ขุนส่า ใครหลาย ๆ คนในที่นี้คงไม่รู้จัก แต่สำหรับคนแม่สายอย่างพวกเราและต้องในวัยอย่างเราจะรู้จักเค้าเป็นอย่างดี

..ขุนส่า ในอดีตเคยเป็นนักค้ายาเสพติดที่ทางการสหรัฐต้องการมากที่สุด และมีฐานปฏิบัติการทางทหารอยู่ที่บ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จนกระทั่งปี พ.ศ 2525 ทางการไทยก็เข้าทำการปราบปรามและขับไล่กองกำลังขุนส่าออกนอกราชอาณาจักรไทยได้สำเร็จ
ซึ่งที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บ้านขุนส่า ก็คือฐานที่มั่น ที่บัญชาการ ในอดีตนั่นเอง ตอนนี้ข้าวของเครื่องใช้ บ้านพัก รูปภาพต่างๆ ถูกจัดเก็บไว้ในบ้านและเปิดเป็นพิพัธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปดูได้


ประวัติความเป็นมาของขุนส่า

..ขุนส่าเกิดที่เมืองต้านยาง พ่อเป็นชาวจีน แม่เป็นชาวไทยใหญ่ ต่อมาพ่อเสียชีวิต แม่ได้ไปแต่งงานกับกำนันตำบลดอยหม่อ ( Loimaw ) ซึ่งอยู่ในแคว้นเมืองใหญ่(MuangYai)ของรัฐฉาน ซึ่งมีศักดิ์เป็นขุน ทำให้ชาวบ้านนิยมเรียกว่า ขุนส่า ตามพ่อเลี้ยง ต่อมาขุนส่าได้เป็นเป็นหัวหน้าหน่วยอาสาหรือกาก่วยเย(KaKweYe) และค้ายาเสพติดควบคุ่ไปด้วย ทำให้มีอิทธิพลมากในเมืองดอยหม่อทำให้ทหารพม่าวางแผนเรียกไปประชุมที่เมืองตองยี และจับขังคุก

ต่อมา"จางซูเหลียง" อดีตเสธ.ทหารกองพลก๊กมินตั๋ง ซึ่งไม่ยอมกลับประเทศจีน และทำธุรกิจค้ายาเสพติดร่วมกับขุนส่า ได้จับตัวแพทย์ชาวรัสเซียที่เมืองตองยี เพื่อแลกตัวกับขุนส่า ซึ่งตอนแรกพม่าไม่ยอมแต่ถูกรัสเซียบีบจึงต้องยอมแลกตัว ปี ค.ศ.1976 ต่อมาขุส่า ได้ตั้งกลุ่มกู้ชาติ ShanUnitedArmy(SUA) เป็นปรปักษ์กับกองทัพพม่า และ กำลังของพรรคคอมมิวนิสต์พม่า แต่ขุนส่า ยังพันเกี่ยวกับธุรกิจค้าเสพติดในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งต่อมาทำให้กองกำลังของเขามีอาวุธที่ทันสมัยและกำลังพลจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ ขุนส่าก็ได้เริ่มติดต่อ กับองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองของชาวไทใหญ่ กลุ่มอื่นๆ และได้ร่วมกับกองกำลังของ SURA ของนายพลโม เฮง และกำลังส่วนหนึ่งของSSA ภายใต้การนำของเจ้าจ่ามใหม่ ( Sao Sam Mai )

โดยใช้ชื่อองค์กรทางการเมืองว่าสภาปฏิวัติเมืองไต(Tailand Revolutionary Council-TRC ) และมีกองทัพเมืองไต( Mong Tai Army-MTA ) เป็นองค์ฝ่ายทหาร ในปีค.ศ.1985

นับปีค.ศ.1985เป็นตันมากองกำลังของชาวไทใหญ่กลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มีกำลังพลมากถึง 30,000 คนและมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเพราะ MTA มีรายได้มหาศาลจากกิจการดั้งเดิมของขุนส่า แต่ คศ.1995 ขุนส่ายอมสวามิภักดิ์ และวางอาวุธกับทหารพม่า ว่ากันว่าเนื่องจากเกิดการแตกแยกในกองทัพระหว่าชาวไทยใหญ่ และชาวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มญาติและคนที่เคยร่วมธุรกืจยาเสพติดกับของขุนส่า และต่อมา เจ้ากันยอด ผู้นำทหารเชื่อสายไทยใหญ่ได้นำกำลังออกมาตั้งกองทัพกู้ชาติ SSNA. ทำให้กองทัพ MTA ลดความเข้มแข็งลง ประกอบกับสหรัฐตั้งค่าหัวขุนส่าในฐานะราชายาเสพติด คนถัดจาก" ลอชิฮัน" จนขุนส่ายอมสลายกองทัพในที่สุด.

...เรา 2 พี่น้องชอบขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวกัน รอบนี้ก็ไปใกล้ๆ บ้านเหมือนเดิม ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยแม่สลอง ไปหน้าฝนก็ต้องเตรียมเสื้อกันฝนไปด้วยน๊าาา...เด็กดอยอย่างพวกเรา เอ๊ะ!!! ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว แก่แล้วการขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นเขาเป็นเรื่องชิลล์ ๆ แต่วันที่ไปโชคดีมาก เจอฝนประปราย

ภายในพิพิธภัณฑ์ ก็จะมีการจัดแสดงภาพ วีรกรรม กองกำลังกู้ชาติ ต่างๆในอดีต

อดีตเคยเป็นห้องรับแขกของขุนส่า ปัจจุบันก็ทรุดโทรม เก่าแก่ไปตามกาลเวลา

จะมีรูปปั้นเหมือนจริงของขุนส่าอยู่ในห้อง...

ตอนแรกไม่รู้ เดินผ่านหน้าห้องไปมา ต๊กกะใจ๋ ใครนั่งอยู่ข้างในฟ่ะ


ถัดจากห้องรับแขก ติดกันก็จะเป็นห้องนอนของขุนส่า ซึ่งจะมีข้าวของเครื่องใช้ที่ขุนส่าเคยใช้


รูปปั้นของขุนส่า ที่บ้านเทอดไทยร่วมกันสร้างขึ้น

สะเก็ดระเบิดที่ครั้งหนึ่งเคยลงด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ซึ่งบริเวณนี้เคยเป็นฐานที่มั่นของขุนส่า

บริเวณรอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ขุนส่า ร่มรื่นมาก

ขากลับก็เห็นวิวสวยดีก็แว๊บถ่ายรูปกันอีกสักหน่อย


ผ่านไปเส้นทางนี้ก็แวะไปเที่ยวชมได้ ถามชาวบ้านเทอดไทยเขารู้จักที่นี่กันทุกคน


การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย ไปยังตำบลเทอดไทย พิพัธภัณฑ์บ้านขุนส่าทางเข้าอยู่กลางหมู่บ้าน
ใกล้ๆกับสำนักงาน อบต.เทอดไทย ต้องสังเกตุให้ดีนะค่ะ

ความคิดเห็น