ไปเที่ยวเลห์ กันไหม ?

ไปสิ เลนี่ไม่ใช่ทะเลนะจ๊ะ แต่เป็น เลห์ ลาดัก

ทริปนี้เราเดินทางช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา (2018)

วางแพลนนานไหม ? ก็ไม่นานนะ เพราะที่นี่แพลนอะไรก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

หรือไม่ก็จะให้ที่พักจัดการให้ทุกอย่างเลย

ความเตรียมพร้อมของเรา คือ การจองตั๋ว

เมื่อตั๋วมี แพลนก็จะเกิด

ที่เราอาศัยช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ก็เพราะจะได้เดินทางได้หลายวัน

มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็ต้องพึ่งแบบนี้

yf7gxpl44brk

ถ้าพูดถึงประเทศอินเดียตอนนี้ คงเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคน

และเป็นดินแดนที่สักครั้งต้องไปเยือนสักครั้งให้ได้

บางคนเพราะนึกถึงประเทศอินเดียก็บายแล้ว

จริงๆเราก็เป็นคนนึงที่ไม่คิดว่าจะไปมาก่อน

แต่พอเห็นจากหลายๆคนไปเที่ยวมาแล้ว

เห้ยย ! มันดีอ่ะ ลองสักครั้งในชีวิตก็ไม่เสียหาย

เที่ยวตอนยังมีแรงดีกว่าไม่มีแรงให้เที่ยว

หลังจากนั้นก็แพลนคร่าวๆไว้ ครั้งนี้ขอเดินทางยาวกว่าทุกครั้งหน่อย

เพื่อไปสัมผัสการใช้ชีวิตที่นั่น

ที่ที่สัญญานไม่ค่อยมี ที่ที่วิวมันสวยไปหมดมุมไหนก็สวย

ที่ที่หมดห่วงที่คนข้างๆจะวางโทรศัพท์ลง

แล้วอยู่กับสิ่งข้างหน้า การเดินทางร่วมกัน

การเดินทางที่เอาแน่นอนกับสภาพอากาสไม่ได้ มันท้าทายดีนะ

ครั้งนี้เราแพลนจะชวนเพื่อนไปด้วย แต่ก็โดนเท

แต่ไหนๆ 2 คนก็ลุยได้ แต่ถ้าไปกันเยอะๆคงจะสนุกกว่า

และตัวหารทริปเที่ยวก็ลดไปอีก ซึ่งค่าใช้จ่ายที่นี่ไม่ได้สูงมากแต่วิวที่ได้เกินล้าน

ก่อนเดินทาง

การเดินทางไปอินเดียต้องใช้ visa และเราได้เลือกทำเป็น E-VISA ซึ่งสะดวกในการยื่นเรื่องและขั้นตอนค่อนข้างง่ายไม่ยุ่งยาก

เข้าไปที่ https://indianvisaonline.gov.in/evisa/tvoa.html

***ข้อควรระวังเชคเว็บไซต์ให้ดี จะต้องลงท้ายด้วย .gov.in ไม่ใช่ .org นะคะ***

* เงินอินเดีย คือ สกุลรูปีอินเดีย ( ₹1 = ฿0.4794 ) ณ วันที่ 25/03/2018

หรือตีไปประมาณ 100 รูปี = 50 บาท หรือประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินรูปี คือ เงินไทยเรานี่เอง

* ตั๋วแล้วแต่ช่วงการเดินทาง ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาวของอินเดียวราคาจะถูกกว่าช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ละช่วงก็จะมีความสวยงามแตกต่างกัน

โดยเราจะต้องต่อเครื่องเพราะไม่มีบินตรง การเดินทางก็จะต้องการเดินทางไปลงที่สนามบินนิวเดลีก่อนแล้วต่อเครื่องไปยังเลห์ และที่สำคัญอย่าลืมซื้อประกันไว้เพื่อความอุ่นใจทั้งคนและของ

* อากาศช่วงที่เดินทางไปคือช่วงเมษายน อากาศยังเย็นอยู่ควรเตรียมเสื้อผ้า เครื่องกันหนาวให้พร้อม

เพราะอากาศจะหนาวมากมีเครื่องทำน้ำอุ่นแต่บางที่พักไม่มีฮีทเตอร์ พร๊อบต้องพร้อม

* การจองตั๋วรถไฟ ในขั้นตอนการจองและยืนยันนั้นอาจจะต้องมีเบอร์โทรศัพท์ของอินเดีย เราเลยใช้บริการของเว็บรับจองตั๋ว

ก็สบายไปอีกเสียค่าจองประมาณ 150 ต่อเที่ยวจัดการให้เสร็จสับ ทำให้สะดวกขึ้นก่อนไปก็ปริ้นตั๋วไปและสามารถขึ้นรถไฟได้เลย

* เลห์ ลาดักอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 3,500 -5,600 เมตร ควรเตรียมยา Diamox ไปและทานก่อนเดินทางประมาณ 24-48 ชั่วโมงและทานทุกวันขณะอยู่ที่เลห์หรือทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ในการจ่ายยา

*อาหารจริงๆแล้วอาหารอินเดียกินพอได้ อาหารส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัต ถ้าดีหน่อยก็เตรียมมาม่า ปลากระป๋อง น้ำพริกไป พร้อมสำหรับคนไทยอาหารอินเดียคงไม่ถูกปากเท่าไหร่


แพลนคร่าวๆเราจะมีประมาณนี้ ทั้งหมดประมาณ 10 วัน 9 คืน

000 BKK - Delhi (เดินทางไฟท์เย็นนอนค้างที่สนามบินรอต่อเครื่องตอนเช้า)

001 Leh city (Shanti Stupa/Leh palace/Namgyal Tsemo Gompa/Main square หรือ Main Bazaar)

002 Magnetic hill /Sangam view point/Moon land/Lama yuru/ Alchi /Likir monastert

003 Leh - Turtuk - Nubra (นอน Hunder หมู่บ้านใน Nubra valley)

004 Nubra – Pangong – Leh

005 Leh - Tsomoriri

006 Shey place / Thiksey monaster / วัด Hemis

007 back New Delhi ( Jama masjid/ Red fort / India Gate / Humayun’s Tomb)

008 New Delhi – Agra ( Taj mahal / Baby Taj / Agra Fort )

009 Agra- New Delhi -Bkk[/left]


เอาเป็นว่า มาเริ่มกันเลย !


000 DAY 1

BKK - Delhi (เดินทางไฟท์เย็นนอนค้างที่สนามบินรอต่อเครื่องตอนเช้า)

hafl3r5q4npn

เราเลือกเดินทางจากไทย ไฟท์เย็นๆถึงค่ำ เพื่อไปรอต่อเครื่องที่สนามบิน

เพราะไฟท์ที่เราจะบินไปเลห์จะมีแต่ไฟท์เช้า

อย่าลืมเชค terminal กันด้วยนะจ๊ะ เพราะบางสายการบินอาจต้องเปลี่ยน terminal

ภายในสนามบินนิวเดลี กว้างและมีที่พอให้ได้นั่งรอหรือนอนรอระหว่างรอขึ้นเครื่องได้

แต่ที่นี่จะรักษาความปลอดภัยมาก จะเข้าออก หรือผ่านจุดต่างๆ เราต้องมีเอกสารครบ

ดังนั้น ควรปริ้นตารางบิน ไฟท์บินของเราไปด้วย เพราะที่ทหารที่ตามประตูต่างๆ เค้าจะขอเราดู

เมื่อเราเชคอินเรียบร้อยแล้ว เมื่อเข้าเกทมาก็จะมีเก้าอี้ไว้นั่งรอ

และเก้าอี้แบบเตียงนอน เราก็ไปนอนรอตรงนั้นได้





001 DAY 2

Leh city (Shanti Stupa / Leh palace / Namgyal Tsemo Gompa / Main square หรือ Main Bazaar)

วันนี้เราเดินทางออกจากสนามบินนิวเดลี ไฟท์เช้า

ระยะเวลาจากนิวเดลีไปเลห์ ก็ประมาณชั่วโมงนิดๆ

แต่ขอบอกว่าอย่าเผลอหลับเป็นอัดขาด

ไม่งั้นคุณจะพลาดกับวิวนอกหน้าต่างแบบนี้

ummcewt15yuk

ภาพวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว กว้างสุดสายตา

แสดงว่าคุณเดินทางใกล้ถึง เลห์ ลาดักแล้ว

knepjmum848e

หลังจากลงเครื่องมา ก้จะมีบัสเล็กๆ มารอรับเราเพื่อเข้าตัวอาคาร

y1fpi5lpoc5a

หลังจากเขียนใบขาเข้า รับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ด้านหน้าก็จะมีคนมาคอยถือป้ายชื่อเรา มารอรับ ซึ่งเป็นคนที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้

0ep0t20zl7de

ทริปนี้เราจะพักกันที่ Ree Yul Guest House ซึ่งเราได้ทำการติดต่อกับซาลีมเอาไว้ก่อนเดินทางมา

9h299q1hzoja

พอมาถึงซาลีมและทุกคนที่นี่ก็ทำการต้อนรับเราอยากดี

ให้มานั่งพัก พร้อม welcome drink ที่เป็นชานมร้อนๆหอมๆ และบรรดาถั่วต่างๆ

ระหว่างรอ mama ทำอาหารเช้าให้ทาน

หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ซาลีมก็จะให้เราพักผ่อนก่อนสัก 3-4 ชั่วโมงก่อนออกไปเที่ยวระแวกรอบๆตัวเมืองเลห์

เพื่อให้ร่างกายเราได้ปรับกับสภาพอากาศที่นี่

เพราะที่เมืองเลห์สูงประมาณ 3,500 - 5,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล

rap1new95ycb

ห้องนอนของเราในทริปนี้

เราจะนอนกันที่นี่ตลอดทริปที่เลห์ แต่จะมีบางวันที่ต้องออกไปค้างนอกเมือง

ซึ่งที่เราจะไปมันไกลและอาจไป-กลับไม่สะดวกในวันเดียว

แต่ซาลีมก็ได้จัดหาไว้ให้หมด โดยเพียงที่เราบอกซาลีมว่าต้องการไปไหนบ้าง

มีระยะเวลาทั้งหมดกี่วัน

และรวมถึงเอกสาร permit ที่ทุกคนต้องใช้ในการเดินทางไป nubra และ pangong

ถ่ายเอกสารหน้าพาสปอตไปเผื่อด้วยก็ดีนะคะ

w3z6rv99zgzz

vzplxrtt6qgt

พอมาถึงช่วงบ่าย ก็จะมีคนขับรถมารับเราที่ guest house

มาเริ่มที่แรกของบ่ายนี้กันด้วยที่ Namgyal Tsemo Gompa

จุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองเลห์ ที่นี่จะมีธงมนตราหลากสีผูกเต็มไปหมด

คนเลห์นิยมผูกธงมนไว้ในที่ที่ลมพัดผ่าน

เปรียบเสมือนถ้ามีลมพัดธงนี้ก็เหมือนเป็นการที่สายลมพัดโบกคำอธิฐานไปยังสรวงสวรรค์

rq2u9sqdkr0s

วิวโดยรอบๆก็จะเป็นประมาณนี้ ล้อมไปด้วยภูเขาสีขาว ดูแล้วเหมือนแล้งๆแต่ความจริงไม่ มันหนาวมากก

k8fw1zxr4k5k

มองมาด้านล่างก็จะเห็นพระราชวังเลห์ ที่ตั้งเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา ซึ่งเป็นสถานที่ต่อไปที่เราจะไปกัน

hkf2gy4somei

ขนาดห้องน้ำยังวิวขนาดนี้

ek596phdxhe1

มาถึงที่ต่อไปก็คือ พระราชวังเลห์ หรือ Leh palace ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา

ด้านในก็จะแบ่งเป็นห้องๆบ้างห้องก็เป็นภาพต่างๆ แสดงโชว์ไว้

ค่าเข้าที่นี่ นักท่องเที่ยวไทยสามารถแสดงพาสปอตให้เจ้าหน้าที่ดูจะลดเหลือเพียง 15 Rs

h48u8kll3ql7

ที่นี่จะแบ่งเป็นหลายๆชั้น ให้เราได้เดินชมกัน

38ne6o7cav9q

ndkeljtuutn2

เรามาถึงเลห์แล้วแหละถ้าเจอห้องน้ำแบบนี้

ไม่เข้าแสดงว่าไม่ถึงนะ 55555

awhlmksg6les

หลังจากนั้นเราก็มาที่ Shani Stupa เจดีย์สันติภาพ หรือที่เราเรียกกันเมื่อไปเลห์คือเจดีย์ขาว

เป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ ที่บริเวณรอบๆเมื่อมองลงมาจะเห็นวิวเมืองเลห์ ลาดัก

และยังสามารถมองเห็นพระราชวังเลห์และวัดนับเกลได้

ที่นี่จะไม่เสียค่าเข้าชม ข้างบนลมจะแรง อากาศดี

บางคนอาจจะชอบไปดูพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่

xc2yhfkjef9l

เดินชมรอบๆ จะบอกว่าลมแรงมาก หนาวมาก และวิวก็ดีมากก

พอตกเย็น เราก็ไม่ทันรอดูพระอาทิตย์ตกหรอก เพราะวันนั้นแทบมองไม่เห็นพระอาทิตย์

บวกกับการที่น้องท้อยๆมันร้องว่าหิวแล้วๆ

เราก็เลยกลับมาแวะที่ main bazaar

wxkd5lhs3wyq

ข้างในตลาดก็มีวัดเล็กอยู่ในนี้ด้วย

kab8y5b451pt

หลังจากนั้นเราก็เดินเล่น หาอะไรทานเล่นนิดหน่อย

เพราะวันนี้บอกซาลีมไว้ว่าจะกลับไปทานข้าวที่นั่น

main bazaar หรือ บางคนก็รู้จักกันว่าสยามเมืองเลห์นี่แหละ

ที่รวมทั้งของกิน ร้านอาหาร แหล่งช๊อปปิ้ง ของหนุ่มสาวเดินกันให้เต็มไปหมด

หรือแม้กระทั่งร้านขายทัวร์ท่องเที่ยว ร้านเช่ารถมอไซต์ มีหมดทุกอย่าง

ใครมาเลห์ไม่แวะที่นี่คงเรียกว่ามาไม่ถึง

เรามาเดินที่นี่เกือบทุกวันที่อยู่เลห์ เพราะมาอาศัย WiFi ร้านกาแฟร้านนึงซึ่งเราคิดว่ามันแรงที่สุดในเลห์นี้แล้วแหละ

kkvisf57nv16

ที่นี่ก็จะมีคนมาขายของ ขายผลไม้ ขายผักสด

ccrkuofjex6j

ตามร้านก็จะขายพวกของฝากต่างๆ มากมาย

รวมถึงร้านผ้าต่างๆหรือแม้กระทั่งผ้า pashmina ที่นิยมซื้อเป็นของฝาก

ร้านหิมารายา ที่เข้าไปแล้วต้องเจอคนไทยช็อปปิ้งอยู่แน่ๆ เราก็เดินชิมรางไปก่อน ไว้ค่อยมาช็อปกันวันกลับ

qzh9d8x49lut

หลบหน่อยคนหล่อมา เด็กน้อยขาวเลห์คนนึงวิ่งมอไซต์มาปาดหน้า

พร้อมทำท่าทักทาย พอเราแบ่งชอคโลแกตให้เท่านั้นแหละ

พี่แกก็เก๊กท่าให้ไม่หยุด อยากซ้อนท้ายกลับบ้านเลย

oq307sikl92o

นี่คือแก๊งค์เพื่อนๆที่เราเจอกันที่พัก เป็นคนไทยที่มาเที่ยวเหมือนกัน

แก๊งสาวสวย ที่ดูแล้วไม่ธรรมดา บอกแล้วว่าอยู่สยาม

lx7l8m742331

ส่วนร้านขายผัก ผลไม้โดยทั่วไปก็จะเป็นร้านแบบนี้

จัดร้านสีสันสดใส

f8nhd77mx1gy

และก่อนกลับที่พัก ขอแวะดื่มช็อคโกแลตร้อนกันที่ร้านบาริสต้าก่อน

ร้านนี้ขอเฟิมว่าอร่อย wifi แรงที่สุดในเลห์ 555





002 DAY 3

Magnetic hill /Sangam view point/ Moon land / Lama yuru / Alchi / Likir monastert


เช้าวันนี้สอง วันที่ไม่อยากลุกออกจากผ้าห่ม

ที่พักจะมีเพียงน้ำอุ่นให้ แต่ในห้องยงมีมีฮีทเตอร์ให้สำหรับที่นี่

การได้อยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น มายากที่จะลุกออกมา

ด้วยอากาศติดลบ

แบบนี้เราต้องหาอุปกรณ์ช่วยความอุ่นให้กับร่างกายเราให้พร้อม

มาถึงอย่าเพิ่งอาบน้ำ

ทิชชู่เปียกอย่าลืม เป็นประโบชน์มากในการซักแห้งตัวเอง

แต่แพลนวันนี้ต้องเดินหน้าต่อไป

ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟัน

วิวสวยๆ รอเราอยู่

วันนี้เราจะเดินทางไป Lama yuru กัน

แต่ระหว่างทางก็มีที่ต่างๆให้เราได้แวะไปได้ตลอดทาง

irwbaappbyxi

ก่อนออกเดินทางก็ต้องเติมพลังกันก่อน

หน้าตาอาหารที่เราทานที่นี่ก็จะประมาณนี้ เราขอรวมคร่าวๆล่ะกัน

ซาลีมบอกว่าคนไทยมาที่นี่กินไม่กี่อย่าง

ไม่ไก่ ก็เมนูไข่ทั้งหลาย

ดังนั้น ให้ท้องเราอยู่รอด น้ำพริก น้ำปลา มาม่าอย่าลืมเตรียมมาตามอัธยาศัย

ส่วนใหญ่คนที่นี่จะกินมังสวิรัตกัน หรือไม่ก็เป็นอิสลาม

เมื่อเติมพลังกันแล้ว

ก็พร้อมออกเดินทาง

0669uw83ok91

มาถึงที่แรกที่เราจะแวะกันก็คือ Magnetic hill หรือ gravity hill

a4r6d90k6w6v

เส้นถนนที่ด้านหลังเป็นภูเขาสวย แต่จริงๆมันเป็นเนินเล็กแล้วเป็นทางลงเนินไป

ถ้าเราจอดรถไว้ในจุดที่เค้ากำหนดไว้แล้วดับเครื่องยนต์ แล้วจะรู้สึกว่าเหมือนรถไหลขึ้นภูเขาได้

10jknqapuulv

zt3pttxi06jv

ห้องน้ำตั้งไกลอยู่สุดลูกตา เป็นเรานี่ปวดหนัก คงต้องราดไปตามทางก่อนแน่ๆ

ห้องน้ำจะมีอยู่เกือบทุกสถานที่

บางที่เปิด บางที่ไม่เปิด บางที่ก็อยู่โดดๆตามข้างทาง

rsycjykewqom

ระหว่างทาง เราก็จะเจอต้นไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งสีชมพูเป็นระยะๆ

ถ้าใครไปช่วงเมษาคงได้เจอ

xddk0rf3055d

Sangam viewpoint เป็นจุดตัดของแม่น้ำสินธุและซันสการ์

ที่ไหลมาบรรจบกันจนเราเห็นเป็น 2 สีตัดกันที่ฉากหลังเป็นภูเขาก้อนโตที่สวยงาม

3n6fw63sy36n

sxsl0bw8vtgg

8c6s99hy7k9t

ระหว่างทางเราก็ขับรถเลาะกับแม่น้ำไปเรื่อยๆ

เราก็จะเห็นแม่น้ำสีฟ้าระยิบระยับที่สะท้อนกับแสงแดดไปตลอดทาง

pa5wbf91zbgk

ตามทางเราก็จะเจอ Yak วัว ลา เดินเต็มถนนไปหมด

โดยไม่เกรงกลัวรถแต่อย่างใด

บางตัวก็หยุดทักทายดื้อๆ

ไม่ว่าจะเป็นในเมือง นอกเมืองก็มีหมด

r1ok1uco59f1

เส้นทางนี้เราถือว่าไม่อันตรายมาก ถ้าขับมอเตอร์ไซต์มาก็คงชิวน่าดู

เพราะทางส่วนใหญ่จะเป็นราดยางหมดเลย

wpbb5670a10i

Moonland คือภูมิประเทศจะคล้ายผิวดวงจันทร์

ซึ่งเป็นทางผ่านระหว่างไป lama yura เราจะเห็นได้ว่าพื้นผิวจะปุ่มๆปั่มๆ

ye39owxytnc4

oi0qyblp8uyc

ขับรถออกมาจาก Moonland ไม่นานเราก็มาถึง Lama yuru

zea3wt0le3yr

วัดลามะยูรู ( lamayuru gompa ) เป็นวัดที่อยู่ห่างจากตัวเมืองเลห์ไปประมาณ 100 กว่าโลได้

เป็นวัดที่เก่าแก่ ขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทราย และมีบริเวณรอบๆคล้าย moonland

w4u5q4k8luse

ที่นี่เราก็จะเห็นเด็กมาบวชเรียนกันเยอะ เรียกว่าเกือบทุกวัดที่ไปเลยก็ได้ที่เห็นเด็กๆมาบวชเรียนกัน

เด็กตัวเล็กๆก็มาบวชกันหมด ก็จะมีพี่ๆคอยดูแล คงเหมือนกันบ้านเราที่มาบวชเณรน้อยๆกัน

4vy18gp6t047

ncd22wf3zng9

เส้นทางนี้สามารถไปมานาลีได้ ห่างออกไป 500 กว่าโล

9vjpp82kuo9m

ระหว่างผ่านไปที่ต่างๆก็จะมีจุดยื่นเอกสารตลอดซึ่งเป็นใบ permit ที่เราทำมา

คนขับเราก็จัดการให้หมด บางที่อาจต้องยื่นพาสปอตด้วย เราก็สำเนามาเผื่อไว้หลายใบอยู่

ojy57dxqtdqo

yxiacj2yj977

lqfht9tjlmyc

หลังจากนั้นเราก็เดินทางกลับโดยมาแวะที่วัด Alchi เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดอีกวัดนึง

ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เมื่อเราได้เข้ามาเราก็จะเห็นทั้งต้นไม้สีสันสดใสและต้นแอปเปิ้ล

ซึ่งหมู่บ้านนี่ถือเป็นหมู่บ้านที่ปลูกแอปเปิ้ลมากที่สุดแห่งเลห์ ลาดัก

เมื่อเราขับไปจนเกือบสุดด้านในเราก็จะเจอกับวัด เดินเข้าไปตามตรอกซอยนิดหน่อย

ตามข้างทางก็จะมีชาวบ้านมาขายของฝากต่างๆ วัดนี้อาจจะไม่ได้อยู่บนเยิยเขาเหมือนวัดอื่นๆ

แต่ด้านหลังของวัดก็จะมีแม่น้ำไหลผ่านซึ่งเป็นสีฟ้าสวยมาก

j2k4fpaapwjk

แม่น้ำด้านหลังของวัด หลังหรือป่าวไม่รู้ แต่รู้ว่าเดินเข้ามาข้างในสุด

hf804po0znyw

ด้านในจะเจอต้นไม้เยอะมากก มีทั้งต้นแอปเปิ้ลแซมด้วย

แต่มีอีกต้นเราลืมว่าชื่อต้นอะไรสีสวยมากเป็นสีชมพูคล้ายต้นซากุระ

ไม่ต้องไปถึงแดนอาทิตย์อุทัยเพียงมาเลห์ก็เจอเต็มไปหมดด

yr8wjfj16o9u

สวยจริง สีชมพูบานเต็มไปหมดด

qn4xh8s1ynda

dfngllfs7y6k

zonx02na7dlv

7wdlm06kciz0

ระหว่างทางแวะทานข้าว ก็จะมีร้านอาหารที่เป็นของชาวบ้าน เป็นอาหารทั่วไปส่วนใหญ่เป็นแกงหระหรี่ที่ใส่ถั่ว

เป็นผัดผักของทางบ้านเค้าที่ไม่ใช่เหมือนบ้านเรา ก็คืออหารพื้นบ้านเค้านั่นแหละ

อาหารก็พอทานได้ ลองดูไหนๆก็ไปถึงแล้ว

บางร้านก็มี thukpa ซึ่งเป็นเมนูที่เรากินตลอดที่เข้าร้านอาหารที่นี่เดี๋ยวจะมาให้ดูว่าเป็นแบบไหน

และตลอดทางชาวบ้านที่นี่ก็น่ารักกันทุกคน

jxrm9hviazfm

มาสถานที่สุดท้ายของวันนี้กัน Likir monastery

เป็นวัดที่อยู่ห่างจากตัวเลห์ประมาณ 50 กว่ากิโล

เราเลือกมาแวะตอนขากลับ วัดนี้ทีการตกแต่งวัดแบบสไตล์ทิเบต

ยังก็ยังเป็นโรงเรียนที่สอนลามะน้อยๆอีกเช่นกันกับวัดอื่นๆ เข้าไปด้านในเราจะเห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่

เป็นพระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรย์

จบไปอีกนึงวันที่เรารู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมากทั้งๆที่บางที่เราเดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ

ระยะทางมันก็นับว่าไกลมากจากเลห์ถึงระยะไปไกลก็ก็ต้องขับรถออกไปวันละหลายๆชั่วโมง

แต่พอดูวิวสองข้างทางแล้วมันเพลินจนเราไม่ได้ไปใส่ใจกับระยะทางและเวลาเลย



003 DAY 4

Leh - Turtuk - Nubra (นอน Hunder หมู่บ้านใน Nubra valley)


h56yz5m1mpyy

เช้าวันใหม่กับหนทางอีกยาวไกล วันนี้เราต้องนั่งรถกันนานมาก

เราจะเดินทางไปยังหมู่บ้าน Turtuk ซึ่งอยู่เลยหมู่ Nubra ไปอีก 80 กว่าโลได้

ซาลีมบอกว่าต้องนั่งรถ 7-8 ชม. เลย วันนี้เราจะผ่านถนนที่สูงที่สุดในโลกด้วย

ตอนนี้อากาศมันต้องหนาวแน่ๆและบนนี้มันสูงมาก เราเลยออกเดินทางกันเช้าหน่อย

ทุกเช้าที่เราเดินทางเราก็จะเห็นวิวข้างๆทางประมานนี้ไปตลอดทาง

momw9hgcvuye

ตรงนี้เป็นตลาดที่ จะออกมาจากตรงสยามประมาณนึง

เหมือนตลาดนอกเมืองหน่อยๆสำหรับเรา

ที่นี่ก็จะมีร้านขายของชำทั่วไป ร้านขายแป้งคล้ายแป้งโรตี

ร้านขายเนื้อสัตว์ รวมทั้งท่ารถเดินทาง ท่ารถแท็กซี่

lspzgk2urlrw

ระหว่างรอคนขับรถไปยื่นเอกสาร

ก็ขอลงมาเก็บภาพวิวแปป

อยู่ก็มีพลังงานบางอย่างวิ่งตรงมาใส่

พร้อมดิกหางดิ๊ก เหมือนเรารู้จักกันมาก่อน

แล้วก็นั่งมองหน้าแบบนี้

q498fygynlc8

การเดินทางไป Turtuk จะต้องข้ามเขาและผ่าน Khardung La Pass ซึ่งเป็นถนนที่สูงที่สุดในโลก

ปกคลุมไปด้วยหิมะอันหนาวเย็นออกซิเจนบนนี้เบาบางมาก

ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำให้พักอยู่ในเลห์หรือเที่ยวระแวกรอบๆก่อนอย่างน้อยสัก 2 วันก่อน

จะข้าม Khardung La Pass เพราะถ้าร่างกายปรับตัวยังไม่ได้

อาจได้เป็น AMS หรือ Altitude sickness

แต่บางคนก็อาจเป็นตั้งแต่เดินทางมาถึงเลห์ เลย เพราะร่างกายยังปรับสภาพไม่ได้

ดังนั้นเราต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

จิบน้ำบ่อยๆ ทำอะไรโดยไม่ต้องเร่งรีบ เพราะร่างกายเราจะเหนื่อยง่ายมาก

และอาจต้องกินยา Diamox ควบคู่ไปด้วย ผลข้างเคียงของยา มือก็จะชาและปัสวะบ่อย

ujn9x5qv43xd

ยิ่งสูงยิ่งหนาว มันเป็นแบบนี้นี่เอง

ข้างบนนี้ลงแรงมากกว่าด้านล่าง ทั้งลมหนาว ทั้งหิมะ

2bo3e3q9ffd4

และบางทีก็เจอหิมะปิดทางบ้าง แต่เราโชคดีที่ไม่เจอ เจอแต่พายุนิดหน่อย

แต่ระหว่างทางก็เจอรถที่บรรทุกที่ลื่นหิมะ ติดหล่มหิมะไม่สามารถขับขึ้นได้จนต้องใส่โซ่ช่วย

ทุกคนที่ผ่านไปผ่านมา คนขับทุกคนมีน้ำใจเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้จะเข้าไปช่วยกันหมด

จนผ่านไปได้ด้วยดี

xgi56h75846o

จะว่าไป มันคงเป็นห้องน้ำที่สูงที่สุดด้วยไหม อิอิ

จะบอกว่าระหว่างข้างทางที่นี่ คนขับชำนาญทางมาก เพราะข้างทางจะเป็นเหวลึกหมด เป็นหน้าผา

ซึ่งเราต้องขับรถเลาะภูเขาไปเรื่อยๆ

เราเห็นจนชินไปแล้ว

และโค้งก็เยอะมากกกก เรียกได้ว่าเอวนี่คอดเป็นตัวเอสเลยก็ว่าได้

4ijqhqi2pacp

หลังจากลงเขามาก็จะเจอสภาพอากาศแบบนี้ แต่ก็ยังเย็นอยู่

วันนึงเราจะเจอสภาพอากาศหลายแบบมาก

ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดทาง ทั้งพายุหิมะ ภูเขา ทะเลทราย ทางลูกรัง ฝนปรอยๆ หรือแม่กระทั่งทุ่งหญ้า

f4znk47ut2yn

uh9wk8g2au1s

mmag5egq2sqd

zdzwup0xe6fo

ijwtellok7qy

เด็กน้อยที่นี่หน้าตาน่ารัก แต่อาจจะกลัวๆกล้องกันหน่อย

เพราะหมู่บ้านที่นี่ นักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวเยอะๆก็ไม่นานมานี้

อาจจะยังไม่ชิน เหมือนกันที่อื่น

54y5uj0l3a5n

อันนี้เด็กๆ กำลังเลิกเรียนกัน เด็กโตมาหน่อยก็จะโบกมือทักทายจูเล่กันปกติ

อ้ออ !!! Julley หรือ จูเล่ เป็นคำที่ใช้กันทั่วไปเมื่อเราเดินทางมาถึงที่เลห์

เป็นคำที่ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทักทาย ขอบคุณ คำเดียว จบ

57k2z172vtfb

iqi6rcfz5aoq

sn2sxjzvc88g

xnjv0m85liyo

zd7ycrqqio1j

9blhaf5kjk6j

ถ้ามีเวลาเหลือเราก็จะได้แวะที่ Diskit Monastery ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน Hunder

ซึ่งวัดที่นี่เราว่าจะคล้ายๆกันหมด

q5ol85ndp2js

i185mnqdf1qz

5ujpjt51n16n

หลังจากนนั้นเราก็มาแวะขี่อูฐกัน

n2gndffojvyv

ขี่อูฐก็จะมีทั้งแบบ 30 นาที ราคา 400 Rs และ แบบ 15 นาที 200 Rs

sosnw6m1kwmi

c5076lk5s13p

ไม่สิ ไม่แกล้งตายสิ แค่ขี่แค่แปปเดียวเอง

kbfbh13gmg62

r0pwyp2yckwh

vxm2si246wqk

1j5o9vu9kjgv

ที่นอนสำหรับเราคืนนี้ วันนี้เราจะนอนกันที่หมู่บ้าน Hunder จะอยู่ไม่ไกลจากที่เราขี่อูฐมากนัก

เพราะรุ่งเช้าเราจะไป Pangong lake กัน



004 DAY 5

Nubra – Pangong – Leh


tvmisccep573

วันนี้เรารีบเดินทางแต่เช้า เพื่อไป Pangong lake หลังจากทานข้าวที่ที่พักจัดหาให้เสร็จ

pttkh56c6gq8

6181u301q8yq

bt2221m8exfv

ถึงแล้ววว Pangong lake ในวันที่ Pangong ไม่ได้เป็นสีฟ้าา

แถมมาด้วยพายุหิมะอี้กกก

จะให้กลับมาอีกรอบให้ได้เลยใช่ไหมม

xjzz9qsg0nl2

lmn5kh1ige4s

evytprq0hrss

พื้นผิวน้ำที่ปกคลุมด้วยความเย็นจนแข็งและหนามากจนลงไปเดินได้

ถ้าฟ้าเปิดกว่านี้อีกหน่อยคงจะดีมาก

แต่ก็ไม่คิดว่าผิดหวังที่มาถึง

i12kspfvsbem

เป็นเพียงความงามที่ซ่อนตัวอยู่ในความขาวเท่านั้นเอง

คิดว่าตัวเองเป็นแอลซ่าล่ะกัน

95errnpln4v2

การเข้าห้องน้ำกับอุณหภูมิแบบนี้ มันสะท้านดีจริงๆ

ขนาดน้ำที่ไว้ตักราด ยังแข็งจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง ที่เหมือนแช่ฟีชไว้

58jfi81y053z

ตลอดทางขากลับเราก็เจอกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

z5oyu3y0f1di

no6dikrxeikr

oq4h2lmb8in9

ทางที่เห็นดินเป็นหินเริ่มเป็นเห็นหิมะ จนต้องใส่โซ่กันเพื่อรถจะได้ไม่ลื่น

y59jqt4enge3

เส้นที่ขดๆเล็กๆนั้นเป็นเส้นทางที่เราขับขึ้นมา

rg1e4k8j0flq

ทางข้างล่างเริ่มมองไม่เห็น และทางข้างหน้าก็เช่นกัน

พายุหิมะมาอย่างไม่หยุดแต่ก็ไม่เป็นอันตรายมากและสามารถเดินทางต่อไปได้

qkc5zmiujnr3

zntis5ukxws0

วันนี้เราเดินทางถึงเลห์โดยสวัสดิภาพและไม่ดึกมาก

พอที่จะกลับไปแวะร้านบาริสต้าร้านเดิมที่เราเคยไปมา

เรียกได้ว่าเรามาที่นี่เกือบทุกวันที่อยู่เลห์

สยามและร้านบาริสต้า อยู่ไม่ไกลจากที่พักเรา สามารถเดินมาได้



005 DAY 06

Leh - Tsomoriri

เข้าสู่ครึ่งทางของการเดินทางของเราแล้ว

เราอยู่นี่ไม่เคยนับวันเลย

คอยแต่ดูว่าพรุ่งนี้เราจะไปไหน

สามารถไปไหนได้บ้าง

ระยะทางไกลบ้าง ใกล้บ้าง สลับกันไป

เรานั่งรถไปแต่ละที่เป็นวันๆ

แต่เราไม่รู้สึกถึงความเบื่อ ความเหนื่อย และความไกลของมันเลย

สองข้างทางที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

สร้างความน่าตื่นเต้น ให้คอยลุ้นได้ตลอด

การได้เจอคนใหม่ๆ การรู้จักคนใหม่ๆในการเดินทาง มันดีจริงๆนะ

วันนี้เราได้คุยกับซาลีมว่าจะไปทะเลสาบ Tsomoriri ซึ่งที่นี่ถ้าเทียบกับ Turtuk แล้ว

การเดินทางใช้เวลาพอๆกัน

เราเลือกเดินทางแบบไป-กลับ โดยอาศัยการออกแต่รุ่งเช้าเอา

เผื่อว่าวันสุดท้ายเราจะได้มีเวลาเหลือ เพื่อเที่ยวและเก็บรอบๆเมืองเลห์อีกวันนึง

2l18ssob8ieq

ระหว่างทาง เราก็จะเจอหมู่บ้านอยู่เรื่อยๆ แต่เส้นทางวันนี้เราเจอเพียงไม่กี่หมู่บ้าน

เส้นทางมา Tsomoriri เรียกว่าที่สุดเลยสำหรับเรา

เพราะตลอดทางจะเป็นทางลูกรัง ดินบ้าง หินบ้างสลับกันไป

ราดบางน้อยมากเท่าที่เจอมา

วันนี้อากาศยังหนาวเย็นเหมือนเดิม แต่จะเจอด้วยแดดที่แสบด้วยด้วยเหมือนกัน

3p1s95cnrcde

ระหว่างทาง คนขับเราท่าจะหิว เพราะเค้ายังไม่ได้กินข้าวเช้า

และเค้าก็เตรียมอาหารมาซึ่งเผื่อไว้ให้เราได้กินด้วย

จริงๆเส้นทางนี้แทบไม่มีร้านค้าหรือหมู่บ้านคนเลย

เค้าเลยหามุมดีๆ ในการจอดทานข้างข้างทาง

เค้าซื้อแป้งมา จิ้มกินกับโยเกริต ซึ่งคล้ายๆโยเกริตรสธรรมชาติบ้านเรา

กับแป้งหอมๆ ตอนนี้อะไรก็อร่อยๆ แต่จริงๆมันก็อร่อยดีนะ

jnm6lu7f2zrp

วิวที่ทานข้าว ดีไปอี้กก ซึ่งนั้นก็มีลำธารเล็กๆซึ่งน้ำใสมาก คนขับเรายังทานน้ำจากตรงนั้นได้เลย

ly34te9abesm

เราก็มาพบกับ ทะเลสาบ Kyagar ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเกลือที่เล็กมาก บนความสูงระดับ 4,708 เมตร

rd6db0gwurs5

1hgylvvbx535

a0xh5aesphig

kxeycheb3o5y

jo3v827z9e37

ybof3qs2zxiu

d71zl5b6j1h0

ก่อนถึง Tsomoriri เราก็จะเห็นมีชาวบ้านเค้ามาเลี้ยงแพะ เลี้ยงแกะกัน

arzdupoemfrs

ขนาดเด็กๆยังเป็นมิตร เจอเด็กที่ไหนก็โบกมือทักมายแบบนี้หมด

lfk9q69q85aj

ถึงแล้ว Tsomoriri lake ทะสาบที่คนอาจไม่ค่อยเยอะเท่า pangong อาจด้วยระยะทาง

ที่ดีดูเงียบสงบ ลมหนาวดีเข้าหน้าเป็นระลอกๆ เอามือไปสัมผัสน้ำแล้วเย็นมาก

เราไปแล้วไม่พบเจอใครเลย ทะเลสาบอันกว้างแต่เล็กว่า pangong

6ijninvzm6pp

h16onsyqxjwh

kux75b45nngf

sigaoj4h9g3n

miiutmaverfh

ขากลับเราจะแวะทานข้าวกันที่นี่ เป็นร้านเล็กๆระหว่างทางให้จอดพักรถกัน

h9ay1x7uulkw

ที่นี่จะมีบ่อน้ำพุร้อน Chumathang Hot Spring ซึ่งผุดออกจากแม่น้ำที่ไหลผ่าน

ในแม่น้ำที่เย็นแสนเย็น ในมุมเล็กๆก็มีน้ำผุร้อนผุดออกมา

ซึ่งเราสามารถต้มไข่ได้เหมือนบ้านเราเลย

nfcrhssb8fpw

3u75relqqwig

วิวในร้านก็จะประมาณนี้

xp00maboxxza

วันนี้เราเดินทางถึงเลห์ไม่ดึกอีกเช่นเคยเลยมาแวะกันที่ร้าน GESMO

ร้านนี้คงเป็นหนึ่งในร้านที่นิยมของคนไทยที่เดินทางมาเที่ยวที่เลห์

เข้ามาส่นใหญ่ก็จะเป็นคนไทยเกือบทั้งร้าน

rponza7ljl4i

bqujoiwuyqeb

kw6fpho0d3ny

ไม่ห่างกันออกไป ก็จะเจออีกร้านชื่อร้าน Chopsticks ซึ่งเป็นร้านอาหารเหมือนกัน

ร้านนี้จะมีเมนูอาหารไทยด้วย สำหรับคนที่คิดถึงอาหารไทย

แต่รสก็อาจจะไม่จัดเท่าบ้านเรา แต่ก็พอหายคิดถึงได้


006 DAY 7

Shey place / Thiksey monaster / วัด Hemis

วันเกือบจะสุดท้ายแล้วสำหรับที่เลห์

เรารู้สึกว่าเวลามันเดินไปไวมาก

แม้หลายๆคนอาจนับวันกลับแล้วก็เป็นได้

คนที่นี่น่ารัก สร้างความประทับใจต่างๆให้น่าจดจำ

จนคิดไว้แล้วว่า ยังไงถ้ามีโอกาสจะกลับมาที่นี่อีกแน่นอน

วันนี้เรามาเที่ยววัดกัน

โดยวัดที่เราจะไปมีอยู่ 3 วัด ก็ระแวกตัวเลมืองเลห์

f4s7ppzypfmq

ที่แรกของวันนี้ Shey Palace เป็นอดีตพระราชวัง ด้านในเป็นอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปทอวแดง

ที่สูงและใหญ่เท่าตึก 3 ชั้น ความสวยของที่นี่ก็จะอยู่ที่วิวด้านหน้าวัดด้วย

uo7mqgurqui3

ที่มองลงมาเห็นภูเขาอยู่ไกลๆที่ปกคลุมด้วยหิมะ

dvi2gfbju3kv

9c754fiejrt3

มาต่อกันที่ Thiksey Monastery วัดนี้ห่างจากเมืองเลห์ประมาณ 17 กิโล

w324338i818m

ข้างในสวยมากก

iaf5uc9pa8bg

ac3s0hjprsgv

vu3j7h7vbu4t

เราก็จะเห็นลามะน้อยๆ มาบวชเรียนกันที่นี่เต็มไปหมด

5n2p5mjbo3c8

วิวด้านหน้าก็สวยไม่แพ้กัน

b5ja4xg1sits

mcuerh0qz4rx

ที่สุดท้ายของวันนี้ วัด Hemis เป็นวัดหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา

fy8aelr2it2a

mc03igss1btb

ifvf849zqg14

lde5lcmi30yf

ระหว่างทางที่เราแวะถ่านรูปก็เจอรถโรงเรียนจอดอยู่

vg17r4wv9oro

เด็กที่นี่เป็นมิตรกับทุกคน ทักทายกล้องตลอด

e8q253hjusfb

ความทรงจำดี กับ ที่เลห์ลาดัก ซาลีมคนที่ดูแลเราดีตั้งแต่มาถึงที่นี่

x2etqfq83t7e

น้อง Han หนุ่มน้อยน่ารักประจำบ้านนี้

qm8lki0p12q9

ส่วนอันนี้เป็นรายละเอียดค่าใช้จ่ายคร่าวๆ

ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ได้ที่ : www.facebook.com/t.aroundtogether

v8kcc7ei78hx

fomy7dregsvn

ขากลับก็สวยไม่แพ้ขามาเลย




T.aroundtogether X India


" Julley "




ความคิดเห็น