While out for a walk in Chiangrai (Part 1)

"ผ่านลอยเลื่อนลับไป
อยู่ไหนให้สัญญา
วันหนึ่งจะกลับมา
ถ้าเธอจะคอยฉัน"

(เนื้อเพลง สัญญา - วงแกรนด์เอ็กซ์)

...นี่คือความรู้สึกหลังจากกลับจากเชียงรายวันนั้น...

ความจริงเราก็อายุอานามไม่เท่าไหร่เอง แต่เพราะพ่อชอบฟังเพลงในยุคนั้น เราเลยซึมซับมาทุกวันจนรู้จักเพลงยุคเก่า ๆ ซะมาก (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้จักเจ้าพ่อแร๊พเปอร์ เจ้าแม่บอสโนว่า และก็ลูกเทพกามิกาเซ่นะ 555)

เปิดทริปแรกด้วยการพาครอบครัวไปเที่ยวก่อนดีกว่า

(เอาฤกษ์เอาชัย เผื่อจะได้รางวัลลูกดีเด่น ให้เป็นพรีเซนเตอร์แคมเปญจ์ 'เที่ยวยกบ้าน' อะไรอย่างนี้กับเค้าบ้าง อิอิ)

นี่เป็นครั้งแรกของการไปเที่ยวเชียงรายทั้งบ้าน ที่แพลนเอง (ก็ต้องมีพลาดบ้าง) ชวนที่บ้านเอง (ปนบังคับ) คุมงบเอง (ซึ่งบานปลายพอสมควร) ถ่ายรูปเอง (สวยได้เพราะกล้องดี อ่ะ สปอนเซอร์มาได้นะฮะ 55) รีวิวเอง (มั่ว ๆ บ้างอย่าว่ากันนะ) สุดท้ายได้อยู่กับตัวเองครั้งแรกที่เชียงราย...จะไม่ลืมเลย

เริ่มเลยดีกว่า ฝอยมานานละ . . . บินไฟล์ทเช้ามากไปกับ Air Asia ถึงเชียงรายก็จะเช้าหน่อย อากาศกำลังดี 18 องศาเบา ๆ ลมตีหน้ามีชานิสๆ ได้ตั๋วโปรมาต้นเดือนมีนาพอดี คิดว่าอากาศร้อนแน่ ๆ แต่ไม่เลย (รึเปล่า?) เดี๋ยวเล่าให้ฟัง

หลังจากที่ลงจากเครื่อง เราก็ติดต่อรถเช่าไว้ เค้าก็มานั่งจุ้มปุ๊กรอที่สนามบิน ลงเครื่องมาก็เจอเลย สะดวกมาก ขอมอบหน้าที่อันใหญ่หลวงนี้ให้พ่อแต่เพียงผู้เดียว พ่อขับคนเดียวทั้งทริป ไอ้เราก็ google map บอกทางไปสิ พี่ goo อะบอกถูก แต่กูเนี่ยดูผิด! ออกจากสนามบินก็เลี้ยวผิดทิศ เลยไปซะหลายโล 5555555 (หันซ้ายขวามองหน้าทุกคน โอเค เค้าผิด เค้าขอโทษ T^T)

จากสนามบินแม่ฟ้าหลวงในตัวเมืองเชียงราย เราก็ขับรถมาทางเส้นแม่สายไปอีกหลายโลเพื่อจะขึ้นดอยไปที่พัก ใน อ.แม่จัน ระหว่างทางเราก็เจอต้นพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ออกดอกชมพูมุ้งมิ้งบานต้อนรับเราเต็มสองข้างทางเลย :)

ทางเข้าที่พัก 'ดอยอิสระ' เลี้ยวซ้ายตามป้ายไป ไร่ชาฉุยฟง ได้เลย ทางเดียวกันไปด้วยกัน (เกี่ยวมั๊ย?)

ระหว่างทางก็ชมนกชมไม้ข้างทางมาเรื่อย ๆ ก็ ถึงแล้ว !!

ใช้เวลาจากสนามบินมาที่พักไปเกือบ 1 ชม. เห็นที่พักแล้วหายเหนื่อยเลย

หน้าทางเข้าดอยอิสระ อิสระจากเมืองกรุงขนานแท้เจ้า

วิวจากระเบียงบ้านพัก รับโอโซนเข้าปอดเต็ม ๆ สดชื่นมากกกกก

พ่อกับแม่มาถึงก็รีบเช็คอินกันเลย (แหม คุณแม่ 4G)

แต่ขอบอกว่าที่นี่เน็ตแรงดีทุกเครือข่าย แต่ไม่มี wifi ให้นะจ๊ะ เจ้าของเค้าอยากจะให้มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงนก ลมพัด และความหนาว แบบที่สัมผัสได้จริง ๆ ที่ในโลก social ก็ทำให้ไม่ได้ (นอกจากจะมี facebook 4D อะนะ)

บรรยากาศล้านนา ทั้งวิถีชีวิต โครงสร้างบ้าน แม้กระทั่งของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ งามแต้งามว่า

บ้านที่เราจองมา ชื่อ Master Suit มี 2 ชั้น 3 ห้องนอน เอาจริง ๆ นอนได้เป็นสิบคน ราคาหลักพัน ได้วิวหลักล้านไปเลย คุ้มนะออเจ้า บอกเลย

มุมชิวที่ระเบียงชั้นล่าง จะนั่งจีบกัน เอ้ย จิบกาแฟ อ่านหนังสือ ก็ชิวดี

ริมระเบียงชั้นบน หลังจากนี้จะเป็นที่ hang out ของหนุ่ม ๆ เค้า ทุก!! คืน!!

มุมถ่ายรูปเพียบ มีให้อัพยันปีหน้า

ขอนั่งพักแบบเผลอ ๆ ก่อนจะออกไปแต๋ดแต๋หน่อยนะเจ้า

---

- Next station ฉุยฟง -

ไม่ผิดจ้ะ เราอยู่เชียงรายที่เดิม เพิ่มเติมคือมีไร่ชาสุดฮิตที่จะต้องแวะเช็คอิน เอาจริงก็... มันอยู่หน้าทางเข้าบ้านพักอะนะ ไม่แวะก็จะกระไรอยู่ (หราาาาา)

Warning : ขอเตือนว่าถ้าอ่านถึงย่อหน้านี้ แล้วอยู่ในช่วงท้องว่าง ไดเอท หรืออะไรก็ตามแต่ ขอให้ข้ามไปก่อน กินอิ่มท้องแล้วค่อยย้อนมาอ่านใหม่ 55555

เมนูนี้ทีเด็ดของฉุยฟงเค้าล่ะ Green tea ice flake (บิงซูชาเขียว) 260.-

ใครที่ชอบรสชาตหอมขมแบบชาเขี๊ยวชาเขียว ต้องลอง

แต่สำหรับเราผู้ไม่อินชาเขียวเท่าไหร่ ให้ 7/10

สำหรับใครที่สายหวานไม่ใช่ทาง ก็มีเมนูพื้นบ้านให้ฝากท้องแบบหนัก ๆ อยู่เหมือนกัน

จานนี้คือ บะหมี่ยืน(ต่อคิว)นาน เฮ้ยไม่ใช่! บะหมี่ยูนนาน 80.-

เมนูนี้ทุกคนขอมอบเยี่ยมให้ผ่าน อร่อยกว่าที่คิด เผ็ดนิด ๆ แต่ปริมาณน้อยไปหน่อย

สรุปสั่งมาทั้งหมดสิริรวม 4 จาน แหน่ะ ๆ คงคิดว่า 'ไม่คิดจะกินอย่างอื่นหรอ' ป่าวเลย เชิญชมจานต่อไป...

ปอเปี๊ยะหมูใบชาเขียว 80.- ชิ้นโต แป้งบาง ไส้เยอะ น้ำจิ้มเด็ดสะระตี่ จัดไป 3 จาน

(โธ่...ก็กินกันหลายคนนนน)

เมนูนี้แนะนำต้องลองเลย (แนะนำอีกละ มรึงจะแนะนำทุกเมนูเลยมะ) ข้าวผัดสำรับชาวเหนือเจ้าา 120.-

ข้าวผัดรสชาตกลมกล่อม กินเคียงกับแคปหมู และ ไส้อั่ว ตามด้วยผักแกล้ม ลำขนาดเจ้า

และขอปิดท้ายด้วย...

Coconut cake 110.- เค้กมะพร้าวเนื้ออ่อน หอมหวาน อร่อยมาก อยากกินอีกเลยเนี่ย ฮื้ออออ

และนี่คือ ซากอารยธรรม ยังหลงเหลือไว้ให้ดูต่างหน้าบ้างอะไรบ้าง

ขออัพเดทอากาศตอนเที่ยงแดดเปรี้ยงขนาดนี้สักหน่อย เมื่อเช้า 18 องศาเย็น ๆ ใช่ะมะ

มาตอนนี้สิ ปาดเหงื่อกันใหญ่ ปาเข้าไป 30 องศา ฮืออออ

---

จากไร่ชาฉุยฟง ก็คลำทางกันมาเรื่อย ๆ จนถึงดอยตุง วันที่เราไปเป็นวันศุกร์ แต่คนก็ยังเยอะอยู่ดี

ที่จอดรถเต็ม เลยต้องต่อแถวกันมาจอดข้างทาง เดินไกลมาก แต่ถ้าไม่ได้จอดรถไกล ก็จะไม่ได้เจอ

กาดดอยตุง ซึ่ง ของถูกมาก!!!!!!! ใครไปอย่าลืมเเวะเด็ดขาด

ร้านค้าในกาดดอยตุง จะเป็นของชาวเขาที่อยู่ละแวกนั้น ซึ่งแต่ละร้านของก็จะคล้าย ๆ กัน

ราคาเราแทบไม่ต้องต่อเลย คือถูกมากจนน่าตกใจ

ชุดผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าลินิน มีให้เลือกมากมาย ทั้งของผู้ชาย ผู้หญิง แต่ผ้าจะหนาหน่อย

ไม่ค่อยเหมาะกับมาใส่ที่กรุงเทพเท่าไหร่นะ

หน้าตาของเด็กเมื่อเจอของเล่นเข้าให้ (เอ้า คุณแม่นางก็ดึงไปสิ)

บาร์บี้ดอยตุงก็มา ตัวละ 60 บาท จัดมายกเซ็ต แถมลดให้อีก

คุณผู้ชายหน้าตาก็จะเบื่อ ๆ หน่อย เมื่อสาว ๆ เริ่มชอปปิ้ง 5555555 (ต้องทำใจอะนะ)

ชอปปิ้งเสร็จ ก็มีซุ้มชิมชา พี่คนขายพูดเก่งมาก ไม่เหลือพื้นที่ให้ถามแทรกเลย เลยได้แต่นั่งจิบชาโดนไป 8 ตัว เอ้ย 8 แก้ว คืนนี้จะได้นอนมั๊ย ถามหน่อยยยยย -^-

z

z

Z

Z

ไฮไลต์สำหรับเราคือดอกไม้ที่ดอยตุง สวยทุกดอก ทุกเกสร ทุกอณูจริง ๆ

เชิญชม

เริ่มเย็นแล้ว พระอาทิตย์ก็จะตกเร็ว เราเลยต้องรีบกลับที่พัก เพราะทางขึ้นดอยไม่มีไฟ

เจ้าของที่พักเตือนไว้ว่าไม่คุ้นทางมันจะอันตราย ผมนี่รีบเลยครับ 555

วิวท้องฟ้ายามเย็มระหว่างทาง ถ่ายไปมั่ว ๆ ก็ยังสวย ธรรมชาตินี่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้จริง ๆ

กลับมาถึงพี่พัก เราก็เดินสำรวจมุมต่างๆของที่พักกัน อากาศตอนเย็นก็จะเย็นลงมาอีก ประมาณ 20องศา

มุมเล็กๆ แต่น่ารักมาก

บ้านพักอีกหลัง ใครมากันแค่สองคน เลือกพักห้องนี้เลย

หน้าบ้านพักหลังอื่น ก็ยังไม่มีคนมาเช็คอินเลยขออนุญาตแอบไปถ่ายหน่อย (อนุญาต!)

รักมุมนี้มาก

เริ่มค่ำแล้ว ทั้งเดิน ทั้งเที่ยวมาทั้งวัน เราลืมอะไรไปรึเปล่าน้าาา

... จ๊อก จ๊อก จ๊อก ...

หิวข้าวววววแล้วจ้าา

มื้อแรกมาแอ่วเหนือ ก็ขอชิมสำรับอาหารสูตรเหนือแต้ ๆ ของ ดอยอิสระ หน่อยนะเจ้า

ขาหมูหมั่นโถวสูตรยูนนาน

ไส้อั่วเมืองเหนือเจ้า

ทั้งอิ่ม อร่อย ฟินสุด ๆ พอหนังท้องตึงแล้ว อากาศก็หนาว บรรยากาศมันให้ซะขนาดนี้

ชา 8 แก้วเมื่อกลางวันก็ทำอะไรไม่ได้ เลยขอตัวไปซุกใต้ผ้าห่มบนเตียงนุ่ม ๆ ก่อนนะจ๊ะ

- พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ -

(ยาวเนอะ ตัด Part 1 แค่นี้ก่อนนะ ใครถูกใจอ่าน Part ต่อไป ตามลิ้งนะจ๊ะ)

https://th.readme.me/p/19418