เราได้มีโอกาสร่วมทริปกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก เพื่อไปเยี่ยมชมค่ายสุรสีห์ และพิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม รวมถึงสถานที่ต่างๆในจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 2 วัน 1 คืน

Day 1

เราได้ร่วมเดินทางไปกับคณะสื่อมวลชน จากกทม.- สู่กาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงที่หมาย ที่แรกที่เราไปก็คือ ค่ายสุรสีห์ (พล.ร.9) เราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี เราไปกันที่พิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม ด้านนอกมีพวกรถถัง เครื่องบิน ปืน ที่เคยใช้จริงในสมัยนั้นมาตั้งโชว์ ส่วนด้านในอาคารมีการแสดงหุ่นจำลอง สื่อมัลติมีเดีย เพื่อระลึกถึงคุณความดีของผู้ที่เสียสละ และได้รู้ประวัติความเป็นมาของสงครามที่เคยเกิดในครั้งนั้น หลังจากที่เราเดินดูพิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเสร็จ เราก็ต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กองพลทหารราบที่ ๙ เราได้เดินดูโดยรอบ โดยมีวิทยากรแต่งตัวเป็นทหารสมัยก่อน มาบรรยายเล่าเรื่องแบบสนุกมาก มีซาวน์ประกอบ ทำให้เราอิน โดยบริเวณด้านหน้าที่เรานั่งฟังเป็นทุ่งลาดหญ้า ที่เปรียบเสมือนใช้รบกันในสมัยก่อนจริงๆ

ข้างบนมีพิพิธภัณฑ์ที่กำลังปรับปรุง มีห้องเล่าเรื่อง ด้วยสื่ออิเล็คทรอนิคแทนคนบรรยายในปัจจุบัน พอฟังสื่อเล่าเรื่องเสร็จก็สามารถชมวิว 180 ของทุ่งลาดหญ้าต่อได้เลย

ที่นี่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงครามทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ ใครที่ชอบเกี่ยวกับสงคราม หรือประวัติศาตร์ไม่ควรพลาดเลย

หลังจากที่เราเยี่ยมชมค่ายกันเสร็จแล้ว เราก็แวะไปทานอาหารกลางวันที่ร้านน้องเอ แล้วไปต่อกันที่ เมืองมัลลิกา

เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะรู้จักที่นี่ จุดเด่นของเมืองมัลลิกาที่เราชอบคือพ่อค้าแม่ค้าจะแต่งชุดไทย เหมือนเรากลับไปสู่สมัยก่อนเลย เอ้อ ที่นี่มีชุดให้เช่าด้วยนะ เผื่อใครอยากได้รูปสวยๆแบบมีความเป็นไทย ราคาเช่าชุดอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท อาหารข้างในราคาไม่แพง พอๆกับราคาอาหารข้างนอก

ก่อนที่จะเข้าไปช็อปปิ้งเราก็ต้องแลกเงินก่อนโดย 1 สตางค์รู = 5 บาท ข้างในก็จะมีอาหารไทย ขนมไทย ของใช้ที่เป็นไทยขาย ใครที่ชอบก็ต้องแลกเงินไปเยอะๆหน่อยนะ

หลังจากเดินเที่ยวเมืองมัลลิกากันเสร็จก็ถึงเวลาไปที่พัก คืนนี้เราพักกันที่ สวนไทรโยค รีสอร์ท ที่พักมีระเบียงให้ชมวิวแม่น้ำ มีคายักให้พายฟรี ของเล่นที่อยู่ในน้ำฟรีหมดแต่พวก adventure บนบกจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาประมาณ 150 - 500 ขึ้นอยู่กับเครื่องเล่นชนิดนั้นๆ

ด้วยความซน คิดว่าถึงที่พักแล้วจะนอนพักมั้ย? ไม่ค่ะ 555 เราลงไปเล่นน้ำและของเล่นกัน เพราะฉะนั้นใครมาที่นี่ เตรียมชุดพร้อมเปียกมาเผื่อด้วยนะ หลังจากเล่นน้ำกันเสร็จเราก็ต่อกันอาหารเย็น ปาร์ตี้นิดหน่อย แล้วก็เข้านอน


Day 2

Good Morning ค่าาาาา... เช้านี้เราไปต่อกันที่ ทางรถไฟสายมรณะ และถ้ำกระแซ อยู่ไม่ไกลจากที่พักของเราเลย เราจากรีสอทไปโผล่ที่ถ้ำกระแซ ระหว่างสองข้างทางสวยมาก ไม่ต้องกลัวรถไฟชน เพราะรถไฟจะมีแค่เที่ยวเช้า ประมาณ 7 โมง กว่าจะมีอีกที ก็ 4 โมงเย็น แต่ใครกลัวความสูงก็ต้องเดินระวังๆหน่อยนะ

จุดนี้เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตของกาญจนบุรีเลยก็ว่าได้ ใครมาแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปจุดนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง เราถ่ายรูปเล่นกันสักพัก ก็ออกเดินทางกันไปต่อที่ ต้นจามจุรียักษ์

ทุกเสาร์-อาทิตย์จะมีกิจกรรมขี่ม้า ถ้าเป็นแบบมีครูฝึกจูง จะมีค่าใช้จ่ายรอบละ 50 บาท แต่ถ้าเป็นการเรียนขี่ม้า จะมีค่าเรียนอยู่ที่ 300 บาท / ชั่วโมง

หลังจากถ่ายรูปเล่น และหัดขี่ม้าสักพัก เราก็เดินทางต่อไปทานอาการกลางวันกันที่ แพริมเขื่อน แล้วไปต่อกันที่สถานที่สุดท้ายของทริปนี้ ก็คือ วัดถ้ำเสื้อ ข้างบนเราต้องเดินขึ้นไป เหนื่อยนิดๆ แต่ก็มีกระเช้า เที่ยวละ 10 บาท สำหรับคนขี้เกียจเดิน

วันถ้ำเสือก็เป็นสถานที่เที่ยวที่สำคัญอีกที่หนึ่งของจ.กาญจนบุรี เราสามารถขึ้นไปไหว้พระ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้ พอมองลงมาจากข้างบนเราก็จะเห็นวิวทุ่งนาสวยๆ กับภูเขาที่ไกลออกไป สำหรับเพื่อนๆที่อยากเที่ยวแต่ไม่รู้จะไปไหน จ.กาญจนบุรี ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะคะ


ดูรีวิวและที่เที่ยวอื่นๆ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ใน https://facebook.com/Lakgunpai

ลากกันไป

 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.07 น.

ความคิดเห็น