Miles & More in Switzerland : Day 1-1

เช้าแรกที่ Zurich ต้อนรับการมาเยือนของเราด้วยฟ้าสีหม่น ด้วยบรรยากาศขมุกขมัว ด้วยอุณหภูมิเพียงสิบกว่าองศา ลมที่พัดมาปะทะใบหน้าและร่างกายเป็นระยะๆ ทำให้ทั้งหนาว ทั้งสั่น ทั้งยะเยือก จนต้องคอยกระชับเสื้อหนาว

ถือเป็นช่วงเวลาของการปรับตัวของคนที่เดินทางมาจากเมืองร้อนอย่างพวกเรา เพื่อเตรียมตัวผจญภัยกับอากาศลักษณะนี้ในวันถัดๆ ไปอีกหลายวัน

สำหรับหนูเล็กแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ทำความรู้จักกัน จะหนาว จะเงียบ จะเหงา หรือจะอะไรๆ ก็แล้วแต่ Zurich ก็มีเสน่ห์ในความรู้สึกอยู่ดีนั่นละ จริงๆ นะ เดินไปทางไหน มองไปทางไหน ก็ชอบไปหมด จนอดเก็บภาพแบบนี้มาไม่ได้ ตื่นตาตื่นใจที่ได้รูัจักทักทายกัน เป็นเช้าแรกในสวิตเซอร์แลนด์ที่ทำให้มีอะไรน่าจดจำได้บ้าง เพราะมีอะไรที่มาทักทายกันเบาๆ น่ารักๆ ไม่ร้อนแรง

ภาพทั้งหมดเป็น Zurich ยามเช้าระหว่างเดินสำรวจเมืองรอเวลาบริษัทรถเช่าเปิดให้บริการที่ช่างเงียบสงบดีแท้ ขัดกับความจริงที่ว่านี่คือเมืองใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่แสนวุ่นวาย ใครนะบอกว่า Zurich ไม่มีเสน่ห์ ก็แค่มาผิดเวลาหรือเปล่า

เขาว่ากันว่า การเดินทางด้วยรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์แสนสะดวก เพราะไปได้ทั่วทุกที่ ทุกหมู่บ้านแม้แต่ที่ที่รถยนต์เข้าไม่ถึง อีกทั้งยังแสนจะตรงเวลา สะอาด นั่งสบาย ดังนั้น การไปทำความรู้จักกันครั้งแรกของเรา จึงขอเลือกใช้การเช่ารถยนต์ขับเที่ยวเหมือนการเดินทางในทริปที่ผ่านๆ มา เราเลือกเช่ารถกับบริษัทรถเช่าที่เชื่อถือได้อย่าง Budget Car Rent เป็น Renault Megane Estate พาหนะที่เราเลือกใช้สำหรับทริปนี้ ขนาดพอดีไปสักนิดสำหรับคน 5 คน กระเป๋า 5 ใบ รถพร้อม คนพร้อม ได้เวลาสำหรับการออกตะลอนเที่ยวตามสไตล์พวกเราเหมือนเคย

ที่เราเลือกเช่ารถไม่ใช่อะไรเลย ก็พี่ใหญ่กับหนูเล็กเป็นพวกชอบใช้เวลาอ้อยอิ่งกับแต่ละสถานที่ ชอบแวะตามรายทาง ชอบออกนอกเส้นทาง เที่ยวนอกแผนตลอด ภาษาชาวบ้านเขาคงเรียก "เรื่อยเปื่อย" ดังนั้น แม้ว่าการเดินทางด้วยรถไฟจะดีตรงที่ตรงเวลา วางแผนเดินทางสะดวกเพียงใด แต่ทำให้เวลาที่นักเดินทางพรรค์อย่างเราจะได้ละเมียดละไมกับวิวทิวทัศน์สองข้างทาง กับสถานที่น่าสนใจต่างๆ ให้มากขึ้น นานขึ้น ยาวขึ้น หดหายไป เอาน่ะ ก็อยากรู้จักสวิสในมุมที่แตกต่างจากคนอื่นที่มักจะรู้จักผ่านสิ่งที่เรียกว่า swiss pass บ้าง ก็คงไม่เป็นไรมั๊งนะ พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันดีกว่าค่ะ ปลายทางเป็นที่ใดนับจากนี้ ไม่ต้องรู้ล่วงหน้ากันละ กระโดดขึ้นรถมาด้วยกันเลยดีกว่า

เห็นทัวร์ของเราซำเหมาแบบนี้ก็เถิด มาสวิตเซอร์แลนด์กันทั้งที วันแรกต้องเปิดตัวกันแบบ Grand เสียหน่อย เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ จัดไป เริ่มต้นของวันกันอย่างยิ่งใหญ่ให้สมาชิกได้ใจชื้น เริ่มต้นกันที่นี่เลยค่ะ

บริเวณจอดรถด้านหน้าปราสาท Schloss Laufen ปราสาทในเขตปกครอง Laufen-Uhwiesen

จุดขายตั๋วด้านหน้าปราสาท ซื้อตั๋วเข้าชมและซื้อของที่ระลึกได้ที่จุดนี้

หากเดินเข้าทางปราสาท Schloss Luafen ด้านในมีลิฟท์ลงสู่ทางเดินเลาะเลียบน้ำตกได้ แต่นั่นคือต้องมีบัตรผ่านค่ะ เพราะแม้ลงลิฟท์ไปแล้ว ประตูทางเดินจะผ่านต่อไปได้ต้องใช้บัตรเท่านั้นค่ะ

ทางเข้าปราสาท

ด้านในปราสาทจัดบรรยากาศต้อนรับคริสต์มาส

White Christmas in Schloss Laufen

เราไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทค่ะ จึงแค่เดินชมบริเวณรอบๆ จากนั้นก็ขับรถไปจอดอีกทางเพราะมีความตั้งใจไปชมสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

มองไปไกลๆ นั่นคือปราสาท Schloss Laufen ที่เราเพิ่งจากมา

"น้ำตกไรน์" (Rhein Fall) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป กับความสูง 23 เมตร กว้างกว่า 150 เมตร เป็นน้ำตกอันทรงพลัง ดูเหมือนบ้าคลั่งตลอดเวลา แต่ในความบ้าคลั่งนั้นกลับกลายเป็นเสน่ห์ ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน นักท่องเที่ยวที่ชอบตื่นเต้นสามารถนั่งเรือไปยังเกาะกลางน้ำตกได้ เพราะตรงกลางนั้นมีธงชาติสวิสปักไว้ให้ได้ไปเช็คอิน

หนูเล็กและเหล่าสมาชิกไม่มีความคลุ้มคลั่งถึงเพียงนั้น เพราะเห็นราคาเรือแล้วคลุ้มคลั่งกว่า แค่ยืนซึมซับบรรยากาศก็สุขพอสายน้ำ ต้นไม้ แก่งหิน แค่ยืนสงบนิ่งให้ทุกสิ่งรอบกายเคลื่อนไหว เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

ในวันที่ฟ้าหม่นมัว ละอองน้ำฟูฟ่อง เสียงน้ำซัดสาด อากาศเย็นยะเยียบ แม้เพิ่งเดินทางมาถึงเพียงวันแรกๆ แต่ก็แปลกที่ความรู้สึกเหงาและคิดถึงถิ่นที่จากมา แอบย่องเข้ามาในห้วงคำนึงตอนไหน...ตอบไม่ได้เหมือนกัน

แวะไปทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่

https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/