หลายคนมองหาทริปสั้นๆ วันหยุดสองวัน โดยเฉพาะคนอยู่กรุงจะขับรถออกทริปก็ไม่อยากขับไปไกลนัก มันเหนื่อย กาญจนบุรีก็เลยเป็นตัวเลือกที่ดี และปลายฝนใกล้ต้นหนาวแบบนี้น้ำตกก็มักจะเริ่มสวย ผมเองก็คิดเช่นนั้นroad trip พิชิต 3 น้ำตกเมืองกาญจึงเกิดขึ้น รีวิวให้ดูมันส์ๆ เผื่อลอกทริปกันได้เหรอเอาไปปรับแพลนนิดหน่อย อย่างเช่นทริปนี้ เราควบน้ำตกผาตาดเข้ามากับห้วยแม่ขมิ้นและเอราวัณ รวบมาได้ยังไงคนละทิศละทาง ต้องลองอาจดูครับ
//ขอบคุณเชพโลเร็ตสนับสนุนพาหนะเดินทางในทริปนี้โฟว์วีล Chevrolet Trailblazer Z71 รถ SUV สไตล์อเมริกัน ระดับพรีเมียม พันธุ์แกร่ง โดยส่วนตัวผมก็เพิ่งได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับระบบความปลอดภัยแบบเซนเซอร์รอบคันครั้งนี้ล่ะครับ ตื่นเต้นชะมัดบ่องตง
นี่คือเส้นทางที่เกิดในทริปนี้ทั้งหมด รวมกับกรุงเทพ-กาญฯ ไปกลับอีก สองร้อยกว่าโล
ทริปนี้ขับรวม 600 กิโลเมตร
เริ่มจากเลิกงานตอนเย็นแล้วตีรถกลางคืนออกมาหาที่นอนในเมืองกาญ เพื่อที่จะได้เริ่มทริปในเช้าวันใหม่แบบตื่นมาก็อยู่ในเมืองกาญไปเลย
เส้นทางก็ตามนี้
กรุงเทพ - เมืองกาญ - เข้าที่พัก - ทุ่งดาวเรืองรวมใจภักดิ์ - น้ำตกเอราวัณ - เข้าที่พัก - น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น - จุดชมวิวเนินสวรรค์ - น้ำตกผาตาด - เมืองกาญ - กรุงเทพ
บ้านมะเฟือง ที่พักหลักร้อย เกสเฮาส์ที่น่าพัก กลางเมืองกาญฯ ไว้จะมารีวิวย่อๆ ให้ตามลิงค์นี้ครับ ( รอลิงค์ )
พิกัดบ้านมะเฟือง https://goo.gl/maps/TJsV6JCCzHp
google search https://goo.gl/LJSDK8
Day1 เริ่มทริปวันแรกด้วยการแวะมาที่นี่
ทุ่งดาวเรือง รวมใจภักดิ์ อยู่หลังเขาทอง แถวๆ อบต.แก่งเสี้ยน เป็นสถานที่ที่ปลูกต้นดาวเรืองบนพื้นที่หลายไร่มาก กว่า 450,000 ต้นและทำเป็นสัญลักษณ์เลข ๙ ซึ่งเปิดให้ชมถึงเพียงวันที่ 20 ตค. เท่านั้น เนื่องจากดาวเรืองที่นี่ไม่ได้ปลูกลงดิน แต่เป็นการปลูกเตรียมสำหรับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙
ก็เลยถือโอกาสแวะมาชม
น้ำตกเอราวัณ
ปลายฝนต้นหนาว เกร็งไว้ว่าสวยแน่นอน และก็สวยตามคาด หลังจากย้อนไปเมื่อ 4 เดือนก่อนแวะมาทีนึงน้ำน้อยปริ่มจะขาดใจจนน่าตกใจ แต่ก็เกร็งพลาดที่มาตรงวันอาทิตย์ ดูสิครับ คนตรึมอันนี้ชั้นแรก "ไหลคืนรัง"
มาถึงชั้นที่สอง "วังมัจฉา" คนไม่ได้น้อยลงนะครับ หาจังหวะ ถ่ายๆ อยู่คนก็เข้ามา เป็นแบบนี้หลายช๊อท สุดท้ายเออมีคนก็ดีเหมือนกัน
มาถึงชั้นสาม "ผาน้ำตก" มาถึงชั้นนี้ฝรั่งตรึม เยอะกว่าคนไทยอีก สงสัยยอดนิยม เชื่อว่าฝรั่งหลายคนต้องดั้นด้นเดินทางมาตามหาชั้นนี้เพื่อเช็คอินโพสอวดเพื่อนๆ เค้าในโซเชียล นี่ถ่ายมาหลบคนสุดริดละ หลังกล้องนี่คนตรึม เหอะๆ
สุดท้ายก็ไปไม่ถึงสวรรค์ชั้น 7 น้ำตกเอราวัณเจ็ดชั้นเราตัดสิ้นใจจบแค่ชั้นสาม เพราะคนเยอะเกิน ฟ้าดูท่าไม่ดีด้วย และบ่ายมากแล้ว ปลายทางยังอยู่อีกเกือบแปดสิบโล
หมายถึงที่พักที่เราจองไว้นะ และเวลานี้ก็สี่โมงเย็นแล้วอยากจะไปให้ทันแสงทไวไลค์ก็ยังดี ก่อนออกจากเอราวัณฝนก็กระหน่ำ หลบฝนสักพักใหญ่ถึงจะกลับมาเอารถได้ ลานจอดรถที่แทบล้นตอนนี้โล่งโป่งตาเลย นทท.กลับกันแทบเกลี้ยงละ เลยแอ๊คท่ากะรถซะเลย
เป้าหมายถัดจากน้ำตกเอราวัณก็คือห้วยแม่ขมิ้น แต่เราจะไม่ไปแบบทางธรรมดา ซึ่งขับกันสี่สิบกว่าโล ทางราดยางอย่างดีเลาะซ้ายหลังเขื่อนศรีฯ สมัยก่อนเส้นนี้อย่างกะโลกพระจันทร์ หลุมบ่อเพียบ จนผู้คนขยาด ต้องไปวิ่งฟากขวาของเขื่อน แล้วข้ามแพ้ขนานยนต์หรือที่เรียกว่า "เท้ง" เอา ไกลกว่าเยอะแต่ก็ทำเวลากว่าเยอะ
แต่ทริปนี้เราขอย้อนอดีต กลับมาวิ่งเลาะขวาเขื่อนศรีฯ อีกครั้ง แล้วข้ามเท้งไปห้วยแม่ขมิ้นย้อนรอยเส้นทางฮิตในอดีต
เส้นทางคดเคี้ยวเลี้ยวโค้งมาก ดูท่าจะไปไม่ทันทไวไลค์แล้วล่ะ เลยตัดสิ้นใจใช้บริการเท้งจุดแรก ตรงนี้เป็นเท้งท่ากระดาน ข้ามสั้นๆ ช่วงแคบๆ ไม่ถึงโล ค่าข้ามยี่สิบสามสิบบาทประมาณนี้ ร่นระยะทางไปได้ เกือบยี่สิบโลเต็มๆ ประหยัดเวลาดีใช้ได้เลย ตัดสินใจถูก
เท้งท่ากระดาน ข้ามกลางสายฝนกันเลย
ข้ามเท้งแล้วก็ขับต่อทะลุถนนใหญ่อีกครั้งก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปอีก 11.6 กิโลก็ถึงปากทางเข้าจุดลงเท้งข้ามไปห้วยแม่ขมิ้น ที่พักเราอยู่ตรงนั้น ตรงจุดลงเท้งนั่นแหละ เลี้ยวเข้าไปอีก 5 กิโลจากป้ายนี้
เลี้ยวซ้ายตรงนี้ แต่ขอจอดแวะซื้อขนมคบเคี้ยวกับเบียร์สักขวดสองขวดก่อน
5 กิโลสู่เท้ง ทางไม่ค่อยเป็นมิตรกับเก๋งเท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าจะมาก็มาได้ถ้าไม่รักช่วงล่างมาก 555 เก๋งมาได้ครับ ค่อยๆ ขับละกัน
จอจีพีเอสในรถจะเห็นว่าเรากำลังมุ่งหน้าสู่ปลายแหลมเล็กๆ นั่นแหละจุดข้ามแพขนานยนต์หรือที่แถวนี้เรียกกันว่าเท้ง
ถึงแล้ว โพล้เพล้พอดี
Sweet Home Floating House
เปิดไฟสูง กระพริบไฟน้า ปิ๊ดๆๆๆ ส่งสัญญาณให้คนบนเกาะเอาเรือมารับ เราจองแพพักไว้ที่นี่
พิกัดเกาะ https://goo.gl/maps/aX1XJESQ8yo
เรือเครื่องมารับละ เห็นติดเครื่องบิดทีเดียวแล้วก็ปล่อยคันเร่งคว้าด้ามพายมาคัดท้ายถึงเลย เร็วมาก เพราะว่าห่างฝั่งแค่ร้อยเมตร
ฝนเริ่มลงเม็ดอีกครั้ง ดีนะมาช้ากว่านี้เนี่ยโชกแน่ เพราะต้องขนกระเป๋าลงเรือด้วย
แสงสุดท้ายกลางสายฝน บนเกาะน้อยๆ ยังมองเห็นสถานที่ไม่ค่อยถนัด เพราะบนนี้ไฟฟ้ามาจากเครื่องปั่น ซึ่งสว่างพอให้เห็นเป็นบริเวณๆ มุมนี้มองฝ่าความมืดไปน่าจะเป็นกระชังปลา คืนนี้ก็กินอาหารบนแพพร้อมเครื่องดื่มโปรดที่ติดมาจากบนฝั่งแล้วก็เข้านอนฟังเสียงสายฝน
Day2
Good Morning a little island
ฝนมาขาดเม็ดเอาตอนเช้า เปิดหน้าต่างสำรวจโลกภายนอกซะหน่อย เปิดมาเจอวิวผืนน้ำแบบนี้เลย บรรยากาศใช้ได้เลยล่ะ
เดินสำรวจรอบๆ เปลตรงนี้น่านอนชะมัดถ้าอยู่ต่ออีกคืนขอจองเป็นมุมงีบตอนบ่ายแก่ๆ ทิศทางหลบแดดบ่ายพอดี
มองกลับขึ้นไปบนฝั่งเห็นรถจอดอยู่สองคัน คันนึงก็คือคันของเรานั่นเอง Chevrolet Trailblazer Z71 ใช่แล้ว รถเพียงสองคันก็หมายถึงมีแขกเข้าพักเพียงสองเจ้า นั่นแปลว่าเกาะนี้โคตรส่วนตั๊วส่วนตัว ไม่ห้องพักไม่กี่ห้อง นี่ถ้ายกกลุ่มมาเหมาแพโคตรฟิน
อันนี้มุมด้านหน้าห้องพัก มุมนี้แหละที่เสริซเจอในเนทแล้วตัดสินใจจองมา สระส่วนตัวแบบไม่ต้องวิลิศมาหรา ไม้รวกนี่แหละ แต่กระซิบบอกก่อน ข้างล่างโปร่งนะ ไม่มีตะข่าย มุดน้ำดำลอดออกไปข้างนอกได้ แต่เท่านี้ก็เพีียงพอละ โดดลงไปว่ายๆ ออกไปมีที่ให้เกาะดีกว่าเวิ้งว้างว่างเปล่า อิอิ
มายืนขอบสระแล้วมองย้อนกลับไป แพพักสไตล์มุงจากแบบนี้ผมชอบนะ ดูบรรยากาศบ้านๆ ดี
แพนไปรอบๆ นั่นมุมกระชังปลาที่มองฝ่าความมืดเมื่อคืน และก้ถัดเข้ามาเป็นซุ้มที่นั่งกินดินเนอร์เมื่อคืนด้วย เด๋วจะไปกินมื้อเช้าต่อก่อนจะเช็คเอาท์เดินทางต่อ
ใช้เวลาอยู่จนสายๆ ก็กลับขึ้นฝั่งครับ มองย้อนกลับไปเกาะอีกทีก่อนโบกมือบ๊ายบาย
ของขึ้นรถเสร็จก็เตรียมตัวเดินทาง วันนี้เราจะเริ่มด้วยการเอารถข้ามเท้งไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
มารอเท้ง วันนี้วันธรรมดาเท้งวิ่งลำเดียว ลำนี้ไม่วิ่ง ก็เลยโทรตามเท้งอย่าให้พี่คอยนานนักนะ เดี๋ยวนี้คนใช้เท้งน้อยลงตั้งแต่ถนนสู่ห้วยแม่ขมิ้นเส้นที่สั้นกว่าราดยางอย่างดีคนก็แทบไม่ค่อยมาใช้เท้งกันแล้ว
มาแล้วเท้ง
ค่าบริการ :
รถจักรยานยนต์ คันละ 50 บาท
รถตู้คันละ 200 บาท
รถเก๋ง-รถปิคอัพ คันละ 200 บาท
ถ้าข้ามคันเดียวต้องจ่ายเหมาเท้ง 300 บาท
ถ้ามาแล้วไม่เจอเท้งโทรตามได้ 086-1622964, 092-6035171 ไม่ต้องจดก็ได้ ไปรอเท้งแถวนั้นก็มีเบอร์โทรแป่ะอยู่
เหมาเท้งครัช 300 บาท จัดไป สองกาบเรือเป็นที่นั่งที่นอน นอนยาวไป 4.5 กิโลแล่นเกือบชั่วโมง
ขึ้นฝั่งแล้วก็ขโยกขเยกไปตามลูกรัง ผิวทางไม่ค่อยจะดีนัก ใครพาเก๋งมาทำใจวิ่งไปหน่อย เป็นลูกรังแบบนี้ 5 โล ที่เหลือก็ราดยางแล่นฉลุย ระยะทางรวม 8.5 โลถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
มาถึงห้วยแม้ขมิ้นก็เที่ยงพอดี ตรงกับวันจันทร์ คนโหรงเหรงดี ถ่ายน้ำตกสบายแน่ แต่แล้วก็เสียใจ น้ำแดงและก็แรงมาก ธรรมดาที่นี่จะต้องสวยพีคเดือนนี้นะ อันเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวของกาญฯ แต่หลายวันมานี้ฝนตกกระหน่ำมาก กระน่ำซะจนน้ำแดงเลย ซึ่งธรรมชาติของห้วยแม่ขมิ้นเนี่ยเป็นน้ำตกหินปูนที่สีน้ำจะเขียวมรกตสวยสุดๆ คาดว่าถ้าฝนหมดไปสักสัปดาห์นึงน่าจะสวยเข้าสู่ช่วงพีคล่ะครับ
ภาพนี้ชั้นที่ 1 "ดงว่าน" แดดเที่ยงส่องรอดใบไม้ผิวน้ำแดงๆ กระดำกระด้าง ไม่สวยเลย แงๆ
ไล่ขึ้นมาชั้น 2 "ม่านขมิ้น" รถเราจอดชั้น 4 นะครับ แต่เดินลงมาเริ่มเก็บภาพที่ชั้นแรกแล้วย้อนกลับขึ้นไปชั้น 4 ก่อนจะเดินเลยไป 5 6 7 ครบทุกชั้น เดี๋ยวนี้ทางเดินทำไว้ดีมากๆ
ชั้น 3 "วังหน้าผา" น้ำแรงมากจนเลยจนน่าเล่น กลายเป็นเริ่มน่ากลัวละครับ เหอะๆ ไปต่อดีกว่า
ชั้นพระเอก ชั้น4 "ฉัตรแก้ว" จะสีผิวน้ำจะกลายเป็นสีชานมเย็น แต่ก็ยังไว้ลายสวยสมศักดิ์ศรีดีกรีน้ำตกระดับท็อบเทนของประเทศ สุดท้ายเราเก็บภาพจบที่ชั้นนี้ ไม่ไปต่อแล้ว 5 6 7 ไกลด้วย แถมเดาไว้ได้เลยวันนี้ไม่ใช่วันสวยของห้วยแม่ขมิ้น แต่หลังจากนี้ไปสักอาทิตย์นึงเป็นต้นไปจนกว่าจะหน้าแล้งน้ำน้อยอีกครั้งก็ขออิจฉาคนที่ได้มาล่ะครับ
แล้วก็ได้เวลาลุย
เมื่อค่อนข้างผิดหวังกับแม่ขมิ้น ก็เลยตัดสินใจไปเสี่ยงโชคกับผาตาด น้ำตกตัวสุดท้ายในแพลน อันเป็นน้ำตกที่ถือว่าอยู่ในพื้นที่อุทยานฯเดียวกันกับห้วยแม่ขมิ้น ผิดกันแค่ห้วยแม่ขมิ้นนั้นอยู่ซีกตะวันออกติดเขื่อนศรีฯ ส่วนผาตาดนั้นอยู่ซีกตะวันตกฝั่งอ.ทองผาภูมิ เส้นทางปกติจะต้องไปกันแบบย้อนทางลงน้ำตกเอราวัณ ออกเขื่อนศรีฯ ผ่านเขื่อนท่าทุ่งนาเลี้ยวใช้ 3457 เพื่อลัดไป 323 ผ่านไทรโยค ขึ้นไปทองผาภูมิ รวมระยะทาง 159 กิโล... โหดไป เจอแบบนี้ขี้เกียจไปละ
แต่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือก กูเกิ้ลแม็บบอกเราว่ามีทางที่สั้นกว่า ตัดเขาข้างฟากไปฝั่งทองผาภูมิเลย หกสิบกว่าโลเท่านั้น แม้จะใช้เวลาน้อยกว่ากันไม่เท่าไหร่เนื่องจากทางส่วนใหญ่ตัดไปในทางป่า เส้นนี้ผมเคยขับผ่านมาแล้วเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นวิ่งมาจากลำคลองงู เลาะขอบป่าทุ่งใหญ่ ผ่านห้วยคลิตี้ มาทะลุห้วยแม่ขมิ้น จำได้ว่าทางช่วงที่ชันที่สุดก็ตรงปลายทางห้วยแม่ขมิ้นนี่แหละซึ่งตอนนี้ก็ราดยางไปเรียบร้อยแล้ว เราสอบถามสภาพเส้นทางอีกครั้งให้แน่ใจกับจนท.อุทยาน จนท.มองรถเราทีนึงแล้วเงยหน้ามาบอกว่าโอเคเลยคร่าาาา รถสูงไปได้ฉลุยทางไม่ยาก นั่นแสดงว่าเก๋งคงไม่ควรไปนั่นเอง อ่ะ ลุยโลด
จากแผนที่เส้นสีชานมเย็นคือลูกรังภูเขาอัดแน่น ระยะทาง 33 โล ทะลุจุดชมวิวเนินสวรรค์ จากนั้นก็จะเป็นทางราดยางทะลุออก 323 ทองผาภูมิ ระหว่างเส้นทางในนั้นสัญญาณเนท สัญญาณมือถือบอดแทบสนิทนะครับ ดังนั้นก็ถึงเวลานำทางด้วย Garmin GPS ตัวเก่งของผม
ได้เวลายัดโฟล์ไฮ ขับสี่ แม้สภาพเส้นทางนั้นขับสองก็ไปได้ แต่ผิวทางแบบนี้ขับสี่ four Hi มันส์กว่า อิอิ
จุดชมวิวเนินสวรรค์
elev.> 640 m. จากระดับน้ำทะเล
พิกัด https://goo.gl/maps/8JbzkoSKhvF2
30 โลพอดีๆ เราก็ทะลุมาจุดชมวิวเนินสวรรค์สรุปสภาพทางที่ผ่านมา ไม่มีทางชัน ไม่มีหลุมบ่อลึก ผิวทางค่อนข้างดีมีสลับผิวคอนกรีตเป็นช่วงๆ ตรงที่ชันๆ เรียกว่าเส้นนี้ใช้ได้ทุกฤดู เก๋งใจถึงไม่เกรงใจช่วงล่วงและไม่โหลดเตี้ยก็ไปได้หมดครับ ใช้เวลาขับมาชั่วโมงนึงพอดิบพอดี
มาถึงจุดชมวิวเนินสวรรค์บ่ายแก่ๆ วิวเปิดไปทางทิศตะวันตก แสงแยงตา แสดงว่าจุดชมวิวนี้จะสวยช่วงเช้า เผลอๆ ด้านหน้านี่จะเป็นแอ่งทะเลหมอกด้วยซ้ำ เดาล้วนๆ
จากนั้นทางก็ลงเขาเบาๆ สองกิโล หมดถนนลูกรัง เขาสู่ราดยางทางตรงมุ่งหน้าทะลุออกถนนใหญ่ ค่อยทำความเร็วได้หน่อย
น้ำตกผาตาด
ออกสู่ถนนใหญ่ 323 ถนนแสงชูโตอีกครั้งช่วงกม.108 กาญจนบุรี-ทองผาภูมิ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปทองผาภูมิ ซึ่งสามแยกทองผาภูมิอยู่ห่างออกไปอีกเพียง 16 กิโลเมตร แยกซ้ายจะไป อ.ไทรโยค เรื่อยไปถึง อ.เมืองกาญ เราแยกซ้าย ตรงไป 3.4 กิโลก็ถึงทางแยกเข้าพุน้ำร้อนหินดาด เลี้ยวซ้ายเข้าไปผ่านพุน้ำร้อน และไปตามป้ายน้ำตกผาตาด 6 กิโลเมตรเท่านั้นจากปากทางถนนใหญ่ ก็มาถึง หน่วยพิทักษ์ป่าฯศร.4 (ผาตาด)
พิกัดนำทางลานจอดรถ https://goo.gl/maps/UxbHUNrfamF2
ขากลับออกเราก็ใช้อีกเส้นทาง ไม่ย้อนทางเดิม ระยะทาง 7 กิโล ทางจะพาไปโผล่ที่อีกทาง ห่างจากแยกพุน้ำร้อนหินดาดมาประมาณ 2 โลเศษ ร่นระยะทางได้อีกหน่อย
น้ำตกนี้สมใจอยาก สวยตลึง สวยแบบโลกลืม แปลกใจที่ความสวยขนาดนี้ไหงชื่อชั้นกลับไม่ท๊อบฮิต
เป็นน้ำตกที่ภูมิประเทศแปลกตาสำหรับผมที่เที่ยวน้ำตกมานักต่อนักยังต้องครางฮือ คือมันเหมือนหลุดเข้ามาในมิติที่ป่าทั้งป่ามองไปทางไหนก็มีสายน้ำบ่าไหลไปทุกทิศทุกทาง!
ผาตาด ตาดแปลว่าน้ำตก ผาตาดก็น่าจะหมายถึงหน้าผาที่เต็มไปด้วยน้ำตก แต่ผมในความรู้สึกที่ได้เห็นกับตาอย่างเรียกน้ำตกนี้เสียใหม่ว่า ป่าน้ำตก
สายน้ำถ้านับจำนวนชั้นคงนับไม่ถูกกันล่ะ ไม่มีป้ายชั้นด้วย เคยอ่านเจอมาว่าเค้าบอกมี 3 ชั้น แต่จริงๆ มันเหมือนเราตกอยู่กลางวงล้อมของน้ำตกขนาดใหญ่มากที่นับชั้นไม่ได้
ต้องลองมาสัมผัสเองครับ ว่าจะเห็นด้วยกับผมมั้ย ระยะทางเดินก็ไม่ถือว่าไกล เทรลเดินสั้นๆ เดินให้สุดนี่ 300-400 เมตรเท่านั้น ใครขี้เกียจเดินเนี่ยจอดรถก็มองเห็นน้ำตกแล้วแทบไม่ต้องเดินไปไหน
ถ่ายภาพสนุกมากแม้จะมาถึงในเวลาจวนเจียนที่แดดรำไรๆ ใกล้หมด
นี่ชั้นแรกริมทาง ที่ผมว่าไม่ทันต้องเดินก็เห็นตัวน้ำตกแล้ว
ชั้นแรกมุมกว้างๆ อีกมุม ไอ้ขอนไม้นี่ทำผมลังเลอยู่เป็นนานแล้วจะเดินข้ามไปดีมั้ย สุดท้ายก็ตัดสินใจข้าม คือมันเป็นคล้ายๆเกาะกลางน้ำตก ถ้าข้ามไปได้ก็จะได้ตั้งกล้องถ่ายกลางๆ หน่อย ตกไม่กลัวเปียก ที่กลัวคือกล้องเลนส์พัง
ข้ามมาแล้วก็ได้มุมแบบนี้
และมุมนี้
ถ่ายไปเรื่อยๆ ให้หนำใจ ไม่รู้ว่านี่จะเป็นช่วงสวยที่สุดของผาตาดมั้ย เพราะก็ไม่เคยมา ถ้าเปรียบกะห้วยแม่ขมิ้นที่น้ำไหลแรงจนแดงเกินไปถ้าที่นี่ชะตากรรมเดียวกันก็แปลว่าผาตาดต้องสวยกว่านี้ได้อีก แอ่งน้ำอาจจะเขียวมรกตสไตล์น้ำตกที่เกิดจากเทือกเขาหินปูนทั่วๆ ไปเช่นน้ำตกเอราวัณกับห้วยแม่ขมิ้นก็เป็นได้
แล้วได้เวลาปิ๊คบ้าน ไม่มีเวลาพอจะเล่นน้ำตกเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาเล่น คิดอยู่เหมือนกันว่ามีโอกาสจะมาใหม่และจะมากางเต็นท์นอนที่นี่คืนนึง ลานกางเต็นท์ก็อยู่หน้าน้ำตกนี่เลยล่ะ เห็นมีคนมากางนอนอยู่บ้างเหมือนกัน
แล้วก็เดินทางยาวๆ กลับกรุงเทพ ปิดทริป 1คืน 2วัน road trip พิชิต 3 น้ำตก
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.57 น.