เกียวโตไม่ได้มีแค่วัดเก่า แต่พิพิธภัณฑ์รถไฟญี่ปุ่นที่ดีที่สุดอยู่ที่นี่
Kyoto Railway Museum
ไม่ได้โม้ เพราะ Kyoto Railway Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ของ JR WEST เพิ่งเปิดให้ชมเมื่อปี 2016 นี่เอง ที่นี่แต่เดิมคือ Umekoji Steam Locomotive Museum ที่จัดแสดงรถจักรไอน้ำ แล้วปรับปรุงใหม่ให้เป็น Kyoto Railway Museum ลองดูคลิปบรรยากาศก่อน
การเดินทางก็ไม่ไกลจาก Kyoto Station ขึ้นรถเมล์มามีหลายสายที่ผ่าน
ยุคนี้กดเข้า >> Google Map บอกทุกอย่างว่าขึ้นสายไหนลงตรงไหนรถมากี่โมง
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อลังการมากมีรถไฟโชว์ให้ดูหลากหลายแบบมากตั้งแต่หัวรถจักรไอน้ำรุ่นแรกๆ รถไฟที่ใช้ช่วงสงคราม จนถึงรถไฟShinkansen 0 Series ที่เป็นรถไฟชินกันเซ็นขบวนแรกของญี่ปุ่น และรถไฟ Shinkansen 500 Series เป็นรถไฟชินกันเซ็นรุ่นแรกที่สามารถวิ่งได้ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ลง the Guinness Book of World Records ด้วย
เมื่อซื้อตั๋วฝากกระเป๋าแล้วก็เข้ามาส่วนแรกเป็นที่จอดขบวนรถไฟให้ดูเต็มๆขบวน สามารถเดินเข้าไปดูภายในแต่ละขบวนได้ เป็นการเรียกน้ำย่อยกันก่อน ดูห้องคนขับ ตู้ควบคุมต่างๆ
และตรงนี้เป็นร้านอาหารด้วย มีคุณพ่อพาเด็กๆเข้าไปนั่งกินกันเยอะเลย น่ารักมากๆ
แค่ได้เห็น Shinkansen Series 0 ก็ตื่นเต้นแล้ว รถไฟความเร็วสูงที่เห็นตั้งแต่เด็ก ได้มาเห็นของจริงรู้สึกว่ามันเท่มาก และด้วยประวัติศาสตร์การสร้างที่แสนจะดราม่า เมื่อญี่ปุ่นพยามสร้างรถไฟขบวนนี้ให้เสร็จทันการแข่งขันโอลิมปิคที่โตเกียว ปี 1964 ทั้งๆที่เพิ่งแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 1945 นี่เอง
"คิดดูเวลา 19 ปี จากประเทศผู้แพ้สงครามเจอนิวเคลียร์ถล่มเละ
สามารถสร้างรถไฟความเร็วสูงขึ้นมาบนโลกใบนี้ได้"
พอหายตื่นเต้นก็เดินเข้าไปในอาคารจัดแสดงก็ตะลึงเข้าไปอี๊ก เป็นโถง 2 ชั้น ที่มีรถไฟหน้าตาเรโทรจอดอยู่ คลาสสิคเชียว มีพนักงานหน้าตาจิ้มลิ้มยืนอยู่ในเคาน์เตอร์คอยให้ข้อมูล
เริ่มด้วยดูจุดเริ่มต้นของเครื่องจักรไอน้ำ มีเครื่องจักรวางให้ดู มีโชว์การทำงานให้ดูด้วย และรอบๆก็จะมีรถไฟรุ่นแรกๆที่ใช้งาน และข้อมูลว่าที่ต่างๆของโลกเค้าเริ่มกิจการรถไฟตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ประเทศไทยก็จัดอยู่ในกลุ่มเริ่มมีรถไฟเป็นกลุ่มที่ 3 (สีเหลือง) ก็ไม่ได้ช้า พอๆกับจีน มีโมเดลรถไฟในยุคแรกๆ และ Diorama แสดงบรรยากาศบริเวณสถานีรถไฟสมัยนั้น ดูบรรยากาศ ศิวิไลซ์ โอ่อ่า แสดงให้เห็นว่า สถานีโอซาก้า เกียวโต โกเบ เป็นที่ๆเจริญมากจากการค้าสมัยนั้น
อุโมงค์รถไฟแรกของโตเกียวก็อยู่ในเขตคันไซนี่แหละ โชว์ว่าเขตเรานี่เจริญกว่าเพื่อน
เด็กๆที่โรงเรียนพามาก็เดินดูกันอย่างเป็นระเบียบ
นี่คือรถไฟฟ้าขบวนแรกของญี่ปุ่น เมื่อปี 1928 !!! เค้าพัฒนารถไฟฟ้ามาตั้งแต่เมื่อนั้น
โซนนี้ก็เล่าเรื่องการขยายตัวของการรถไฟญี่ปุ่นว่าเกิดขึ้นได้ยังไงถึงได้ไปได้ทั่วประเทศได้เร็วขนาดนั้น ขยายไปเหนือจรดใต้ และก็การเชื่อมโยงการรถไฟกับขนส่งชนิดอื่นๆ ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว
และนี่ก็คือเรื่องรถไฟ Shinkansen นั่นเอง จอดอยู่ข้างสถานีรถไฟจำลอง ซึ่งสถานปัจจุบันหลายๆแห่งก็ยังหน้าตาแบบนี้นะ มีร้านของชำอยู่ด้านหน้าด้วย เดินเข้าชานชลาไปสู่รถไฟที่จอดด้านในอีกขบวน
ต่อด้วยโซนที่ว่าด้วยเรื่องโครงสร้าง องค์ประกอบของรถไฟ ซึ่งเป็นโซนที่สนุกมากมีอะไรให้ทำหลายอย่าง
เราได้เห็นช่วงล่างรถไฟหลากหลายรูปแบบ มีบอร์ดและจอข้อมูลอธิบายการทำงานของล้อรถไฟ สามารถลองดึงล้อรถไฟได้
ที่มันส์มากคือมีหลุมให้เราเดินลอดใต้ท้องรถไฟเพื่อดูข้างใต้ได้ !!!
รถไฟนะไม่ใช่ช้าง !!! ใครจะมีโอกาสได้ลอดใต้ท้องรถไฟกันง่ายๆ เลยขอเดินลอดหลายรอบหน่อย
นำเอารถ Osaka Loop Line มาจอดเพื่อแสดงให้เห็นระบบความปลอดภัยของชานชลา รวมถึงโครงสร้างของโบกี้รถไฟ ที่ภายในเป็นรูปรังผึ้งจึงแข็งแรงและเบา
ให้ทดลองกลไกการหมุนของล้อรถในรูปแบบต่างๆ หมุนกันเมื่อยแขนเลย มีหลายเรื่องที่เพิ่งรู้และทึ่งในวิทยาการของโบกี้รถไฟนะ ไม่ว่าจะการเลี้ยวการทรงตัว และการรองรับการกระแทกต่างๆ
รางและไม้หมอนแต่ละประเภท ที่ส่งผลต่อความเร็วรถไฟที่ต่างกัน มีให้ลองเล่นด้วยนะ (ดูในคลิป)
ระบบควบคุมการเดินรถไฟหลายๆส่วน ดูแท่นการสับรางแล้วก็นึกถึงคำเปรียบเปรยที่ว่าคนเจ้าชู้มีแฟนหลายคนต้องสับรางรถไฟเก่ง ผมว่าถ้าสับรางเครื่องนี้ได้นี่เทพเลยนะ รับรองจัดการกิ๊กได้เป็นสิบคน
การเจาะอุโมงค์และการทำสะพานข้ามแม่น้ำก็น่าสนใจ
มี Museum Shop ดักกลางทาง แหม ช่างสรรหาอะไรน่ารักๆมาหลอกขายคนได้เสมอเลยนะ
ขึ้นมาชั้น 2 เป็นบรรยากาศที่ทันสมัยขึ้นมา จะนำเสนอเรื่องที่เป็นปัจจุบันมากขึ้น มี Simulator ให้ขับรถไฟขบวนต่างๆ สนุกกันทั้งเด็ก ผู้ใหญ่
ไฮไลท์ของชั้นนี้อีกอย่างคือ Railway diorama แบบจำลองรถไฟสามมิติที่มีขนาดใหญ่มาก!!!
ความยาวทั้งหมดประมาณ 30 เมตร กว้าง 10 เมตร มีโชว์ให้ดูเป็นรอบ
พอดีรอบต่อไปต้องรอนานเลยไม่ได้ดู
นอกนั้นก็เป็นเรื่องการขนส่งสินค้าทางราง คุณค่าและความจำเป็น ผมว่าตรงนี้อาจดูเรียบๆไม่ได้น่าสนใจมาก แต่เนื้อหามันส่งถึงคนดูได้อย่างดีมากเลยนะ ทำให้คนที่มารู้สึกว่าทำไมเราถึงต้องใช้รถไฟเป็นหลักในการสัญจรของประเทศนี้
และก็มีห้องนิทรรศการย่อย โชว์เรื่องสถานีรถไฟเก่า มีแบบก่อสร้างและวัสดุตกแต่งมาโชว์
ณ จุดๆนี้ ขอบอกว่าเริ่มตาลายดูอะไรไม่ไหวแล้ว ต้องหาอะไรรองท้องก่อน ชั้นนี้มีร้านอาหารด้วย
อาหารพยามตกแต่งให้ดูเป็นเรื่องรถไฟ รสชาติไม่ต้องพูดถึงก็อย่างงั้นๆ กินประทังชีวิตไป
แต่ที่เด็ดคือวิวเจ๋งมาก
มาที่นี่แม้ไม่อยากกินอะไร เดินมานั่งพักจิบน้ำสักแก้วชมวิวสักหน่อย จะประทับใจมาก
ขึ้นไปบนดาดฟ้าจะมีจุดชมวิวอีกที่หนึ่ง มีจอที่คอยบอกการเดินทางของรถไฟแต่ละขบวน จริงแท้อย่างใดไม่อาจทราบได้ เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่มันก็ดูเจ๋งมาก
เดินออกมาจากอาคาร ด้านหลังจะเป็นจุดจอดหัวรถจักรไอน้ำเรียงกัน แต่ละขบวนได้รับการดูแลอย่างดี สภาพสวยมากๆ
ลานวงกลมอยู่ตรงกลาง ที่ตอนแรกสงสัยว่าทำไมต้องทำแบบนี้ พอดูก็เข้าใจ เป็นสะพานที่คอยหมุนหัวรถจักรเข้าช่องจอดตามรูต่างๆนี่เอง มีรถไฟจริงๆมาเปิดหวูดปล่อยควันสร้างบรรยากาศอยู่ด้วย จุดนี้เป็นบริเวณที่น่าถ่ายรูปมากๆ เซลฟี่กับรถไฟกันให้เต็มที่
ใน Museum Shop อาคารเล็กตรงทางออกก็มีของที่ระลึกสารพัดแบบตามเคย น้ำเปล่ายังไม่เว้น โมเดลรถไฟต่างๆน่าซื้อมาก แต่ด้วยปณิธาณที่จะไม่ซื้ออะไรที่ไม่ได้ใช้กลับมา เงินในกระเป๋าเลยยังอยู่ครับ เก็บกลับมาแต่ความรู้และความประทับใจในสิ่งที่ได้เจอ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ใช้การขนส่งทางรางมากที่สุดประเทศหนึ่ง
Kyoto Railway Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ได้หวือหวา
แต่ว่าถ่ายทอดความรู้ และทำให้ได้เข้าใจความเป็นมาและเป็นไปของการขนส่งทางรางของญี่ปุ่น
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีทั้งของเก่าและใหม่
มี interactive ให้เล่นแบบไม่ต้อง digital มาก แต่ว่าสื่อสารกับผู้ชมได้ดี
ทำให้น่าสนใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ถามว่าที่นี่จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ประเภทไหนก็ตอบยาก
มันมีความเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ผสมกับประวัติศาสตร์
ก่อนหน้านี้ผมมีคำถามเรื่องการใช้รถไฟของคนญี่ปุ่นมาก
มาที่นี่ ฉันเลยจึงหมดคำถามมมม
มาเกียวโต เจียดเวลาสักครึ่งวันมาที่นี่
แล้วจะรู้สึกว่าคุ้มค่าที่มาญี่ปุ่น
อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมอัพเดท ค่าเข้าชม เวลาเปิด-ปิด
>> Website
ติดตามเรื่องราวการเดินทางอื่นๆของผมได้ที่
Blog : architectraveler
Facebook : architectraveler
IG : taddykingdom
Youtube : taddykingdom
แนะนำ ติชมได้ที่ Facebook นะครับ
architectraveler
วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.14 น.