ใกล้หน้านาวแล้ว หลาย ๆ ท่าน น่าจะกำลังมองหาที่พักที่สามารถสัมผัสบรรยากาศหนาว ๆ ธรรมชาติสีเขียว อยากสูดโอโซนแบบเต็มปอด ให้หายเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งปี ถ้ายังลังเลอยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำที่นี่ Limon Villa Khao Yai รีสอร์ตที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวน้อยใหญ่ การเดินทางก็ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ ที่สำคัญอยากพักผ่อนหลาย ๆ วัน แต่ก็อดห่วงน้องหมาที่บ้านไม่ได้... หมดกังวลค่ะถ้าได้มาที่นี่ เพราะที่ ลิม่อน วิลล่า เขาใหญ่ เค้าเป็น Dog Friendly Resort รีสอร์ตที่อนุญาตให้น้องหมาเข้าพักได้ด้วย จะมีโซนห้องพักที่ต้อนรับน้องหมาแยกเป็นสัดส่วนด้วยค่ะ ได้พักผ่อนด้วย ได้พาสัตว์เลี้ยงที่เรารักมาด้วย ช่างมีความสุขจริง ๆ

สามารถชมคลิปสั้น ๆ ของ Limon Villa กันก่อนได้เลย...คลิค คลิค คลิค

การเดินทางมาที่ Limon Villa Khao Yai ถ้ามาจาก กทม. วิ่งถนนเส้นธนะรัชต์ จนถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เลี้ยวซ้ายขึ้นไปทางวังน้ำเขียว ประมาณ 23 กม. เจอป้ายรีสอร์ต เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประมาณ 500 เมตร ก็ถึงแล้วค่ะเจอป้ายนี้จอดรถไว้ด้านหน้าแล้วเดินเข้ามาเชคอินได้เลยค่ะ ที่ลิม่อนวิลล่า นอกจากจะเป็น รีสอร์ตที่ให้บริการที่พักแล้ว ยังมีส่วนของร้านอาหาร " กินเตี๋ยว เหลียวเขา " สูตรวัดดงมูลเหล็กด้วยนะคะ

เดินเข้ามาเจอผนังสีสดใส ชาวสวนทั้งหลายกำลังขะมักเขม้นเก็นลูกเลม่อนอยู่นี่ใช่เลยจ้า มาถึงแล้วล่ะ ไม่ผิดแน่นอน

ในส่วนของฟรอนท์นั้น มีโซนร้านอาหารอยู่ด้านข้างด้วย จะไปนั่งชมภูเขาระหว่างรอห้องพักก่อนก็ได้ค่ะ

Welcome drink จะเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจาก น้ำผึ้งมะนาวโซดา จี๊ดใจที่สุด...ดับกระหายได้ดีมาก

ที่มาของชื่อ ลิม่อน วิลล่า มาจากเจ้านี่ล่ะค่ะ ต้นเลม่อนที่ทุกคนจะได้เห็นอยู่ทั่ว ๆ รีสอร์ตกันเลย มองไปทางไหนก็เห็นต้นไม้สีเขียว แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วล่ะ ว่ามั๊ย ? เหมือนได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์แบบเต็มที่ไปเลย

เชคอินเรียบร้อยแล้ว...ดูนิดนึงนะคะว่าโซนที่พักเราอยู่ตรงไหน บริเวณรีสอร์ตกว้างขวางค่ะ จึงมีที่จอดรถ 2 จุด ถ้าเราพักโซนไหน ก็นำรถไปจอดใกล้ๆ โซนที่พักของเราได้เลย เดี๋ยวพนักงานจะแนะนำอีกทีตอนเชคอินจอดรถแล้วเดี๋ยวพนักงานจะพาขับรถสีเหลืองสดใสคันนี้ไปส่งที่ห้องจ้าาา

ภาพมุมสูงของ ลิม่อน วิลล่า จะเห็นว่าแต่ละวิลล่ามีความเป็นส่วนตัว อยู่ไม่ใกล้กันเกินไป มีพื้นที่กว้าง สนามหญ้าสีเขียวขจีให้วิ่งเล่น ส่วนรอบ ๆ รีสอร์ตก็เป็นไร่ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติให้สูดอากาศกันได้เต็มที่ค่ะ

ที่พักของที่นี่มีทั้งหมด 4 ประเภทค่ะ

1. Superior Villa สำหรับ 2 ท่าน ( 5 หลัง )

2. Deluxe Villa สำหรับ 2 ท่าน ( 10 หลัง )

3. Family Villa สำหรับ 4 ท่าน ( 6 หลัง )

4. Casa Mona สำหรับ 8 ท่าน ( 1 หลัง )

ส่วนที่พักของเราวันนี้คือ Deluxe Villa วิลล่าขนาด 35.5 sq.m. แต่มีพื้นที่ใช้สอยด้านนอกค่อนข้างมาก

รายล้อมไปด้วยสนามหญ้าสีเขียว...น่ามาจัดปาร์ตี้กับเดอะแกงค์มากมาย

พื้นที่ชานเรือนด้านนอก...เหมือนบ้านตามต่างจังหวัดเลยค่ะ ชอบตรงมีม้านั่งยาว ๆ ขนานกับห้องพัก ไว้มองต้นไม้ใบหญ้า มีโต๊ะสำหรับ 2 ท่าน สำหรับทานข้าว แต่เราว่าน่ามานั่งจิบชา กาแฟ ยามเช้ามากกว่า

Birthday surprise !! มีบริการจัดเซอร์ไพรส์ธีมวันเกิดด้วยนะ น่ารักมากกกกกค่ะ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงหลังวันเกิดคุณแฟนไม่กี่วัน จึงแอบสอบถามไปทางรีสอร์ต ก็เลยจัดแบบน่ารัก ๆ กุ๊กกิ๊กให้นางนิดนึด

แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือ...เรา ฮ่า ๆ เอาล่ะเย็นนี้เราต้องมีปาร์ตี้กันแน่นอน มีทั้งหมวก ลูกโป่งไว้ให้เล่นเยอะมาก

มีช่อดอกไม้ การ์ดอวยพร...ธง Happy Birthday น่ารัก ๆ กำลังพอดี

อ้าว !!! นี่วันเกิดใครจ๊าาา..ฮ่าๆๆ ให้เจ้าของวันเกิดถ่ายรูปให้หน่อยนะ ก็มันน่ารักเหมาะกะชั้นมากกว่าเธออี๊ก แขกท่านใดที่มีแพลนมาพักแล้วอยากจะจัดเซอร์ไพรส์ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น Set HBD จะมีเค้กให้ด้วยน๊า ลูกโป่งจะเป็นสีสดใสแบบในภาพ มีป้าย Happy Birthday , Set Honeymoon ก็มีให้บริการเช่นกันค่ะ จะเป็นลูกโป่งสีขาว แดง แอบกระซิบบอกว่ามีโรยกลีบกุหลาบแบบหัวใจบนเตียงด้วยแหละ ค่าใช้จ่ายแพคเกจเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

การตกแต่งห้องพักของที่นี่เรียบง่ายค่ะ แต่มีดีเทลตรงมุ้งเนี่ยแหละ เก๋เชียว

หมอนอิงลายเลม่อน...สดชื่น

ในส่วนของข้าวของเครื่องใช้ก็มีครบมาก ไม่ว่าจะเป็น มินิบาร์ ชา กาแฟ กาต้มน้ำร้อน LCD TV ตู้เย็น ตู้เซฟ ไดร์เป่าผม สเปรย์ฉีดกันยุง ไฟฉาย ร่ม และปลั๊กสามตา ที่นี่มีบริการค่ะ โอ๊ยยดีงามมาก ไปเที่ยวหลาย ๆ ครั้งเจอปัญหาปลั๊กไฟในห้องพักมีน้อย ไม่พอชาร์จแอุปกรณ์อิเลคทรอนิค แต่ที่นี่หมดกังวลไปได้เลยนะ คือดีงาม

ห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง ได้ดีค่ะ

ชอบวิวจากห้องพักที่นี่ มองไปตรงไหนก็เจอแต่ต้นไม้...หน้าหนาวนี่คงจะฟินส์นะคะ อากาศเย็น ๆ ชิลล์ ๆ

ภาพมุมสูงของโซนที่เราพัก จะเห็นได้ว่าแต่ละวิลล่าจะมีพื้นที่ส่วนตัวเยอะทีเดียวค่ะ

ห้องประชุม ก็มีให้บริการค่ะ...มาสัมนาท่ามกลางธรรมชาติ คงจะดีไม่น้อยเลยนะเนี่ย

สระว่ายน้ำที่นี่มี 2 สระค่ะ ใครพักโซนไหนก็ไปใช้ตรงส่วนนั้นได้เลย


อากาศแบบนี้คอคเทลเย็น ๆ สักแก้ว ชื่นใจที่สุด

อากาศร้อน ๆ ช่วงกลางวันแบบนี้ต้องโดดน้ำเท่านั้นคร้าาา เอาให้หายร้อนกันไปเลย

ส่วนบริเวณรอบ ๆ รีสอร์ต เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ มุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ มีไม่น้อยเลยนะคะที่นี่ น่ารักไปหมด มุมพักผ่อน นั่งเล่นก็มีอยู่ทั่วเลยค่ะ คือดีมากเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในห้องพัก

นอกจากนี้ ถ้าแขกท่านใดอยากได้ต้นเลม่อนล่ะก็ ที่นี่มีให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วยนะคะ ราคาต้นละ 250 บาท

มาดูสระว่ายน้ำของอีกโซนค่ะ สระนี้จะอยู่ด้านหลังของโซนล็อบบี้ และร้านอาหารเลยค่ะ เราว่าสระนี้ดูร่มรื่น เย็นสบายดีกว่า เพราะมีต้นไม้ล้อมรอบ ดูเย็นกายสบายใจกว่าสระในโซนที่เราพัก

ช่วงเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง...บรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลายดีจัง

เย็นวันนี้เราสั่งเซตบาร์บีคิวมาปิ้งย่างภายในวิลล่ากันเลย สนามหญ้ากว้างขวางมาก จะทานตรงไหนก็ได้

มีให้เลือกทั้งเนื้อ หมู ไก่ กุ้ง ชอบทานแบบไหนเลือกได้ตามใจเลยค่ะ

สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา เสิร์ฟคู่กับขนมปังกระเทียม อร่อยค่ะ รสชาติที่ชอบเลย

พิซซ่าแป้งบางกรอบ...เมนูนี้เราชอบที่สุด อร่อยค่ะบอกเลย ต้องลอง

ผัดไทยกุ้งสด...รสชาติดีทุกเมนูค่ะ ไม่ต้องมาคอยลุ้นว่า จะอร่อยมั๊ยน๊า จะจืดชืดไปรึเปล่า หรือหวานไปไหม รสชาติค่อนข้างถูกปากเราเลยค่ะ

โรตีแกงเขียวหวาน

นั่งทานกันสองคน กับบรรยากาศยามเย็น ช่างแฮปปี้อะไรแบบนี้

ช่วงพลบค่ำบรรยากาศก็โรแมนติกไปอีกแบบค่ะ

จะมานั่งชมพระจันทร์ที่หน้าวิลล่าก็ได้น๊า มีซุ้มไม้เก๋ ๆ โต๊ะให้นั่งพักผ่อนอยู่รอบ ๆ สนาม เพียบเลย

เช้านี้รีบตื่นมาสูดโอโซนให้เต็มปอด... ไปทานอาหารเช้าเคล้าวิวสวย ๆ กัน


เป็นห้องอาหารที่เห็นวิวภูเขา...ถ้ามาช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นๆ มีหมอกจาง ๆ คงจะดีมากทีเดียว

โซนด้านในก็มีนะคะ แต่เราเลือกนั่งด้านนอกดีกว่าค่ะ วิวสวยกว่าเยอะเลย

ไลน์อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ มี Egg station หลากหลายเมนูให้เลือกทานกันอีกด้วย

อีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ ปั่นจักรยาน ค่ะ มีหลายไซส์ หลายขนาด สามารถติดต่อที่หน้าฟรอนท์ได้เลย

ตื่นเช้า ๆ มาปั่นจักรยานออกกำลังกาย รายล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว สดชื่นดีนะ ส่วนเส้นทางก็ในรีสอร์ตเลยค่ะ...สามารถดูได้จากคลิปวีดีโอที่แปะไว้ด้านบน เพลิดเพลินกันไป จริง ๆ คันนี้ของเด็กนะคะ เราว่ามันเล็กกระทัดรัดดี เลยขอยืมคันนี้มา ฮ่าๆ

ช่วงเที่ยงก่อนกลับบ้าน แวะมา " กินเตี๋ยว เหลียวเขา " ที่เกริ่นไปแล้วในตอนแรกค่ะ เป็นก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟ เนื้อน่องลาย / หมูตุ๋น สูตรวัดดงมูลเหล็ก ส่วนของตรงนี้ แขกทั่วไปสามารถเข้ามาทานอาหารได้นะคะ วิวสวยเห็นภูเขา สมชื่อร้านเลยล่ะค่ะ

สามารถคลิคชมรีวิว "กินเตี๋ยว เหลียวเขา" ได้ที่ลิงค์นี้นะคะ https://th.readme.me/p/20555

โต๊ะ 1 เลยค่ะ วิวเทพที่สุด....เห็นวิวสวยมากค่ะ

เครื่องดื่ม Signature มาดื่มดับกระหายกันดีดว่า " น้ำผึ้งมะนาวโซดา "

ก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟค่ะ จะมีทั้งเนื้อ และหมู เผอิญว่าเราไม่ทานเนื้อ ก็เลยสั่งเป็นหมูตุ๋นมา แต่ Signature จริง ๆ ต้องเป็นเนื้อตุ๋นน่องลายนะคะ เป็นสูตรเด็ดของทางร้านเลยค่ะ

ถ้าสั่งเป็นหม้อไฟ สามารถสั่งข้าวสวย หรือเส้นลวกมาทานคู่ได้ ส่วนเรานั้น ขอเส้น 3 แบบกันเลย ทั้งเส้นใหญ่ เส้นเล็ก และหมี่ขาว

หมูตุ๋นกระดูกอ่อน เนื้อนุ่มละลายมากกกก

ก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟ สนนราคาอยูที่ 120 บาท ถูกนะคะราคานี้ !!! ที่สำคัญวิวแบบนี้ หาได้ง่าย ๆ ที่ไหนกัน หรือถ้าหากอยากชิมทั้งเนื้อตุ๋น หมูตุ๋นละก็ สามารถสั่งเป็นชามปกติได้เลยค่ะ มีให้บริการเช่นกัน

ถ้าหากเพื่อนๆ อยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และมีน้องหมาสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ที่อยากพามาเที่ยว ด้วยล่ะก็ " ลิม่อน วิลล่า เขาใหญ่ " เป็น 1 ในตัวเลือกดี ๆ ที่ควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งค่ะ


สอบถามรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Website : http://limonvilla.com/th/

Facebook : https://www.facebook.com/limonvillakhaoyai/

Tel : 044 300 561

Line ID: @limonvilla


ท้ายนี้ฝากเพจน้อย ๆ ของ ลาเต้ปั่นเย็น ๆ ไว้ด้วยนะค้า

https://www.facebook.com/coolpartiew

ความคิดเห็น