สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Read me วันนี้ก็ถึงตาของเราแล้วที่จะได้ออกเดินทางไปกับโครงการ อาสาโซเชียล ของ ททท โดยฟ้า กับ พี่แพร มีความโชคดีมาก ได้มีโอกาสเดินทางมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่ชุมชนพรหมโลกค่ะ ครั้งนี้เราเดินทางกันมาด้วยรถไฟโดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราชตั้งแต่ตอนหนึ่งทุ่ม และ ถึงที่หมายตอนราวๆสิบเอ็ดโมง รถไฟไม่เลท แถมตอนเช้ามีไก่ทอดหาดใหญ่ให้ทานด้วย ฟินเวอร์
ก่อนหน้าที่เราจะเดินทาง เราได้ประสานงานกับพี่สาว ซึ่งเป็นคนดูแลโฮมสเตย์ และดูแลพวกเราตลอดสองวันหนึ่งคืนในวันที่เราอยู่ที่ชุมชนพรหมโลก ให้มารับที่สถานีรถไฟกันตอนสิบเอ็ดโมง โดยพี่สาวได้ส่งคุณลุงชาญ ไกด์ท้องถิ่นผู้ใจดี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างรู้ลึกรู้จริงและเป็นกันเองสุดๆ
ก่อนเราจะเข้าไปยังชุมชน ลุงชาญให้เราแวะมาไหว้ศาลหลักเมืองเพื่อความสิริมงคลกันก่อนค่ะ โดยสถาปัตยกรรมของศาลหลักเมืองมีความสวยงาม เป็นสีขาวทั้งหลัง สะอาดตา ถ้าเรียกกันติดปากในสมัยนี้ก็เป็นความสวยแบบมินิมอลหลังจากเราได้ไหว้ศาลหลักเมืองเรียบร้อยแล้วเราก็มาแวะที่จุดกำแพงเมือง โดยลุงชาญเล่าว่ามีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เก่าแก่มากจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง และนี่คือเวลาที่เราสองคนรอคอย นั่นคือ การกิน!! ลุงชาญพาเรามาที่ ขนมจีนเมืองคอน เป็นร้านชื่อดังของจังหวัด ดูได้จากจำนวนคนในร้านที่เป็นทั้งคนในพื้นที่ และ นักท่องเที่ยวที่ต่างก็มาแวะชิม
ไม่พูดเยอะเจ็บคอ กินค่ะกิน ขนมจีนเมืองคอน นี้ดีจริง ลุงชาญสั่งขนมจีนมาครึ่งโล มีน้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก และ น้ำยาปู มาให้พวกเรา และสั่งข้าวยำใต้ หมูสะเต๊ะ มาเพิ่มอีก ความดีงามของร้านนี้คือผักมาเป็นถาด ใครชอบทานผักต้องร้องกรี๊ด เพราะผักที่นี่สด อร่อยจริง
พี่แพรปลื้มผักดองที่เป็นผักเคียงกับขนมจีนมาก คือเค้าดองเป็นอย่างดีอร่อย ส่วนเราเป็นสายทานเผ็ดไม่ค่อยได้ เลยมีความเอ็นจอยกับข้าวยำราดน้ำบูดูมากกว่า แต่ขนมจีนน้ำยาอร่อยจริงๆนะ สังเกตุที่คนข้างๆซัดเกลี้ยงเลย
มาถึงนครทั้งที ก็ต้องไปกราบไหว้วัดคู่บ้านคู่เมืองเค้าหน่อย วัดพระมหาธาตุวรวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกกันว่า วัดมหาธาตุ ค่ะ สถานที่นี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนคร มีพระบรมธาตุเจดีย์ ตั้งอยู่ภายในวัด เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และที่วัดแห่งนี้นิยมกันนำผ้าขึ้นธาตุ คือ การนำผ้าจีวรมาขึ้นธาตุและบนขอพรก็จะได้ตามที่ขอไว้ ใครที่มาจังหวัดนครศรีธรรมราชต้องแวะมาไหว้สักการะกันก่อนเพื่อความเป็นมงคล
หลังจากแวะหลายที่ก่อนเข้าชุมชน ก็ถึงเวลาเดินทางต่อเพื่อจะไปเจอกับ พี่สาว และชุมชนพรหมโลกแล้วล่ะค่ะ เราเดินทางต่อประมาณ 20 นาทีก็มาถึง ชุมชนพรหมโลก เหมือนฟ้าฝนเป็นใจ หรือ เราพาเม็ดฝนมาด้วยก็ไม่รู้ พอมาถึงฝนก็ตกปรอยๆเลยซะอย่างงั้น พี่สาวนำผลไม้ทั้งมังคุด เงาะ และทุเรียน มาต้อนรับ ที่อื่นเป็น Welcome drink แต่ที่ชุมชนพรหมโลกเป็น Welcome fruit
Welcome Fruit ของเราสามารถเดินไปเด็ดที่สวนหน้าบ้านได้เลยค่ะ งานนี้คุณฟ้าฟิน เพราะเป็นตัวกินเงาะและมังคุดอยู่แล้ว พอทุกคนรู้ว่ามังคุดและเงาะ เป็นของโปรด แทบจะพาไปเด็ดจากต้นให้ชิมกันเลยล่ะ
เราคุยกับพี่สาวถึงความเป็นมาของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชุมชนพรหมโลก ได้ความว่า ต้องการให้ชาวบ้านมีรายได้โดยไม่เบียดเบียนธรรมชาติ เป็นการท่องเที่ยวชมธรรมชาติอย่างเกื้อกูลกัน ซึ่งแต่ก่อนจะเป็นชาวต่างชาติที่เอเจนซี่ทัวร์ส่งมาให้ แต่ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากขึ้น
ทางชุมชนจัดทริปท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน มีกิจกรรม พาไปเที่ยวน้ำตกพรหมโลก เดินสวนผลไม้ ทำผ้าบาติก นอนพักกับคนในชุมชน ปั่นจักรยานชมหมู่บ้าน ไปเล่นน้ำที่วังปลาแงะ เที่ยวชมวัดสำคัญอย่าง วัดพรหมโลก วัดเขาขุนพนม ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมีพาไปโรงเรียนเพื่อดูการเรียนการสอน และแลกเปลี่ยนสอนภาษาต่างประเทศให้กับน้องๆด้วย
ในครั้งนี้เราโชคดีมากได้มาพักกับแม่จิต เจ้าของบ้านผู้ใจดี ที่ทำอาหารอร่อยมาก !! อยากกินอะไรเพียงแค่บอกค่ะ แม่จิตจัดให้พวกเราเต็มที่ ฟ้าเห็นในต้มเค็มมีใบเหลียงก็ดีใจมาก เพราะเป็นของชอบ มื้อต่อมา แม่จิตเอากะละมังให้ดูแล้วบอกว่า แม่ไปเด็ดใบเหลียงมาให้แล้ว เตรียมกินใบเหลียงผัดไข่ได้เลย โอ้โห บริการทุกระดับ ประทับใจเวอร์ ( รักแม่จิตจังเลยค่ะ )
เรานอนพักกันประมาณ 2-3 ชั่วโมง ลุงชาญก็มารับเราไปที่ วังปลาแงะ น้ำใสมากกกกกก ขอแอบพิมพ์ ก.ไก่ เยอะหน่อยนะ เพราะมันใสจริง และ เย็นจริง เห็นตัวปลา ซึ่งปลาก็เยอะมากกกกก ก.ไก่ เยอะอีกที เด็กน้อย ผู้ใหญ่ต่างพากันมาเล่นน้ำ หยิบห่วงยาง กระโดดลงน้ำกันอย่างสนุกสนาน ทำให้เราอดใจไม่ได้ที่จะขอเดินลงไปในลำธารนี้เหมือนกัน
หลังจากเล่นน้ำที่วังปลาแงะแล้ว เราก็กลับมาทานอาหารเย็นที่บ้าน แม่จิตทำ แกงเหลืองมังคุดใส่เนื้อหมู ต้มกะทิใส่ใบเหลียง ไข่เจียว ผัดผัก เป็นอาหารง่ายๆแต่อร่อยจริง โดยเฉพาะแกงเหลือง ดี๊ดี ทานเสร็จแล้วเราก็ไปทำกิจกรรมผ้าบาติกกันต่อ โดยมีหลานสาวของพี่สาวเป็นคนสอนค่ะ เริ่มแรกเราต้องวาดภาพด้วยดินสอลงบนผ้าที่ขึงให้ตึง และ รอให้เทียนเดือน นำอุปกรณ์เขียนเทียนตักเทียนที่ร้อน และนำมาวาดลงตามเส้นดินสอ ต้องระวังไม่ให้เทียนหยดโดยใช้กระดาษทิชชู่รอง และ ปาดก่อนเขียน หลังจากเขียนเสร็จก็ระบายสีตามใจชอบค่ะ
ด้วยความที่เราเป็นสาวกดิสนีย์ เลยหาวาดรูปง่ายๆอย่าง พระอาทิตย์ในเรื่อง Tangled แต่วาดไปวาดมา เออ เหมือนผ้าปูดูไพ่ยิปซีเลยอะ งงใจ ส่วนพี่แพรวาดเป็นดอกชบา ลายใบไม้แบบเต็มพื้น เราใช้เวลาระบายสีกันเกือบชั่วโมงก็เสร็จ และต้องรอให้แห้งเพื่อเคลือบน้ำยา และ นำไปต้ม ตากให้แห้งถึงจะได้ผ้าบาติกที่สมบูรณ์
คืนนั้นก่อนนอนเราได้ไปเดินเที่ยวงานวันชาวสวนด้วย เป็นงานประจำปี เหมือนกับงานวัดทั่วไป แต่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน มีของกิน ของใช้ เสื้อผ้าขาย สวนสนุกย่อมๆสำหรับเด็กน้อย เวทีโชว์ร้องเพลง ซุ้มปาโป่ง ยิงตุ๊กตาก็มี เราเดินกันเพลินจนดึกก็กลับบ้านมาพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวไปวัดตอนเช้า
เช้าวันต่อมาพี่สาวมาปลุกเราตอนตีห้ากว่าๆ ซึ่งเราสองคนงัวเงียมาก555 แต่ก็รีบล้างหน้า แปรงฟัน และออกตัวไปที่วัดเขาขุนพนม ที่ชาวนครศรีธรรมราชเชื่อว่าเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จมาอยู่ที่นี่ และ สิ้นพระชนม์ที่นี่ ไม่ใช่โดนสำเร็จโทษตามประวัติศาสตร์ วัดอยู่บนเขาที่มองเห็นทิวทัศน์ได้ไกล ซึ่งแน่นอนว่าทางขึ้นก็สูงมากเช่นเดียวกัน เหมือนเป็นการออกกำลังกายยามเช้าไปในตัว
กองทัพต้องเดินด้วยท้องหลังจากไปวัดเขาขุนพนม เราแวะมาตักบาตร และ ทานอาหารเช้ากันที่ร้านเขียวติ่มซำ ที่มีอาหารเช้า อย่าง โจ๊ก ติ่มซำ ปาท่องโก๋ เครื่องดื่มชากาแฟขาย พี่สาวให้พวกเราสั่งอาหารกันเต็มที่ ซึ่งก็เต็มจริงๆเต็มโต๊ะเลย แถมพี่สาวยังซื้อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูปิ้งมาสมทบอีก เป็นมื้อเช้าที่ทำพวกเราแน่นมากกก
พวกเรามาอาบน้ำ และ รอให้ลุงชาญ และไกด์สาวสองคนพาไปเที่ยวน้ำตกพรหมโลก ต้องบอกเลยว่าทางเดินขึ้นทำพวกเรา Adventure พอสมควร แต่พอไปถึงน้ำตกด้านบนมันก็คุ้มที่จะเดินไปจริงๆค่ะ สวยงาม เย็นสบายจากละอองน้ำ ทำให้พวกเรารู้สึกคลายร้อนจากการเดินขึ้นมาได้ เอาเป็นว่าไม่พูดเยอะเจ็บคอ 55 ดูภาพเอาเองดีกว่าเนาะ
พวกเรานั่งชมธรรมชาติกันซักพักใหญ่ เพราะตอนขึ้นมันเหนื่อยจริงๆแหละ 555 ของแบบนี้คุณควรจะไปสัมผัสเอง แต่อยากบอกว่า แค่เดินขึ้นไปแล้วได้รูปสวยๆ ได้แช่น้ำเย็นๆก็พอแล้วจริงๆนะ :)
ถึงเวลาที่ต้องบอกลาเราสองคนก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพี่สาวก็พาเราไปส่งที่สถานีรถไฟทุ่งสง รอเวลาขึ้นรถไฟกลับบ้าน สำหรับทริปนี้และชุมชนพรหมโลกอาจจะไม่ได้มีกิจกรรมที่หวือหวามากมาย แต่ความสุขใจ และ ความสบายใจที่คนในชุมชนมอบให้เราสองคนนั้นมันทำให้มีความสุขมากจริงๆ รวมไปถึงบรรยากาศความเป็นธรรมชาติของทั้งวังปลาแงะ น้ำตกพรหมโลก ก็ทำให้เรารู้สึกคุ้มค่าที่จะมาแล้วล่ะค่ะ ถ้าเพื่อนๆสนใจไม่รู้ว่าวันหยุดยาวจะไปเที่ยวไหนลองเก็บชุมชนพรหมโลกไว้ในลิสต์และออกเดินทางมาที่นี่ดูนะ รับรองว่าได้รอยยิ้มกลับไปแน่นอน ☺
FAHPAWA
23 August 2018
Fahpawa - Travel and outing
วันพฤหัสที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 23.10 น.