ทริปตุรกี เราเลือกอยู่ที่นี่นานที่สุด เราอยู่ที่สองคืนสองวันเต็มและเลือกที่จะบินกลับอิสตันบูลเพราะอยากใช้เวลามากหน่อยกับสิ่งที่ใฝ่ฝันอยากมาเห็นตลอดชีวิต กระทู้นี้อาจจะยาวหน่อยนะคะเพราะรูปเยอะ แต่รับรองรูปจุใจค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตาม

ให้เปรียบเทียบฉันคิดว่าคัปปาโดเกียเปรียบเสมือนชายหนุ่มคนหนึ่งที่รูปหล่อ เจ้าชู้ น่ารัก มีน้ำใจ แข็งแรง อบอุ่นและยินดีช่วยเหลือเสมอ

ฉันใช้เวลาเดินทางจากปามุคคาเล่ไปคัปปาโดเกียในรถบัสเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง ฉันได้นั่งคนเดียว สบายๆจริงๆเลย ที่ตุรกีนี่เขาไม่ให้ผู้หญิงนั่งคู่กับผู้ชายแปลกหน้า ผู้หญิงจะได้นั่งคู่กับผู้ชายก็ต่อเมื่อเป็นแฟนกันหรือมาด้วยกัน เห็นมั้ยตุรกีเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว

ฉันไปถึงประมาณเจ็ดโมงเช้าที่เมืองโกเรเม่ เมืองซึ่งเป็นศูนย์กลางของคัปปาโดเกีย รถจอดที่ท่ารถ ในบัสคันนี้มีน้องๆคนไทยสามคนกลุ่มหนึ่ง น้องๆกลุ่มนี้ฉันเจอพวกเขาตั้งแต่เอเฟซุส พวกเราลงรถด้วยกันที่หน้า tourist information พนักถามถึงโรงแรม เขาบอกว่าเขาจะโทรให้โรงแรมมารับ ที่คัปปาโดเกียมีบริการแบบนี้เราไม่ต้องเดินไปโรงแรมเอง ซักพักก็มีรถตู้มารับกลุ่มน้องๆไป ส่วนฉันยังไม่มีใครมารับ พนักงานโทรอีกครั้งเขาบอกว่าให้รออีกห้านาที ฉันยืนรอ มีรถเก๋งสีดำคันใหญ่มาจอดด้านหน้าฉัน ชายหนุ่มรูปงามสูงใหญ่หน้าตาคมสันเปิดประตูลงมาพร้อมเอ่ยว่า Melek Cave Hotel ใช่มั้ยครับ ฉันสตันไปสามวิ หล่อจังฉันคิดในใจจากนั้นก็พยักหน้า เขาเดินมาหิ้วกระเป๋าฉันพาขึ้นรถไปโรงแรม


จริงๆแล้วโรงแรมฉันไม่ไกลจากท่ารถมากนัก แต่เป็นทางเดินขึ้นเขา ถ้าลากกระเป๋าขึ้นเขาไปเองคงลำบากมาก ชายหนุ่มที่มารับฉันเขาเป็นรีเซฟชั่นของโรงแรมซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากเทียบเท่ากับชาวยุโรปเลยเชียว ฉันได้ถามเขาภายหลังว่าทำไมภาษาอังกฤษของคุณดีแบบนี้เขาตอบฉันว่าเขาเคยมีแฟนเป็นชาวยุโรป อ้อ นั่นไงถึงว่าทำไมภาษาเขาถึงดีจัง


มาคัปปาโดเกีย ต้องนอนโรงแรมถ้ำ ฉันคิดแบบนี้นะ ทำไมน่ะเหรอ เพราะจะมีอีกกี่ครั้งในชีวิตกันที่เราจะได้นอนในถ้ำและเป็นโรงแรม โรงแรมที่ฉันเลือกเป็นโรงแรมถ้ำติดเขาและไม่ไกลจากท่ารถมากนัก เป็นโรงแรมที่ทำโดยครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก มีลูกจ้างเพียงหนึ่งคนคือนายรีเซฟชั่นนั่นเองเพราะเขาต้องการคนทีภาษาอังกฤษแข็งแรงมาทำงานกับเขา ที่นี่มีห้องเพียงสิบห้อง


ภาพ : กุญแจล๊อคห้องถ้ำใช้เวลาคิดไปห้าวิ^^ว่าทำยังไง


ห้องยังไม่เสร็จ ต้องรออีกประมาณสองชั่วโมง ฉันจึงลงมาเดินเล่นในเมืองโกเรเม่ ฉันยังมึนๆเบลอๆอยู่ เหตุจากนอนในรถบัสไม่สบายและหลับไม่เพียงพอ ตอนนี้สิ่งแรกที่ร้างกายฉันต้องการคือกาแฟ ฉันไม่ได้กินกาแฟมาเป็นอาทิตย์แล้ว ฉันอยากได้ลาเต้ซักแก้ว ฉันหวังว่าที่นี่คงมีถึงแม้ว่าตุรกี คือเมืองแห่งชาไม่ใช่กาแฟ ฉันเดินไปเรื่อยๆ มองหาร้านกาแฟ อ่านั่นไง ร้านนั้นฉันนั่งลงที่นั่นร้านกาแฟโบกมือเรียกบริกร ขอลาเต้ร้อนๆให้ฉันซักแก้วนะ เพียงไม่นานกาแฟก็มาวางตรงหน้า กาแฟที่นี่เสริฟพร้อมดอกไม้และขนม ฉันดื่มกาแฟนั่งเล่นซักพัก ปล่อยให้ใจให้ตาสว่างแล้วเดินกลับโรงแรม

ห้องพร้อมแล้ว เขาหยิบกุญแจให้ฉันและพาไปที่ห้อง ประตูห้องเปิดไว้ฉันเดินไปสำรวจห้องในถ้ำสะอาดดี เตียงใหญ่ฉันคงหลับสบาย ฉันอาบน้ำสระผมและเผลอหลับไป ฉันตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยงพลางคิดว่าฉันจะไปที่ไหนก่อนดี วันนี้มีสามที่ ที่ฉันอยากทำ หนึ่งฉันอยากไปอุชิชาห์ สองโอเพ่นแอร์มิวเซียม และสามดูพระอาทิตย์ตกดิน


ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวสะพายกล้องพร้อมออก อากาศร้อนจริงๆ ฉันลงไปที่ท่ารถนั่งรถไปที่อุชิชาห์ค่ารถเพียง 2 ลีร่า อุชิชาห์เป็นเมืองที่ถัดจากโกเรเม่เพียง 6 - 7 กิโลเมตร รถไปจอดข้างถนนเห็นปราสาทอุชิชาห์อยู่ลิบๆ ที่นี่สินะปราสาทอุชิชาห์ที่ฉันเคยเห็นแค่เพียงในภาพถ่าย ในหลายๆรีวิวอุชิชาห์ที่ฉันเห็น ฉันไม่เคยรู้เลยว่ามันสามารถปีนขึ้นไปได้ และสามารถไปได้ถึงยอดบนนั้น ด้านบนมีธงตุรกีปลิวไสวอยู่ ฉันอยากไปจับธงนั้น 6 ลีร่าสำหรับการปีนขึ้นไปด้านบนฉันจ่ายทันทีแบบไม่คิด



ฉันได้มาจับธงที่บนยอดอุชิชาห์ละนะเดินอยู่บนยอดปราสาทอยู่นานก็ได้เวลาลง เมือลงมาถึงข้างล่างมีคุณลุงตุรกีคนหนึ่งเดินมา คุยกับฉัน เขาถามฉันว่าอยากเห็นด้านในห้องต่างๆของปราสาทไหมเขาจะพาฉันไปดู ทางเข้าอยู่ทางด้านหลังเขา เขาบอกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปไม่มีใครรู้หรอก ถ้าไม่ได้มากับไกด์ ถ้าซื้อทัวร์เท่านั้นไกด์ถึงจะพาไปดู เขาเคยเป็นไกด์มาก่อนบ้านเขาอยู่แถวนี้ตอนนี้เขารีไทร์แล้ว ฉันตอบตกลงทันที ฉันเป็นคนใจง่ายใครพาไปดูอะไรก็ดู


คุณลุงพาเดินอ้อมไปด้านหลังปราสาท ทางเดินแคบๆ เราเดินไปจนถึงทางเข้าถ้ำจากด้านหลัง คุณลุงพาฉันมุดรูต่างๆ ลมเย็นๆอากาศสบายๆ ฉันได้ถ่ายรูปจากปล่องด้านหลังของอุชิชาห์

มาเที่ยวครั้งนี้กำไรชีวิตฉันหลายอย่างจริงๆ ฉันขอบคุณคุณลุงและจากลา คนตุรกีใจดีเชื่อฉันสิ ฉันเดินลงมาด้านหน้าปราสาท ฉันยังไม่อยากนั่งรถกลับ ฉันเป็นคนชอบเดิน ฉันมองลงไปยังหุบเขาเบื้องล่างของปราสาทมีทางเดินแคบๆเล็กๆลงไปเรื่อยๆมองไกลๆ เห็นถนนอีกฟากหนึ่งลิบๆ เอาล่ะฉันจะเดินลัดหุบเขาไปตรงนั้น



ฉันเริ่มเดินอากาศร้อน แดดเปรี้ยงๆแต่ฉันชอบ ไม่มีใครเลย เงียบสงบดีจริงๆ ฉันเดินไต่ลงไปตามหุบเขาคนเดียวดื่มด่ำกับบรรยากาศที่นี่ ฉันรักการผจญภัย ฉันรักการเดินทางจริงๆ ฉันเดินไปเรื่อยๆจนถึงถนนใหญ่ ฉันเดินไปถามร้านค้าแถวนั้นว่าฉันจะกลับโกเรเม่ได้อย่างไร เค้าบอกฉันว่าเดี๋ยวรถบัสจะผ่านทางนี้เขาจะโบกให้ ระหว่างที่รอรถฉันก็คุยกับเขา เขาบอกว่าปีนี้การท่องเที่ยวตุรกีไม่ดีเลย เรื่องผู้ก่อการร้ายต่างๆทำให้นักท่องเที่ยวน้อยลง ฟังเขาแล้วก็คิดถึงเมืองไทย ช่างไม่ต่างกันเลย ก่อนรถมาเขาเอาอีวิลอายส์เล็กๆให้ฉัน ฉันโบกมือบ๊ายบาย ขอให้ธุรกิจดีขึ้นเร็วๆนะ โชคดี



กลับมาโกเรเม่ ภารกิจที่สองของฉันคือโอเพ่นแอร์มิวเซียม จากโกเรเม่ไม่ไกลมากนักประมาณ 2 กิโลเมตรเห็นจะได้ แต่เป็นการเดินขึ้นเนินเขา ฉันเดินด้วยความเหนื่อยล้า ฉันล้ามาจากการเดินขึ้นเขาที่อุชิชาห์และเดินผ่านหุบเขามาถนนใหญ่อีก แต่ฉันมีเวลาแค่สองวัน ยังไงวันนี้ฉันก็ต้องไป ฉันเดินลากขาไปอย่างเชื่องช้าจนถึงโอเพ่นแอร์มิวเซียม ฉันเหนื่อยจังขาฉันเดินแทบไม่ไหว สุดท้ายฉันนั่งพักที่ร้านแถวนั้นเพื่อดื่มโค้ก โค้กที่นี่กระป๋องสีแปลกเป็นสีส้มและสีชมพู แต่ไม่มีสีแดง รสชาติก็เหมือนโค้กบ้านเรานั่นหล่ะ


ฉันตัดสินใจไม่เข้าไปที่มิวเซียม ไม่ใช่ฉันไม่อยากเห็นแต่ขาฉันไม่ไหวแล้ว แล้วนี่ฉันยังต้องเดินกลับโรงแรมอีก ไม่มีรถโดยสารระหว่างที่นี่กับโกเรเม่มีแต่รถแท๊กซี่ แต่ฉันไม่อยากนั่งแท๊กซี่ ฉันคิดว่าการเดินลงเขาคงไม่เหนื่อยเท่ากับการเดินขึ้นเขา ถึงโรงแรมฉันจะทำอะไร ฉันก็สลบน่ะสิ ฉันตั้งใจว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกดิน แต่ฉันเหนื่อยฉันเดินขึ้นเขาไม่ไหวแล้ว ฉันนั่งคิด สองวันที่นี่น้อยเกินไปในการที่จะทำอะไรหลายๆอย่าง ถ้าฉันมีโอกาสได้กลับมาฉันจะใช้เวลาที่นี่มากกว่าสองวันเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศ คืนนี้ฉันเหนื่อยฉันจะทำอะไรได้นอกจากไปหาอาหารกินแล้วนอน


เช้านี้ฉันตื่นแต่เช้าจำได้ไหมฉันซื้อกรีนทัวร์ไว้ตั้งแต่ปามุคคาเล่ วันนี้ทัวร์จะมารับฉันตอน 9.30 น. ฉันนั่งรอเอ๊ะทำไมไม่มาซักที ฉันนั่งรถจนถึง 10.00 น. ก็มีชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งเดินลงจากรถตู้มาหาฉันพร้อมพยายามอ่านชื่อฉัน ฉันบอกเขาว่าไม่ต้องอ่านหรอก ฉันนี่หล่ะ ชื่อฉันมันยาวเกินไปอย่าอ่านเลย เขาถามฉันว่ามาจากที่ไหนฉันตอบว่าประเทศไทย เขามองหน้า อ้าววว คนไทยอีกคนละเหรอ ฉันงงทำไมพูดแบบนั้น


พอขึ้นรถฉันถึงบางอ้อ ที่แท้น้องๆกลุ่มคนไทยที่มาถึงที่นี่วันเดียวกันซื้อทัวร์บริษัทเดียวกับฉันนั่นเอง เราเลยได้ร่วมทัวร์กันฉันสนุกมากมายคิดถึงน้องๆเหมือนกัน ทัวร์พาไปที่แรกคือ Under ground City เป็นเมืองใต้ดินโบราณที่ขุดลึกลงไปใต้ดิน มีห้องหับต่างๆมากมาย ด้านในค่อนข้างมืด ถ่ายรูปลำบาก เมืองโบราณเป็นสถานที่หลบภัยสำหรับชาวคริสต์ที่คอยหลบหนีพวกโรมันจากการเข่นฆ่าที่นับถือศาสนาคริสต์


ภาพ : ไกด์ทัวร์คือชายหนุ่มใส่แว่นตาอยู่หลังตั๋วนะคะ

ที่ต่อไปของเราคือ Ihlara Valley จะเป็นการเดินประมาณสี่กิโลเมตรเลาะแม่น้ำของวาเล่ย์ไป ฉันเดินชมนกชมไม้ถ่ายรูป ที่วาเล่ย์ที่นี่เดินๆไปคล้ายเชียงใหม่ในความรู้สึกของฉัน ฉันเดินตามไกด์หนุ่มรูปหล่อ เขาขยันทำงานอธิบายนั่นนู่นนี่ให้ฉันฟัง เขาน่ารักจังฉันคิด เขาเป็นไกด์ที่ผมยาวแต่มัดผมไว้ ตั้งแต่ฉันมาที่นี่ฉันเห็นแต่หนุ่มตุรกีผมสั้นไม่เคยเห็นใครไว้ผมยาวเลย เขาเป็นหนุ่มตุรกีคนแรกที่ฉันเห็นไว้ผมยาว โอย ฉันแพ้หนุ่มผมยาว เดินไปครึ่งทางพวกเราแวะพัก ตรงนี้จะมีร้านขายน้ำ ขายชาหรือขนมต่างๆ ฉันนั่งข้างๆเขา เราพูดคุยกัน เขาจ้องๆฉัน ฉันรู้สึกเขินจริงๆ จากนั้นเราก็เดินต่อ ฉันเดินตามเขาไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าสุดทางพวกเราจะพักกินอาหารกลางวันกันที่นั่น ถึงสถานที่ที่เราต้องกินอาหารกลางวัน ฉันเดินตามเขาขึ้นบันไดร้านอาหารไป มีคนวิ่งสวนลงมาชนฉัน ฉันเซเกือบล้มตกบันได เขาคว้ามือฉันไว้ได้แล้วจับไว้แน่นแล้วจูงฉัน ฉันเดินตามเขาไป ใจฉันเต้นตึ๊กๆ เขาพาฉันไปที่โต๊ะอาหารของทัวร์ ฉันมัวแต่เขินเลยลืมถ่ายรูปร้านอาหารเลย อาหารมีให้เลือกสามสี่อย่างคือ ปลา เนื้อ ไก่ และผัก ฉันเลือกปลา



พวกเรากินอาหารไม่นานนักก็เดินทางต่อที่ต่อไปที่เขาพาไปคือ Monastery Valley พอลงรถเขาก็อธิบายเกี่ยวกับสถานที่นี้ ทุกคนหันไปมองโมนาสตี้ ฉันยืนอยู่ด้านหน้า เขาเอามือเกาะบ่าด้านหลังฉัน ฉันไม่ได้ฟังหรอกว่าเขาอธิบายอะไร ฉันมัวแต่ใจเต้น เขาบอกพวกเราว่าให้เวลาที่นี่ประมาณสี่สิบห้านาที ทุกคนเดินขึ้นเขาไป ฉันยังไม่ขึ้นเพราะฉันอยากได้ตั๋วที่เขาเก็บไว้มาถ่ายรูป ฉันบอกเขาขอยืมตั๋วได้มั้ยฉันอยากถ่ายรูป เขายิ้มให้ฉันพร้อมถามว่าคุณจะกลับเมื่อไหร่ ฉันบอกเขาไปว่าพรุ่งนี้เช้า เขาถามฉันว่างั้นถ้าอยากได้ตั๋วเย็นนี้ต้องไปกินข้าวกับเขา ฉันยิ้มนี่เขาจีบฉันเหรอนี่ ฉันว่าไว้ฉันจะบอกตอนเลิกทัวร์แล้วกันนะ

จากโมนาสตี้ ก็ไปร้านขายพวกหินต่างๆ จากนั้นก็เป็นร้านของฝาก ฉันไม่ได้ซื้ออะไรฉันตั้งใจแล้วว่าจะซื้อที่อิสตันบูลเพราะฉันยังไม่อยากแบกอะไร ฉันจึงยืนรอหน้าร้านเขาเดินมาข้างฉัน เขาถามฉันว่าจะไปกินข้าวกับเขาไหม ฉันยังไม่ทันได้ตอบทุกคนก็กลับมา ที่ต่อไปที่เราจะไปเป็นที่สุดท้ายคือพาโนราม่าวิว วิวที่นี่สวยมาก เราไม่ได้อยู่กันที่นี่นานนัก จากนั้นเราก็กลับโกเรเม่ เขาถามว่าทุกคนจะลงที่ไหนส่วนใหญ่ทุกคนลงที่ท่ารถ ยกเว้นบางส่วนที่อยู่เมืองอื่น



ณ ท่ารถโกเรเม่ ทุกคนลงรถหมดแล้ว ฉันเดินไปหาเขา ฉันบอกเขาว่าคุณไกด์ผมยาว ฉันยังไม่ได้จ่ายเงินค่าทัวร์เลย เอเจนท์ซี่ที่ปามุคคาเล่ บอกว่าให้ฉันมาจ่ายที่นี่ เขามองหน้าฉันพร้อมบอกว่านึกว่าจะทิปเขา เขาหัวเราะ เขากระโดดลงรถพร้อมฉันบอกฉันว่ามาสิฉันจะต้องไปจ่ายที่ออฟพิศ เมื่อฉันจ่ายเงินเสร็จ เขาถามฉันว่าจะทำอะไรต่อ ฉันตอบเขาว่าฉันไม่มีแพลนหรอกนะ เย็นนี้แต่ฉันอยากเห็นพระอาทิตย์ตกดิน เมื่อวานฉันพลาดไปแล้ววันนี้ฉันไม่อยากพลาดอีก ส่วนพรุ่งนี้เช้า ฉันไม่ได้ขึ้นบอลลูนเพราะฉันกลัวความสูง แต่ตอนเช้าฉันอยากถ่ายภาพบอลลูน ฉันต้องบินกลับอิสตันบูลไฟท์เช้า เขาบอกฉันว่ารู้มั้ยที่ๆพระอาทิตย์ตกดินสวยที่สุดต้องที่อุชิชาห์ มาสิเขาจะพาไปแต่ต้องรีบๆนะเพราะพระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว


ฉันขึ้นรถไปกับเขา ฉันดูพระอาทิตย์ตกดินกับชายหนุ่มผมยาวคนนี้ เขานั่งข้างๆฉันคนที่ฉันยังจำแม้แต่ชื่อเขาไม่ได้เลย นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน นานจนจำไม่ได้ 10 ปี 20 ปี หรือนานกว่านั้น เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะฉันมัวแต่ก้มหน้าทำงาน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ดึกซะแล้ว ไม่เคยได้แหงนมองฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกเลย ที่นี่ฉันมีเวลาได้คิดได้นั่งมองคิดถึงชีวิตของตัวเอง ที่นี่เขานั่งข้างๆฉันเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยอะไร เรานั่งดูด้วยกันจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เขาบอกฉันว่าหิวแล้วเราไปหาอะไรกินกันเถอะนะ

วีดีโอ : เคบับหม้อดินที่คัปปาโดเกียค่ะ ถ้าไปแล้วต้องลองชิมดูนะคะ


ภาพ : พระอาทิตย์ตกดิน ณ อุชิชาห์


เขาขับรถพาฉันไปกินอาหารตุรกี เรานั่งคุยยิ้มให้กัน ปล่อยเวลาให้เลยผ่านจนดึกเขาช่างอ่อนหวาน น่ารักมากมาย เขาปล่อยผม ฉันชอบผู้ชายผมยาว เราคุยอะไรกันหลายอย่างแต่สิ่งหนึ่งที่เราสองคนไม่ได้ถามกันคือชื่อของเรา เขาทำให้ฉันนึกถึงเพลงไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ

หากความรักเกิดในความฝัน
เราจุมพิตโดยไม่รู้จักกัน
ปฏิทินได้บอกคืนและวัน
ดั่งที่ฉันไม่เคยต้องการ

แต่อยากให้เธอได้พบกับฉัน
เราสมรสโดยไม่มองหน้ากัน
จูบเพื่อล่ำลาในความสัมพันธ์
ก่อนที่ฉันจะปล่อยเธอหายไป
โดยไม่รู้จักเธอ


เที่ยงคืนแล้วถึงเวลาที่ฉันต้องกลับฉันรู้สึกเหมือนซินเดอเรลล่าจอมปลอม ได้เวลาแล้วสินะที่เราต้องจากกัน พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่ตีห้าครึ่ง ฉันอยากเห็นบอลลูนที่คัปปาโดเกียพรุ่งนี้เช้าฉันจะไม่พลาด เขาบอกฉันเขาจะไปรับฉันที่หน้าโรงแรมตอนตีห้าครึ่ง ไม่ต้องหรอกมันเช้าเกินไปสำหรับคุณและพรุ่งนี้คุณต้องทำงานฉันบอกเขา เขามองหน้าฉัน ไม่ผมจะไปรับ เขาบอกฉันอย่างนั้น..... กลับไปถึงโรงแรมฉันหลับเป็นตาย

ตึ๊ด ตึ๊ด ตึ๊ด เสียงนาฬิกาปลุกดัง ฉันตื่นเหลือบมองนาฬิกา ตีห้าแล้วสินะฉันต้องลุกแล้วได้เวลาจากลาคัปปาโดเกียแล้ววันนี้ นี่เป็นเช้าสุดท้ายของฉันแล้วที่คัปปาโดเกีย ฉันจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและบอลลูนก่อน ฉันบิดซ้ายบิดขวาทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน ฉันคิดถึงเขาจังแต่ก็นั่นล่ะนะมันเป็นแค่ความฝันไม่ใช่ความจริง ฉันยังไม่รู้เลยเขาจะมารับฉันอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่ถึงเขาไม่มาก็ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องไป

ตีห้าครึ่ง หน้าโรงแรมเขายืนยิ้มอยู่ตรงนั้นพร้อมรถของเขา เขาบอกเห็นมั้ยผมบอกว่าจะมาก็มาจริงๆ ฉันดีใจมาก เขาขับรถพาฉันไปที่จุดชมวิวพาโนรามา อากาศตอนเช้าช่างสดชื่นแจ่มใส ฉันสูดอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้าเข้าไปเต็มปอดมองดูพระอาทิตย์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า เขาเอามือมาโอบหลังฉัน เรามองดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันเงียบๆ

พระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าแล้ว ฉันหันมามองหน้าเขาชัดๆ ปัดปอยผมที่ปรกหน้าเขา ฉันเอ่ยถามเขาว่าคุณจำได้มั้ยฉันชื่ออะไรเขาเอ่ยแต่เขาพูดผิด ฉันได้แต่ยิ้ม ฉันจ้องไปในตาเขาและบอกเขาว่าบอกชื่อคุณอีกครั้งสิฉันจะจำไว้ไม่มีวันลืมเขาบอกชื่อเขาอีกครั้งและครั้งนี้ฉันจะไม่มีวันลืม ขอบคุณนะที่พาฉันมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็น ลาก่อนนะ หนุ่มตุรกีขอบคุณที่เทคแคร์ฉันเป็นอย่างดี

เราพบเพื่อเพียงผ่านมาและจากไปเท่านั้น ฉันจะเก็บความทรงจำดีๆทั้งหมดไว้ในใจของฉัน ฉันจะมีความสุขทุกๆครั้งที่นึกถึงมัน ฉันตกหลุมรักเขา เขาในที่นี่ฉันหมายถึงคัปปาโดเกีย ฉันหลงรักบรรยากาศที่นี่ หลงรักทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ ฉันรักการเดินทาง การเดินทางให้อะไรมากมายสำหรับฉัน ให้แรงบันดาลใจ ให้กำลังใจ ให้ความคิดใหม่ๆ ให้ความรัก ความรู้สึกที่ดีๆ อะดรีนาลีนสูบฉีดทุกครั้งที่เดินทาง ลาก่อน คัปปาโดเกีย ลาก่อนที่รักของฉัน หวังว่าซักวันฉันคงจะได้กลับมาอีกสักครั้ง… ฉันจะคิดถึงคุณเสมอ รักของฉันที่คัปปาโดเกีย



บินจากมาด้วยน้ำตานองหน้า มองดูคัปปาจากบนฟ้าคิดถึงเหลือเกิน มีโอกาสอยากกลับมาอีกสักครั้ง


จบแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของคัปปาโดเกีย ตอนตอนไปก็เป็นอิสตันบูลค่ะ ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านขอบคุณค่ะ

ความคิดเห็น