ติดตามไปเที่ยวกับเรา #ฅนชอบเที่ยว www.facebook.com/konchoptieow


ณ ชุมชนเล็กๆ แห่งหนึ่ง..

ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา..

รายล้อมไปด้วยผืนป่า..

มีภูเขาสูงใหญ่สลับทับซ้อน

มีสัตว์น้อยใหญ่อาศัยอยู่..

มีแหล่งน้ำจากผืนป่า หล่อเลี้ยงชีวิต..

มีถนนสายเล็กๆ คดเคี้ยว เลี้ยวไปมา จนสุดชุมชน..

ในยามเช้า.. เต็มไปด้วยหมอกอ่อนๆ ปกคลุมทั่วชุมชน..

พร้อมความเงียบสงบ.. และรอยยิ้มจากคนในชุมชน..

.......

....

และนี่คือ... ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9 บนผืนป่า "ฮาลา บาลา" อำเภอธารโต จังหวัดยะลา

ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ปลายด้ามขวานของประเทศไทย

...

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณโครงการ อส. Social ของ ททท.

ที่เปิดโอกาสให้ผมและทีม #ฅนชอบเที่ยว ได้เข้ามาเป็นส่วนช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวแบบชุมชน

ให้รู้จักกันมากขึ้น ว่าจริงๆ เมืองไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีอยู่ทุกมุม ทุกจุดของประเทศ

และวันนี้ผมจะพาเที่ยว ชุมชนเล็กๆ บนผืนป่า "ฮาลา บาลา" มีเทือกเขาสลับทับซ้อน

เป็นป่าดิบชื้นผืนใหญ่สุดท้ายที่คงความอุดมสมบูรณ์เพียงแห่งเดียว. ในจังหวัดชายแดนภาคใต้


สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

  • ค่าเดินทางรถยนต์ส่วนตัว - 3,000 บาท (รถเติมแก๊สเลยประหยัดจ้า)
  • ค่าแพคเกจท่องเที่ยวรวมที่พัก 3 วัน 2 คืน - 1,950 บาท ต่อคน (คุ้มมากๆ)
    • รวมที่พัก 2 คืน
    • รวมอาหาร 6 มื้อ
    • รวมรถนำเที่ยวในชุมชน
    • รวมล่องเรือในเขื่อน
    • มาช่วงนี้ผลไม้ไม่อั้น กินกันจนน้ำตาลขึ้น 555+


การเดินทาง

  • รถยนต์ส่วนตัว จาก กทม. >> มุ่งตรง ยะลา >> ไปยังชุมชน ระยะทางรวม 1,200 กม. ประมาณ 18 ชม. (เหมาะสำหรับสายลุย ประหยัดที่สุด และก็เหนื่อยที่สุด 55+)
  • เครื่องบิน ลงสนามบินหาดใหญ่ มี 3 ทางเลือก
    • เช่ารถเก๋งขับ จากหาดใหญ่ >> ไปยังชุมชน ระยะทางรวม 200 กม. ประมาณ 3-4 ชม. (เหมาะสำหรับสายชิล สะดวกที่สุด)
    • เหมารถตู้ คล้ายเช่ารถเก๋งขับ เหมาะสำหรับมากันหลายๆ คน คุ้มค่า ไม่เหนื่อย
    • เหมารถชุมชน รับ-ส่ง จากหาดใหญ่-ไปชุมชน ประมาณเที่ยวละ 2500 (ไป-กลับ 5000 บาท)
  • รถทัวร์ ลงขนส่งหาดใหญ่ มี 3 ทางเลือกเช่นกัน
    • เช่ารถเก๋งขับ จากหาดใหญ่ >> ไปยังชุมชน ระยะทางรวม 200 กม. ประมาณ 3-4 ชม. (เหมาะสำหรับสายชิล สะดวกที่สุด
    • เหมารถตู้ คล้ายเช่ารถเก๋งขับ เหมาะสำหรับมากันหลายๆ คน คุ้มค่า ไม่เหนื่อย
    • เหมารถชุมชน รับ-ส่ง จากหาดใหญ่ ประมาณเที่ยวละ 2500 (ไป-กลับ 5000 บาท)

จุดเช็คอิน

  • ทะเลหมอก "เขาหินโยก"
  • ล่องเรือสู่ป่าฮาลา-บาลา
  • เส้นทางธรรมชาติน้ำตกฮาลาซะห์
  • เส้นทางธรรมชาติสะพานแขวน
  • ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9
  • ป่าต้นน้ำคลองน้ำใส
  • พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์


ข้อมูลสำหรับท่องเที่ยว

  • ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9 เป็นชุมชนกลางหุบป่าฮาลา-บาลา ของจังหวัดยะลา เป็นป่าผืนเดียวกับ บาลา-ฮาลา ของจังหวัดนราธิวาส
  • ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9 เป็นชุมชนที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ ของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และข้าวของเครื่องใช้จริงๆ ให้นักท่องเที่ยวจะได้ศึกษา
  • สำหรับอาหาร 6 มื้อตลอดทริป เป็นอาหารท้องถิ่นโดยนำวัตถุดิบหลักจากชุมชนมาใช้เและที่สำคัญอาหารทุกอย่างปลอดสารพิษครับ
  • น้องทากเยอะมาก เพราะในป่าฮาลา-บาลา เป็นป่าดิบชื้น เราต้องเตรียมพวกถุงกันทากไปด้วยครับ
  • สำหรับใครที่บอกว่ายะลาน่ากลัว #ฅนชอบเที่ยว ขอยืนยัน..นอนยันเลยครับ ว่า..ไม่ได้น่ากลัวเลยครับ^^


ติดต่อจองที่พักและไกด์นำเที่ยว


......

..........

พร้อมแล้ว!! เย็นวันศุกร์เวลา 17.00 หลังเลิกงาน ได้เวลาออกเดินทาง.. จับ Google map มุ่งหน้าสู่ยะลา

"ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9" โอ้พระเจ้าช่วย 18 ชม. ราวๆ 1200 กิโลเมตร ไม่รวมพักนะ 555+

ต้องบอกว่าทริปนี้ เป็นทริปที่พวกเราทั้ง 4 คน ขับรถไกลที่สุดในชีวิต..

..

และแล้ว 7 โมงเช้า.. เราก็เดินทางมาถึงจุด Check Point แรก คือหาดใหญ่นั่นเอง

แวะล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุด ..แล้วก็ลุยต่อ >> เข้าสู่ เส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้

จากหาดใหญ่ใช้เวลาเกือบๆ 4 ชม. ประมาณ 200 กิโล ระหว่างทางจากหาดใหญ่-ยะลา

ก่อนเข้าเขื่อนบางลาง มีด่านเป็นระยะๆ มีพี่ๆ ทหารตลอดทาง.. ผมว่ามันอุ่นใจดีครับ

และเมื่อถึง 30 กม. สุดท้าย ก่อนทางเข้าชุมชน ทางจะโค้งๆ และคดเคี้ยวตลอดทาง..

....

และแล้ว 12.00 เราก็เดินทางมาถึง...

พร้อมอาหารชุดใหญ่รอตอนรับอยู่..

จะรออะไร กินกันเลย หิวๆๆ 55+

หลังจากจัดมื้อแรกของ #ยะลา เรียบร้อย เมื่อ.. หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน...

แต่ๆๆๆๆ ยังนอนไม่ได้ 555++ เพราะโปรแกรมท่องเที่ยวยะลาของไกด์ท้องถิ่น

นำโดย หลิงปิง และ ฉี ได้เริ่มขึ้นเมื่อเราถึงชุมชนทันที (สรุปไม่ได้พักยิงยาวๆ เลย ฮ่าๆ)

......

โปรแกรมแรกของทริปคือ สะพานแขวน เส้นทางศึกษาธรรมชาติ

ชมธรรมชาติริมลำธาร จุดนี้สามารถเล่นน้ำได้ครับ..

จากชุมชนขับรถเข้ามาได้เลย และเดินต่ออีก 200 เมตร

ถึงแล้วจ้า สะพานแขวน..

น้ำเย็นๆ ใสๆ

หลังจากเที่ยวสะพานแขวนเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้ว

จะบอกว่าหลังที่พักเรา มีผลไม้เยอะมาก เงาะ ลองกอง มังคุด

ต้องบอกว่าโชคดีมาก ใครมาช่วงนี้ผลไม้ไม่อั้นครับ หยิบกินสดๆ จากต้น

กินกันจนน้ำตาลขึ้นเลยทีเดียว 555+

ที่พักได้มาตรฐาน ตอนกลางคืนอากาศเย็น พัดลมตัวเดียวก็เอาอยู่ครับ

......

เช้าวันใหม่ได้เวลาไปชมทะเลหมอก จากที่พักนั่งรถไปประมาณ 20 นาที

และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 30 นาที บอกเลยว่าทางขึ้นชันเอาเรื่อง 55+

และนี่คือ.. หนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ #จุดชมทะเลหมอกเขาหินโยก

ด้วยความที่เป็นป่าดิบชื้น ต้องบอกว่าหมอกมีทุกวันครับ

(ไกด์หลิงปิง ได้กล่าวว่า "เซ็งมากๆ เจอทุกวัน เจอจนเบื่อ" ขึ้นมาไม่ต้องลุ้นเลย 555+)

สักราวๆ 8 โมง หมอกก็เริ่มจางลง ได้เวลาลงเขาแล้ว

เอาภาพมุมสูงบริเวณจุดชมทะเลหมอกเขาหินโยก มาฝากครับ

หินก้อนนี้แหละครับที่มาของคำว่า "เขาหินโยก"

ถ้าเราไปยืนโยกอยู่ด้านหลังของหิน

หินจะโยกได้อย่างเห็นได้ชัด ใครที่มีโอกาสได้มาที่นี่ อย่าลืมลองมาโยกหินดูนะครับ ^^

หลังจากชมทะเลหมอกฟินๆ กันไป ก็ได้เวลากลับที่พัก เพื่อกินมื้อเช้า..

ในระหว่างทางกลับที่พัก.. มีจุดถ่ายรูปแนวๆ ขอจอดแวะสักแปป..

1 2 3 แชะ

หลังจากเติมพลังเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปจุดเช็คอินต่อไป

#เส้นทางธรรมชาติน้ำตกฮาลาซะห์

ระหว่างทางก็จะเขียวๆ ไม้น้อย ไม้ใหญ่ ตลอดเส้นทาง..

อ่อ ลืมบอกว่าป่าผืนนี้เป็นป่าดิบชื้น ด้วยความที่อุดมสมบูรณ์มากๆ

สิ่งที่เยอะมากๆ ในป่าฮาลา-บาลา ก็คือ.. #น้องทากผู้น่ารัก น่ารักมาก (เสียงสูง) 555+

จากจุดจอดรถเดินตามเส้นทางประมาณ 300-400 เมตร

ถึงแล้วน้ำตกฮาลาซะห์ ช่วงนี้น้ำน้อย สามารถปีนขึ้นไปด้านบนได้ง่าย

ใกล้ๆ น้ำตกฮาลาซะห์ จะมีฟาร์มกวางของชุมชน

หลังจากมื้อเที่ยง ก็ได้เวลาล่องเรือสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา

จากจุดจอดเรือ เดินเท้าประมาณ 600 เมตร

และนี่คือ #ต้นสมพงยักษ์ แห่งผืนป่า "ฮาลา-บาลา" ใหญ่มากๆ

ปิดท้ายด้วย #ป่าต้นน้ำ คนที่นี่เรียก #คลองน้ำใส

น้ำจากป่า ฮาลา-บาลา ไหลลงเติมเต็มเขื่อนบางลาง

ช่วงเดือน กค. น้ำยังไม่สูงนัก พอให้ได้เอาขาแช่น้ำเย็นๆ

บรรยากาศยามเช้ามีหมอกปกคลุม และเช้านี้ก็เป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ สถานที่แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เครื่องมือ เครื่องใช้ และอนุสาวรีย์วีรชน

จากภาพด้านล่างจะเป็นเครื่องทำระเบิด และอุปกรณ์สื่อสาร ที่ผ่านการใช้จริง

และผู้บรรยายให้เราทราบถึงประวัติศาสตร์ คือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริงด้วย

ขากลับ.. 30 กม. จากชุมชนออกมา เราได้แวะ #เขื่อนบางลาง

เขื่อนแห่งนี้คือจุดเริ่มต้นของแม่น้ำปัตตานีนั่นเอง

ปิดทริปสะพานประวัติศาสตร์ สะพานหงสกุล เป็นสะพานข้ามแม่น้ำปัตตานี

สร้างโดยกองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ราวๆ ปี พ.ศ. 248

และท้ายสุดต้องขอขอบคุณโครงการดีๆ จาก ททท. อส.Social ที่ได้นำทางพวกเรา ฅนชอบเที่ยว

มาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่หนึ่งของเมืองไทย ที่ผมเชื่อว่าหลายๆ คน ..อาจไม่เคยได้รู้จัก

..ขอบคุณที่ทำให้พวกเราได้พบเจอผู้คนมากมาย..

และขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ชาวชุมชนจุฬาภรพัฒนา 9 ที่ตอนรับพวกเราเป็นอย่างดี และเป็นกันเองที่สุด

ขอบคุณอาหารทั้ง 6 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ตรงเวลาสุดๆ ^^ ตลอด 3 วัน 2 คืน..


ติดตามไปเที่ยวกับเรา #ฅนชอบเที่ยว

Facebook : www.facebook.com/konchoptieow

instagram : www.instagram.com/konchoptieow



สนับสนุนโดย



ฅนชอบเที่ยว

 วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.06 น.

ความคิดเห็น