สวัสดีค่ะ เอารูปกรุงปรากมาฝากค่ะ ปรากเป็นเมืองเก่าแก่แสนโรแมนติคจริงๆ ช่วงที่เราไปเป็นฤดูร้อนต่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงนะคะ อากาศไม่ร้อนมากสบายๆ ประมาณ 18 องศาตอนกลางวันแต่กลางคืนหนาวมากค่ะ ใบไม้เริ่มเหลืองๆแล้ว แล้วก็บางส่วนก็ร่วงแล้วค่ะ เจอฝนนิดหน่อยเป็นบางวัน แต่ตกไม่นานก็หยุดแดดออกค่ะ ถ่ายรูปมาเยอะมากจริงๆ เลยขอแบ่งเป็นตอนๆไปละกันนะคะเราอาจจะไม่มีรายละเอียดเชิงลึกอะไรมากนะคะ เพราะว่าไม่ได้จดไว้ เอาที่จำได้ละกันนะคะ เราขึ้นบัสหมายเลข 119 เพื่อจะเข้าเมืองลงที่สถานี Dejvicka เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินค่ะ เราพักแถวนี้ๆแหล่ะค่ะไม่ได้พักในเมือง ไฮโซแบบนี้ก็ต้อง hostel จิคะ 555 ถูกและดีจะได้มีเงินเหลืออยู่เที่ยวหลายๆวัน เราเลือกพักแบบห้องเดี่ยวห้องน้ำรวมค่ะ แต่ในห้องมีซิงค์สำหรับล้างหน้าแปรงฟันด้วยดีจริงๆ เราไปถึงก็ดึกแล้วค่ะประมาณห้าทุ่มก็เข้าที่พัก ไปเชคอินจะจ่ายเค้าเป็นยูโรหรือเป็นโครนก็ได้ค่ะ ห้องเราประมาณ 800 บาทต่อคืนค่ะ เค้าจะให้กุญแจห้องแล้วก็กุญแจสำหรับห้องน้ำมาอย่างละดอก พักผ่อนก่อนค่ะพรุ่งนี้เราก็ตื่นแต่เช้ามาลุยต่อ
คือตลอดเวลาที่เราอยู่ที่ปรากเราจะใช้เมโทรแล้วก็รถรางเป็นหลักค่ะ เราลืมถ่ายรูปรถราง มีทั้งแบบเก่าแล้วก็แบบใหม่ นึกได้อีกทีก็วันจะกลับแล้วก็เลยเอารูปรถรางแบบไกลๆมาให้ดูกันนะคะ เดินทางในปรากนี่สะดวกสบายค่ะไม่ต้องกลัวหลง แล้วเมืองนี้คนก็เฟรนลี่กับนักท่องเที่ยวค่ะ ชะนีหญิงเดี่ยวอย่างป้าก็เที่ยวคนเดียวได้สบายๆค่ะ เค้าพูดภาษาอังกฤษกันไม่ค่อยได้นะคะ เราก็ชี้ๆเอา
ตื่นมาแต่เช้าวันนี้เราจะพาไปขึ้นเนินเขา Petrin อ่านว่าเปอร์ตรินนะคะ เราแอบอ่านเพทริน 555 อยากดูวิวหลังคาเมืองแบบที่เคยเห็นในโปสการ์ด จากที่พักเรานั่งเมโทรต่อด้วยรถรางไปลงที่ป้ายจอดรถรางอูเจซ (Ujezd) แผนที่ขอได้จากที่สถานีในเมโทรเลยนะคะเค้ามีให้ค่ะ ตัวหนังสือก็เขียนตรงกันนะคะ ไม่งง (ที่มอสโคว์ในแผนที่เขียนภาษาอังกฤษง่ะแต่ของจริงเป็นภาษารัสเซียต้องเทียบเอาหลงเกือบตาย) มีป้ายกำกับทุกๆที่ ที่เราไป หรือจะใช้วิธีนับสถานีเอาก็ได้ค่ะ เราทำบ่อยแบบว่าจะลงสถานีไหนในแผนที่ก็นับในใจไปทุกครั้งที่รถจอด พอลงจากรถทราม เดินขึ้นเนินไปก็มีรถรางพาขึ้นเนินเขาค่ะ ซึ่งรถรางตรงนั้นเค้าเรียกว่า Petrin Funicular รถรางกระเช้าไฟฟ้าจะวิ่งทุกวันเริ่มตั้งแต่เวลา 9:00 น. จนถึง 23:30 น. (เดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมีนาคมวิ่งถึงเวลา 23:20 น.)จะออกทุกๆ 10 –15 นาที
ซื้อตั๋วแล้วก็ขึ้นเลยค่ะ รถก็ไปช้าๆเรื่อยๆ ในรถมีคนเอาจักรยานขึ้นมาด้วยค่ะ รถขึ้นไปเรื่อยๆก็จอด เราก็ว่าเอ๊ะถึงแล้วมั้ง ก็โดดลง พอลงมาอ้าวไม่ใช่นี่ นี่มันแค่ครึ่งทาง คนที่ลงที่ถ้าเค้าไม่ไปเดินออกกำลังกายก็ไปร้านอาหารค่ะ ขึ้นมาสูงเหมือนกันเมื่อมองลงไป ว่าแล้วก็รอรถรางรอบต่อไป ลงผิดง่ะ ว่าจะไม่หลงแล้วเชียว
รอรถรางไปก็ถ่ายรูปไป ตรงนี้เป็นร้านอาหารที่เค้ามานั่งชิลกันค่ะ
รถรางมาแล้วเย้ๆ ขึ้นไปต่อค่ะพอสุดสายก็ลงเลยค่ะ เราเดินเล่นที่สวนก่อนที่จะไปขึ้นหอคอยนะคะ เป็นสวนกุหลาบค่ะ กุหลาบสวยมากดอกใหญ่เวอร์ จะมีใครเอากุหลาบมาให้เราซักช่อมั้ยน้า หุหุ มโนอีกละ
เนี่ยดอกใหญ่แบบนี้เลย บ้านเราดอกกุหลาบหาใหญ่ๆไม่มากเนาะ
เดินชมสวนเรื่อยๆก่อนที่จะไปขึ้นหอคอยคิดว่าตรงนี้น่าเป็นหอดูดาวนะคะ เดาเอา ไม่ได้แวะเข้าไปดูค่ะ ก็ดูดาวคนเดียวมันเหงานี่นาจิงมะ หุหุ
ส่วนนายคนนี้ก็ยืนอยู่หน้าหอดูดาวแหล่ะค่ะ ทำเท่เชียว ดูเหมือนนักบินอวกาศเนาะ แต่จริงๆเราก็ไม่รู้อ่ะค่ะว่าอาคารอะไรเดาเอา
ส่วนอันนี้น่าจะเป็นโบสถ์ เดาอีกแระ โธ่เอ๊ยข้อมูลไม่แน่นเลยเนาะ ขออภัยนะคะ แบบว่าเราเคยอ่านแล้วลืมแล้วจริงๆ
เอาล่ะถึงเวลาขึ้นหอคอยเปอร์ตรินแล้วจริงๆ เอาข้อมูลมาแปะนิดหน่อยนะคะ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ
Petrin Look-Out Tower เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นด้วยเหล็กมีความสูง 60 เมตรสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1891 โดย เอ็ฟ. ปราซิล (F. Prasil) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของการแสดงนิทรรศการ ซึ่งได้สร้างเลียนแบบหอคอยไอเฟิลในปารีส ด้วยการมีบันได 299 ขั้นสู่พื้นด้านบนสุดของหอคอย
ด้านหน้าทางเข้ามีร้านอาหารนะคะ แต่วันนั้นที่เราไปเค้าปิดอ่ะค่ะไม่รู้ทำไม
รู้ว่าตัวคงจำราคาไม่ได้เลยถ่ายรูปไว้ซะเลย ราคาตามรูปนะจ้ะ ขอบอกว่าเราเป็นโรคกลัวความสูงอย่างแรงให้เดินขึ้นคงไม่ไหวค่ะชะนีกลัวววว ตัดใจซื้อแบบลิฟท์ถึงจะแพงหน่อยก็เหอะ ปล.ตอนขาลงกะจะเดินลงแต่พอเห็นบันไดชันๆแล้วกลัวตกกระไดตาย ป้ายังไม่ได้แต่งงานนน ยังไม่อยากตายยย
และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ที่อยากดูมานาน ได้แต่เห็นในรูปคนอื่น ในโปสการ์ด ในแมกกาซีน ในที่สุดก็ได้เห็นกะตาตัวเอง OMG!! O_o แม่เจ้ามันสวยจนสุดแสนจะบรรยาย ประเสริฐเลิศเลอ ถ่ายรูปมาไม่เท่ากับได้ตาเห็นจริงๆ หลังคาแดงๆ เห็นสะพานชาร์ลอยู่ลิบๆ ว้าวววววว!
หันกล้องไปทางโน้น เห็นปราสาทปราก ว้าวว ว้าววว ว้าววว ขอว้าวว หลายๆที ไม่นึกไม่ฝันมาเห็นด้วยตาตัวเองพรุ่งนี้เราจะไปตรงโน้น ไปดื่มด่ำซึมซาบ ซึมซับ กับตาตัวเอง
รูปไม่สวยเท่าของจริงนะคะ ของจริงสวยมากมายกล้องเราไม่ได้โปรอะไรมากแค่คอมแพคธรรมดาค่ะ ทริปนี้เสียใจอย่างเดียวไม่ค่อยมีรูปตัวเองไม่รู้จะถ่ายยังไง ไปคนเดียวอันนี้คือข้อเสียจริงๆ รูปนี้จะเห็นโบสถ์เซนต์นิโคลัสอยู่ทางซ้ายนะคะ
ดื่มด่ำซึมซาบแล้วก็ลงมาไม่เสียดายตังค์ซักกะนิดที่ขึ้นไปดูวิว สวยฝุดๆ ปรากสวยสมคำร่ำลือ ตอนลงมาก็เดินเล่นอีกนิดหน่อยก่อนกลับที่พักนะคะ เพราะว่าใกล้จะมืดแล้ว รูปนี้เป็นรูปเต็มๆของสิ่งที่เราคิดว่าโบสถ์ค่ะ 555
ปรากสวยจริงๆเดินดูเรื่อยๆก่อนลงรถรางกลับบ้าน ก็เจอสิ่งนี้ค่ะ หอแห่งกระจก (Hall of Mirrors) เราไม่ได้เข้าไปนะคะ ไม่เข้าค่ะไม่เข้ากลัวเห็นตัวเองเยอะๆค่ะ รับไม่ด้ายยยยย ฮ่าๆ น่ากลัว
แล้วเราก็นั่งรถรางกลับที่พัก กลับไปอาบน้ำ พักผ่อน หาไรกิน เราจะรีวิวพวกของกินกับร้านที่เราไปกินแยกนะคะ จะได้เป็นกระทู้ของกินที่ปรากไปเลยตอนท้ายๆเลยค่ะ แล้วค่อยไปเที่ยวตอนสองต่อนะคะ จะพาไปปราสาทปรากที่สุดแสนขลังและอลังค่ะ จุ๊บๆ ลาจากด้วยภาพมุมสูงของเมืองปรากนะคะ มองลงไปเห็นแม่น้ำวัลตาวา และสะพานข้ามแม่น้ำ
Patches
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 23.37 น.