กาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เราไปบ่อยมาก ไปตั้งเเต่เด็กๆจนตอนนี้ก็ยังไปอยู่ วันนี้เรามาเที่ยวกาญจนบุรีกันในสถานที่ที่เราใฝ่ฝัน นั่นคือการนั่งรถไฟสายมรณะ แล้วแถมด้วยการไปเที่ยวหาต้นไม้ยักษ์ การไปทานก๋วยเตี๋วห้อยขา การไปนั่งคาเฟ่กลางคันนา และการเข้าพักในที่พักที่ต่างกันทั้ง 2 ที่ ในเรื่องของราคา ความสะดวกสบาย แต่บอกเลยว่าวิวดีมากกกกกกก


เราเริ่มต้นกันในเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน นั่งรถจากจังหวัดเพชรบุรีในเวลา 16.30 น. ไปลงที่กาญจนบุรี 18.30 น. โดยประมาณ จากนั้นเราก็เดินหาของอร่อยๆทานที่ตลาด บขส. แล้วเดินเท้าต่อไปที่พักประมาณ 2 ก.ม.

เมื่อเราเดินไปเรื่อยๆตามแผนที่ พร้อมกับการเดินชมเมือง เฮ้ยยยย มันชิวววววว เมื่อเรามาถึงก็เข้าเช็คอินกันที่นี่ค่ะ NATEE The Riverfront Hotel Kanchanaburi ที่นี่เป็นที่พักติดแม่น้ำแคว บรรยากาศชิว สะดวกสบาย มีสระว่ายน้ำที่หน้าระเบียง มีอ่างจากุชซี่ให้แช่น้ำ แต่วันนี้เราเดินทางมาดึงแ้วก็เลยตองนอนพักกันก่อน

สวัสดียามเช้า ในวันที่อากาศสดใสเราลงมาทานอาหารเช้า แล้วไปนั่งชิว ไปเล่นน้ำกันต่อ


หลังจากนั้นเราได้ทำการเช็คเอ้าท์ แล้วเดินออกไปด้านหน้าของโรงแรมก็มีรถมอเตอร์ไซด์ให้เช่ามากมาย ในราคาวันละ 200 บาท เมื่อเราได้มอเตอร์ไซด์กันแล้วก็ขี่รถไปประมาณ 2 ก.ม. เพื่อไปที่สะพานแม่น้ำแคว เมื่อมาถึงเราทำการซื้อตั๋วขาไปลงที่สถานีถ้ำกระแซ ในราคา 12 บาท รถไฟจะมาถึงที่นี่ เวลา 11.00 น. *ลงที่สถานีถ้ำกระแซ 2 นะคะ ไม่งั้นพลาดดดดดดด

ระหว่างนั่งรอเราก็ไปช็อปปิ้งที่ตลาดกันก่อนได้เลย เอ้าาาาาา รถไฟมาแล้วววววว





เมื่อมาถึงที่พลาดไม่ได้ที่นี่ก็คือการเข้ามาไหว้พระที่ถ้ำกระแช

พอขากลับรถไฟจะมารับเราในเวลา 14.30 น. เราต้องเตรียมเศษเงินไว้ด้วยนะคะ เพราะว่าขากลับจะต้องซื้อตั๋วบนรถไฟในราคาคนละ 12 บาทเท่าเดิม เมื่อเรากลับมาถึงที่สะพานแม่น้ำแควก็ทำการหาที่พักค่ะ เอาเลือกแบบที่ถูกสุดๆ แต่วิวต้องดี แค่นี้พอแล้ว

เราเลยได้ที่นี่โดยการหาทาง Booking อยากจะบอกว่าพี่เค้า ลงที่ Booking วันนี้วันแรกเราก็จองคนแรกเลย ที่ T&t Guesthouse ในราคา 300 บทต่อห้อง นอนแพ วิวแม่น้ำ ห้องน้ำรวม แต่เนื่องจากที่นี่กำลังปรับปรุงจึงขออณุญาตลงวิวนะคะ ที่พักรอเสร็จแล้วเราอาจจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

นี่คือวิวหน้าห้องของเราไม่ได้โม้นะเออ 300 บาท หารกัน 2 คน ก็คนละ 150 บาทเองงงงงง

เมื่อเราเก็บของอาบน้ำเรียบร้อยก็ไปหาอะไรกินกัน เราอดมาตั้งแต่เที่ยงก็เลยจะหาชาบูกินกัน เราก็ขี่รถไปกันเลยที่ร้าน SHABU ZUMO เย็นวันนี้อากาศดีเหมาะแก่การขี่รถเล่นมากๆ

แต่ไม่ทันไร นั่นละคะ ท่านผู้ชม ==

ทั้งหลงทาง ทั้งฝนตก พายุฟ้าร้องแรงหนักมากกกก แต่ก็ไม่มีอะไรมาต้านทานความหิวของเราได้ไปกันต่อเลยค่ะ

เมื่อเรามาถึงก็กินกันแบบเปียกๆ โซกๆกันแบบนี้เลย 555

เราจึงขอลาคืนนี้ไปด้วย ชาบู...

ในเช้าวันต่อมา กับอากาศที่สดใส *อีกแล้ว ! เราเดินทางกันแต่เช้าไปกันที่นี่ ต้นจามจุรีย์ยักษ์ เราใช้วเลาในการขี่รถประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่นี่ค่ะ มาแต่เช้าๆคนจะได้ไม่เยอะนะคะ

หลังจากนี้เรามากันต่อที่มีนาคาเฟ่ แต่เอ้ๆๆๆ คนเยอะ แล้วหิวมากเลยขี่รถเลยมากันต่อที่รักษ์คันนาก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แต่กว่าจะมาถึงกันได้นี่ พี่Google พาเราไปทางคันนา คันนาจริงๆ ดินแดงแฉะเลย ลงเดินกันเลยจ้าาาาา ทำไมเราเห็นร้านอยู่ตรงนั้นแต่ทางไปชั่งแสนไกล --- อ้อ ลืมเล่าไปว่าวันนี้เราไม่มีรองเท้านะ เราสละทิ้งไว้ที่ที่พัก เพราะมันเปียกโซก กะว่ากลับไปบ่ายๆคงแห้งแล้วได้ใส่กลับบ้านพอดี



เมื่อเราได้กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำเข้าไป แหม่ ! มีแรงขึ้นมาทันที เรามาถึงที่นี่ 10.00 น. คนไม่เยอะนะ แต่พอหลังจากนั้นนนนน ต้องรอนานหน่อย ใจเย็นๆกันนะคะทุกๆคน

เราขี่รถมาวนๆเล่น แต่ไม่ได้ขึ้นไปบนวัดถ้ำเสือนะ เพราะใกล้เวลาส่งรถคืนแล้ว

แล้วเราก็ขี่รถอ้อมไปอีกทาง *ไม่กลับทางเดิมนะ ><

เราก็มาถึง มีนาคาเฟ่ ที่ใครๆเขาก็มากัน บอกเลยว่าคนเยอะ 555


เธอๆ ทรีนเป็นอะไรอ่ะ อ๋ออออ พอง ร้อน ไม่มีรองเท้าใส่ ><

และแล้วเราก็มาสารภาพว่าเรา ขอยืม *แต่ไม่ได้บอก ขอยืมรองเท้าหน้าห้องน้ำที่คาเฟ่มาใส่ ก็มันร้อนนี่หน่าาาาาาา

เราขอจบทริปนี้กันไว้ที่นี่นะ เราเดินทางกลับบ้านแล้ว ทริปหน้าเราจะพาไปไหน เราจะไม่ลืมรองเท้าแตะ 555 ติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^


ME' Art X Traveller.

 วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.00 น.

ความคิดเห็น