สวัสดีครับ พบกันอีกแล้ว ประเดิมทริปแรกของปี 2559 ปีนี้ คู่รักตลอนทัวร์จะพาไปเที่ยว เชียงราย ตามล่าทะเลหมอก แบบจัดเต็ม ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะอยากไปดูทะเลหมอกที่เชียงรายก็เลยวางแผนทริปแต่ว่าต้นปี หัวหน้าเขายังไม่ให้ลางาน ก็เลยต้องไปแบบเวลาจำกัดจัดเต็ม 2วัน1คืนอีกคืนเป็นวันศุกรืออกจาก กทม.2ทุ่มมาเช้าที่เชียงราย เลยเกิดเป็นทริปนี้ แต่เดี่ยวก่อน เห็นเวลาน้อยแต่ใช้เวลาแต่ละที่พอสมควรไม่ใช่ชะโงกทัวร์นะครับ เพราะแต่ละที่เขาอยู่ใกล้ๆกัน ทริปนี้หมดค่าใช้จ่ายไปกันทั้งหมด 4 คน คนละ1500 บาท อ่าๆๆเดี่ยวก่อน ไม่ได้มาแข่งเที่ยวแบบประหยัดนะครับ แต่ทุกทริปที่ผมไปก็ไปแบบประหยัดอยู่แล้ว เพราะว่าเน้นเที่ยวบ่อย ทุกเดือนต้องไปเที่ยว บางเดือนออกทั้ง 4 อาทิตย์ แต่ละทริปเลยต้องจำกัด แต่ก็ไม่ได้ลำบากลำบน หรือประหยัดจนทรมานตัวเองนะครับ แต่เราบางทริปอย่างทริปนี้เรามาเที่ยวเหนือ มาบ้านเมืองเหนือ ก็ลองกินอาหารพื้นบ้าน หรืออาหารทั่วไปเหมือนอยู่บ้าน นอนเต็นหิ้วไปเองก็ฟรี รถเติมแก็ส ก็เลยไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายอะไรมากมาย แค่ได้ออกมาเที่ยวได้เห็นวิว ธรรมชาติที่สวยงามแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว 1500 บาทนี้ไม่มีมาม่าสักมื้อนะครับ กินอิ่ม นอนหลับสบาย แต่ทริปแบบนี้คนขับต้องอึดหน่อยครับ แต่ผมนอนมาทั้งวันก่อนเดินทาง แล้วขับรถทั้งคืนแล้วเที่ยวต่อเลย มีสรุปค่าใช้จ่ายท้ายทริปครับ
ทริปนี้เดินทางวันที่ 9-10/1/2559
Day1 ดอยช้างมูบ-พระธาติดอยตุง-ไร่ชาฉุยฟง-ภูชี้ฟ้า-พญาเสื่อโคร่งที่โรงเรียนบรรพตวิทยา-นอนดอยผาตั้ง
Day2 เช้าชมทะเลหมอกผาตั้ง-ต่อด้วยทะเลหมอกภูชี้ดาวที่เที่ยวใหม่โฉไลมาก-เข้าเมืองเที่ยววัดห้วยปลากั้ง-จบด้วยงานดอกไม้อาเซี่ยนครับ
วิ่งตามเส้นทางนี้เลยครับ
รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D5300 18-140 กับ Gopro hero 4 silver ครับ
ก่อนอ่านแวะดูคลิปก่อนได้ครับ รอบนี้ลืมเอาไม้เซลฟี่ไปต้องใช้มือถือเองไม่ยาว วิวไม่กว้างเลย555
เริ่มเดินทางกันคืนวันศุกร์ ต้องไปให้ทันแสงเช้า โดยทริปนี้ไป4คนมีผมกะแฟน และเพื่อนอีก 2 คนมาจากขอนแก่น ที่ต้องนั้ง รถจากขอนแก่นมา 400 กว่าโลแล้ว ไปเที่ยวกันอีก 2000 โล แล้วนั้งรถกลับขอนแก่นในคืนวันอาทิตย์อีก400 กว่าโล 555 นั่งรถกันแบบว่าตูดระบม แต่ก็เห็นหลับสบายตลอดทาง คงเหมือนเปลี่ยนที่นอนนะ 555 เริ่มรับสมาชิกออกจาก กทม. 3 ทุ่ม วิ่งไปตามเส้นทางสายเอเชีย จนถึงนครสวรรค์เลี้ยวขวา ไปพิจิตร พิษณุโลก ตอนนี้ทำถนนใหม่เรียบดีมากมีขรุขระบางช่วง แล้วไปเรื่อยๆ อุตรดิตถ์ แพร่ ถึงแยกเด่นชัยจะซ้ายผ่านลำปางหรือขวา เข้าแพร่ แล้วไปเลี้ยวซ้ายตัดเขามาโผล่ก่อนถึงพะเยา ผมใช้เส้นทางขวามาตัดแถวเกือบถึงพะเยา แล้วตรงยาวๆ ทำเวลาพอสมควร ดอยช้างมูบจุดหมายแรกนั้นอยู่ติดกับดอยตุงเลย เป็นฐานทหารเล็กๆชายแดน ไทย-พม่า ที่เขาว่ามีทะเลหมอกสวยเหมือนกัน
ระยะทางประมาณ870 ขับมาถึงประมาณ 6.30 ได้ แสงแรกกำลังจะมาพอดี แต่เช้านี้ทะเลหมอกอยู่ในฝั่งพม่าไม่มาถึงไทย แต่ก้ได้เห็นวิวภูเขากว้างไกลสุดสายตา และพระอาทิตย์ก็ขึ้นคนละฝั่งกับดอยช้างมูบเลยไม่ได้เห็นแสงแรก
เช้านี้ ไม่มีใครมากางเต็นเลย มีผมขึ้นมาถึงกลุ่มแรก
ที่นี้กางเต็นนอนได้ มีห้องน้ำสะอาด และมีทหารอยู่หลายคนอุ่นใจได้ พี่ๆทหารเป็นกันเองทักทายสวัสดีตอนเช้าเราก่อนทุกคน
เช้านี้ 9 องศาได้ หนาวแสบมือแสบหูมากกก ลมแรงด้วย
กดรูปไปสักพัก ก็เลยถือโอกาศล้างหน้าแปรงฟันทำธุระตอนเช้ากันซะเลย อากาศดีมากๆ ความง่วงหายไปทันทีทั้งที่ไม่นอนมาทั้งคืน
บริเวณมีแปลงดอกไม้อะไรไม่รู้ สวยดีครับ
ก้ซึมซับบรรยากาศเรื่อยๆ จากนั้นพอ 7โมงกว่าๆ แสงแดดก็เริ่มส่องมาก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ละครับ
งามมากๆ สวยฝุดๆ
ถ่ายกันจนหนำใจจนประมาณ 8 โมงได้ จากนั้นก็ได้เวลาไปต่อ
จากดอยช้างมูบ ถ้าตรงต่อไปจะสามารถไปแม่สายได้ แต่ไม่รู้ว่าช่วงนี้ไปได้หรือป่าวเพราะเป็นเขตตะเข็บชายแดนเลย ที่ช่วงนี้มีปัญหากันอยู่ ผมเลยกลับทางเก่าเพราะจะไปไร่ชาฉุยฟงต่อ
ตอนแรกว่าจะเขาดอยตุงด้วยแต่ถามคนที่เขาพึ่งขึ้นมาเขาว่า เป็นสวนดอกไม้ต่างๆนาๆพันธิ์ เสียค่าเข้า ผมก็เลยไม่ได้เข้ากัน เลยแวะไหว้พระธาตุดอยตุงครับ
หลังจากไหว้พระเสร็จ ก็เดินทางไปไร่ชาฉุยฟงครับ จากดอยตุง อยู่ห่างกัน20กว่าโล ลงมาถนนใหญ่มีป้ายบอกใหญ่ๆเลย และปากซอยทางเข้าถนนใหญ่มีร้านข้าวตามสั่ง ผมเลยกินมื้อเช้ากันที่นี้ ไม่ได้ถ่ายรูปมาเป็นตามสั่งทั่วไปรถชาติดีหลายเมนูครับ มื้อนี้ 150บาท แล้วก็เข้าซอยไป4 กิดลเมตรก็ถึงไรชาฉุยฟงแล้ว
ตอนนี้ก็ 9โมงกว่าๆแล้วครับ แดดเริ่มมา แต่ลมยังเย็น ส่วนนักท่องเที่ยวก็เริ่มทยอยมาเรื่อยๆแล้ว สายกว่านี้แน่นแน่นอน ไปถ่ายรูปกันเถอะ
จะท่าคู่ซะหน่อย คนถ่ายมือไว 55
พอดีไม่มีตะกร้าเก็บใบชา เลยเห็นถังขยะที่มีไม้เสียบอยู่ข้างๆ เลยขอเป็นพร้อพ หน่อยละกัน แหมพอดูเหมือน555
ให้เพื่อนถือกล้องบ่อยๆก็ดีนะ มีคนแอบถ่ายเรามั้ง 555
หันมาดูอีกฝั่ง เขากำลังเก้บใบชาอยู่เลย รู้สึกว่าน่าจะเก็บเป็นรอบๆต้องทำเวลา เพราะเห็นแปบนึงมีคนเป่าเรียกข้ามฝั่งเหมือนไปชั่งน้ำหนักแล้ว ก็เป่านกหวีดอีกรอบ รีบวิ่งแข่งกันมาเก็บ หรือใครมีข้อมูลตรงนี้บอกหน่อยนะครับ อยากรู้
จากนั้นก็ไม่พลาดครับ ตามรอบเห้นเขาบอกกันว่ามานี้ต้องกินชาเขียวมันจะอร่อยแค่ไหน ก็เลยต้องจัด ตามรูปเลย กลายเป็นมื้อนี้แพงสุดในทริป 390 บาท แหมที่ข้าวปลานี้กินกันง่ายๆ แต่ทีของหวานนี้กินกันแพงจริงๆ 555 แต่ก็นะมาถึงแล้วก็ต้องลอง
สีสันสดใสน่ากิน รสชาติ อร่อยดีครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบพวกของหวาอยู่แล้ว ส่วนสาวๆเขาว่าอร่อยดี ก็ตามนั้นครับมาแล้วอย่าลืมลองกันนะ
ตอนนี้คนเยอะมากแล้วครับ ที่ร้านอีกฝั่งที่มีร้านอาหารด้วยและขายกาแฟด้วยคนเพียบเลย เลยไม่ได้ถ่ายมาเยอะ
พอกินถ่ายรูปจนจุใจก็ได้เวลาเดินทางต่อ ตอนนี้10.40 ได้ แดดแรงแล้ว จุดหมายต่อไปจะไปภูชี้ฟ้าเลยครับ
จากนี้ไปภูชี้ฟ้า ระยะทางประมาณ 130 โลได้ครับ ไม่ไกลเท่าไหร่ วิ่งง่ายๆตาม GPS เลยครับ วิ่งเส้น1098ตัดกลางมาโผล่เส้น 1020 แล้วเลี้ยวขึ้นทางเส้น 1155 ตรง1155 นี้มันมีหลายทิศทางนะ ผมขึ้นตรงซอยที่เขียนว่าประตู่สู่ภูชี้ฟ้าน่ะ ขอบอกว่า ชันและมันส์มาก มีกำลังทำถนนแค่ปากทาง แค่ ณตอนนี้คงเสร็จสมบูรณ์ แล้ว จากรูปเลย สูงชันสวยมาก ทั้งมันส์ทั้งเสียว เกียร์1 ลากไปเลย
อันนี้คลิปตอนที่ชันมากๆโค้งตัว s ต่อๆกันเลย ใครรมือใหม่ไม่ต้องตกใจ ใช้เกียร์ต่ำไปเรื่อยๆ อย่าใช้เบรคมาก ให้เครื่องช่วยเบรคเอาครับ ในคลิปเสียงคนข้างมันบ่นมากไปหน่อยนะครับ 555
ถ่ายจากกระจกรถสะท้อนไปหน่อย ดูสู้งสูง
ถึงภูชี้ฟ้าประมาณ 13.00 ลมเย็นสบาย มีแดด แต่ไม่แรงมากแต่แสบตายุเหมือนกัน
เดินกันเลย 760 เมตรเอง จิ้บๆ
แต่สำหรับคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนี้ มีหอบเหมือนกันนะ555 เดินมาสักพัก จะเห็น เขาทรงเหมือนลิงเลยครับ ไม่รู้มองเหมือนผมป่าว แต่ผมว่าเหมือนลิง คิงคองอ่ะ ดูโหดมาก
หูย ดูสิ ชี้ฟ้าจริงๆ ดูคนข้างบนดูเสียวชิบเป่งเลย
แวะถ่ายรูปตรงนี้ก่อน
ลมค่อนข้างแรง ฟ้าไม่เปิด มีเหมือนเมฒหมอกจางๆปกคลุมพื้นที่ครับ
เดินต่อไปสุดยอดเลย
เห็นเขามุ้งมิ้งกัน เอามั้ง แต่ไม่มีใครถ่ายให้ แบบนี้ละกัน อิอิ
ถึงจุดสุดยอดแล้วที่บอกว่าเห็นจากข้างล่างเสียวมาอยู่ข้างบนไม่น่ากลัวครับ มีรั่วกั้น ไม่เสียว วิวสวยดีครับ
หันไปดูทางที่เดินมา
หลักกีโล ไทย-ลาว เมื่อเช้าไทย-พม่า เย็นนี้ ไทย-กินมาม่า 5555 ม่ายช่าย
ถ่ายไปมาสักพักก็ได้เวลาไปต่อ ภูชี้ฟ้า มุมถ่ายไม่ค่อยเยอะนะครับ ก็มีตรงข้างล่างที่เห็นยอดชี้ฟ้าแล้วก็บนยอดเห็นวิว รอบๆ สวยงามดีครับ
ลงมาเจอเด็กๆกำลังร้องเพลงเลย ขอถ่ายรูป จัดไป 20บาท น้องบอกหาร4คนละ5เสร้จสัพเลย ร้องเพลงเก่งนะครับ มีเต้นด้วย
จุดหมายต่อไป พอดีได้ข่าวจากพี่ที่เชียงรายบอกว่า พญาเสื่อโคร่งที่ รร.บรรพตวิทยาเริ่มบานแล้วเลยต้องไปดูหน่อย
ร.ร.บรรพต อยู่ติดกับทางขึ้น ดอยผาตั้งเลย และวันที่ผมไปเป็นวันเด็กพอดี มีพี่ๆกำลังทำกิจกรรมให้น้องอยู่สนุกกันใหญ่
ที่ ร.ร. จะรายล้อมด้วยต้นพญาเสื่อโคร่งเลย วันที่ไปมีบานเป็นบางต้น พอได้เห็นชมพูๆชื่นใจหน่อย ก็ยังดีครับ
แต่ละต้นสูงมาก ซูมๆมันเข้าไป ใกล้ๆสวยดีครับ
แล้วก็ได้เวลา ไปที่นอนเราคืนนี้กัน ขึ้นมาถึงดอยผาตั้งประมาณ 4โมงพอดี
จัดแจงกางเต้นที่นี้ กางเต็นได้เลือกที่เอาได้เลยผมถือว่ามาไวของคนกางเต็นคืนนี้ ผมเลยเลือกตรงตึกนี้ มีไฟฟ้าด้วยนะสามารถชาตไฟได้ทั้งคืน สบายมากตรงอื่นไม่มี ข้างล่างที่นอนเป็นห้องน้ำแยกชายหญิงพอดี หรือใครจะกางตรงรอบๆก็ได้ตามสดวก ใครไม่ได้เอาเต็นมาก็มีให้เช้า 200 พร้อมเครื่องนอน ในรูปสีฟ้าที่เพื่อนผมเช้ามา
จากนั้นก็หิวแล้วเลยไปกินข้าวเย็นกันที่ร้านตรงนี้แหละมีให้เลือกเพียบ แต่มาถึงนี้แล้วต้องลอง ขาหมูหมั่นโถ แล้วก็ก๋วยเตี่ยว เส้นไรสักอย่างจำไม่ได้และ 555 แล้วก็สั่งตามสั่งคนละจานกินกัน มีตบท้ายด้วยโรตีอีก อิ่มกันเลยมื้อนี้
แล้วเราก็ต้องรีบอาบน้ำเพราะน้ำมันเย็นมาก ข้างล่างที่นอนเป้นห้องน้ำและมีห้องอาบน้ำด้วยสดวกสบาย ความสอาดถือว่าใช้ได้ครับ
แค่5โมงน้ำก็เย็นมากแล้ว อาบน้ำไปสั่นไป
อ่างล่างหน้า ตอนเช้าแปรงฟันคงฟินน่าดู
จากนั้นก็ตั้งวง กินน้ำเมากันตามประสาเบาๆ ดูพระอาทิตย์ตก ผมเอาเหล้ามาจากบ้านที่เหลือเลยประหยัดส่วนนี้ได้แล้วก้มีซื้อไวน์ลองดู2ขวดก็อร่อยดีครับ คืนนี้ก็แยกย้ายตอน3ทุ่มได้ รีบนอนเพลียแล้ว เช้าจะตื่นไปแต่เช้า
แต่ แต่ มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มครับ น่าจะคนแถวนี้หรือพื้นที่ละ เพราะพึ่งมาตอนมืดๆนี้แหละ กลุ่มนึงมาเพียบเลย อีกหลุ่มนึงมากระบะคันเดียว จอดกันอยู่คนละฝั่ง แรกก็เห็นเขาเล่นกีตาร์สนุกสนานมันส์ดีนะยังไม่ดึกเสียง เริ่มแรกๆ ฝั่งคนเยอะร้องดังๆพอจบเพลง ฝั่งกระบะเอามั้ง ร้องตอบโต้กันไปมา เสียงดังขึ้นๆ ดังขึ้น นึกว่าจะหมี่เหลืองแต่ก็ไม่นะ เวลาล่วงเลยไปยันเที่ยงคืน ผมด้วยความเพลีย หลับไปแต่3ทุ่ม แต่ตื่นมาเพราะหนาวตอนเที่ยงคืน เสียงดังมาก แฟนบอกนอนไม่หลับเลย ยิ่งดึก ยิ่งร้องกันดังมาก ฝั่งคนเยอะนี่ผมจำได้เลยเสียงผู้หญิงร้องแหลมดังมากกก แหลมมาตลอด กระบะก็ไม่ลดความพยายาม กุมากันน้อยแต่กู100เต็ม กีตาร์มี เอาเสียงเหมือนน่าจะถังน้ำพลลาสติกสีขาวขุ่นใหญ่ๆอ่ะแล้วตบเป็นกลอง ดังจริงๆ เพลงใจหมานี้มาไม่ต่ำกว่า 5 รอบ กำลังดังเลยร้องกันบ่อยจริงๆ 555 โอ้โหคุณพระ ตี2 ถึงสงบ สุดยอดเลยครับ ที่มาพิม์นี้ก็ว่าอยากให้เกรงใจนักท่องเที่ยวมั้งครับ แรกๆผมชอบนะมันสนุกดีผมก็ชอบแนวนี้แหละ แต่แบบบางทีมันดึกเกินไปน่าจะลดเสียงมั้งนี้ยิ่งดึกยิ่งดัง จะให้เดินไปบอกก็กระไร เรามา4คนมีผู้หญิงอีก ใครจะไปกล้าพูด อีกกลุ่มเขามาตั้งหลายคนเขายังไม่ไปพูดเลย เอ๊ะหรือว่าที่หยุดตี2นี้อาจจะมีคนไปพูดหรือป่าวผมก็ไม่แน่ใจนะ เลยหยุดกันได้ แล้วก็นอนแบบว่า หนาวมาก ดึกๆนี้มีสั่นเลย
ตั้งปลุกตี5.15 เพราะตั้งใจจะเดินไป เนิน103ที่ไกลสุด แต่ด้วยความหนาวเย็นนอนสบายมากกก เลยงอแงอีกสักแปบ สรุปตื่นตี5.40 แต่ฟ้ายังมืดมากๆ แฟนบอกกลัวไม่กล้าเดินไป เลยลงไปแปรงฟันและขึ้นมาเก็บเต้นรอ เด่วเช้าเสร็จจะได้ไปภูชี้ดาวต่อเลย
พอประมาณ เกือบ6โมงได้มีคนตื่นจะเดินไปดุพระอาทิตย์กันแล้วเลยเดินไปกันครับ ทางเดินไปถ้าไม่อยากเดินไกลที่จริงใกล้ๆก็เห็นทะเลหมอกแล้ว แต่ที่อ่านมาเขาบอกให้ไปเนิน103 900เมตร ก็เลยจัดไปครับ ข้อดีเลย เนินนี้ไกลสุดคนน้อยครับ คนจะไปรวมที่ 102 กันเยอะเพราะมันไกลกว่ามาก ผมเดินจั้มๆๆจนหอบแหก แข่งกะเวลา อย่างเหนื่อย แล้วก็มาเจอแบบนี้ครับ
ฮือมาทันทไวไลท์ด้วย ไปดูรูปกันเลยเหอะ สวยมาก
พอแสงทไวไลท์หมดไปแต่พระอาทิตยังนิ่ง ไม่ยอมโผล่มา ไม่เป็นไรถ่ายไปเรื่อยๆ หมอกมันดูนุ่มนิ่มน่ากระโดลงไปจริงๆ
ตั้งกล้องถ่ายคู่หน่อย
ผู้พิชิตดอยผาตั้ง อ่านแล้วดูหึกเหิม ดูมีพลังงง 555
103 งวดที่ผ่านจัดเต็มเลยกะออกแน่ๆ สุดท้ายก้โดนรับประทาน
สวยอย่างงี้ต้อง ซิลฟี่หหน่อยย 555 ซิลฟี่แบบนี้บอยๆกล้ามขึ้นแน่
ขอเดี่ยวถ้าประจำตัวมั้ง เพลงมาพี่บ่าววี
แล้วแสงอาทิตย์เจ้าก็โผล่ออกมา กระทบลงทะเลหมอก หืออ สุดบรรยาย
นุ่มนิ่มจัง
ส่วนป้ายนี้นี้อยู่ขางบนหินแหลมๆนะครับต้องปืนป่ายนิดหน่อยถึงจะเจอ
กดกันจนเมมเต็มไปตัว ยังดีมีอีกเมม กดอีก กดเปน100 ไช้ได้ไม่กี่ใบ 555
เดินลงกลับมา เกือบ8โมงแล้ว มุมนี้ก็สวย ถึงบอกว่าภูชี้ฟ้ามุมน้อยกว่าครับ ผาตั้งมีหลายมุมมาก ภูเขาลูกใหญ่ๆซ้ายมือนี้คือเนิน102
ที่เนิน102กะ103 จะมองเห็นกันครับ เลือกเอาตามความชอบ
ระหว่างทางงง
เดินกลับมาตรง3แยกที่ ไปช่องเขาขาด เนิน102 และ 103 ใครไม่อยากเหนื่อย เดินมาแค่ช่องเขาขาดก็ได้ รับรองความสวยไม่แพ้กัน
ปิดทะเลหมอกผาตั้งด้วยมุมนี้จากช่องเขาขาด
ที่นี้มีม้าคอย บริการด้วยนะครับสำหรับคนขี้เกียจเดิน แต่ผมแนะนำว่าเดินดีกว่า เดินเองยังเสียวเลย ทางแคบ ให้นั่งม้าสูงๆไม่เอาด้วยหรอก
ปิดท้ายด้วย ประตู่สู่ผาตั้ง แต่ความฟินยังไม่จบ ยังมีทะเลหมอกแบบจัดเต็ม ที่ภูชี้ดาว ที่มีทะเลหมอกถึง11โมง ความงามนี้กินกันไม่ลง
หลังจากฟินที่ผาตั้งไปแล้ว ไม่ต้องรีบมาก เพราะภูชี้ดาวอยู่ห่างกะผาตั้งแค่ 18 โลได้ครับ เป็นสถานที่เที่ยวใหม่พึ่งเปิดได้ไม่นาน ผมกินข้าวเช้าที่ผาตั้งกันก่อน ขับรถมาถึงตีนภูชี้ดาว ประมาณ9โมงกว่าๆ จากพื้นต้องนั้งรถกระบะที่น้ขึ้นไป ถ้ามาหลายคนน่าจะคนละ50 แต่ผมมา4เขาเลยให้เหมา 500 บาท แต่ผมต่อเหลือ400 ราคาไปกลับเขาจะรอเรากลับ แต่ไม่แพงหรอกทางขึ้นแค่ 2 กิโล แต่อารมณ์ พี่ของเขาคิชกูดเลย ทางชัน แต่นี้โหดกว่าตรงเป็นถนน เละเด้งมาก มือนี้จับแน่นเลยไม่กล้าถ่ายรูป ต้องไปดูในคลิปมีเป็นวิดิโออยู่ครับ แล้วเป็นเลนเดียว สวนกันไม่ได้ มีจังหวะนึง รถลงเขาลงมาพอดีหลับไม่ได้ คันที่กำลังลงมา ต้องถอยหลังขึ้นบนเขาแล้วหักเลี้ยวโค้งบนเขาชันๆ เพื่อไปเจอทางหลบ อย่างโหด 555 เสียวมันส์ดี ถึงจุดนี้ต้องเดิน เท้า น่าจะ800 เมตรนะ จนถึงจุดสูงสุด ไม่ไกลเท่าไรครับ
ถึงหลักกีโลแรกน่าจะสัก600 เมตรได้ ทะเลหมอกยังจัดเต็มแน่นมาก แสงแดดแรงสวยสุดๆ
นี้คงเป็นที่มาของภูชี้ดาว ยอดมันดูชี้ตรงขึ้นบนแหลมๆเลย แต่มันก้ชี้ขึ้นบนเหมือนชี้ฟ้านะ 555
เดินกันไปจนถึงจุดสูงสุดแถวนี้เสียวมาก ขาสั่น พับๆๆ เลย ซ้ายขวาเป็นหน้าผา น่ากลัวสุดๆ เลยไม่ได้ถ่ายคู่กะหลักกี่โลอีกอันเลย รั้วก็เป็นไม้ ไม่รู้จะแข็งแรงแค่ไหน ใครกลัวความสูง หรือมีเด็กก็ต้องระวังเป็นพิเศษครับ แต่ถ้าได้ขึ้นมาแล้ว มันจะคุ้มค่ามาก
งามมาก
นั่งดูทะเลหมอกไหลไปมาสักพัก ก็สมควรแก้เวลาที่เราต้องบ็ายบาย ภูชี้ดาว ไว้มีโอกาศเราต้องมาพบกันใหม่
ลงมาถึงพื้น 10.30 เริ่มรู้สึกว่าร้อน จะไม่ร้อนได้ไง ใส่ไป 4 ชั้น แต่เมื่อเช้าใส่แบบนี้ยังรู้สึกหนาวเลย อากาษดี้ดี
จากนั้นก็เตรียมเดินทางกลับ เป้าหมายหลักของทริปนี้ประสบความสำเร็จเรียบร้อยต่อไปเป็นกำไรของทริปนี้ไหนๆมาถึงแล้วไปแวะวัดห้วยปลากั้งหน่อย แล้ว พี่ที่เชียงรายบอกว่าตอนนี้มีงานดอกไม้2งานเข้าชมฟรี เลยไม่พลาด
วีออสคันเก่งครับ พาไปลุยมาทั่วไทยเหนือใต้ออกตก ไม่มีงอแง ดอยชันแค่ไหนก็พิชิตได้หมด ถ้าทางเรียบนะ ถนนเละๆขอยอม
ถึงตัวเมืองเชียงรายแวะกินข้าวในเมือง ถึงวัดห้วยปลากั้งประมาณ บ่ายโมงกว่าๆ แดดร้อน คนเยอะมากครับ
วัดสวยครับ แต่แดดแรงพื้นเป็นปูนดู ระอุๆมาก
ที่นี้มีโรงทานฟรีด้วยนะครับแต่พึ่งกินข้าวมาไม่งั้นละไม่พลาดแน่ๆ555 ถ่ายรูปสักพักก็ไปต่อครับงานดอกไม้อาเซียนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่
ตอนนี้ก็ยังมีอยู่นะครับจำได้ว่ามีถึงวันวาเลนไทน์ ดอกไม้สวยมากครับ
ที่เห้นควันๆนี้เขาฉีดละอองน้ำนะครับ ดูเป็นเอฟเฟคสวยเลย
หลากสีสันไปหมด
ความรักก็เช่นกัน
ปิดท้ายอย่างเพอเฟอครับทริปนี้
จากนั้นก็เดินทางออกจากเชียงรายตอนบ่าย 14.30 เพื่อนต้องขึ้นรถทัวร์รอบ00.00 ต้องรีบทำเวลาอีก ขากลับ มีแวะเติมแก้สเติมน้ำมัน และกินข้าวเย็นที่นครสวรรค์อีกรอบ ถึง นครชัยแอร์23.45 ทันเวลาพอดี ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพทุกคน เช้าวันจันตื่นไปสู้ชีวิตกันต่อ นี้ละน้อ มนุษย์เงินเดือนสรุปทริปนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ครบทุกเป้าหมาย รอบนี้วิ่งไปทั้งหมด 2100 กิโล เวลาต่างๆที่คำนวนไว้ทำได้ดี ส่วนใครจะมาเที่ยวเชียงรายถ้าจะเที่ยว ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ดอยผาตั้ง ผมแนะนำว่า ควรนอนที่ดอยผาตั้งสักคืนเช้า มาถ่ายให้ทั่ว อีกคืนนอนเต็นที่ภูชี้ดาว พอเช้าถ่ายรูปเสร็จลงมา ขับต่อไปอีกนิดจะถึงภูชี้ฟ้า ภูชี้ฟ้าเดินขึ้นได้เลย จุดที่เห็นทะเลหมอกน่าจะแค่ 500 เมตรเอง เดินแปบเดียวถ้าวันที่มีทะเลหมอก ยังมีให้เห็นแน่ๆ จะได้เก้บทะเลหมอก สวยๆ หรือใครอยากนอนไหนก็ลองดูเอาตามที่ชอบ เพราะทั้ง3 ที่จะอยู่ห่างกันที่ละ 10กว่าโลได้ โดยมีภูชี้ดาวอยู่ตรงกลางครับ
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริป
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมเก็บกองกลาง คนละ 1500 บาทแล้วใช้เงินกองกางจ่ายทุกอย่างครับ 4 คน
ค่าน้ำมัน 800 บาท
แก้ส 2110 บาท
เข้าเช้าวันเสา 150 บาท
ค่าขนมหวานกาแฟที่ไร่ชาฉุยฟง 390 บาท
ค่าเข้าห้องน้ำภูชี้ฟ้า 20 บาท
มื้อเย็นที่ผาตั้ง 340 บาท
โรตรี ชานม 75 บาท
ค่าเต็นเครื่องนอนผ้าห่ม 230 บาท
น้ำแข็ง+โซดา+ถั่ว+ลูกชิ้น 135 บาท
ไวน์ 2 ขวด 200 บาท
มื้อเช้าที่ผาตั้ง 180 บาท
ค่ารถกระบะภูชี้ดาว 400 บาท
มื้อกลางวันที่เมืองเชียงราย 280 บาท
ข้าวเย็นที่นครสวรรค์ 210 บาท
แล้วมีค่าจ็กจิ้กที่ยังไม่ได้จดอีกนิดหน่อย
แต่โดยรวมประมาณนี้ หักลบแล้ว ยังเหลืออีก 280 บาท เลยแบ่งคืนแต่ผมเอามา 140 ไว้ล้างรถ ที่เหลือแบ่งทุกคนไปครับ
กระทู้ท่องเที่ยวที่เคยทำไว้ ไปดูกันได้นะครับไว้เป็นข้อมูล เรียงจากกระทู้แรกมาล่าสุดนะครับ
รีวิว ทริปตรัง-กระบี่ ประหยัดจัดเต็ม ที่พักหลักร้อย 4วัน3คืน ขับรถไปเอง
http://pantip.com/topic/32165373
เขาค้อ ทับเบิก ในวันที่หมอกฟรุ้งฟริ้ง
http://pantip.com/topic/32756009
ตามล่าหมอก ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ สังขละบุรี นอนฟรีที่ Felix River Kwai Resort
http://pantip.com/topic/32859920
เชียงใหม่-เชียงราย ทริปประหยัดจัดเต็ม3วัน3คืน ด้วยงบ2000หน่อยๆ
http://pantip.com/topic/32999784
เป๊ะไม่เป๊ะ ให้ดูที่หลี..เป๊ะ ทริปประหยัดขับรถไป4วัน3คืน
http://pantip.com/topic/33512019
วันเดียวเที่ยวระยอง ลองกันยัง ทุ่งโปรงทอง เขาแหลมหญ้า
http://pantip.com/topic/33742181
เชี่ยวหลาน-ภูเก็ต ทีเด็ดเมืองไทย 3วัน2คืน ทริปประหยัดจัดเต็ม
http://pantip.com/topic/33846287
เที่ยวกาญนะจ๊ะ ทริปประหยัดจัดเต็ม วัดถ้ำเสือ ต้นจามจุรียักษ์ นอนแพวิมานลอยน้ำ
http://pantip.com/topic/33941273
เข้าค้อ-ทับเบิกรอบสาม จะตามล่าหาเทอต่อไปน้องหมอก
http://pantip.com/topic/34258006
น่าน-พะเยา-ตามหาถนนลอยฟ้า-นาขั้นบันได-แถมเนินมะปราง ทริปเดียวเที่ยวให้คุ้ม
http://pantip.com/topic/34293684
]ส่งท้ายหน้าฝน เที่ยวเขาแดง บึงบัวสามร้อยยอด นอนปรานบุรี ชมบารมี อุทยานราชภักดิ์
http://pantip.com/topic/34329738
ศรีสะเกษ-อุบล-ลาวใต้ ไปครั้งเดียวเที่ยวให้ทั่ว ครั้งแรกกับการเดินทางไปต่างประเทศ
http://pantip.com/topic/34525908
อินทนนท์-ทุ่งบัวตอง-ปางอุ่ง-บ้านจาโบ่-ปาย-เชียงดาว ต้อนรับลมหนาว 3วัน2คืน คนละ 2500
http://pantip.com/topic/34591977
ผ่านไปกันอีกหนึ่งทริป ทริปนี้ถือเป็นทริปที่ประทับใจมากที่ได้เจอทะเลหมอกแบบจัดเต็มขนาดนี้ ที่เคยเจอแบบนี้ก็ที่ดอยอ่างขางเมื่อธันวา 57 ปี58 นี้ล่าหมอกมาหลายทริปเจอเยอะแต่ไม่จัดเต็มเท่าทริปนี้ ปิดเทศกาลล่าทะเลหมอก ทริปหน้าได้เวลา มุ่งหน้าหาทะเลกันมั้ง ปีนี้จะไปไหนดียังตัดสินใจอยู่ไว้ได้ไปแล้วจะมารีวิวไว้เป็นข้อมูล ไม่มากก็น้อยนะครับ
มีเรี่ยวมีแรง มีเวลา ก็ออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆกันมั้งนะ ไม่ต้องมีเงินเยอะก็ไปเที่ยวได้ ถ้ารอรวยอาจจะไม่มีเวลานะครับ
แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตลอนทัวร์สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
เที่ยวทั่วไทยไปกับวีออส
เหลี่ยมพาเที่ยว
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.31 น.