ความเดิมตอนที่แล้ว ตามอ่านได้ที่

1. https://th.readme.me/p/1883 (เดินตามหาตะวันในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ Disneyland Paris)

2. https://th.readme.me/p/1884 (สูดสายลมลึกๆเข้าปอด แล้วเอาตะวันมากอดที่ Geneva กันเนอะ)

3. https://th.readme.me/p/1885 (คืนวันอันหนาวเหน็บ ขึ้นไปเก็บความทรงจำบนยอดเขา Chamonix - Mont - Blanc กัน)

4. https://th.readme.me/p/1886 (นี่มันไม่ใช่ทะเลสาบ มันคือภาพวาดโว้ย หยุดพักตรง Annecy นี่แหละ เวริค!!!)


หลังจากที่ผมมาถึงลียงได้ 1 วันผมก็แอบแว๊นไป Annecy ในตอน 4 ที่ผมรีวิวไปก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะได้รีวิว Lyon แบบฉบับเต็มๆโดยที่ไม่ต้องมีสถานที่อื่นมาคั่นให้เสียอารมณ์นะครับ เริ่มกันเลยดีกว่าครับ

26 Dec 2015 จาก Geneva Cornavin Station ผมนั่ง TGV Lyria มาลงที่สถานี Lyon part dieu ซึ่งจองตั๋วไว้ก่อนแล้วผ่านทาง Website ของ SNCF ในราคาคนละ 38 euro เนื่องจากผม plan อยู่ที่นี่แบบ slow life ยาวๆ ชิวๆ นานพอสมควรผมเลยแบ่งทริปลียงนี้ไป Annecy ก่อนตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ผมนั่ง SNCF ตอนจาก Geneva ตอน 12:42 ถึง Lyon 14:26 ก็ check-in ที่ Hotel Campanile Lyon Centre

(ผมจะมีปัญหามากๆกับการเดินทางการหาสถานที่ การหารถไฟ การหานั่น นู้น นี่ในเมืองแรก ครั้งแรก ทั้งต้องแบกกระเป๋าหนักๆ 1 ใบลากอีก 1 ใบ เป้ใบเล็กให้แฟนถือบอกเลยว่าในอุณภูมิ 0 - 4 องศา ลากกระเป๋าจนเหงื่อซึมหลังได้เลยละกันครับ หึหึ ก็อย่างที่บอก ผมก็จะเผื่อเวลาไว้เยอะๆหรือมา survey ก่อน 1 วันเพื่อวันไปจะได้ไม่ลก ไม่ต้องรีบร้อนอะไร เรารู้อยู่แล้วว่าต้องไปที่ไหนอย่างไร..) หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็ไม่มีอะไรทำ พักหายเหนื่อยแล้วก็ลองไปสำรวจเส้นทางแหล่งช้อปปิ้งในตัวเมืองว่าไกลแค่ไหนโดยการเดินเท้าจากโรงแรมข้ามสถานีรถไฟLyon part dieu ข้ามไปยังอีกฝั่งนึง ซึ่งจะมีห้างคาร์ฟูเดินผ่านห้าง gallery Lafayette


ผมเดินไปจนสุดถนน จนถึงสะพานข้ามแม่น้ำRhone พอข้ามแม่น้ำไปก็จะถึงถนนแหล่งช้อปปิ้งในซิตี้เต็มไปหมด เลือกดูเลือกชมได้ตามสบายเลยครับ แต่บอกเลยเดินเท้านี่ไกลเอาเรื่องอยู่ แต่ถ้าเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ ก็คงจะไม่หนักหนาสาหัสมากนัก แต่ขากลับเมื่อยมากถึงมากที่สุดเลยล่ะครับ


27 ธันวา 2015 เกริ่นให้ก่อนตอนต้นเลยนะครับ 80% ของร้านไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือว่าร้าน Shopping ปิดหมดนะครับย้ำว่าปิดหมดนะครับ เดี๋ยวจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่า ห้าง printemp shop H&M Louis longchamp supermarket ต่างๆปิดเรียบแต่จะเปิดไฟในร้านไว้ให้นักท่องเที่ยวยืนเกาะกระจกส่องดูของได้ครับ ความรู้สึกเหมือนมาส่องสัตว์ เล็งเอาไว้เพื่อวันต่อไปจะมาสอยนะครับ ฮ่าๆๆ ที่ผมเห็นมีแค่ห้าง part dieu เท่านั้นที่เปิดอยู่ครับ วันนี้เลยจัดแพลนเที่ยวแบบเต็มๆออกเดินทางโดยการซื้อตั๋ว one day pass unlimited Lyon ในราคา 5.5 euro

บัตรสามารถขึ้นได้ทั้ง metro bus tram และรถกระเช้าขึ้นไป fourviere ทั้งสองเส้นทางเรียกว่าคุ้มจริงๆครับ ผมเริ่มที่นั่ง metro ไปลงที่ bellecour ชื่นชมดื่มด่ำกับอนุสาวรีย์ใครซักคนนี่แหละ พระเจ้าหลุยส์ที่ XX (เที่ยวกับผมไม่เน้นประวัติศาสตร์ เน้นเปิดโลกเป็นพอ ฮ่าๆๆ) กับชิงช้าสวรรค์ใหญ่โต มโหฬาร


เมื่อดื่มด่ำกับพระเจ้าหลุยส์ กับ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ Landpoint ของที่นี่แล้ว ผมเลยเดินขึ้นมาถึงแยกไฟแดง ด้านขวาริมแม่น้ำ Rhone ในวันอาทิตย์หรือทุกวันไม่แน่ใจนะครับ (วันที่ผมไปเป็นวันอาทิตย์ ) จะมีตลาดสดขายผัก ของสด อาหาร ไก่ย่าง ขนมหวาน ลองเดินชมกันดูครับ


แล้วผมก็เดินข้ามสะพานแม่น้ำ Rhone ไปสุดจะเจอสามแยกตรงนั้นคือสถานี Vieux Lyon เป็นจุดเริ่มต้นที่จะขึ้นไปเขตเมืองเก่าครับ

เมื่อมาถึง Vieux Lyon Station จะมีรถกระเช้าสองเส้น เส้นซ้ายไป Saint-just เราสามารถลงป้าย Minimes เพื่อไปชมลาน Amphitheather (odean) และ เส้นขวา ไป Basilique Notre-dame de Fourviere ชมวิวเมืองลียงและโบสถ์เก่าแก่สวยงามครับ


ผมเลือกที่จะไป เส้นขวาก่อนครับ เราจะไป Basilique Notre-dame de Fourviere กันก่อนนะครับ เราไปชมวิวเมืองลียงและโบสถ์เก่าแก่สวยงามกันครับ ขึ้นมาจากรถราง ก็ออกมาเจอภาพนี้เลยครับ


มองไปทางซ้ายครับ นึกว่า Eiffel ฮ่าๆๆ จริงๆน่าจะเป็นเสาวิทยุส่งสัญญานละมั้งครับ


เดินลึกเข้าไปก็จะเจอจุดชมวิว เมืองลียง หลังคาส้มๆเก่าๆ ท้องฟ้าสดๆ ซึมๆ โห...ณ จุดๆนี้อยากได้เบียร์เย็นๆซักขวด แหม่ๆๆ เปรี้ยวปาก


อีกซักรูป วิวด้านซ้ายของเมือง


วิวตรงกลางของเมือง ที่เห็นตึกสูงๆคงจะเป็น Lyon Part dieu กับโรงแรมอะไรซักอย่างผมจำชื่อไม่ได้ละ


ดื่มดำกับวิวเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปเข้าโบสถ์กันครับ โดยส่วนตัวผมเป็นพุทธครับแต่ผมก็ไม่ได้ที่จะปิดกั้นหาความรู้ในโบสถ์นะครับ ในโบสถ์จะมีแผ่นคำบรรยายทั้งฝรั่งเศส และ อังกฤษ บอกประวัติความเป็นมา น่าสนใจจริงๆครับแต่ยาวมาก และด้วยความเป็น Professional ในภาษาอังกฤษของผมเลย เดิน..ผ่าน..ไป


อีอมุมในโบสถ์ครับ


พอเสร็จสรรพภารกิจชมโบสถ์ Basilique Notre-dame de Fourviere เป้นที่เรียบร้อยแล้ว ผมนั่งรถรางลงมาแล้วมาขึ้นรถรางทางด้านซ้ายที่จะไป Saint-Just เพื่อที่จะไป Amphitheather (odean) ลงสถานี Minimes ครับพอขึ้นมาก็เดินย้อนสถานีมา 30 เมตรถึงหน้าทางเข้า


ผมชอบที่นี่นะครับ ออกกลิ่นไอ Roman รู้สึกว่าตัวเองเหมือนอยู่ในหนัง Gladiator


รู้สึกฮึกเหิมกันบ้างมั้ยครับ


ลงจาก Fourviere มาก็เย็นละครับ มาที่นี่ 4 โมงเย็นก็มืดละครับ ผมมุ่งหน้าเดินทางไปต่อที่ Place des Terreaux โดยนั่งรถไฟมาลงสถานี Hotel de ville จะเป็นที่ตั้งของโรงละคร opera


ถัดมาด้านซ้ายของโรงละคร มีสถานปัตยกรรมแสดงเด่นเป็นตระหง่านอยู่ แต่เนื่องจากว่าเดินกันเหนื่อยมาทั้งวันละครับ ขอตัวกลับไปนอนพักเพื่อพรุ่งนี้จะได้ลุยกันต่อ อ้อลืมไปพรุ่งนี้ต้องย้ายโรงแรมด้วย ป่ะไปช่วยเก็บของใส่กระเป๋าแล้วพรุ่งนี้ย้ายโรงแรมกันครับ

ความคิดเห็น