ll Koh Chang ll พื้นที่ส่วนตัว....เกาะช้าง

พื้นที่ส่วนตัว....เกาะช้าง

พื้นที่ส่วนตัว....เคยมั้ย?....อยากไปเที่ยวแบบมีพื้นที่ส่วนตัว ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดเยอะ เหมือนติดเกาะ แต่ก็อยากสบาย คิดไปคิดมา เอ้า...ทำไมตรูเรื่องเยอะจังอะ? จะมีเหรอวะ ที่แบบนั้น.....

สำหรับเราถ้าพูดถึงทะเลที่ไม่ไกลมากนัก และสวยไม่แพ้ที่ไหน ที่ ๆ ไม่ว่าจะฤดูใดๆ ก็สามารถมาได้เรื่อยๆ “เกาะช้าง” ก็คงเป็นชื่อแรก ๆ ที่โผล่ขึ้นมาในหัวใครหลาย ๆ คนเหมือนเราเลยใช่ไหมล่ะ? เพราะนอกจากสถานที่สวยๆบนเกาะช้างที่น่าไปแล้ว การเดินทางไปยังเกาะช้างก็แสนจะสะดวกเพราะสามารถเอารถยนต์ข้ามไปได้ แต่ไปเกาะช้างคราวนี้พิเศษตรงที่ เราสามารถไปสร้างพื้นที่ส่วนตัวที่ Sea View Koh Chang รีสอร์ทสุดไพรเวทริมทะเล ที่ตั้งอยู่บนหาดไก่แบ้ ของเกาะช้าง ที่ๆเราสามารถใช้ชีวิต 3 วัน 2 คืนอย่างแฮปปี้สุดๆ เอาล่ะ ไม่พูดมาก ไปดูรีวิวกันเลยดีกว่าค่า~

ด้วยความที่เป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับสองของไทย การเดินทางก็เลยแสนจะง่าย เพราะเราสามารถนำรถยนต์ส่วนตัว ขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะไปเที่ยวกับเราได้ด้วย เราใช้บริการของท่าเรืออ่าวธรรมชาติ มีเรือออกทุก 45 นาที ตั้งแต่เวลา 6.00-19.00 น. ใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาทีก็มาถึงเกาะช้างแล้วค่ะ

ค่าเรือ รถยนต์ 120 บาท ผู้โดยสารคนละ 80 บาท ค่ะ

จากท่าเรืออ่าวสับปะรด เราขับรถต่ออีกไม่นาน ก็มาถึงที่พักของเรา Sea View Koh Chang ค่ะ จะบอกว่ารีสอร์ทใหญ่มากๆๆๆๆๆ คือดีย์ อะคุณขาาาาาา

ตะลึงกับความกว้างของรีสอร์ทเสร็จ เราก็เข้าห้องพักกันค่ะ ที่พักเราเป็นห้อง Pool Villa Suite ที่เพิ่งสร้างเสร็จ สดๆร้อนๆ และกำลังจะเปิดให้เข้าพักกัน บอกเลยว่าหลัง ใหญ่มากกกกก และ เป็นส่วนตัวมากกกกกก สะใจอีช้อยยิ่งนักแหละคราวนี้

ด้วยความที่มัน ใหม่มากๆ ดังนั้น กวิ้นขออาสาตัวเป็นไกด์ให้เพื่อนๆได้มาสำรวจบ้านพักหลังนี้กันค่าาา

เริ่มจาก ห้องนั่งเล่นกันค่ะ โซฟาขนาดใหญ่พร้อมหมอนอิงหลากหลายแบบ ให้เราได้นอนดูทีวีกันแบบสบายๆ

นอกจากโซฟาแล้ว ห้องนั่งเล่นยังมีเครื่องบดกาแฟ พร้อมเมล็ดกาแฟคั่วใหม่ๆให้เราได้บดเองด้วย บอกเลยว่ากาแฟสดของจริง

มาต่อกันที่ห้องถัดไป ห้องสำคัญ ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ห้องนอนนั่นเองงงง

ห้องนอนของเราเป็นแบบ Accesss Pool เลยนะจ้ะ ตื่นมาแล้วโดดน้ำได้เลยอะ เก๋ๆ

"อันนึงมีไว้ใช้ อันนึงมีไว้โชว์ สาจ๋า ดูซิงค์ให้แพรด้วยนะจ้ะ "

ใช่ค่ะ ห้องน้ำของที่นี่มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง....55555

คือห้องน้ำก็ใหญ่มากอีกเช่นกันอะ

และแน่นอน ก็ต้องมี Pool Villa สระว่ายน้ำยังไงล๊าาาาา

เราชอบความพอดีของสระน้ำนะ ยาวกำลังดี ว่ายน้ำไปดูวิวดวงอาทิตย์ใกล้ตกไปได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อเลย อีกหนึ่งความพิเศษของสระว่ายน้ำที่นี่คือสามารถเปลี่ยนเป็นจากุชชี่ ! ด้วย ตอบโจทย์ไปอีกค่า

นอกจากนี้ ยังมีดาดฟ้าส่วนตัว ไว้ให้เรามานั่งจิบชายามบ่าย หรือจะนอนอาบแดดพร้อมชมวิวทะเลได้แบบเต็มตาด้วย ถูกใจสายแทนได้นะเนี่ย

ด้วยความที่เป็นรีสอร์ทสีเขียวที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากๆๆ ทางรีสอร์ทเค้าก็มีเคเบิ้ลคาร์ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าพักด้วย จะได้ไม่เดินเหนื่อย

ออกจากห้องกันบ้างดีกว่า ออกมาสูดอากาศริมทะเลให้เต็มปอด กิจกรรมแรกที่รีสอร์ทมีไว้บริการนั่นก็คืออออ พายเรือคายัคนั่นเองคร่า

กิจกรรมคายัคของที่รีสอร์ทมีความพิเศษคือ เราสามารถ พายเรือคายัคไปยังเกาะมันใน ที่อยู่ใกล้ๆกับรีสอร์ท ให้ฟีลแบบไปติดเกาะเหมือนในหนังเลยแก

Picnic On Koh Man Nai...ชอบความใส่ใจของรีสอร์ท ที่เราสามารถให้เค้าจัด picnic set มาให้เราได้นั่งกินบนเกาะหลังจากที่พายเรือมาเหนื่อยๆด้วย มีจาน ช้อน ซ้อม ให้พร้อมเลยค่ะใส่มาเป็นกระเป๋า มาถึงปุ๊ป เอามาปูกินได้เลย สบายๆ บอกเลยว่าแซนด์วิซลาบไก่อร่อยมากๆ

ค่าบริการ 320 บาท/คน : สามารถพายเรือได้ 2 ชั่วโมง มีแซนด์วิซและน้ำให้ด้วย

กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างของที่นี่ก็คือ Pizza WorkShop ค่ะ มีเชฟสอนทำตั้งแต่นวดแป้ง กางแป้งให้ได้เป็นรูปกลมๆ แต่งหน้า และเอาเข้าเตาถ่าน จะบอกว่ากว่ามันจะกลม ยากอะ แงงงง แต่ออกมาก็พอใจอยู่แหละ

พิซซ่าร้อนๆออกจากเตา ฝีมือกวิ้นเองงง อร่อยด้วยนะ เพราะเชฟเค้าปรุงมาแล้ว 5555

จบ workshop แล้วเค้ามีใบเกียรติบัตรให้ด้วยน๊า เก๋ๆ

กิจกรรมนี้ มีค่าใช้จ่าย 420 บาทค่ะ

มื้อเย็นมื้อแรก เราฝากท้องไว้ที่ Lighthouse Restaurant ค่ะ เป็นห้องอาหารที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยที่สุดบนเกาะช้างได้เลย

ก่อนจะทานอาหาร เราก็ต้องเรียกน้ำย่อยก่อน

Sunset Shake เป็นชุด One Cocktail or Mocktail & Snack ราคาชุดนี้ 350 บาท จ้า เปิดบริการช่วงเวลา 5.30-6.30 PM ของทุกวัน ยิ่งมานั่งจิบค๊อลเทลยามเย็นรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าช่างเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ

มาๆๆๆๆ มื้อเย็นมื้อแรกของที่นี่ จัดมาแบบเต็มๆ 3 เมนูค่ะ อิ่มพุงกางไปเลยอ่าาา

1.Salad “Nicoise” ทูน่านิซัวส์สลัด

2.Deep-Fried Calamari with Lime-Aioli ปลาหมึกซุปแป้งทอด ซอสมะนาว

3.Mix BBQ Seafood พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด

กลับมาห้องพักของเราในยามค่ำคืนบ้าง สวยๆแบบนี้ บรรยากาศดีๆแบบนี้ กวิ้นก็อดไม่ได้ที่จะลงไปนอนแช่อ่างน้ำแบบนี้ค่ะ

เช้าวันที่ 2 วันนี้เรามีออกไปดำน้ำดูปะการัง ก่อนไปก็ต้องเติมพลังกันก่อน อาหารเช้าของเราถูกเลือกไว้ล่วงหน้าแล้ว ตั้งแต่ ตอนที่ check in ครั้งแรก พนักงานจะให้เราเลือกอาหารเช้า ซึ่งมีอาหารให้เลือกหลายเมนู ทั้งอเมริกัน ฝรั่งเศษ อังกฤษ หรือจะเป็น อาหารไทยก็มี ะของหวานและกาแฟก็มีด้วยนะ แพนเค้กหอมมากๆเลย

หลังจากท้องอิ่มแล้ว เราก็รอรถมารับไปดำน้ำค่ะ

เราซื้อทัวร์ดำน้ำ 4 เกาะผ่าน รีสอร์ทเลย ราคา 600 บาท 4 เกาะที่ว่าก็ได้แก่เกาะยักษ์ใหญ่ เกาะยักษ์เล็ก เกาะรัง และก็หวาย

มีอาหารเที่ยงให้ และมีรถมารับ-ส่งถึงท่าเรือเลย สะดวกสุดๆ

เรือที่มาพาเราไปเป็นเรือไม้ แต่พิเศษตรงมีสไลด์เดอร์ด้วยยย เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันแหะ ตอนแรกไม่กล้า พอลองครั้งนึงก็พบว่าไม่ได้น่ากลัวแหะ เล่นวนๆไปเล้ยยย

นี่เป็นครั้งแรกของเราที่มาดำน้ำที่เกาะช้าง ปกติเคยดำแต่ทางทะเลอันดามัน

เฮ้ย มันก็ดีนี่หว่า ปะการังก็เยอะ ปลาก็เยอะ ดูสิ น้องปลาแหวกว่ายกันให้พรึ่บบ

คืนสุดท้ายในรีสอร์ท ทางรีสอร์ทได้จัดโรแมนติกดินเนอร์ให้กับเรา แอบเขินอะ เพราะทั้งหาดมีโต๊ะเดียว!! โรแมนติกจริงอะไรจริงค่ะ ถ้าใครจะพาแฟน พาคนรักไป แนะนำให้ ติดต่อทางรีสอร์ทล่วงหน้านะ เพราะจัดได้แค่วันละโต๊ะและคิวมักจะเต็มยาวตลอดเลย แต่แนะนำว่าควรลอง มันพิเศษมากๆ แบบใจเต้นตุ๊บๆเลยแกร๊ ส่วนเมนูอาหาร ก็จัดเต็ม ทั้งคาวหวาน เป็นอาหารทะเลรสชาติจัดจ้านเลยทีเดียวค่ะ

เช้าวันสุดท้าย บนเกาะ วันนี้อากาศแจ่มใสฟ้าเปิดมากๆ เรามาเดินเล่นที่ Romantic Road ของที่รีสอร์ทกัน

ความพิเศษอีกอย่างของที่นี่ก็คือ มีจุดชมวิวเป็นของตัวเอง เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมความงามของทะเลสีฟ้า และวิว 4 เกาะ ที่อยู่ด้านหน้ารีสอร์ท ได้แก่ เกาะมันนอก เกาะมันใน เกาะหวาย และเกาะหยวก ที่ขึ้นเรียง กันอย่างสวยงาม มานั่งชมวิวที่นี่แบบสบายๆไม่ต้องไปเบียดกะใครเหมือนตรงจุดชมวิวไก่แบ้ มีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วย ไพรเวทสุดๆอะไรสุดเลย