Readme.me - +++ Terminal 21 - Pattaya ... ชวนไปเดินเที่ยว ห้างใหม่ของเมืองพัทยา +++

+++ Terminal 21 - Pattaya ... ชวนไปเดินเที่ยว ห้างใหม่ของเมืองพัทยา +++

วันนี้เราจะพาไปเดินเที่ยว Terminal 21 - Pattaya ซึ่งถือว่าจุด Landmark แห่งใหม่ของเมืองพัทยา ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมปรากฎการณ์ห้างแตก ผู้คนมากมายมหาศาล

ก็ถ้าใครมีโปรแกรมไปเที่ยวที่พัทยา แล้วอยากหาที่เดินเล่นเช็คอิน พร้อมถ่ายรูปสวย ๆ ของห้างใหม่อย่างที่ Terminal 21-Pattaya ก็แวะกันมาได้เลย เปิดให้บริการทุกวัน ช่วงเวลา 11.00 - 23.00 ซึ่งตอนนี้ถ้าอยากจะได้มุมถ่ายรูปสวย ๆ ก็แนะว่าให้มาเดินกันเร็วหน่อย ตอนช่วงที่ห้างพึ่งเปิด เพราะคนจะยังไม่เยอะมาก ไม่งั๊นมาสายถ่ายรูปไม่สวย เจอคนอื่นมาอยู่ด้วยเต็มเฟรมไม่รู้ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า

ช่วงที่เราไปก็พักที่ Grand Center Point Pattaya ซึ่งเป็นโรงแรมติดห้างเลย ก็ลงมาเดินเที่ยว ได้ตั้งแต่ช่วงก่อนห้างเปิดเล็กน้อย สักสิบโมงครึ่งกว่า ๆ คนเลยยังไม่พลุกพล่านเท่าไร ก็มาดูกันว่าที่ Terminal 21 - Pattaya จะมีมุมไหนให้เดินเที่ยวถ่ายรูปกันได้บ้าง

Ground Floor - Paris ชั้นแรกของห้างก่อนเลย จะตกแต่งในธีม Paris ดังนั้นต้องพูดถึงปารีส ก็ต้องนึกถึงหอไอเฟล ซึ่งที่ Terminal 21 - Pattaya เค้าก็จำลองหอไอเฟลอันใหญ่บิ๊กเบิ้ม มาตั้งอยุ่กลางห้างเลย พร้อมประดับไฟเปลี่ยนสีไปมาได้ด้วย

ใกล้ ๆ หอไอเฟิลเราก็จะเจอหนุ่มหล่อใส่สูทตัวโก้ มานั่งคุกเข่าขอสาวแต่งงาน แต่สาวเจ้ากลับเมินไม่สนใจ จนขี่จักรยานผ่านเลยไปแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

และในชั้นแรกนี้ เราก็จะเจอมุมเล็ก ๆ น่ารัก ที่ตกแต่งมาให้เข้าบรรยากาศเมืองหลวงฝรั่งเศสอย่างปารีสเข้าไปอีก อย่างเช่น มีบ่อน้ำพุตรงลานชั้นแรก และก็ยังมีหนุ่มใหญ่มาดนักศิลปินมาโชว์อาร์ทนั่งวาดรูป ให้เราถ่ายรูปกันเพลิน ๆ ด้วย

ชั้นต่อมา M Floor - London ที่ชั้นนี้ ไฮไลต์ที่เด่นสุดก็คงต้องเป็น รถเมล์สองชั้นจำลอง ที่มาเป็นพร๊อบให้เราถ่ายรูปกันเก๋ ๆ ได้ที่ชั้นนี้

แล้วยังมีจุดอื่น ๆ ที่ให้เราเดินเล่นถ่ายรูปกันไปในชั้นนี้อีกหลายจุด เช่น ตู้โทรศัพท์สีแดงแนวคลาสิคแบบที่อังกฤษ

พี่ตำรวจจากเมืองผู้ดี ... พี่เค้ายืนซะเนียนเลย มองผ่าน ๆ นึกว่าคนจริง แต่พอจ้องไปสักพักเห็นยืนนิ่งอยุ่นาน อ้าวเป็นหุ่นไปซะนี่ ฮ่าฮ่าฮ่า

แถมในชั้น M Floor ก็มีมุมจำลองคล้ายชานชาลาคิงครอส ในเรื่องแฮรี่ พ๊อตเตอร์ด้วย ซึ่งจะมีรถเข็นที่กำลังทะลุเข้าไปในเสาชานชาลา มาให้เราแอ๊ดท่าถ่ายรูปกันตรงนี้ได้

ชั้นต่อมา 1 Floor - Italy จุดไฮไลท์เด่นของชั้นนี้ คือ หอเอนเมืองปิซ่า ที่จำลองมาได้ใหญ่มาก ใหญ่จนทะลุไปชั้นอื่น ๆ ของห้างด้วย ก็ถ้าเทียบจุดถ่ายรูปทั้ง Terminal 21 - Pattya ที่ใหญ่โตรองจากหอไอเฟิล ก็ต้องหอเอนเมืองปิซ่าจำลองที่ 1 Floor - Italy นี่หล่ะ

และในชั้น 1 Floor - Italy ก็มีมุมให้จำลองเรือ Gondole ที่เป็นอีกนึงเอกลักษณ์ของอิตาลี มาให้เราถ่ายรูปเล่นกันด้วยนะ

ส่วนอื่น ๆ ในชั้นนี้ที่เราไปหาถ่ายรูปมุมกันได้ ก็มีคุณลุงเชฟอ้วนกำลังทำพิชซ่า และก็คู่พระนาง Romeo & Juliet จากนิยายรักอมตะของเชคสเปียร์อีกด้วย อ้อแถมบนเพดานที่ชั้นนี้บางจุด เค้าก็ยังเพนต์รูปวาดบนผนังให้แบบสไลต์โรมันด้วยนะ

ชั้นต่อมา 2 Floor - Tokyo ที่ชั้นนี้หลัก ๆ จะเป็นที่ตั้งของโซนร้านอาหาร และคาเฟ่ รวมทั้งมีโซนร้านค้าแบบช้อปปิ้งสตรีท มาให้เราเลือกซื้อ เลือกดูของกันด้วย

โดยธีมที่ตกแต่งในชั้นนี้ ก็จะเป็นแนวนครโตเกียว ที่มีทั้งรถไฟฟ้า นักกีฬาซูโม่ตัวยักษ์ และคนแต่งชุดกิโมโน แล้วยังมีเพิ่มกลิ่นอายความเป็นแจแปน ด้วยการประดับโคมไฟญี่ปุ่นเกือบทั่วทั้งชั้นอีกด้วย

ชั้นต่อไป 3 Floor - San Francisco จุดที่เด่นสุดก็ต้องเป็นสะพาน Golden Gate เลย ที่ใกล้ ๆ กันก็เป็นฝูงแมวน้ำ มานอนอุ๊ง ๆ กันเต็มหาดซานฟรานซิสโกเลย

และที่ชั้นนี้ยังมี โซน Hollywood ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ในเครือ SF cinema มาให้บริการคนที่ชอบดูหนังกันด้วยนะ

และอีกจุดที่เป็นไฮไลต์ของ Terminal-Pattaya ที่จะพลาดไม่ได้เลย ก็คือบันไดเลื่อนตัวยาวที่ทอดเชื่อม ระหว่าง 3 Floor กับชั้น Ground Floor
โดยบันไดเลื่อนนี้มีความยาวมากที่สุด ในบรรดาศูนย์การค้าในประเทศไทยกันเลยทีเดียว

ก็ได้ไปลองขึ้นลงดูแล้วหล่ะ จังหวะขึ้นนะไม่เท่าไรหรอก แต่พอจังหวะลงเท่านั้นหล่ะ มองลงไปข้างล่างนี่สูงไม่ใช่เล่น ก็ไม่แปลกใจที่เห็นบางคนที่กลัวความสูง พอช่วงลงบันไดเลื่อนตัวยาวนี้มีแอบขาสั่นจริงอะไรจริง

เดินห้างจนทั่วแล้ว มาถึงเรื่องของกินบ้างดีกว่า เพราะ Terminal 21 - Pattaya นอกจากร้านค้าต่าง ๆ ให้ช้อปปิ้งกันจุใจแล้ว เรื่องของกินนี่ต้องบอกว่าหายห่วง มาฝากท้องได้แน่นอน ร้านอาหารนี่มีให้เลือกเยอะหลากหลายสไลต์จริง ก็ยังไงก็ขอรีวิวร้านอาหารให้ดูเป็นตัวอย่างบางร้าน เท่าที่ได้ไปลองกินมาแล้วกัน

SO Asean
ตัวร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 3 Floor โซน San Francisco ร้านนี้เค้าเหมือนยกครัวอาหารทั้ง Asean มาอยู่ในร้านเดียว โดยเค้าจะนำเมนูอาหารเด็ด ๆ จากทั่วทุกประเทศในย่านอาเซียน เพื่อนบ้านเรานี่หล่ะ มาปรุงและเสริฟให้เราลิ้มชิมกัน โดยเค้าเน้นตกแต่งตัวร้านให้ดูโล่งโปร่ง ไม่อึดอัด พร้อมเชิญชวนให้เรามานั่งรับประทานกันได้ในบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง

ที่กำแพงฝาผนัง และบนโต๊ะอาหารของทางร้าน จะมีกล่าวคำทักทาย “สวัสดี” เป็นภาษาต่าง ๆ ของประเทศเพื่อนบ้านเราด้วย ดูเป็นกิมมิกที่น่ารัก ดูอบอุ่นดี

พูดถึงรสชาติอาหารบ้าง เมนูในร้านเค้าก็มีให้เลือกหลากหลายจริง ก็ได้สั่งมาลองกินดู 4 เมนู มีอะไรบ้าง เดี๊ยวตามมาดูกันได้เลย

นาซิเลอมัก ข้าวอัญชัน เมนูจานนี้เป็นอาหารจานเด็ดจากมาเลเซีย โดยเค้าจะนำข้าวมันที่หุงกับกะทิ และดอกอัญชันจนข้าวจะมีสีน้ำเงินแกมม่วงอ่อน ๆ และจะเสริฟมาในจาน พร้อมสะโพกไก่ที่ทอดมาได้กำลังดี กำลังกรอบนอกนุ่นใน

แล้วในจานยังมีเครื่องเคียงต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ถั่วทอด ข้าวเกรียบ ปลากรอบ ไข่ต้ม เวลากินก็คลุกเครื่องเคียง พร้อมกับซอสซัมบัลเข้ากับข้าว เพื่อให้ได้รสชาติของความอร่อยพร้อมกันในคำเดียว

เส้นญวนผัดซอสเพสโต้ไก่สะเต๊ะ เมนูจานนี้จะนำเอาเส้นญวณจากเวียดนามที่มีลักษณะเหนียวนุ่มมาผัดกับซอสเพสโต้สูตรเข้มข้น ซึ่งจะเสริฟพร้อมไก่สะเต๊ะที่หมักด้วยเครื่องเทศสไลต์อินโดนีเซีย ส่วนตัวคิดว่ารสชาติของสะเต๊ะแบบอินโดฯนี้ จะมีกลิ่นและรสของเครื่องปรุง ที่เข้มกว่าสะเต๊ะที่ไทยเล็กน้อย ใครชอบสะเต๊ะรสเข้มข้นต้องลองกินจานนี้ดู

สลัดหลวงพระบางหมูย่าง เมนูเอาใจสายคนรักสุขภาพที่นำผักไฮโดรสด ๆ มาเสริฟพร้อมด้วยน้ำสลัดรสชาติกลมกล่อม ให้เรากินคู่กับสันคอหมูนุ่ม ๆ ที่ย่างมากำลังดี เนื้อกำลังฉ่ำ ๆ ไม่แห้งไป เนื้อสันคอหมูนี่จะนุ่มละมุนเข้าถึงรสชาติ พอกินคู่สลัดผักแล้วเข้ากันดี

เส้นญวนต้มยำไข่ไหล หมูสับจัมโบ้ เมนูสัญชาติลูกครึ่งไทยเวียดนาม เมื่อนำเส้นญวนมาลวกและทำเป็นก๋วยเตี๊ยวน้ำซุปต้มยำ ที่เสริฟพร้อมหมูสับก้อนใหญ่เต็มชาม และไข่ลวกที่ไข่แดงพร้อมไหลทะลักเยิ้ม โดยส่วนตัวที่ลองกินมา จะชอบจานนี้มากที่สุด เพราะหมูสับนี่หมักถึงเครื่อง และน้ำซุปต้มยำที่รสชาติกำลังดีเข้มข้นแต่ไม่เผ็ดจนเกินไป จะคนไทยหรือคนต่างชาติก็กินได้สบาย

อ้อแล้วเมนูเครื่องดื่มของเค้าก็อร่อยดีนะ อย่างแก้วนี้ Mango Mellow เป็นน้ำมะม่วงปั่น แต่ไม่ใช่มะม่วงสุกสีเหลืองทองแบบที่เราเคยกันที่อื่น เมนูนี้ของ SO Asean เค้าเลือกใช้มะม่วงมันสีเขียวมาปั่น ทำให้รสชาติก็จะหวาน ๆ อมเปรี้ยวนิด ๆ กินแล้วนอกจากอร่อย แล้วยังรู้สึกสดชื่นดี

Pala Pizza Romanna

ตัวร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 3 Floor โซน San Francisco ถ้าใครชื่นชอบพิซซ่า และอาหารสไลต์อิตาลีไม่ผิดหวังแน่ ถ้าเลือกมาทานที่ร้าน Pala Pizza Romanna เพราะทางร้านเค้าจะเน้นเรื่องความสดใหม่ของวัตถุดิบ และครื่องปรุงทุกชนิดที่นำมาใช้ ต้องเป็นของดีมีคุณภาพ เพื่อนำมาใช้ปรุงเป็นพิซซ่าและอาหารต่าง ๆ ของร้านให้อร่อย ตามรสชาติต้นตำรับอิตาเลียนแท้ ๆ ในราคาที่สบายกระเป๋าสำหรับคนไทย โดยตัวร้านจะมีสองโซน ทั้งด้านนอกร้าน และด้านในตัวร้านให้เราเลือกนั่งกันได้เลย

เมนูเด่นของร้านนี้ก็คงต้องเลือกกินพิซซ่า โดยเราจะเลือกสั่งจากเมนู หรือไปเลือกชี้เอาจากตู้กระจกหน้าร้านก็ได้ เพราะพิซซ่าของร้าน เค้ามีให้หลากหลายละลานตามาก ดูแล้วน่ากินไปทุกถาดทุกเมนูเลย

อ้อที่ร้านเค้ามีพิซซ่า Veggie Pizza ที่มีส่วนผสมแบบไม่ใส่เนื้อสัตว์ ให้เลือกด้วยนะ หรือถ้าอยากรู้รายละเอียดพิซซ่าตัวไหนเพิ่มเติม ก็สอบถามน้อง ๆ พนักงานได้เลย บริการดีน่ารักทุกคน

โดยเราก็ไปอาศัยจิ้มเลือก ๆ เอาที่หน้าตู้ มาลองกินดูสามหน้า Diavola (110 บาท), Rucola Burratae Crude (130 บาท) และ 5Formaggi (125 บาท อันนี้เป็น Veggie Pizza ) พอเลือกเสร็จน้องพนักงานก็จะเอาไปอบร้อนให้ใหม่ ก่อนมาเสริฟให้เราที่โต๊ะ

ว่าถึงรสชาติกันบ้าง แป้งพิซซ่าของที่ร้านเค้าจะทำเป็นแป้งบางกรอบ ส่วนเรื่องเครื่องปรุงแต่ละชิ้น นี่นอกจากวัตถุดิบคุณภาพที่เลือกอย่างพิถีพิถัน แล้วยังโรยมาให้แบบหนักมือไม่ยั้งเครื่องกันเลยทีเดียว ก็ถ้าใครชอบกินพิซซ่าและอาหารสไลต์อิตาเลียน แบบรสชาติแท้ดั้งเดิม ก็แนะนำมากินที่ร้าน Pala Pizza Romanna กันได้ ที่ชั้น 3 Terminal 21 - Pattaya

Häagen-Dazs

ก็ถ้าเดิน Terminal 21 ที่ Pattaya แล้วรู้สึกชีวิตต้องการความหวาน อยากเพิ่มพลังงานเติมน้ำตาลให้แก่กระแสเลือด ก็นี่เลยแนะนำไอศรีม Häagen-Dazs ซึ่งเรื่องรสชาติก็ไม่คงต้องพูดบรรยายอะไรมาก (ไม่ได้เจ็บคอนะ แต่เดี๊ยวไอติมละลาย รีบกินเหอะ ฮ่าฮ่าฮ่า)

ก็ตามมาตรฐานของ Häagen-Dazs ที่เป็นไอครีมระดับพรีเมี่ยมอยู่แล้ว ตัวเนื้อไอศรีมก็จะเนียนนุ่ม แต่แฝงด้วยความเข้มข้นในทุกรสชาติ ตามสไลต์แบรนด์อินเตอร์ชื่อดังอย่าง Häagen-Dazs ก็ถ้าผ่านไปผ่านมา แล้วอยากมาสัมผัสความอร่อยที่จับต้องได้ ของไอศครีม Häagen-Dazs ก็แวะมากันได้เลยที่ Terminal 21 - Pattaya ชั้น 3 Floor โซน San Francisco

Tonkotsu Kazan Ramen

ตัวร้านจะตั้งอยู่ที่ M Floor - London ติดกับ Foodland โดยร้านราเมง Tonkotsu Kazan Ramen เค้าจะขึ้นชื่อเรื่อง ราเมงน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเข้มข้น แล้วเมนูที่แนะนำให้สั่ง ซึ่งเป็น Signature ของร้านเลยก็คือ “ราเมงภูเขาไฟ” ที่จะยกมาเสริฟในชามหินร้อน ซึ่งมันร้อนจริง ๆ เทน้ำซุปเข้าไปนี่เดือด ปุ๊ ๆ เลย

ตอนพี่พนักงานยกมาเสริฟ อย่าเผลอซน เอามือไปแตะชามหล่ะ หรือใครจะเอาเด็กมากินด้วย ก็ต้องระวังหน่อยนะ เพราะเจ้าชามหินมันร้อนโดนเข้าไปมีพองแน่นอน

โดยเมนูที่ลองกินในวันนี้ คือ Pork Sukiyaki (260 บาท) เป็นราเมงในน้ำซุปกระดูกหวานกลมกล่อม ซึ่งจะแอบมีรสเผ็ดอยู่นิด ๆ ซึ่งหลังจากสั่งไปสักพัก พนักงานก็ยกมาเสริฟลงให้ที่โต๊ะ มีขอตะลึงในความใหญ่ของราเมงไม่พอ แถมข้าวสวยมาให้ในเซทอีกนึงถ้วยด้วย กินหมดนี่รับประกันความจุกแน่นอน

หลังยกราเมงมาถึงโต๊ะ พนักงานจะเติมน้ำซุปเข้าไปในชามหินที่ร้อนจัด แล้วจะเอาฝาแดงครอบเพื่ออบให้เนื้อหมูสุกด้วย ซึ่งเจ้าฝาแดงนี่จะกันน้ำซุปไม่ให้กระเด็นมาโดยตัวเรา พร้อมกันนี้จะมีนาฬิกาทรายมาตั้งจับเวลาประมาณ 1 นาที พอครบได้เวลาพนักงานก็จะเอาฝาครอบออกให้ พร้อมเติมน้ำซุปเข้าไปอีกที เพื่อจะได้ซดซิมน้ำซุปคู่กับเส้นราเมงได้อย่างจุใจ

อ่ะถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกินกันได้เลย เราว่าเส้นราเมงของที่นี่จะเป็นเส้นแบน ๆ หน่อย แต่ก็จะเหนียวนุ่มดี แต่ที่เด็ดจริง ๆ คือตัวเนื้อหมูสไลด์ที่ให้มาในชามราเมงนี่จะยาวยืดไปไหน แล้วไม่อยากเรียกว่าหมูสไลด์เลย เพราะชิ้นมันหนา แต่เคี้ยวแล้วนุ่มละลายในปากมาก กินคู่ซดกับน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวมาจนได้รสกลมกล่อมแล้ว สารภาพตามตรงเลยตอนเขียนรีวิวนี่ แล้วดูภาพที่ตัวเองถ่ายมานะ น้ำลายยังไหลอยากกินอีกรอบเลย เขียนเองหิวเองอย่างนี้ก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า

แล้วเจ้าข้าวเปล่านี่ เอาไว้ให้เลือกกินได้สองแบบคือ พอกินเส้นราเมงในชามหมด แล้วก็โป๊ะข้าวเปล่าลงไปในน้ำซุปที่เหลือ หรือจะกินไปเอาน้ำซุป บวกเส้น บวกหมูราดไปในชามข้าวเปล่าก็ได้

แต่เอาเหอะจะกินสูตรไหนก็ตาม ถ้ากินหมดทั้งราเมง ทั้งข้าวนะ บอกได้คำเดียวว่าจุกแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า ใครอยากลองสัมผัสความสุขอิ่มพุงแตก ที่คุณจับจ้องได้ในราคาย่อมเยาว์ เมื่อเทียบกับคุณภาพและรสชาติแล้ว ท้าให้มาลองเลยที่ Tonkotsu Kazan Ramen ในห้าง Terminal 21 - Pattaya ชั้น M Floor - London

Foodland

ตั้งอยู่ที่ชั้น M Floor - London ตามคอนเซปของ Foodland เลย ที่มีทั้งโซน supermarket ให้เลือกจับจ่ายใช้สอย และโซนร้านอาหาร “ถูกและดี” (Took Lae Dee) ซึ่งเป็นร้านที่ปรุงอาหารสด ซึ่งทั้งสองโซนจะคอยให้บริการแก่เราตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว

เรามาเดินดูของในโซน supermarket กันก่อน ที่นี่จะมีครบจบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นพวกกินของใช้ ที่มีทั้งเมดอินไทยแลนด์ และของ import นำเข้าจากต่างประเทศ ที่พร้อมให้บริการทั้งกลุ่มพ่อบ้านแม่บ้านคนไทยและต่างชาติ ที่มาเที่ยวใน Pattaya แล้วอยากซื้อหาข้าวของในชีวิตประจำวันไปใช้กัน

ก็เดินไล่ดูจะเอาอะไรบ้างหล่ะ มีครบหมดอ่ะ สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ผักสด ผลไม้ ซอส เครื่องปรุง ขนม นมเนย ของขบเคี้ยว ร้านเบเกอรี่ที่อบกันเองอุ่น ๆ ใหม่ ๆ เลย โซนจำหน่ายเนื้อสัตว์ทั้งของสด ทั้งแบบแช่แข็ง แฮม ไส้กรอก ฯลฯ สารพันสารพัดหลากหลายไอเท็มอ่ะ

ในโซน supermarket ของ Foodland ใน Terminal 21 - Pattaya ที่นี่ยังมีจัดมุมช้อปปิ้งของฝาก ของที่กินยอดนิยม เช่น ผลิตภัณฑ์จากทุเรียน หรือจากมะม่วง ให้กับพวกนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วยนะ

และยังมีสินค้าใหม่ อย่างเจ้าไอศรีมทุเรียน Duu Durian Fruit Stick ที่ทำมาจากทุเรียนหมอนทองแท้เกรดพรีเมี่ยม โดยตัวเนื้อไอศครีมจะไม่ใส่เติมพวกน้ำตาล หรือนมเข้าไป จึงทำให้ไอศรีมทุเรียนแช่แข็งของ Duu Durian Fruit Stick อันนี้ ยังคงรสชาติของทุเรียนไว้ได้เหมือนกินทุเรียนจริงเลยว่างั๊น

มีหลายรสชาติด้วยนะ ที่เจอในตู้วันนั้นก็มี รสดั้งเดิม รสมะพร้าว และรสช็อตโกแลตอัลมอนด์ เราเลยจัดรส original ลองไปสักแท่งนึงซิ ... พอฉีกซองมีไม้เสียบให้เหมือนไอติมทั่วไปเลย

แทะๆ ไปตอนแรกเนื้อจะแข็ง ๆ หน่อย เพราะอยู่ในตู้แช่มา แต่พอละลายสักพัก ... อืมมมม ทั้งรส ทั้งเนื้อสัมผัส นี่แบบนึกว่ายืนอยู่หน้าสวนทุเรียน เพราะมันมาเต็มมาก ๆ ต้องยอม เหมือนกินทุเรียนจริง ๆ เลยว่างั๊น เข้มข้นถึงใจ แบบนี้แฟนคลับทุเรียนชอบแน่นอน เพราะถ้ามีเจ้า Duu Durian Fruit Stick นี่ แม้จะอยู่นอกฤดูกาล แต่นี่เหมือนมีทุเรียนให้กินทั้งปี

และอีกโซนที่ขาดไม่ได้ของฟู๊ดแลนด์ ก็คือโซนร้านขายอาหารปรุงสุดที่ชื่อ “ถูกและดี ” ที่เค้าเน้นความใส่ใจ ในการเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ มาผัด มาทอด มาปรุงให้เราแบบไฟแดงท่วมกะทะ

รับประกันมาที่นี่ เราจะถูกใจทั้งในเรื่องของรสชาติ และความใหม่สดสะอาดของอาหารทุกจาน ในราคามาตรฐานตามแบบฉบับฟู๊ดแลนด์ ไม่ต้องไปลุ้นเสี่ยงดวง สั่งอาหารแล้วจะเจอร้านไหนโขกอัพราคานักท่องเที่ยว กันให้ลุ้นสะดุ้งตอนเช็คบิลอีกต่อไป

แถมอย่างที่บอกโซนร้านอาหาร “ถูกและดี ” นี่เค้าก็เปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีปิดพักกันอีกด้วย ทีนี้ขาท่องราตรีทั้งไทยทั้งเทศ พอสำรวจแสงสีในพัทยายามค่ำคืนเสร็จแล้ว ถ้าไม่อยากหิ้วท้องหิว ๆ เข้าไปนอนในโรงแรม ก่อนกลับก็มาแวะฝากท้องที่นี่กันได้เลย ร้าน “ถูกและดี ” ของ Foodland ที่ Terminal 21 - Pattaya

จบไปแล้วกับการรีวิวเดินห้างถ่ายรูปเล่น พร้อมกับลุยหาของกินที่ Terminal 21 - Pattaya ก็ถ้าใครมาพัทยาแล้ว อยากช้อปปิ้ง อยากหาข้าวกิน หรือเดินห้างตากแอร์เย็น ๆ เล่น หลบแดดร้อนในพัทยา ก็ลองมาที่ Terminal 21 - Pattaya กันได้เลย

รับรองร้านรวงต่าง ๆ เยอะจริง เดินทั้งวัน ยังไม่หมดเลย แล้วจะมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นแก๊งค์ หรือยกเหมามากันทั้งครอบครัว รับรอง Terminal 21 - Pattaya ตอบโจทย์มอบความสนุก ความเพลินเพลิด ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนทุกวัยที่แวะมาที่นี่ได้อย่างแน่นอน : )