เที่ยวไปแบบหัวใจสีเขียว เที่ยวแบบรักษ์โลก เที่ยวแบบ Low Carbon Holiday

ตะลุย 5 เกาะทะเลตราด

ยิงลูกไม้ ปล่อยปู ปลา เต่า กลับลงทะเล แถมปลูกปะการัง งานนี้เที่ยวจนหัวใจอิ่มเอิ่บ

อพท. หรือองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ได้สร้างสรรค์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ไปแบบโลวคาร์บอน เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวท่องไปแบบมีส่วนร่วม เที่ยวแบบช่วยกันลดการปลดปล่อยคาร์บอนให้น้อยลงเมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวแบบปกติ โดยยังคงความสะดวกสบายและได้รับความสุขจากการท่องเที่ยว

มาท่องเที่ยวเท่ๆ แบบ Low Carbon กันดีกว่า

เมื่อวันที่ 13-15 พย. ที่ผ่านมา อพท. จัดกิจกรรม Low Carbon Holiday พานักท่องเที่ยวหลายสิบชีวิตมาเปิดประสบการณ์ใหม่ และผมนายน้ำฟ้าก็ได้มีโอกาสรับเชิญร่วมสังเกตการและนำมาบอกเล่า

เส้นทางสุดชิล แพ็คเกจนี้ขายประมาณ 5-6 พันบาทต่อคน พาเที่ยวทะเลตราดถึง 5 เกาะ มีเกาะกูด เกาะหมาก เกาะขาม เกาะหวาย เกาะช้าง ผูกเป็นเส้นทางกิจกรรมคร่าวๆ ดังนี้

ออกเดินทางจากกทม. สู่ แหลมศอกจังหวัดตราด นั่งเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ไปทำกิจกรรมรักษ์ธรรมชาติบนเกาะกูด ค้างคืนแบบ slow life บนเกาะหมาก ปล่อยเต่าบนเกาะขาม ร่วมปลูกปะการังบนเกาะหวาย ข้ามไปเกาะช้างทำ workshop Spa แล้วไปปาร์ตี้ชายหาด กลับเข้าฝั่งชมเกษตรอินทรีย์@บ้านปูรีสอร์ท และกลับกทม.กันด้วยความอิ่มเอมใจ

มามากัน ตื่นก่อนไก่โห่ ทิ้งรถส่วนตัวไว้กับบ้าน มาใช้รถคันเดียวกัน ด้วยการร่วมเดินทางไปคันเดียวกัน เพียงแค่เริ่มก็มีส่วนช่วยลดโลกร้อนแล้ว นี่คือหลักการว่าทำอย่างไรในยุคนี้ที่ผู้คนนิยมเดินทางท่องเที่ยวกันมากกว่ายุคไหนๆ จะไม่กลายเป็นปัจจัยซ้ำเติมที่เพิ่มคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ไปในอากาศ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 1.6CC จากนักท่องเที่ยว 100 คน คิดเป็น 70 คัน ระยะทาง 315 กม. ไป-กลับ (70x315x2) = 44,100 กม. เทียบกับการเดินทางโดยรถบัสจำนวน 2 คัน (2x315x2) = 1,260 กม. ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้ถึง 81.6%


แจกอาหารกล่องเป็นมื้อเช้ากินกันในรถ เสริฟมาในภาชนะที่ผลิตจากเยื่อพืชและสีธรรมชาติ Natural plant fiber & colour








สายๆ เราก็มาถึงท่าเทียบเรือแหลมศอก เรือสุดยอดมาก สองชั้น มีทั้งโซน Open air และ ห้องโดยสารติด Airconditioner ใช้เวลาเดินทางมุ่งหน้าทิศใต้ เฉียงไปที่เจ็ดนาฬิกา ระยะทาง 45 กิโลเมตรสู่ท่าเทียบเรืออ่าวพร้าวบนเกาะกูด ใช้เวลาอยู่บนเรือหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

ลั่ลล้าท้าแดดบนดาดฟ้าเรือหน่อย ทริปนี้ได้น้องโมมาเป็นอาสาเพื่อนร่วมทริปและเป็นแบบให้ถ่ายภาพครับ


ยิงลูกไม้ @ เกาะกูด

แหม่ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นฟ้า น้ำทะเลที่เห็นสวยมากกก เรือเราเข้าเทียบเกาะกูดที่ท่าเรือน้ำลึกอ่าวพร้าว ผมงี้เพิ่งเคยมาเกาะกูดครั้งแรก ก็ตื่นเต้นสิครับเมื่อเจอน้ำทะเลและชายหาดที่สวยแบบนี้ นี่ขนาดแค่ท่าเทียบเรือ!



สองแถวแท็กซี่ประจำเกาะกูดมารอรับขบวนนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียว แยกเป็น 3 สาย แยกกันทานมื้อเที่ยง และแยกกันทำกิจกรรมตามความชอบ มีให้เลือก 3 กิจกรรม คือ ไปปล่อยปู ปล่อยปลา และไปยิงลูกไม้ปลูกป่า ผมเลือกยิงลูกไม้ เพราะว่าอยากจะเห็นน้ำตกคลองเจ้าด้วย ทริปนี้จะได้ไม่มีแต่ภาพทะเล



แต่ละกลุ่มแยกไปนั่งกินกันคนละร้าน แบบนี้ก็ดีนะ จะได้โปร่งๆ ตาหน่อย สำหรับทีมปลูกป่ากลุ่มเราได้ที่นั่งร้านนี้ครับ

Mangrove Bungalow แมงโกรฟ บังกะโล

N11° 38.024' E102° 32.946'

เป็นร้านอาหารและที่พักริมคลองเจ้า ปลายน้ำของน้ำตกคลองเจ้าล่ะ กินเสร็จแล้วค่อยย้อนน้ำขึ้นไปปลูกป่า บรรยากาศเย็นตามากกับสายน้ำสีเขียวของคลองเจ้า

มื้ออาหารสไตล์โลว์คาร์บอนครับ คือพึ่งพาวัตถุดิบจากท้องถิ่นให้มากที่สุด ลดการนำเข้าจากฝั่งให้มากที่สุด เพราะการขนส่งย่อมเพิ่มคาร์บอน //อร่อยจนจับภาพแทบไม่ทัน

การรับประทานอาหารเมนู Low Carbon จำนวน 2 มื้อ และเมนูอาหารทั่วไป จำนวน 4 มื้อ จากนักท่องเที่ยว 100 คน เทียบกับเมนู Low Carbon จำนวน 6 มื้อ ลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ไปได้ถึง 16.7%

ยิงลูกไม้ปลูกป่า ที่น้ำตกคลองเจ้า

ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกก่อนเริ่มเดินเทรลสั้นๆ เข้าไปน้ำตกคลองเจ้าเพื่อชื่นชมความงามของน้ำตกและทำกิจกรรมยิงลูกไม้เข้าป่า
มือปืนหนังสติ๊กพร้อมแล้ว ได้รับแจกหนังสติ๊กกันคนละด้าม


น้ำตกคลองเจ้า

N11° 38.827' E102° 33.382'

ความงามของน้ำตกคลองเจ้า กับกิจกรรมโลดโผนโหนเชือกม้วนตัวตีลังกาลงน้ำ

ได้เวลายิงลูกไม้ปลูกป่า วิธีนี้ลูกไม้ที่ถูกยิงไปจะตกกระจัดกระจายกันสะเปะสะปะในป่าแบบไร้ทิศทาง เติบโตขึ้นอย่างหลากหลายไม่ต้องเป็นระเบียบ ไม่ต้องกลายเป็นป่าปลูกที่ต้นไม้เรียงกันจนไม่เหมือนป่า สำหรับเมล็ดพันธุ์ที่เราส่งลอยอากาศเข้าไปตกในป่าคือเมล็ดพันธุ์ลูกสำรอง

ถ่ายภาพนางแบบกับสายน้ำตกคลองเจ้าหน่อย

ตากล้องขอมีรูปกับเค้ามั่ง แต่ใครจะถ่ายให้เราเนี่ย! ว่าแล้วก็ก้มหน้าถ่ายเท้าตัวเองเนี่ยแหละ 555 ให้รู้ว่านายน้ำฟ้ามาเหยียบสายน้ำคลองเจ้าแห่งเกาะกูดละ


สโลว์ไลฟ์ @ เกาะหมาก

เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเกาะกูด เค้าว่าเกาะกูดน้ำทะเลสวย หาดสวย แต่สำหรับผมคงต้องรอครั้งต่อๆไป ครั้งนี้ชมน้ำทะเลแถวท่าเรือกันไปก่อน และก็ได้เวลาเดินทางสู่เกาะที่สอง นั่นคือเกาะหมาก

มาเกาะหมากเหมือนมาบ้านอีกหลัง เคยมาครั้งหนึ่งเมื่อสองสามเดือนที่แล้ว ครั้งนี้ได้กลับมาอีกรู้สึกดีใจมั่กๆ ภาพคุ้นตาเริ่ม recall กลับมาทันที

แบ่งนักท่องเที่ยวกระจายเป็น 3 กลุ่มเช่นเดิม แยกพัก 3 ที่ กลุ่มนึงไปพักเกาะหมากรีสอร์ท อีกกลุ่มพักชินนาม่อน เสียดายผมไม่ได้พักชินนาม่อน เพราะหนที่แล้วไปพักที่นั่นยังติดใจสะพานยาวๆ กับเรืออับปางอยู่เลย แต่มาคราวนี้ก็ได้พักที่ใหม่ เก็บสกอร์ไป ที่นี่ครับ มากะธานี รีสอร์ท วิวก็สวยไปอีกแบบนะครับ หน้าหาดได้ชมเกาะระยั้งใน เกาะกระยั้งนอก ถ้ามาถูกวันเวลา เช้าๆ น้ำลงล่ะก็หน้าเกาะระยั้งในจะกลายเป็นทะเลแหวก สันดอนทรายโผล่มาจรดฝั่งให้ได้เดินข้ามกันไปเลย ที่เกาะหมากถือเป็นต้นแบบการพัฒนา Low Carbon Destination ของอพท. เป็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่ถูกตามใจ Unspoiled Island ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีสกู๊ตเตอร์ ไม่มีช้อปปิ้งมอลล์ มีแต่ร้านรวงเล็กๆ ที่คุณจะได้รับเงินทอนไปพร้อมกับรอยยิ้มแถมท้ายเสมอ

กิจกรรมพายคายัคหน้าหาด

วิวหน้าหาดที่มากะธานี ทิวมะพร้าวเยอะ หน้าหาดมีทั้งชายหาด โขดหิน และวิวเกาะ มองเห็นทั้งระยั้งใน ระยั้งนอก และมองไกลไปถึงหมู่เกาะรัง

แถ่นแท้น ใช่ใครที่ไหน เราได้พบกันอีกแล้ว กับมิตรภาพที่เกิดขึ้นคราวมาเกาะหมากครั้งแรก ในครั้งนั้นได้คุณสุ มักคุเทศก์แห่งเกาะหมากคนนี้ มาอาสาพาเที่ยวจนหลงเสน่ห์ความเป็นเกาะหมาก มาครั้งนี้เมื่อเธอได้ข่าวว่าผมกลับมาเยือน ก็ตามมาเซอร์ไพร๊ เยี่ยมเยือนทักทาย ดีใจๆ

วิวยามเช้าหน้าหาด มากะธานี สวยมั้ยครับ หมู่เกาะทะเลตราดเริ่มเข้าสู่ high season แล้ว ฟ้าสวยทะเลใส มองไปทางไหนยามนี้ช่างสวยสบายตาไปหมด





ยุคนี้ต้องมีพร๊อพ ว่ามะ



เช้านี้กิจกรรมบนเกาะหมากคือนั่งรถรางพาชมแปลงผักปลอดสาร นาข้าวบนเกาะสำหรับชาวนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวทั้งหลายได้สัมผัสแหล่งวัตถุดิบพื้นถิ่น ที่เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยลดมลพิษ ลดคาร์บอน

ผมถ่ายให้แลดูเป็นรถรางซิ่งไปงั้นเองครับ แฮะๆ จริงๆ แล้วรถรางเค้าไปอย่างสโลว์มาก

แปลงผักปลอดสารของเกาะหมากรีสอร์ท ที่ดำเนินงานโดย คุณจักรพรรดิ ตะเวทีกุล ที่นี้มีแมงมุมพันธุ์พิเศษคอยกำจัดแมลงศัตรูพืชที่หลุดรอดเข้ามาจ้องทำลายผักในมุ้งด้วย




จากนั้นนักท่องเที่ยวที่กระจัดกระจายกันอยู่คนละรีสอร์ทก็มารวมตัวกันอีกครั้งที่นี่ เกาะหมากรีสอร์ท เพื่อทำกิจกรรมยังเกาะอื่นต่อไปพร้อมอำลาเกาะหมาก

ที่หน้าหาด เกาะหมากรีสอร์ท วิวสวยมาก ทิวมะพร้าวสูงชะลูดทิ้งตัวโค้งๆ ที่เห็นกันแทบทุกหาดบนเกาะหมากก็ไม่เว้นที่หาดนี้เช่นกัน แถมมีชิงช้าโรแมนติกให้นั่งเล่นด้วย ถ่ายภาพโล้ชิงช้าเล่นซะหน่อย

และมีกิจกรรมพายคายัคเช่นกัน



เอาล่ะครับ ได้เวลาอำลาเกาะหมาก สู่เกาะต่อไป เกาะขาม กับกิจกรรม ปล่อยเต่าทะเล ลงสู่ท้องทะเลกว้าง


ปล่อยเต่า @ เกาะขาม

เกาะขามอยู่ใกล้เกาะหมากมากๆ กิโลเดียว นั่งเรือไม่ถึงห้านาทีก็ถึงละ

อีกหนึ่งเกาะที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะทะเลตราด จนได้ชื่อว่าเป็น มรกตแห่งท้องทะเลตราด และมีเอกลักษณ์คือที่หน้าหาดมีโขดหินสวยๆ แปลกตา ซึ่งโขดหินเหล่านี้คือหินภูเขาไฟ

กิจกรรมปล่อยเต่ากลับลงสู่ท้องทะเลกว้างพร้อมแล้ว!!

สุขและอิ่มใจแค่ไหนกับกิจกรรมดีดีแบบนี้ สัมผัสได้จากสีหน้านักท่องเที่ยวแต่ละท่าน

สู่ท้องทะเลกว้างอย่างมีความสุขนะเจ้าเต่าน้อย //ปล. ปล่อยเต่าทะเลมาหลายหน ก็เพิ่งจะที่นี่แหละที่เต่าที่ปล่อยตัวใหญ่มาก

ขอบคุณภาพเต่าสวยๆ มุมมองแหวกว่ายใต้ทะเลจากกล้องโกโปรของน้องโม Monica Lee จากเพจ KitKat Kitten



ทิวมะพร้าวเขียวสดใส ตัดกับฟ้าสีครามในฤดู high season ทะเลตราด

โดดกันหน่อย มักคุเทศก์คุณสุ กับน้องโม กับฉากหลังหาดทรายขาวละเอียดและหินภูเขาไฟแห่งเกาะขาม




กิจกรรมความสุขดำเนินอย่างต่อเนื่อง จุดหมายต่อไปมุ่งหน้าสู่เกาะที่ 4 ของทริป เปลี่ยนเรือกันกลางทะเล ใช้เรือลำใหญ่ขึ้น มุ่งหน้าสู่ทิศทางไปเกาะช้าง เราจะแวะเกาะกลางทางกัน เพื่อทำอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ นั่นคือ...ไปปลูกปะการังกันที่เกาะหวาย

คุณสุ โบกมืออำลา ส่งพวกเรากันที่กลางทะเลนี้ก่อนจะหันหัวเรือเล็กกลับเกาะหมาก ไปเป็นมิสเกาะหมากตามเดิม พร้อมประโยคเดิมผุดขึ้นในความคิด คำอำลาเดียวกับคราวที่แล้ว here! everyone comes as a guest
and leave as a friend



ปลูกปะการัง @ เกาะหวาย

ถึงแล้วเกาะหวาย เกาะกึ่งกลางทางจากเกาะหมากสู่เกาะช้าง เรือเข้าเทียบท่า ณ ปลายสะพานท่าเทียบ ที่ทอดตัวยาวออกมาสู่แนวปะการังผลงานการปลูกและฟื้นฟูสภาพของเหล่าจิตอาสาผู้เชี่ยวชาญ

ยินดีต้อนรับ สู่ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน

ศ.ดร.ประสาน แสงไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูปะการังของประเทศไทย

มาบรรยายให้ความรู้ความเข้าใจและชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จเร่งด่วนของการฟื้นสภาพและเพิ่มพื้นที่แนวปะการัง

วิกฤตการณ์แห่งการสูญเสียปะการังจำนวนมากในท้องทะเลไทย ก่อให้เกิดแนวคิดในการขยายพันธุ์ปะการังเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟู

เมื่อทุกคนซึมซับและตระหนักถึงความสำคัญกันแล้วก็พร้อมทำกิจกรรมปลูกปะการัง กับโครงการวีนิไทยร่วมใจปลูกปะการัง 80,000 ต้น ที่เริ่มต้นเพื่อล้นเกล้า

นำกิ่งปะการังพันธุ์ต่างๆ ยึดไว้และขันให้แน่นกับท่อพลาสติกด้วยผลิตภัณฑ์อาสาจากท่อพลาสติกวีนิไทย www.vinythaicoral.org

ถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก และรับเกียรติบัตรเก็บไว้ โดยปะการังแต่ละกิ่งแต่ละคนจะมีเพลทสลักเลขที่เดียวกันกับบัตร

จากนั้นก็พักผ่อนลั่ลล้าขึ้นชมความงามของเกาะหวายตามอัธยาศัย เกาะหวายเป็นอีกหนึ่งเกาะที่สวยมากกก และน่าจะเป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้นที่สวยสมบูรณ์ที่สุดในท้องทะเลตราดด้วย


ปาร์ตี้ชายหาด ที่ เกาะช้าง

ได้เวลาอำลาอีกหนึ่งเกาะ มุ่งหน้าสู่เกาะสุดท้ายประจำทริป เกาะไฮไลท์ที่จะปิดทริปด้วยปาร์ตี้ชายหาดกันในค่ำคืนสุดท้าย เรือมาเทียบท่าให้เราขึ้นฝั่ง ณ สลักเพชรรีสอร์ทบริเวณอ่าวสลักเพชร


WorkShop SPA ศูนย์ธรรมชาติ บำบัดศึกษา

จากนั้นระหว่างทางมุ่งสู่ปาร์ตี้เราก็เลี้ยวเข้าทำกิจกรรม workshop spa ที่ The Spa Koh Chang resort แถวๆ อ่าวสลักคอก พิกัด N12° 01.744' E102° 23.203'

ที่นี่ เป็นรีสอร์ทเพื่อสุขภาพแห่งแรกของเกาะช้าง ให้บริการโปรแกรมสุขภาพต่างๆ มากมาย เช่น โปรแกรมล้างพิษ ลดน้ำหนัก speed fat down , โยคะ นั่งสมาธิ นวดบำบัด เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการมีสุขภาพดีแบบธรรมชาติบำบัด และการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แห่งแรกและแห่งเดียวในเกาะช้าง


เอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้ โลว์คาร์บอน @ เกาะช้าง

และแล้วค่ำคืนที่รอคอยก็มาถึง ค่ำคืนแห่ง Beach Party ที่รอคอยมาถึงแล้ว กับการรอคอยไฮไลท์การประชันฝีมือปรุงอาหารของเหล่าเชพกระทะเทพจากรีสอร์ทดังๆ หลายๆ แห่งบนเกาะช้าง อาทิ คชารีสอร์ท, ช้างบุรีรีสอร์ทแอนด์สปา, AANA รีสอร์ท, Dara, AWA รีสอร์ท, และ KC รีสอร์ท สถานที่ที่จัดงานปาร์ตี้นี้

กับวัตถุดิบที่เน้นเจาะจงให้เป็นสิ่งที่หาได้ในท้องถิ่นเท่านั้น ให้สมกับสโลแกน low carbon eat fresh

ผักสดผลไม้ แล้วกุ้งหอยปูปลามากันครบ




แต่แล้ว อยู่ไม่อยู่ งานขลุกขลักเล็กน้อย เนื่องจากเจอฝนนอกฤดู ที่ตกลงมาโครมใหญ่จนปาร์ตี้ชายหาดต้องชุลมุนใครเลยจะคาดคิดว่าจะเจอฟ้ารั่วกลางฤดูปลอดฝนแบบนี้ได้ บ่งบอกให้เห็นถึงสภาวะอากาศโลกเปลี่ยนแปลง อันมีผลมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศกันมาก และโลกเราได้มาถึงจุดวิกฤตที่พวกเราต้องหันมาทบทวน ใส่ใจและช่วยกันลดโลกร้อนกันอย่างจริงจัง!!!

ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผอ.อพท. ผู้ริเริ่มโครงการ Low Carbob Destination ให้เกียรติมาเป็นประธานในงานกล่าวถึงความสำคัญของกิจกรรม Low Carbon และขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน



เช้าวันใหม่หัวใจสีเขียวทุกท่านพร้อมลาจากหมู่เกาะทะเลตราด มุ่งหน้ากลับฝั่ง

แต่กิจกรรมยังไม่หมดเพียงบนเกาะ ยังมีผู้ประกอบการหัวใจสีเขียวอีกมากมายบนฝั่งที่พร้อมใจกันเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบใส่ใจธรรมชาตินี้

อย่างเช่นรีสอร์ทสวนอาหารและฟาร์มเกษตร บ้านปูรีสอร์ท ที่เราปิดทริปด้วยการแวะกินข้าวเที่ยงและเยี่ยมชมกิจการ

เป็นรีสอร์ทที่สวยน่ารักน่าพักมากๆ แอบถามราคามาก็ไม่แพงด้วย เริ่มต้นที่พันกว่าบ้านเท่านั้นกับทำเลเจ๋งเวอร์

และร้านอาหารริมป่าโกงการที่สุดโรแมนติก ชอบมาก โดยเฉพาะเมนูอาหารที่อร่อยสุดขีด ท้าให้มาลองชิมกันได้เลย

ภายในรีสอร์ทยังมีของซื้อของฝากคุณภาพมากมาย กุ้งหายอย่างดีขีดละ 90 ปูนิ่มที่เลี้ยงเองแช่เย็นบรรจุกล้องโฟม และอื่นๆ อีกมากมาย

welcome drink สารพัดน้ำสมุนไพร



แวะชมการเลี้ยงปูนิ่มด้วยในบ้านปูรีสอร์ท

และชมแปลงปลูกผักปลอดสาร ก่อนปิดทริปมุ่งหน้ากลับกอทอมออย่างอิ่มสุข

ขอบคุณ อพท. ที่เชิญชวนไปร่วมกิจกรรมดีดีในครั้งนี้

ติดตามเพจ Low Carbon Destination ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/lcd.chang.mak.kood/

ร่วมพูดคุยติดตามเรื่องราวการเดินทางต่างๆ ของเพจนายน้ำฟ้า Go Travel together กัน น้ำฟ้าป่าเขา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/Namfapakhao/

ขอบคุณครับ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า

ความคิดเห็น