ไปโตเกียว เที่ยวฟูจิ

ตอน นาริตะมีดี ไม่ใช่แค่ทางผ่าน

เที่ยวชมถนนสายโบราณแห่งเมืองนาริตะ


หลังจากเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิในตอนที่แล้ว ก็ได้แค่เก็บภาพความประทับใจมาตลอด หากใครยังไม่ได้รับชม ตอน ฟูจิซัง สวยจับตา งามจับใจ สามารถติดตามย้อนหลังได้ตามลิงค์ด้านล่างได้เลยจ้า

https://th.readme.me/p/21578


ผมเดินทางจากเมืองคาวากูจิโกะโดยรถบัสด่วนพิเศษไปยังสถานีรถไฟโตเกียวอีกรอบ เพื่อไปต่อรถไฟ JR ไปเที่ยวต่อเมืองนาริตะครับ

ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆก็เดินทางถึงสถานีรถไฟ JR นาริตะครับ

เนื่องจากผมเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ จึงต้องหาห้องพักและค้างคืนที่นี่ 1 คืน เพื่อมีเวลาในการเที่ยวเมืองนี้อย่างเต็มที่

หลังจากเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาในการสำรวจเมืองนาริตะแห่งนี้

ที่พักของผมเหมือนเดิม เป็นฟูกนอนตามแบบต้นฉบับของคนญี่ปุ่น

เมืองนาริตะนั้นมีดีมากมายไม่ใช่แค่เมืองที่เป็นทางผ่าน เพราะหลายคนคงไปขึ้น-ลงเครื่องที่สนามบินนาริตะ แต่รู้หรือไม่ว่าเมืองนาริตะแห่งนี้ก็ยังซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่นะ

ผมเดินเท้าไปเรื่อยๆตามถนน เพื่อไปที่ถนนสำหรับช้อปปิ้ง ชื่อถนนว่า Omotesando Street

ระหว่างทางเจอกับร้านอาหารไทย สังเกตุจากธงชาติ ร้านอาหารไทยแท้แน่นอนครับ อิอิ แต่ว่าร้านปิดวันนี้!

ถนนแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สองข้างทางของถนนขนาบไปด้วยตึกเก่าแบบดั้งเดิม ได้อารมณ์ญี่ปุ่นย้อนยุคจริงๆ เหมือนหลุดไปในยุคก่อนเลย! และยังเป็นเส้นทางที่จะนำเรามาสู่วัด Naritasan Shinshoji โดยจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกเปิดให้เราได้ช้อปก่อนจะเดินไปถึงวัด เรียกว่าที่เดียวได้เที่ยวถึงสามแบบเลยนะครับ



นอกจากนี้ เมืองนาริตะขึ้นชื่อเรื่องปลาไหล ร้านอาหารที่นี่ส่วนใหญ่จึงมีเมนูปลาไหลอยู่ทุกร้านเลย และยังมีการโชว์การชำแหละปลาไหลแบบสดๆให้ดูด้วย




เดินมาเรื่อยๆจนถึงวัด Naritasan Shinshoji Temple ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แห่งนาริตะ



วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งเมืองนาริตะที่อยู่ใกล้สนามบินมากที่สุด ในส่วนของความเก่าแก่นั้นขอบอกเลยว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ความเก่าแก่จึงเพิ่มความขลังและศักดิ์สิทธิ์ให้แก่วัดแห่งนี้ ทำให้วัดมีผู้คนมากมายแวะมาสักการะขอพรกัน

ปิดท้ายด้วยการเดินเที่ยวชมวัด ก่อนกลับโรงแรมที่พักเพื่อพักผ่อน เตรียมพร้อมเดินทางกลับในวันถัดไป


เดินทางกลับประเทศไทย

สำหรับผมแล้วการท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้นับว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าทางจิตใจมากๆ ผมชอบและรักประเทศนี้ไม่แพ้ประเทศไทยเลย ได้เวลาออกจากห้องพักเก็บความประทับใจมากมายที่พบเจอกับการเดินทางตลอดระยะเวลา 5 วัน

การเดินทางจากเมืองนาริตะไปสนามบินนาริตะใช้เวลาแค่ 10 นาทีโดยประมาณจากสถานีรถไฟนาริตะ

เมื่อถึงสนามบินแล้วผมได้ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋า รวมถึงแวะซื้อของฝากไปให้เพื่อนๆที่เมืองไทย

เสียงจากกัปตัน

เครื่องได้เทคออฟจากสนามบินนาริตะ กับตันตีโค้งเลี้ยวขวาเพื่อไปยังเส้นทางที่นำทุกท่านในเที่ยวบินนี้สู่ดินแดนขวานทอง เครื่องบินบินผ่านนนานฟ้าของโตเกียวด้วยนะ

เครื่องเทคออฟไปสักพักก็ได้ยินเสียงประกาศจากกัปตัน

"...สวัสดีครับท่านผู้โดยสารทุกท่าน นี่คือเสียงจากกัปตันครับ ท่านผู้โดยสารที่นั่งริมหน้าต่างทางขวาให้มองออกไปหน้าต่างของท่าน ขณะนี้เรากำลังบินผ่านภูเขาไฟฟูจิครับ ผมขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเดินทางกับเรานะครับ ขอบคุณครับ..."

สำหรับทริปครั้งนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมนะ

ขอบคุณครับ :)


ฝากติดตามเพจทาง Facebook ด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/tiewtamjaiwherever

go see write เล่าเรื่องเที่ยว

 วันพฤหัสที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 21.40 น.

ความคิดเห็น