วันนี้ขอมาแบบ รีวิวพิเศษๆหน่อยละกัน เพราะตอนนี้เราลองเปลี่ยนรีวิวที่เที่ยว สำหรับไปพักผ่อน หันมารีวิวที่เที่ยว ที่เราสามารถไปมอบความสุขเล็กๆให้คนในพื้นที่ได้อีกด้วย :)

เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เรากับเพื่อนได้ทำโปรเจคหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Dare to be good project โดยมีความตั้งใจว่าอยากจะมอบความสุขที่เราสามารถทำได้ ให้กับผู้รับที่เขากำลังต้องการ ทำให้เกิดความสุขอันยิ่งใหญ่ในชีวิตเขาได้ โดยเราได้เริ่มโปรเจคแรกชื่อว่า เด็กส่งยา โดยพวกเรารับบริจาคยาเหลือใช้ภายในบ้าน รวมไปถึงอุปกรณ์การแพทย์ที่เป็นวัสดุสิ้นเปลืองให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อมนุษยธรรม อำเภอ อุ้มผาง จังหวัดตาก รายละเอียดโครงการสามารถอ่านได้ที่แฟนเพจ Dare to be good project นะคะ

เอาล่ะ หลังจากเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนมกราคม คนให้ความสนใจเราเยอะพอสมควร และได้รับของจากผู้ใหญ่ใจดีอยากเว็บ readme.me ที่ร่วมสมทบอุปกรณ์การแพทย์ไปกับเรา และเมื่อเราได้ฤกษ์ดีก็นำยาและอุปกรณ์การแพทย์ ทั้งหมดไปบริจาคให้กับทางมูลนิธิอุ้มผาง โดยทางเราได้ขับรถจากกรุงเทพไปถึงจังหวัดตาก เพราะมีของต้องขนไปเยอะมาก งานนี้เราได้รับอนุเคราะห์รถยนตร์จาก Avis Thailand ในการส่งยาไปยังโรงพยาบาลอุ้มผางด้วย

xy81djk6i5fq



แน่นอน การเดินทางไปยังอุ้มผางนั้นไม่งานเลยจริงๆ เราขับรถทุกวัน วันละ 6 ชั่วโมง แวะพักที่ตากคืนหนึ่ง แล้วอีกวันก็ขึ้นไปยังอุ้มผาง ไกลมากจริงๆ

เราไปถึงอุ้มผางเย็นๆวันที่ 2 แล้ว อากาศดีเชียวแหละ บรรยากาศในหมู่บ้านก็เงียบๆ ไม่วุ่นวาย จะว่าไปแล้วก็ตื่นเต้นเหมือนกันที่พรุ่งนี้จะได้เข้าไปมอบของให้กับโรงพยาบาลอุ้มผางแล้ว :)

p8s305335sdr


เราเดินทางมาถึงโรงพยาบาลช่วงสายๆ (เพราะเหนื่อยจากการขับรถมากฮ่าๆ) โรงพยาบาลขนาดเล็กแต่เต็มไปด้วยผู้คนที่มารอรับการรักษา จากการกะสายตา ประมาณ 80% เป็นชาวกะเหรี่ยงที่มารอรับการรักษาจากคุณหมอที่โรงพยาบาลแห่งนี้ จากข้อมูลที่เราทำการบ้านมา ชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ในพื้นที่นั้นยังไม่ได้รับสัญชาติไทย ทำให้มีปัญหาในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่ายาต่างๆ และนั้นแหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากเริ่มโครงการนี้

เราได้นั่งพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลพร้อมเดินชมในโรงพยาบาล เราสัมผัสได้ถึงความเต็มที่ของบุคคลากรที่กำลังตรวจรักษาผู้ป่วย และวันนั้นที่เราไป เป็นวันที่มีคุณหมอและทีมพยาบาลอาสามาช่วยผ่าตัดและดูแลผู้ป่วยต้อกระจกด้วย

pnrull8eiyoa


จริงๆแล้วโครงการรับบริจาคยาเหลือใช้ไม่ได้เริ่มต้นจากเรา แต่เป็นโครงการของทางโรงพยาบาลมาแล้วประมาณ 1-2 ปี ปัญหาขาดแคลนยาในโรงพยาบาลตามชายแดน กับปัญหายาล้นบ้านของคนในเมือง ล้วนแต่สวนทางกัน มันจะดีกว่าไหมถ้ายาเหลือใช้ที่เราทานไม่หมด ได้มอบให้กับผู้ป่วยที่กำลังรอยาดีๆในการรักษา นอกจากจะไม่ต้องทิ้งยาที่ราคาแพงแล้ว เรายังได้มอบการรักษาทางอ้อมให้กับผู้ป่วยที่อยากหายเป็นปกติ เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตของเขาได้เต็มที่

ก่อนเราออกจากโรงพยาบาล คุณหมอได้มอบฉลากยาให้เราดูว่า ที่โรงพยาบาลได้ออกแบบฉลาดยาสำหรับผู้ป่วยที่อ่านภาษาไทยไม่ออกโดยเฉพาะ การติ้กเวลาทานยาทำให้ผู้ป่วยได้รับยาตามจำนวนที่แพทย์สั่งได้ง่ายขึ้น

ฉลากยานี้ถึงจะเป็นแค่สติกเกอร์ธรรมดาๆ แต่สำหรับเรานับว่าเป็นของฝากจากอุ้มผางที่ล้ำค่าอย่างหนึ่งเลย อย่างน้อยๆก็ได้ช่วยเตือนความจำของเราได้ว่า ครั้งหนึ่งเราเคยได้นำยามามอบให้กับที่นี่้ และยาของเราจะมีฉลากแบบนี้ติดอยู่เพื่อส่งต่อให้กับผู้ป่วยที่กำลังต้องการยารักษาจริงๆ

FAHPAWA










ความคิดเห็น