"ไปขึ้นภูกระดึง" นี่คือคำแรกที่ผมพูด เมื่อคุณแฟนเอ่ยชวน จริงๆมันก็ไม่มีอะไรมากแต่วันที่ไปนี่สิ มันคือวัน "สงกรานต์" ใช่ครับกลางเดือนเมษา ที่ร้อนตับแล่บ แต่ด้วยความที่ ไหนๆผมก็เคยโม้ว่า เดินขึ้นภูนี่มันเด็กๆมาก(20 ปี ก่อนนะ) เอาน่าไหนๆช่วงนี้เราก็ฝึกวิ่งบ่อย มันก็น่าจะไหว เลยตัดสินใจ ไปก็ไป ภาระกิจใช้ร่างอย่างระห่ำจึงบังเกิด ปล พฤติกรรมนี้ไม่ควรลอกเลียนแบบ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ นะครับ

เราเริ่มต้นเดินทางจากจังหวัดชลบุรี เย็นวันที่ 12 เมษา ออกจากชล ผ่าน กทม ไปเส้นมิตรภาพ รถก็ติดเรื่อยๆ ตามประสาวันสงกรานต์ จนผ่านลำตะคองที่มีการก่อสร้างอยู่ ถึงสีคิ้ว จึงแยกไปเส้น 201 ไปที่ชัยภูมิ ถนนช่วงนี้วิ่งสบาย ไปจนถึงชุมแพ ถึงตอนนี้ ขับมา 11 ชม เริ่มไม่ไหวเลยพักนอน รร ข้างทาง นอนได้ 2 ชม ก็ตื่น แล้วไปต่อที่ภูกระดึงถึงตีนภู 9:30 ติดต่อที่พักบนภู นี่โล่งมาก จะนอนบ้านก็มีแต่นอนหลังละ 6 คนขึ้นไป เราเลยเปลี่ยนใจนอนเต้นท์ แทน ค่าที่คนละ 30 ค่าเครื่องนอน(ถุงนอน, แผ่นรอง, หมอน) 60 ต่อคน ค่าเต้นท์ 200 ค่าที่จ่ายด้านล่างแต่ค่าอุปกรณ์ นอนไปจ่ายด้านบน แต่ถ้านอนบ้านพักต้องจ่ายด้านล่าง เอาล่ะ ชำระค่าธรรมเนียมเสร็จ ถ้าใครจะจ้างลูกหาบแบกของก็ไปติดต่อ ต่อไปแต่ของผมแบกเอง ก็ไม่ต้องไปได้เลย น้ำหนักสำภาระ ผม 17 กก คุณแฟน 7 กก

และแล้วเราก็มาถึงหน้าด่านของทางขึ้นสวรรค์

แผนการวันนี้ เราจะค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ โดยคุมอัตราการเต้นของหัวใจไม่ให้สูงเกินไป แต่ละจุดพักเราจะพัก แค่พอหายเหนื่อยนิดหน่อยแล้วไปต่อทันที เพื่อป้องกันอาการขาตายจากการพักนาน

คนพร้อม ของพร้อม ลุยเล้ย

เนื่องจากผมเริ่มเดินขึ้นเวลา 10:30 ซึ่งแดดกำลังดี เหมาะแก่การปิ้งย่างมาก เลยเดินช้ามากๆ เพราะไม่อยากให้หัวใจเต้นแรง จนมาถึงป้ายแรก ปางกกค่า ทางเดินช่วงนี้ ร้อนระอุเลย แต่ที่เจออย่างนึงคือ ถ้ามีลมพัด อากาศก็ไม่ได้ร้อนอ้าวมากนัก

และแล้วเราก็มาถึงจุดแรก ซำแฮก มีป้ายบอกความชันให้รู้สำดีว่าเหลืออีกเยอะ เราพัก พอหายเหนื่อยนิดหน่อย ก็ไปกันต่อทันที เรายังใช้วิธีเดินคือก้าวสั้นๆ ไปเรื่อยๆ ไม่หยุด


มาถึงซำต่อไป ซำบอน ทางช่วงนี้ยังเหมือนเดิมแต่ความชันนี่สบายๆ คงเพราะเจอชุดใหญ่ที่ซำแฮกมา

ตรงนี้ไม่มีจุดพักอย่างทางการ ช่วงนี้มีเมฆมาบังพระอาทิตย์ให้บ้าง เลยไม่ปิ้งย่างเท่าไหร่

ซำต่อไป ซำกกกอก ก็ยังคงไม่มีอะไรให้กิน มีแต่ความชันที่เพิ่มข้น

แล้วต้องบอก ที่เขียนว่า ซำกอซางอีก 200 เมตรน่ะ ใจอยากจะบอกว่า ทำไมไม่ถึง ซักที

ในที่สุดเราก็ถึงจุดพัก ซำกอซาง วันนี้มีเปิดแค่ 3 ร้าน เราแวะดื่มน้ำ เติมน้ำตาลด้วย แดงโซดา แม่ค้าบอกว่า จุดต่อไปที่มีร้านคือ ซำแคร่เลยนะ

จุดนี้เราตามกลุ่มลูกหาบทันแล้ว และช่วงนี้เรียกพร่านพรานแป เดินสบายทางปูน แต่ความชันนี่ ขอบอกว่า สบายๆ



กว่าจะผ่าน พร่านพรานแปได้ เอาเรื่องเหมือนกัน ไหล่เริ่มปวด จากการแบกก น้ำหนัก แถมมีปิ้งย่างตลอด

เรียกว่าพอถึงซำกกหว้านี่แทบแผ่เลย ดีที่อากาศแถวนี้ค่อนข้างเย็น ผมเลยนั่งพัก พร้อมๆเหล่าลูกหาบ แต่ร้านไม่เปิดเลยนะครับ พอเริ่ม ดีขึ้นก็ไปกันต่อ

และแล้วเราก็มาถึงซำกกโดน มีบ้านพัก จนท ร้านอาหาร ที่ไม่เปิด มีร่องรอยสายไฟกันช้าง ต้นไม้ใหญ่ขึ้น

ถึงนี่ก็อีกไม่ไกลล่ะ พักซักแป๊ป ก็ไปต่ออีก

ส่วนตัวผมชอบทางช่วงนี้นะ ดูเป็นป่าดี ร่มรื่นไม่ร้อนมาก พอเราถึงซำแคร่ เลยต้องหยุดเติมเกลือแร่ คาร์โบไฮเดรท เพื่อเตรียมใช้ที่ทางช่วงขึ้นหลังแป มีเจ้าถิ่นมาต้อนรับด้วย

ยิ่งใกล้ถึงหลังแป ทางจะเริ่มมีบันได มาให้เดินเรื่อยๆ ยิ่งโค้งสุดท้ายเจอบันไดที่ทอดยาวนี่ สนุกมากเลยขอบอก

และแล้วเราก็ถึงหลังแป ระยะ 5.5 กม เดิน 10:30 - 14:00 ใช้เวลา 3 ชม มาถึงก็ผิดหวังอย่างแรง เพราะจำได้ว่าที่หลังแป มีร้านอาหาร( 20 ปีก่อน) แต่ตอนนี้ไม่มีมีแค่ร้านขายน้ำ เราเลยกินน้ำเย็น (30 บาท) พักถ่ายรูปแล้วไปต่อที่จุดกางเต้นท์ วังกวาง ก็เดินไปอีก 3 กม แบบทางราบ

ถึงวังกวาง เราก็เข้าเต้นท์กินข้าว แล้วก็เดินต่อไปผาหมากดูก

เดินสบาย 2 กมแค่นั้น สิ่งนึงที่ ผมรับรู้ถึงความเปลี่ยนไป ภูกระดึงวันนี้ มีต้นไม้เยอะขึ้น และนี่คงเป็นสาเหตุที่ผมรู้สึกเย็นสบายตลอดเวลา แม้แม่ค้าจะบอกว่าวันนี้ร้อนกว่าวันก่อนๆ อากาศ น่าจะประมาณ 25 องศา ทั้งๆที่เป็นเวลา บ่าย 3-4 แล้ว

และนี่คือเอกลักษณ์ของภูกระดึง หน้าผา แะ สน 2 ใบ 3 ใบ

พระอาทิตย์ตก อากาศก็เริ่มเย็นจนไม่ได้รู้สึกเลยว่านี่คือหน้าร้อน ผมรีบเข้านอน เพราะว่ามีแผนจะตื่นมาถ่ายทางช้างเผือก กลางดึก

และนี่คือทางช้างเผือกถ่ายช่วงเวลาตี 2 ที่บริเวณ วังกวาง แถมมีกวางออกมาเป็นฝูงเลย ผมก็ไม่กล้าออกไปไกลด้วย


วันรุ่งขึ้นเนื่องจากเวลามีน้อย ผมเลยลงจากภูกระดึงเลยพร้อมกับความคิดที่ว่า ถ้าไม่รู้จะหลบร้อนไปไหน คงได้มาอีกแน่ แล้วเจอกัน ภูกระดึง เดือนเมษา

ลงจากภู ผมมีแผนจะไปถ่ายทางช้างเผือกที่ชัยภูมิ ที่ มอหินขาว จากภูกระดึงเดินทางไม่ไกลมากเราก็มาถึง มอหินขาว วันที่ไปเจอนักถ่ายภาพหลายคนอยู่ แต่ถ้ามาคนเดียวนี่ผมไม่กล้าแนะนำครับเพราะเปลี่ยว และ จนท บอกว่าบางที่ก็มีวัยรุ่นขึ้นมา ตอนดึกๆ ด้วย

ก็ขอลาไปด้วย วิวมอหินขาวนะครับ ขอบคุณที่อ่านรีวิวนี้ แชร์ได้ไม่ต้องขอครับ


Sinard Narktubtee

 วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 11.52 น.

ความคิดเห็น