกกถ้าจากกทม อาจจะอ้อมหน่อย แต่ถ้าเรามาจากจังหวัด เลย ขึ้นทางนี้แหละใกล้นิดเดียวตัดเข้าด่านซ้ายยิงขึ้นด้านหลังวัดป่าภูทับเบิกเลย
หลังจากเราเลี้ยวขวาจากด่านซ้ายเข้ามาตามถนนเรื่อยๆ จะมีขึ้นเนินชันๆรอบนึงแล้วจะเจอวิวสวยๆ
ขับมาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายบ้าน นาสะอุ้งก็เลี้ยวซ้ายไปเลย ถ้าตรงไปจะเป็นภูพระ ไม่ได้ไปรอบนี้
แค่จุ่มหัวเข้ามานิดเดียวก็สวยแล้ว แต่ความสวยมักมากับความเสียว
เส้นทางแคบคดเคี้ยวสูงชัน รถสวนลำบาก ดีนะเขาเทปูนแล้ว ค่อยๆไต่มาเรื่อยๆได้สบายครับ
สำหรับเส้นทางนี้ในช่วงที่ชัน ผมว่ามันชันมากกว่าทางขึ้นปกติของทับเบิก13 โลนั้นครับ เส้นนี้คือชันมากแต่ว่าระยะสั้นๆครับ ยังพอมีช่วงขึ้นมายาวๆและทางราบบ้าง ทางลงเขาบ้าง
ว่าด้วยข้อจำกัดของน้อง Xpander hev คันนี้ คือแบตไฮบริดที่ลูกเล็ก อย่างเช่นถ้าดันเนินยาวๆๆๆมากๆแบบนี้ เราจะใช้แบตไฮบริดจนหมดเลย ตอนที่มีแบตคือแรงบิดดึงขึ้นอย่างกับกระบะไม่มีอืดเลยแจ่มมาก แต่พอแบตหมด กำลังตกเหลือแค่ แรง91 ม้า ปั่นไฟให้เข้าแบตและลงล้อ มันจะยังขึ้นได้นะครับ อารมณ์ก็เหมือนตอนขับตัวสันดาบ 1500 ขึ้นเขา ที่จะอึดๆ แต่ไปได้เรื่อยๆ แต่ความรู้สึกเรามันจะเหว่งๆจากที่เร่งแรงๆ และกำลังมันตกไปเลย แต่ลองมาหลายรอบแล้ว มั่นใจเลยว่าขึ้นได้สบาย จะมีแค่บางเขาเช่นนี้ที่ดันเนินยาวๆไม่มีพักแบตมันเลยหมดครับ และอืดครับ
อย่างรูปนี้ คือแบตไม่เหลือสักก้อน ปกติรถมันจะขับจนเหลือแบต 1 ก้อนแล้วปั่นไฟเติม อันนี้คือปั่นไฟไม่ทัน
แต่ในรูปคือตอนที่ขึ้นเนินมายาวๆ แล้วเป็นจังหวะหมดเนินกำลังไหลลงพอดี สังเกต เส้นไฟสีเขียว คือพอรถลงเขามันจะรีเจนแบตกลับมาให้เราครับ
ผมคิดว่า xpander hev เจนต่อไปเขาคงจะให้แบตมาใหญ่ขึ้นครับ มันก็จะเพอเฟคเลย จะได้ช่วยทั้งเรื่องขึ้นเขา เรื่องความเร็วปลายน่าจะเพิ่มขึ้นได้ถ้าได้แบตใหญ่ขึ้นและความประหยัดก็จะมากขึ้นแน่นอน ไว้รอชมรุ่นต่อไปครับในการพัฒนาครับ
แต่จากที่บอกว่าแบตไฮบริดหมด เราขับๆจอดถ่ายรูปด้วย ก็เจออาการแบตหมดแค่สองเนินครับ ที่เหลือก็มีขึ้นๆลงๆ มันก็ปั่นไฟพอใช้งานเร่งดีสบายบรื่อครับ
ไปต่อวิวคือดีอ่ะ เส้นนี้แหละที่เขาเรียกว่าสันหลังมังกร แหมะถ้ามีโดรนคงได้มุมสวยๆ เดี่ยวปีหน้ามาใหม่ เพราะที่พิมพ์ตอนนี้เรามีโดรนแล้ว น้องจิ๋ว DJI NEO ไว้ดูภาพมุมสูงรีวิวทริปหน้า จังหวัดน่านกันครับ
กลับมาต่อ สวยจัดสวยจริงและยังคงธรรมชาติอยู่เยอะครับฝั่งนี้ ขับมาไม่นานมากเรื่อยๆก็จะถึงจุดชมวิวตรงกลางทาง
ตรงนี้เป็นจุดที่เขาทำไว้ให้ชมวิวอีกฝั่ง
แต่ตอนนี้ที่หมอกปิดพอดีฝั่งที่เป็นหน้าผาชมวิว
หมอกลอยปะทะมาแล้วว
ปีนไปมุมสูงซะหน่อย
ตั้งแต่เริ่มจุดนี้เป็นต้นมา เราก็เจอหมอกตลอดทั้งวี่วันถ้าไม่เชื่อไปดู
ขับไปตามทางเรื่อยๆ
อย่างกะเหยียบเมฆ สวยแจ่มมากครับฝั่งนี้
อนาคตโซนนี้ก็อาจจะมีที่พักเพิ่มขึ้นแน่ๆ ยังไงก็รีบๆแวะมาดูก่อนนะครับ
เห็นวัดป่าภูทับเบิกแล้ว ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงนะครับจากต้นทางด่านซ้าย ขับเรื่อยๆจอดถายรูปชมวิวด้วย
แวะวัดป่าภูทับเบิก
ไหว้พระสักนิด ขอหมอกสวยๆปังๆเด้อครับ
ขับไปหาไรกินตรงจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิก สายหมอกพัดไปพัดมาตลอดวเวลา แต่ฝนไม่ตกนะ
ระหว่างทานข้าวก็ถ่ายไปเรื่อย ชอบหน้าฝนบนภูทับเบิกก็เพราะแบบนี้แหละ
หมอกเปิดๆปิดๆทั้งวัน ถึงแม้จะมีที่พักมากมายไปซักหน่อย มันอาจจะไม่ค่อยสบายตา แต่อยากให้มองบรรยากาศกับหมอกมากกว่า ที่ยังดึงดูดให้คนมาอยู่เรื่อยๆครับ
ดูหมอกเพลินอ่ะ
ที่พักของเราคืนนี้ วิมานหมอกภูทับเบิก ตามรอยพี่จองพี่คัลแลน เนื่องจากราคาก็เบาๆ 1200 บาทก็เลยมาลองดู ที่พักจะตั้งอยู่เลยจุดสูงสุดมาไกลพอสมควรทางไปวัดป่าภูทับเบิก ก่อนถึงหมู่บ้าน
หลังนี้ที่พี่จองคัลแลนนอน แต่เราไม่ได้นอนหลังนี้หรอก
ที่พักของเราเป็นหลังนี้สองหลังติดกัน
ที่พักติดริมถนนจะมีเสียงรถดังเสียหน่อยเรื่อยๆ แต่วิวตรงด้านหน้าค่อนข้างโล่งไม่ติดที่พักอื่นเท่าไหร่คับมุมนี้เพราะเลยมาไกลแล้ว
ไม่ได้ถ่ายห้องชัดๆไว้แต่ใหญ่พอสมควรเลยเตียง 6 ฟุต มีที่ในห้องอีกเยอะห้องน้ำในตัว
และยังมีระเบียงหน้าบ้านกันฝนด้วย
อ่ะ ไปดูหมอกจากหน้าห้องพักได้เลย ถ่ายจากระเบียงห้องเลย
ว้าววววว
มุมจากโกโปรบ้างสีมันจะคนละโทนหน่อย
ถ่ายรูปเพลินมาก กดๆไปเรื่อยๆ รับหมอกกันแบบจุใจ
ตกเย็นไม่พลาดหมูกะทะแก้หนาว
อากาศหนาวมาก แต่ยังพอไหวลมไม่แรงมาก
ดูดาวบนดินจากหน้าห้องได้เลย
สวยจริ้งง นอนๆลุ้นหมอกตอนเช้า
คืนนั้นหลับแบบหน้าวหนาว ตอนเช้านึกว่าจะแห้วเห็นลมแรงและไม่มีฝน
แต่ภูทับเบิกรอบนี้ก็จัดให้อย่างสาแก่ใจ อ่ะไปดู
ทะเลหมอกยามเช้าแน่นๆ ไปชมกันเลยยาวๆๆๆๆ
ตื่นมาถ่ายตั้งแต่ตี 5 กว่าพระอาทิตย์มาไวมาก
อ่าลูกชายตื่นแล้ววว
ชมหมอกกัน
เริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ
หลับสบายมากทั้งลูกสาวลูกชาย
จนเกือบ 8 โมงก็เลยขอขี่ไปตรงจุดชมวิวเส้นสันหลังมังกรซะหน่อย จากที่พักเราขับไปแค่ 10-15 นาที
หมอกยังเพียบ
เสียดายตรงจุดชมวิวนี้หมอกหนาจนปิดมองไม่เห็นเป็นทะเล ก็เลยไม่ได้ถ่ายต่อขับกลับไปที่พัก
กินอาหารเช้าข้าวต้มร้อนๆ ตอนนี้หมอกตีขึ้นขาวโพลนไปทั่วหมดแล้ว
อยู่จนสายๆนอนอีกตื่น เกือบเที่ยงก็ได้เวลากลับ
แวะไปพาหัวสิงห์ ลมแรงมากกกกกก และหมอกก็ยังคงมีพัดไปพัดมา
ที่เดิมเมื่อปีที่แล้วนู้นที่มาแลวพายุแรงจนนอนไม่ได้ วันนี้มาลมก็ยังแรงจัด
ตั้งแต่ขึ้นเขามามะวานก็ยังไม่ได้ว่างจากหมอกเลยทั้งวี่วันตามที่บอกเลย ภูทับเบิกจัดให้แบบจุกๆจนลงเขา
เป็นอีกสถานที่ที่มาได้เรื่อยๆครับภูทับเบิก ธรรมชาติมีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอในแต่ละครั้งที่มาครับ
ออกเดินทางกลับขาลงนี้คันเร่งไม่ต้องแตะเลยเบรคก็ไม่ค่อยได้ใช้รถหน่วงจนแบตเต็มเปี่ยมต้องรีเจยทิ้งขว้างเสียต้ายเสียดายถ้าได้แบตใหญ่ๆคงจะดี
มาแวะกินมื้อกลางวันที่ ไก่ย่างวิเชียรบุรี เลือกเอาร้านนี้ ไก่ย่างตาแป๊ะ 2 เขาว่าดีเขาว่าเด็ด
ลองแล้วไก่อร่อยเนื้อฉ่ำ เมนูอื่นก็อร่อยส้มตำแซ่บมาก
จุดหมายสุดท้ายของทริปนี้มานั้งเล่นกันที่ ท้ายเขื่อนป่าสักบ้านท่าฤทธิ์กันหน่อย
วันนี้อากาศดีมากๆ ตรงช่วงตรงกลางคนจะเยอะมากๆครับ เราขยับขับมาขวาๆหน่อยจะคนน้อยหน่อยครับ
มีน้องแพะด้วยย
วิวดีจัดๆน้องแพะก็เพียบ
ป๋มจะเดินแล้วก้าบบบ
นั่งปิคนิคกันหน่อย ลมเย็นมากๆ
เก้าอี้มันจ็าบไหมละเล่นกิจกรรมในกลุ่ม xpander ได้มาฟรีมีพิมชื่อ xpander ด้วยย
ตรงกลางทางเข้า วันที่ไปมีของขายเยอะเลยครับ และมีว่าวขายด้วย ได้ย้อนวัยกันละ
จริงๆจะซื้อให้ลูกเล่น แต่เหมือนพ่อกับแม่จะสนุกมากกว่า
วิวดีต้องขึ้นหลังคาขยันเกิน
จะขึ้นจะลงก็ทุลักทุเลหน่อย ก็สรรหาปีนกันเนาะ ทริปหน้าต้องทำบันไดไว้ปีนขึ้นหลังคาซะแล้วรอชมได้เลย
สุดหล่อ จะวิ่งแล้วครับ เตรียมจับผมให้ทันนะคับ
ลมเย็นๆเพลินๆ
มาถึงตั้งแต่ บ่ายสี่ แต่แดดไม่ร้อนเลย ลมเย็นสบาย
อยู่กันจนเกือบมืดก็เดินทางกลับ ทริปนี้ถึงบ้านไว้เพราะระยะทางไม่ไกลมาก เป็น 3 วัน 2 คืน ที่เจ๋งมากๆไว้จะกลับมาซ้ำใหม่นะครับ
มาคุยต่อสักนิดกับเจ้า xpander hev + LPG ในส่วนของ LPG คือจะบอกว่าโคตรจะเนียน ขับลื่นปกติมากๆ คือมันเนียนกว่าตอนขับวีออสติดแก้สอีก ทริปแรกๆนู้นเลยผมขี่วีอสส1500 ติดแก้ส
เจ้าคันนี้ก็เลยติดแต่ป้ายแดง เป็นแก้สร้านเดิมที่ติดกับวีออสเลยเมื่อ10 ปีที่แล้วยี้ห้อ AG เหมือนกัน แต่ว่าปัจจุบันเขาคงพัฒนาระบบให้มันเนียนขึ้นด้วยแหละ ขับไม่ต่างจากน้ำมันเลยปกติดีจริงๆ
ในส่วนกำลังรถ ใช้งานทั่วไปคือไม่มีอะไรให้ติ ยิ่งข้อที่ชอบมากๆของคันนี้ คือออกตัวด้วยไฟฟ้า แบบรถไฟฟ้า มันพุ่งมันไว ไม่รอรอบคือช่วงความเร็วต่ำมันจะใช้ไฟฟ้าล้วน ทำให้เราใช้ กทม เป็นหลัก ช่วงแซงช่วงเปลี่ยนเลนช่วงขับๆติดๆไหล มันลื่นมันไม่มีอาการรอรอบหรือการต่อเกียเพราะเป็นเกียร์ไฟฟ้ามีอัตราทดเดียวนะถ้าข้อมูลไม่ผิด ยิ่งใช้ในเมืองมี Auto break hold คือดีมากกดไว้ตลอดเวลา รถติดๆไม่ต้องมาคอยเข้า N P หรือเหยียบเบรค และทำงานได้เนียนในการออกตัว
ส่วนเดินทางไกล ครูซคอนโทรทำงานได้ดีเยี่ยมไม่มีกระฉากสมูทมาก ถ้าได้เป็นอแดบทีฟครูซคงจะเจ๋งเหลือเกิน ในส่วนทางไกลการขับขี่ที่เคยบอกไปเหลือเฟือถ้าคุณมันซิ่งจัดๆ หรือแช่ที่ความเร็ว 130+ มันขับดีสนุกมาก แต่ถ้าคุณซิ่ง130+แบตไฮบริดมันจะหมดได้เพราะปั่นไฟไม่ทัน
ส่วนเส้นทางภูเขาถ้าทางภูเขาทั่วไปมีขึ้นมีลงอันนี้ขับสนุกมาก แต่ถ้าขึ้นยาวๆไม่มีพักแบบทับเบิกนี้ก็จะเจอช่วงที่แบตไฮบริดหมดบ้างอย่างที่เล่าให้ฟังแต่ขึ้นได้แน่นอนแต่มันไม่สะใจแบบต่อเนื่องเท่านั้นเอง
ที่นี้มาว่าด้วยเรื่องอัตราเชื่อเพลิงหลังจากเป็น LPG โดยปกติพอเปนรถแก้สมันจะกินขึ้นสัก 1-2 โลลิตร แต่ด้วยราคาแก้สที่ถูก ตกเป็นเงินต่อโลเลยถูกหน่อย
คันนี้ใช้งานหลักในเมืองรถติดๆ สุขุมวิท สาทรอโศก และ วนรอบๆ กทม ปริมณฑน
ตัวเลขที่ทำได้จะอยู่ที่ 11-15 โลลิตร ขึ้นอยู่กับการบรรทุกแต่ส่วนใหญ่จะบรรทุกแทบจะเต็มคัน และการเหยียบ
โดยถ้าขับแบบปกติแบบไม่ซิ่ง เรื่อยๆไหลๆ รถติดๆหยุดๆ ขับไม่เกิน 90 แบบในในกทม
ตัวเลขจะอยู่ที่ 13-15 โลลิตร ตกกิโลละ 1.05-1.15 บาทตัวเลขนี้ทำได้ไม่ยากไม่ต้องถึงกับปั้นตัวเลข
แต่ถ้าขับแบบคันเร่งตึงๆหน่อยกดบ้างซัดบ้างบรรทุกเยอะ ก็จะเป็นตัวเลขที่ได้ประจำคือ โลละ 1.2-1.35 บาท
แต่ถ้าขยี้ๆหน่อย ก็จะมีบ้างที่โลละ 1.4 บาทแต่ไม่เคยเกิน1.5 บาทสำหรับในเมือง
ที่ราคาแก้ส ถูกสุด14.39-14.95 แถวบ้านแก้สถูกมาก ปั้มหน้าบ้านวัดมะขามปทุมธานี 14.39 ระแวกบ้านผมไม่เกิน15สักที่
สำหรับเดินทางไกล ถ้าคุณขับตามกฏหมาย 90-100 ไดิตลอดทาง ก็จะราวๆโลละ 1.1-1.2 บาท อันนี้ทดสอบจากไปกลับพัทยา ระยะไม่ไกลมากรถเยอะเลยขับเท่านี้ได้
แต่ถ้าขับเกิน 100 เครื่องมันจะติดปั่นไฟแทบจะตลอดเวลา ก็จะประมาณโลละ 1.3-1.5 ยิ่งถ้าไป ตจว ไกล เจอแก้สแพงๆ ลิตรละ 16-18 บาท ตัวเลขจะพุ่งไปโลละ 1.6+++บาทเลย และส่วนใหญ่ผมจะเท้าหนักยิ่งเดินทางไกลไม่ค่อยจะได้ขับช้ารถมันขับสนุกด้วย ยิ่งแบกของมากๆ hev ก็มีทะลุ 9 โลลิตรนะ
สรุปว่าเรื่องการประหยัด เอาถ้าเทียบกับ xpander ตัวน้ำมันเท่านั้นนะ
สำหรับในเมือง hev ประหยัดกว่าแน่นอน เยอะพอสมควร ถ้าขับในรูปแบบเดียวกัน ยังไงก็ประหยัดกว่า
สำหรับทางไกลถ้าขับ 90 อันนี้ประหยัดสูสีกับตัวน้ำมัน พอๆกัน แต่ถ้าขยี้100กว่า hev จะค่อนไปทางกินกว่านิดๆครับ พูดตามตรงเลย
แต่อย่างที่อวยมาตลอด ว่าสมรรถนะมันขับสนุกขับมันส์กว่าตัวสันดาบมากพอสมควร ทั้งช่วงล่างและกำลังเครื่องยนต์ เรื่องน้ำมัน จะมีบางช่วงที่ยังกินกว่าสักนิดผมก็ไม่ติดอะไรครับ
พิมพ์ไปพิมพ์มาไม่นิดสะแล้ว 555
ที่นี้มาดูสรุปค่าแก้ส+น้ำมันสำหรับทริปนี้กัน
น้ำมัน 200
ถังแรกจากบ้านไม่นับเดี่ยวกลับถึงบ้านมาเติมให้เต็มถังสุดท้าย
แก้ส 400 บาท 23.77 ลิตร ลิตรละ16.8
500 27.38 ลิตร ลิตรละ 18.26 ที่เลย
485 26.56 ลิตร ลิตรละ 18.26 ที่เลย
400 23.48 ลิตร ลิตรละ 17.03 ที่ลพบุรี
420 29.19 ลิตร ลิตรละ14.39 ที่หน้าบ้าน
รวมแก้ส +น้ำมัน 2405
130.38ลิตร วิ่งไป 1295 กิโลเมตร
ตกเป็น กิโลละ1.85 บาท หรือ 9.9 กิโลเมตรต่อลิตร
ดูเหมือนจะแพง แต่ย้อนไปดูราคาแก้สด้านบน คือแก้สแพงมากครับ ทางเหนือ 17-18ทั้งนั้น แพงกว่าตอนใช้งานปกติเกือบ 4 บาท
และบรรทุกคนและของเต็มคันทริปนี้ก็ใช้ความเร็วพอสมควรอยู่หลายช่วงครับ ตัวเลข 9.9 โลลิตรก็พอสูสี ยังตกโลไม่ถึง 2 บาทครับ
ถ้าเทียบกับทริปก่อน ที่ลงใต้ตอนที่ยังเป็นน้ำมันล้วนๆ
ทริปนั้น ตก 12.29โล/ลิตร หรือโลละ 3.26 บาท ผู้โดยสารและของเท่าเดิมการขับขี่คล้ายกัน แต่ทริปใต้ไม่ได้ดันดอยทางเรียบซะมากกว่า
ทริปนี้ก็ยังประหยัดไปได้ 1.41 บาทต่อโล ถือว่าเยอะเลยยิ่งถ้าขับใน กทม แก้สถูก นี้จะประหยัดกว่าน้ำมันโลละเกือบ 1.6-1.8 บาทเลยครับ
เป็นอันถูกใจมากสำหรับการใช้งาน LPG ขับขี่ปกติ และประหยัดกว่าเดิมมาก
ยังคงอวยต่อว่า xpander hev คือรถครอบครัวที่แอบซิ่งได้ขับสนุกกำลังดี มีความประหยัดพอตัว
ส่วนเรื่องที่ต้องติกันบ้างก็คือ ระบบความปลอกภัยต่างๆมันยุค 90 เลยนะเนี้ย ถุงลมมีแค่ 2 ใบรถครอบครัวนะครับพี่ กล้องรอบคันไม่มี ไม่มีเตือนมุมอบมุมอับอะไรทั้งนั้น แต่มีเตือนปิดประตูไม่สนิท กับไม่คาดเข็มขัดยุนะ 555
และมีแค่กล้องหลังมาให้ มันน่าตีจริงๆ ถ้าได้พวกระบบความปลอดภัยของพี่ปาเจโร่มาสักหน่อยนะจะแจ่มแจ๋วมากๆครับ
เป็นอันจบรีวิวเที่ยวทั่วไปกับ xpander hev ทริปหน้าตะลุยเมืองน่านและพบกับเวอร์ชั่นใหม่แต่งเพิ่มอีกสองสามรายการ ก็คนมันบ้ารถ
แล้วพบกันใหม่กับครอบครัวตะลอนเที่ยว สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันพฤหัสที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 06.39 น.