กาลครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ตั้งแต่ครั้นที่ผมไปต่างประเทศครั้งแรก นั่นคือประเทศ ฮ่องกง ณ ตอนนั้นผมได้เข้าไปแวะข้ามไปชายแดน เซิ่นเจิ้น มาด้วย ปรากฎว่าได้ประสบการณ์ ที่ไม่ดีกลับมาเยอะแยะเลย ในครั้งนั้นผมได้ประกาศกับทุกคนเลยว่า ในชาตินี้จะไม่กลับไปเหยียบประเทศที่เรียกว่า China mainland อีก
แต่แล้วโชคชะตาก็มาเล่นตลกกับผมจนได้ 7 ปีผ่านมา ผมได้มาเจอกับแฟนคนนี้ครับ (คนปัจจุบันนี่แหละ) เธอบอกว่า เธออยากไปลี่เจียง ผมก็รู้แล้วแหละ ว่ามันอยู่จีน เธอก็เปิดให้ผมดูว่า ลี่เจียงมันเป็นยังไง สภาพบ้านเมืองเป็นยังไง ในใจผมบอกเลยว่า โม้ จีนไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่นอน ประกอบกับไปถามน้องที่ไปเรียนที่จีน มันก็บอกว่าสวยมาก
ยิ่งไป แชงกริล่า ด้วยนะ "โอ้โห สวยมาก ขึ้นไปดูภูเขาหิมะนะพี่ สุดยอดไปเลย แต่ผมก็ไม่เคยไปนะ เพื่อนมันไปมา มันบอก"
และนั่นคือจุดเริ่มต้น กับการที่ผมต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ว่าชาตินี้ผมจะไม่ไปเหยียบแผ่นดินนี้เด็ดขาด หลังจากวันนั้นก็มานั่งคิดสิ ทำยังไง วางแผนยังไง ยอมรับว่ายากมากๆครับ ผมดูทุกรีวิว ทุกท่านที่ไป แชงกริล่า ลี่เจียง ผมดูทุกรีวิวจริงๆครับ ขอขอบคุณทุกท่าน และยังได้น้อง ชิง ชิง (นักเรียนจีนที่คุนหมิงแต่เรียนภาษาไทย)ที่ศึกษาข้อมูลให้พวกพี่ด้วย เรื่องระดับน้ำทะเลสำคัญจริงๆครับ จะสนุกหรือไม่สนุกวัดกันตรงจุดๆนี้เลยครับ ขอบคุณจากใจจริงทุกๆคนครับ
เกริ่นนำกันไปมากแล้วจนน้ำลายแตกฟองหมดแล้ว มาม่ะ เริ่มกันเลย
แผนคร่าวๆคือ ทำวีซ่า และจองตั๋วเครื่องบิน ผมเลือก TG ไปลงคุนหมิงคนละ 12125 บาท จากนั้นเช้ารุ่งขึ้น บินกับ China Easturn Airline ไปลง Diqing Airport ครับคนละ 350 CNY (promotion) อยู่ Xiangelila 2 วันเหมารถไปลี่เจียง 700 CNY 6 คนครับ อยู่ลี่เจียง 2 วันแล้วนั่ง China Easturn Airline ไปลง Kunming ครับคนละ 350 CNY (promotion) อีกเช่นกัน แล้วก็เที่ยวคุนหมิงพักผ่อนแล้วกลับไทยครับ
ลงเครื่องที่ Shangsui kunming airport ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองจบ ก็โยนกระเป๋าที่ห้องน้องใกล้ๆ Yunnan university ก็กระโจนตัวออกไปเที่ยวในเมืองก่อนเลยครับ เหมารถคันเดิมที่มารับที่สนามบินครับ สนนราคาจากสนามบินมาคอนโดน้อง 120 CNY ให้ลุงคนขับรถพาไปส่งในเมืองอีก 30 CNY รถติดมากๆ ครับคุนหมิงเนี่ยเลยลงเดินเอาครับ ไปวัดหยวนทง เสียค่าเข้าคนละ 6 CNY ครับ
พาเดินเข้ามาในวัดครับ ดูกว้างดีครับ จริงๆแล้ว มีหลายมุมในแต่ละสถานที่ ที่สวยๆแต่ว่าไม่สามารถนำมาให้ชมได้หมดอ่ะครับ
เสร็จจากวัดหยวนทง ก็ประมาณ หกโมงครับ วัดปิดพอดี ท้องก็เริ่มจะส่งเสียงออกมาแล้วว่า หิวแล้วนะเว้ยย กินไรดีซึ่งน้องเตรียมไว้ให้แล้วครับ เค้าตั้งชื่อร้านว่า บะหมี่ข้ามสะพาน Over bridge อะไรซักอย่างผมจำไม่ได้ หน้าตาก็ออกมาประมาณในรูปอ่ะครับ อย่างงนะครับว่า ทำไมถึงบะหมี่ข้ามสะพาน เล่ายาวกันเลยทีเดียวเชียว ฮ่าๆๆ โดยส่วนตัวอาหารจีนทั้งหมดในทริป ผมว่าออกแนวไม่ค่อยจะถูกปากผม และ เพื่อนๆในทริปซักเท่าไหร่ครับ รสมันเป็นแบบไหนต้องลองมาชิมเองครับ
วิธีกินก็คือ น้ำซุป จะ serve สุดท้ายเราก็เอาทั้งหมดที่เราเห็นอ่ะ ลงในน้ำซุปให้หมดแล้วก็กินเลย
เมื่อกินกันอิ่มหมีพลีมันกันแล้ว น้องเราก็พาเดินช๊อปปิ้ง ดูของ ดูราคาก่อนแต่ยังไม่ซื้อ เพราะ สองวันสุดท้ายเราก็ต้องมาจบที่นี่อยู่ดี เดินเล่นไปจนถึง ประตูม้า ประตูไก่ ครับ ไม่แน่ใจข้อมูลถูกรึเปล่า ฮ่าๆๆ จำไม่ได้ แต่รู้ว่าก็สวยดีครับ แต่การจราจรนี่ต้องเดินระวังกันหน่อยนะครับ ยิ่งเห็นคนเดินถนน รถมันยิ่งพุ่งเข้ามาหาเราครับ
ระหว่างทางที่เราเดินก็จะมีพวก มันฝรั่งทอด หรือ ย่าง ผลไม้ชุบน้ำตาล มาขายกันตามรายทางครับ ราคาไม่แพงครับประมาณ 3 - 6 CNY แต่เหอะๆ สำหรับผมความอร่อย ไม่โดน อ่ะครับ (พริกที่นี่เค้ารสชาติแบบเครื่องเทศอ่ะครับ กลิ่นไม่โดนจริงๆครับ ใช้ปรุงอาหารทั้ง 3 เมืองที่ผมไปเลย)
เสร็จแล้วก็กลับมานั่งพักที่คอนโด ได้ซักพักนึงแหละ มันมาอีกแล้ว "พี่ๆเดวผมพาไปโดน" (เวลานั้น 5 ทุ่มกว่าแล้ว) พรุ่งนี้จะบินตอนแปดโมงเช้า ก็ยังสรรหาของกระแทกปาก (เอ้าบ้าจี้ตามมัน ไปก็ไป) ข้างล่างคอนโดจะมีของปิ้งย่าง ไม้ละประมาณ 5-7 CNY ไม่แพงครับ ที่จีนส่วนใหญ่ไม่มีน้ำให้นะครับ เราต้องไปซื้อเข้ามาในร้านมากินเอง ก็เลยเอาเจ้านี่มาเป็นส่วนประกอบซะ
รุ่งเช้าวันที่สอง เหมือนกับไม่ได้นอน ก็กว่าจะนอนก็ตี 2 แต่ตื่นอ่ะ ตี 4 ตื่นมาทำไมกันละเนี่ย (คือห้องน้ำมีอยู่ห้องน้ำเดียว ต้องมาต่อคิวกัน ... ) เพราะเรานัดคนขับรถไปสนามบินตอน 6 โมงครึ่งครับ ปรากฎว่า หมอกลงจัด นั่นไงเอาแล้วกรู เข้าไปดู Board departure แหม่ๆๆ Red Delay กันเป็นแถบเลย กว่าจะได้ออกก็ประมาณ 10 โมงครับ
เครื่องนี้ ไม่ใช่เครื่องที่บินไป Diqing ครับฮ่าๆๆ ถ่ายมาเพราะมันไม่มีคน พวกเราขึ้นลำข้างๆครับ คนตรึมฮ่าๆๆ
พอถึงสนามบิน Diqing เราให้รถจากโรงแรมมารับครับ จองทาง Agoda ครับ 5 Yue Hotel ครับราคาห้องละประมาณ 869 บาทครับโรงแรมก็จ้างรถเหมามารับเราอีกแหละครับ ถามไปถามมา โรงแรมจ้างให้พี่เค้ามารับเราที่สนามบินในราคา 30 CNY ครับ พี่คนขับรถใจดีมากครับ แกชื่อ อันเกอ แกดิวกับโรงแรมนี้อยู่แล้ว แนะนำอะไรเราหลายเรื่อง การอยู่ การกิน คนที่นี่น่ารักครับ ทั้งอัธยาศัยดี ชอบครับ สภาพอากาศแดดจัดๆแบบนี้ เหอะ -9 องศานะครับ หนาวเข้านิวเคลียสกันเลยทีเดียว ไม่เหมือนหนาวที่อื่นนะครับ เคยเจอหนาวถึง - 15 มาแล้วมาเจอที่นี่ก็ จะบอกว่าไงดี มันไม่ใช่อ่ะครับ หนาววมว๊ากกกกกกกกกกกก ต้องมาเจอเอง ฮ่าๆๆ
และที่นี่ถือว่าเป็นโชคร้ายของเพื่อน 2 คนครับ ผมจะอธิบายให้ฟังครับ เนื่องจากว่า ประเทศไทยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2 เมตรเรานั่งเครื่องมาคุนหมิง ซึ่งอยู่ห่างจากระดับน้ำทะเล 1000 เมตรแล้วเราก็นั่งเครื่องมาลง Diqing ซึ่งอยู่ห่างจากระดับน้ำทะเล 3000 ปลายๆ - 4000 เมตรนั่นแหละครับ หายนะ มาแล้วนั่นคือ ระดับความดันทุรังสูงงงงงง ฮ่าๆๆๆ ทุกคนโดบยาหนังปลาวาฬ น้องสองคนพอมีอาการก็ไปปรึกษาเภสัชกร ข้างๆโรงแรมก็ไปซัดยา หง จิ่ง เทียนที่เค้าใช้กัน บวกกับ ออกซิเจนกระป่องไปอีก คนละกระป๋องพักไป สองวันถึงค่อยดีขึ้น นั่นก็ปรากฏว่า น้องสองคนมาที่ Xiangelila นี่ไม่ได้ขึ้นภูเขาหิมะสือข่า (Shika) ซึ่งผมจะเอารูปให้ชมต่อไปครับ เพราะฉะนั้น จะมาที่นี่ต้องเตรียมพร้อมร่างกายดีๆครับ
เรามาถึงที่ 5 Yue Hotel ตอนเที่ยงครับ หิวมว๊ากกกก เราตกลงกับคนขับไว้ว่าให้พี่คนขับรถรับเราไปส่งที่ วัดซงซานหลินจื้อ Song san lin หรือ วัด โปตาลา นั่นเองครับ สนนราคาค่าเหมารถ 60 CNY ครับ แต่ตอนนี้ขอซัดหม้อไฟ เนื้ออะไรบ้างก็ไม่รู้ที่อยู่ในนี้ แต่ที่รู้ๆไม่มีเนื้อจามรีครับ เพราะว่าแพงอ่ะ แต่วันที่สองของแชงกริล่า ลองชิมดูแล้วก็ไม่โดนอีกตามเคยครับ
หม้อไฟนี่สนนราคา 100 CNY รวมข้าวครับ เติมได้สบายๆเหมือนกะเป็น Set อ่ะครับพวกเราเลยเลือกกิน Set ถูกสุด ฮ่าๆๆหวังว่าซุปร้อนๆจะช่วยให้ น้อง 2 คนดีขึ้นปรากฏว่าไม่เลย ฮ่าๆๆ
อิ่มท้องแล้วก็เดินทางกันเลยครับ พี่คนขับมาส่งเราหน้าอุทยานครับ ค่าเข้าจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่แพงพอตัวเลยครับน่าจะประมาณ 115 CNY ครับที่หาข้อมูลมาแค่ 80 CNY ซื้อตั๋วเสร็จปุ๊ปก็เดินไปขึ้นรถของอุทยาน ขึ้นไปแปปเดียวครับก็ถึงวัดครับ
มุมมหาชนครับ ฮ่าๆๆ แต่จริงๆมีสวยๆอีกหลายมุมนะครับ
ตรงข้ามกับวัด Songsanlin ก็จะเห็นสระน้ำใหญ่ๆ น้ำเป็นน้ำแข็งทั้งหมดนะครับ แต่ลองเอาเท้าเขี่ยๆดูปรากฏว่ายังไม่แข็งดีเลยไม่กล้า เดินไปบนน้ำแข็งครับ ฮ่าๆๆๆ เสี้ยน อยากเดินอยู่บนน้ำแข็ง
พอค่ำๆ อากาศหนาวมากๆ ครับ หนาวไม่รู้จะบรรยายยังไง จริงๆครับ ประมาณ -13 นะครับแต่แบบว่าหนาวแบบแห้งๆ ก็มีเสียงมาเลยว่า "พี่ๆ ป่ะหาไรแดรกกกัน ไม่ไหวๆ หนาว ชิ หายยยย" หนาวแทนที่จะกินม่าม่าต้มยำกุ้งอันแสนอร่อยอยู่ในโรงแรม แต่ไม่รู้อะไรดลใจ "เออ รอแปปเดี๋ยวกรูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน" อาหารค่ำมื้อนี้ ก็หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ หาเอาตามใกล้ๆโรงแรมนี่แหละ
สังเกตุ มุมบนซ้ายมือ แกงถ้วยขาวๆครับ เค้าบอกว่าเนี่ย เมนูแนะนำที่ร้านนี้เลย (ถ้าเค้าให้ชิมเมนูแนะนำก่อน ผมคงไม่เลือกกินร้านนนี้ครับ) แต่ผัดเห็ดอร่อยมากๆ ครับ
รุ่งเช้า ตื่นมาแบบ ไม่อยากจะตื่นเลย อากาศมันน่านอนขดอยู่ในผ้าห่มจริงๆเล้ยยย แต่เรานัดคนขับรถ อันเกอ คนเดิมไว้ 10 โมงครับซึ่ง อันเกอบอกว่า ไป 9 โมงดีกว่าลมไม่ค่อยแรง แต่เราตื่นไม่ไหวครับ สนนราคาค่าเหมารถไป ภูเขาหิมะ Shika สือข่า 100 CNY ครับระยะทางก็ไม่ใกล้ไม่ไกลนะครับ
พอมาถึง อันเกอก็บอกเราให้ไปเช่าชุดกันลม ตัวละ 40 CNY อันเกอบอกว่าจะอยู่ได้นานหน่อย แต่พวกเราเสี้ยนครับ ไม่เช่าเค้าก็พาเราไปจ่ายค่าขึ้นกระเช้าเลยครับ สนนราคาอยู่ที่ 220 CNY ลดจาก 270 CNY จากที่หาข้อมูลมา เนื่องจากไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวมั้งครับ
การขึ้นภูเขาหิมะสือข่า จะใช้เวลาขึ้นประมาณ 1/2 ชม. มี 2 ช่วงครับ คือพูดตรงๆเลยว่า แมร่งไกลมากกกกกกกกกกกกก กระเช้านึงน่าจะนั่งได้ประมาณ 6 คนครับ มีสามกระเช้าติดครับ
และนี่คือช่วงที่ เยี่ยมที่สุด แต่ก็เป็นช่วงที่แย่ที่สุดเช่นกันเนื่องจากว่า ลมแรงมากกกกก มากเกินกว่าที่จะเดินตามบันไดไหว ไม่ไหวจริงๆครับ คือรู้สึกได้เลยว่า พวกเราต้องเดินจิกเท้ากับพื้น เพื่อไม่ให้ตัวปลิวไปกับลม ผมเื่ชื่อว่าถ้าเราปล่อยตัวให้ตามลม ผมว่าปลิวแน่นอนครับ เราอยู่บนภูเขาได้ไม่เกิน 15 นาทีจริงๆครับ ฮ่าๆๆ ภูมิใจที่ได้ขึ้นมา แต่เสียดายที่ตื่นไม่ไหว ตามที่คนขับรถบอกว่า ต้องขึ้นให้เช้าเพราะสายๆ ลมจะแรง ส่วนชุดกันลมคิดถูกแล้วครับ ที่ไม่เช่า เพราะเช่าไป ลมขนาดนั้นเอาไม่อยู่ครับ วินาทีนั้นเอาชีวิตให้รอดก่อนดีกว่าครับ อิอิ
ภาพที่เรานั่งกระเช้าลงมา อย่างอ่อนระโหยโรยแรง แต่วิวบนนี้ก็ยังชวนให้เรา กดชัตเตอร์เก็บไว้เป็นที่ระลึก ถามว่าจะมาอีกมั้ย ตอบเลยว่าคงไม่แล้วละ แต่บอกเลยว่าสวยจริงๆ
ธรรมชาติบอกกับพวกเราว่า ไม่ไหวใช่มั้ยข้างบนอ่ะ เอ้าลงไปชั้นนึงมีสนามบาสอยู่ อยากเล่นหิมะ อยากสัมผัสหิมะช่ายมั้ย เต็มที่ที่สนามบาสเลย และระหว่างทางที่เราเล่นกันอยู่ ธรรมชาติก็บอกว่า เล่นหิมะกันสะใจยัง เอ้าไหนๆจะไม่มาแล้ว จัดหิมะตกปลอยๆให้อีก มันเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆเลยครับ นี่แหละใฝ่ฝันในชีวิตอ่ะ
หลังจากเล่นหิมะกันอย่างเมามันส์ จนวัวจามรี ที่เป็นฝูงใหญ่ข้างๆสนามบาส คงจะรำคาญ พวกเราก็เลยตัดสินใจว่า ลงดีกว่าเดี๋ยวมันจะไล่ขวิดเอาถ้ามันโมโห ซึ่งก็คงจะปริ่มๆแล้วแหละ ไปดีกว่า ฟิ้วววววววววววววว
พอลงมาจากภูเขาก็ไปโม้กะอี 2 คนที่นอนโทรมอยู่ที่โรงแรมว่า กรูไปขึ้นมาแล้วนะเว้ยยย แต่หารู้ไม่ว่า แค่ 15 นาทีเหอะๆ เราพักถึงตอนเย็นๆก็มีเสียงมันมาอีกแล้ว ก๊อก ก๊อก ก๊อก พี่ๆไปเดิน กู่เฉิงกัน กู่เฉิงคือเมืองเก่าครับ สมาชิกคนนึงที่ป่วยคนนึงลุกขึ้นมา ไปพี่ไป "อ้าว แล้วไอ้นั่นละ ที่นอนดูสนุ๊กเกอร์อย่างสบายใจ" เอ่อๆๆ ช่างแมร่งเหอะ มันดีขึ้นแล้ว ปล่อยแมร่งไว้งี้เหอะ เอาก็เอา ทิ้งเพื่อนกันชัดเจน
เราเดินไปครับ ข้อมูลจาก Agoda บอกว่า 5 YUE Hotel อยู่ห่างจากกู่เฉิงไปประมาณ 0.5 โลครับแต่พอถามโรงแรม โรงแรมบอกว่า 2 โลพอเดินกันจริงๆ ผมว่ามันมากกว่านั้นอ่ะ แทบหอบ เหนื่อย ล้า แต่โบก taxi กลับแค่ 10 CNY เอง ที่นี่เราจะรู้เลยว่า เมฆใกล้แค่เอื้อมจริงๆครับ เหมือนเราเอื้อมมือไปหยิบเมฆได้เลยอ่ะ
จบ part of Xiangelila ซักที เอ้อออออออออ เมื่อยๆๆๆๆ ฮ่าๆๆ พักซักแปป เดวเรามาออกเดินทางไป ลี่เจียงต่อนะครับพวกเราหกคน เดินทางจาก Xiangelila มา ลี่เจียงด้วยวิธีการเหมารถครับ อันเกอ คนเดิมพาเรามาส่งถึงลี่เจียง ด้วยสนนราคา 700 CNY ถามว่าแพงมั้ย ผมว่าไม่ครับ เคยดูรีวิวของท่านใดท่านหนึ่งในนี้แหละ 600 CNY ผ่านไปสองสามปีขึ้นมา 100 CNY ผมรับได้ครับ
ที่ลี่เจียง เราพักที่ Lijiang Red flower Inn ก็จองผ่าน Agoda เหมือนเดิมครับราคาประมาณ 800 - 1000 เหมือนกันจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ เจ้าของน่ารักมากครับ พาพวกเราเดินเที่ยวในเมืองด้วย อาจเป็นไปได้ว่า ตอนนี้เธอกำลังฮิต ชมพู่ อารยา สามีกำมะลอ เลยเม้าส์กันซะมันส์เลย ที่พักที่นี่ ok เลยครับบรรยากาศดี อยู่ใน กู่เฉิง ครับผมติดคำว่า กู่เฉิงไปซะละ กู่เฉิง = old town = เมืองเก่านั่นเอง
บรรยากาศห้อง & environment ครับ

อย่างเคยๆ ครับ มันเป็น style ของพวกเราจริงๆครับ พอถึง ที่พัก เราก็โยนกระเป๋าเพื่อที่จะออกไปเที่ยวชมเมืองเก่าเลยแต่ก็แวะมาถามข้อมูลพนักงานก่อน เพราะว่าพรุ่งนี้เราจะไป ภูเขาหิมะมังกรหยกกันครับ ที่นี่ทำให้พวกเราประทับใจหลายๆอย่างจริงๆครับ พนักงานให้ข้อมูลเรามากมายจริงๆครับ เราเสียค่าเข้าเมืองที่โรงแรมที่เราพักเลยครับ 80 CNY เค้าจะให้ใบเหลืองๆเรามา ใบนี้ใช้แทน passport ขณะที่อยู่ที่นี่ได้เลยครับ และยังสามารถเป็นบัตรผ่านฟรีเข้า สระมังกรดำได้อีกต่างหากครับ
มาละครับ Hi-light ประจำวันนี้ ตามที่ได้สอบถามข้อมูลจากที่พักครับ การขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยก มีหลายแบบครับ ทีแรกผมกะจะนั่งรถเมล์สาย 7 ไปแหละครับ แต่คิดไปคิดมาคงจะไม่สะดวก ก็ขอให้ที่พักติดต่อรถเหมา มารับพวกเราในราคา 150 CNY ทั้งวันครับเราจะไปเที่ยวไหนก็ได้ แต่ในตอนท้าย เหนื่อยกันหมด เราก็ไปได้แค่ Jade Dragon snow mountain & Baisuhe ครับฮ่าๆๆ
วันนี้ค่อนข้างจะหมดตัวกันเลยทีเดียว เนื่องจาก ค่าเข้าอุทยานคนละ 105 CNY ค่ากระเช้าอีกเท่าไหร่จำไม่ได้ แต่รวมกับค่าเข้าอุทยาน ทั้งหมด 272 CNY ครับแล้วก็ไปเสียค่าเข้าอะไรอีกไม่รู้อีกคนละ 40 CNY ครับน่าจะเป็นค่าบริการรถที่ Baisuhe ลุงคนขับรถบอกข้อมูลให้หมดครับ ลุงบอกว่าไม่ซื้อก็ได้แต่เราต้องเดินภายในอุทยานทั้งหมดเป็นระยะทางประมาณ 6 KM. อืออ ซื้อดีฟ่าาาาา

พอเสร็จจากการขึ้นภูเขาหิมะ รถจะมาส่งที่เดิมสำหรับคนที่จะเข้าไปชม การแสดงพื้นเมือง ที่ดังๆของที่นี่อ่ะครับ จำชื่อไม่ได้รู้สึกจะ 190 CNY สำหรับพวกเรา เอ่อไป ไป่สุ่ยเหอ ดีกว่าก็ไม่ต้องลงครับ รถจะลงไปตามไหล่เขา ขอยกนิ้วให้ที่นี่เลยครับ ทริปนี้ number 1 จริงๆครับไม่ขอบรรยายมาก ให้ดูจากรูป แล้วให้ธรรมชาติบรรยายให้ท่านฟังเองเลยละกันครับ
ลงมาจากเขาก็อ่อนระโหย โรยแรงกันเลยทีเดียวแวะเข้าไปในเมืองเก่า นั่งกินพิซซ่าฮัท ซักหน่อยเพราะว่าเบื่อ มันๆ จืดๆ พริกเครื่องเทศ เต็มทนแล้ววว สั่งพิซซ่าแซลมอน ไปครับไทยเราไม่มีครับ อร่อยมากไม่มีภาพฮ่าๆๆ รูปอยู่อีกกล้องนึงฮ่าๆๆ
แล้วเราก็เข้าที่พัก แฟนเจ้าของบอกว่า ไปพักก่อนเดวตอนค่ำๆ เค้าจะพาเดินเที่ยวเมืองเก่า เนื่องจากลูกค้าไม่เยอะ เค้าบอกว่าเราเลือกช่วงมาดีมาก ช่วงที่พีคสุดๆเลย ผมไม่รู้ว่าเดือนไหน ในเมืองเก่าจะแออัดมาก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย เดินเบียดกัน แต่ช่วงนี้ สบายมากกกกก
รุ่งขึ้นเราก็ออกเดินทางจากที่พัก ด้วยการเหมารถ 80 CNY จากที่พักไปสนามบิน ลี่เจียง ถึงคุนหมิง ก็เป็นอัน จบการเดินทาง ของพวกเราทั้ง 6 คนครับ ขอขอบคุณทุกท่านในการติดตามครับ มันเป็นทริปที่สุดยอด จริงๆครับ ประทับใจมากๆครับ ทั้งคน และ สถานที่ ถึงแม้ว่า อาหาร จะไม่โดนก็ตาม อ้ออออ ไปจีน จะไม่พูดถึงห้องน้ำก็ไม่ได้ ใช่มั้ยครับ ห้องน้ำส่วนใหญ่ ส้วมซึม ทั้งหมด ชักโครกมีแต่ที่สนามบิน กับ ที่พัก นอกนั้น รวดดดด ห้องน้ำที่ลี่เจียง สะอาดครับ ในเมืองเก่าก็สะอาด แต่ระหว่างทางอ่ะ อย่าคิดที่จะปวดเชียวนะ
แถมท้ายด้วย หมูหรอบ ที่อร่อยที่สุดของทริปครับ ข้างล่าง คอนโดน้องครับ รสชาติออกแนวกวางตุ้งเลย อร่อย ฮ่าา

จบการเดินทางขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทั้งหกคนครับ