India 2025 แนะนำ 4 ที่เที่ยวอัมริตสาร์ ปัญจาบ อินเดีย มีบินตรงจากกรุงเทพ

เข้าปี 2025 อินเดียก็ขยายระยะเวลาฟรีค่าธรรมเนียม e-Visa ให้คนไทยที่อยากเที่ยวอินเดีย แต่ยังคงต้องกรอบขออนุมัติ e-Visa ก่อน เมื่ออนุมัติแล้วค่อยไป ไม่ใช่ฟรีวีซ่าที่แบบหิ้วกระเป๋าไปได้เลยนะคะ และเน้นยำว่าให้คำนวนระยะเวลาการขออีวีซ่า กะเวลาตอนรออนุมัติและวันเดินทางดีๆ เพราะปีนี้คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ด้วยหลายๆ เหตุทั้งคนเข้าอินเดียเยอะขึ้นรวมไปถึงการตรวจพบคนไทยทำผิดกฏหมายระหว่างขาเข้าประเทศ ทำให้การตรวจอนุมัติวีซ่าใช้เวลามากขึ้น โดยปกติจะรอ 72 ชม. แต่ปี 2025 นี้ บางเคสรอ 7-14 วัน บางเคสรอเป็นเดือนจนต้องซื้อตั๋วใหม่ก็มี ทางที่ดีรออนุมัติแล้วค่อยซื้อตั๋วจะเซฟสุด

อัมริตสาร์ คือเมืองในรัฐปัญจาบ เป็นรัฐทางเหนือของอินเดีย เมืองนี้เที่ยวง่าย ของกินอร่อยและค่าครองชีพไม่แรง ที่เที่ยวสวย ที่พักดีๆ มีเยอะ และปัจจุบันนี้มีบินตรงมายังเมืองนี้ ซึ่งก็คือสายการบินไลออนแอร์ ราคาดีด้วยค่ะ โดยราคาจะเริ่มที่ 3,200 บาท เป็นต้นไป และถ้าใครอยากไปเมืองนี้เราก็มี 4 พิกัดที่เที่ยวสวยมาฝาก

1. วิหารทองคำ golden temple

วิหารทองคำ ที่เที่ยวสำคัญที่จัดว่าเป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของเมืองนี้ และวิหารทองคำยังถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของชาวซิกข์ด้วย ที่นี่จะไม่มีค่าเข้าชม แต่ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้าฝากไว้ที่จุดรับฝาก และต้องโพกผ้า สำหรับคนผมยาวมากจำเป็นต้องโพกผ้าให้คลุมผมด้านหน้าและไรผมด้านข้างให้หมด ทางที่ดีก็จับรวบไปข้างหลังแล้วโพกผ้าให้เรียบร้อย ด้านหน้าจะมีผ้าฟรีแจก แต่เป็นผ้าแบบเวียนกันใช้นะคะ ถ้าไม่อยากใช้ต่อจากคนอื่นก็เตรียมไปเองได้เลย

ลักษณะของที่นี่จะมีวิหารอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยสระน้ำ เราสามารถกราบไหว้ร่วมไปกับชาวอินเดียได้หรือจะแค่ถ่ายรูปก็ตามสะดวก จากนั้นการเดินวนรอบวิหาร ให้เดินวนซ้าย ( หันหน้าเข้าวิหาร) เดินช้าๆ ทุกคนจะค่อยๆ เดิน สำรวม ไม่เสียงดังเพราะทุกคนเขามากันแบบสงบมากๆ ภายในนี้ผู้ที่มีใจศรัทธาเขาก็จะมาจุ่มตัวลงในน้ำ บางคนก็กรอกน้ำกลับบ้าน มีอาหารฟรีแจก มีที่พักด้วย ถ้ามาเมืองนี้ยังไงก็ต้องมาที่นี่กันทุกคน

2. จาริยาวาราบาค Jallianwala Bagh

จาริยาวาราบาค เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงเหตุการณ์สังหารหมู่โดยทหารได้ทำการปิดล้อมที่นี่ ซึ่งที่นี่มีทางเข้าออกทางเดียว ทำให้นักเคลื่อนไหวและผู้ชุมนุมที่มานั่งชุมนุมอย่างสันติ ไม่มีอาวุธใดๆ ไร้หนทางสู้และไร้ทางออก ถูกกราดยิงเสียชีวิตหมดเลย คนอินเดียเขาก็ไปเพื่อระลึกถึง มาเรียนรู้ประวัติ ส่วนคนไทยถ้าไม่อินก็ข้ามได้ แต่ตรงนี้จะอยู่บริเวณเดียวกับวิหารทองคำเลย ทางผ่านแวะได้ไม่เสียเวลา และไม่มีค่าเข้าชม

3. พิพิธภัณฑ์กลางเมือง The Partition Museum

The Partition Museum เป็นมิวเซียม แต่รอบมิวเซียมจะเป็นเหมือนจัตุรัสกลางเมืองที่มีร้านอาหารดีๆ อยู่ ถ้าอยากลองกินอาหารแบบสตรีทฟู้ดแต่ไม่อยากไปยืนกินตามร้านข้างทาง ร้านตรงบริเวณนี้จะมีเมนูสตรีท อย่างเช่น ซาโมซา หรือปานิปูรี แต่สำหรับปานิปูรีนั้น เมืองทางเหนือเขาจะเรียกว่าโคลคัปเป ( Gol gappa ) ราคาไม่แรงด้วย มาที่นี่ก็จะสามารถเข้าไปดูเรื่องราวต่างๆ ของเมืองนี้ในมิวเซียมได้ ( มีค่าเข้า ) หรือจะแค่ไปหาอะไรกินและถ่ายรูปเล่นก็ได้อีกเช่นกัน และที่นี่ตอนตกเย็นเปิดไฟสวยมาก

4. ด่านวาการ์ Wagah Border

ด่านวาการ์คือชายแดนเขตติดต่อระหว่างอินเดียและปากีสถาน ทั้งสองฝั่งจะทำการทำการเชิญธงลงจากยอดเสา และมีการรายงานส่งผลัดส่งเวรกับนายทหารใหญ่ ซึ่งนายทหารใหญ่เขาก็จะนั่งอยู่รวมกับผู้ชม โดยจะนั่งที่นั่งด้านล่างกับแขก VIP และก่อนจะเชิญธงลงก็จะมีการแสดงมากมายทั้งการเดินสวนสนาม การโชว์ควงปืน การโห่ร้องตะโกนใส่กันระหว่างสองประเทศ กว่าจะเชิญลงจากเสาได้จริงๆ ก็ราวๆ 6 โมงเย็น

และนี่คือที่เที่ยวเมืองอัมริตสาร์ที่จัดว่าเป็นสถานที่ที่คนนิยมไปมากที่สุด ใครมีเวลาจะเพิ่มที่เที่ยวพวกป้อมปราการด้วยก็ได้นะ แต่ถ้าใครมีเวลาน้อยแค่ 4 ที่แล้วไปเน้นตระเวนกินจะเที่ยวสนุก คุ้มค่ากับเวลา และไม่เหนื่อยเกินไป สุดท้ายนี้ใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลย หรือแวะมาติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะ

ใครชอบเที่ยวหรือมีแพลนเที่ยวอินเดีย แวะไปดู >อีบุ๊กเรื่องราวเที่ยวอินเดีย< ได้น้า ช่วงนี้ลดรับ #EbookFair2025 #สัปดาห์หนังสือที่บ้าน อยู่น้าาา