เมื่อไอหมอกกระแทกหน้า และลมเย็นๆกำลังตบหัวเราเล่น

นั้นเป็นสัญญาณว่า เราเดินทางมาถึงภาคเหนือของประเทศไทยแล้วครับ

และการเดินทางครั้งนี้ เรามากันยังจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย

ใช่แล้วครับ ที่นี่.. เชียงราย

..แต่การมาเชียงรายในครั้งนี้ เราจะพาขึ้นดอยไปสัมผัสกับหมู่บ้านเล็กๆของชนเผาลาหู่

หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ มีบ้านแค่ประมาณ 40 หลัง คนอยู่ไม่น่าจะถึง 100 คน

หมุ่บ้านแห่งนี้ มีชื่อเรียกว่า ... บ้านยะฟู

บ้านยะฟู อยู่ห่างตัวเมืองเชียงรายแค่ 30 กิโลเท่านั้นหละครับ

หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขาท่ามกลางไอหมอก

มีคนอยู่ไม่กี่ร้อยคน มีบ้านอยู่ 40 กว่าหลัง

ใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่ายตามวิถีชนเผาชาวลาหู่

และยังมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้ให้ผู้มาเยือน

ได้สัมผัสวีถีชาวบ้าน แค่คืนละ 100 บาท

และอาหารแบบท้องถิ่นหาวัตถุดิบจากหลังบ้าน

ก็มื้อละ 100 บาทเท่านั้นหละครับก็อิ่มแบบจุกกันแล้ว

และกิจกรรมที่นี่ บอกเลยว่าระดับ แอดเวนเจอร์

เดินป่ากัน 7-8 ชั่วโมงระยะทาง 10 กว่ากิโล

บอกเลยครับว่าเส้นทางเดินป่าที่นี่ไม่ธรรมดา

อย่างสวย ธรรมชาติสุด แถม น้ำตกอย่างใส !!

พูดไปจะหาว่าโม้ เดินทางกันดีกว่า ..



เริ่มการเดินทาง เราเดินทางจากกรุงเทพ - เชียงราย ด้วยสายการบินไทยVietjetair

เพราะมีเวลาเที่ยวบินที่ดี เหมาะกับการเลิกงานแล้วก็บินมาเลย บอกเลยว่าราคาเคื่องบินถูกกว่ารถทัวร์ รถไฟอีกกก

ลองเข้าไปดูสิ : https://vietjetair.com/Sites/Web/th-TH/Home

จากสนามบินเราก็นั่งแท็กซี่เข้าเมืองเลยครับ ไม่แน่ใจว่า มีรถประจำทางไหม

แต่แท็กซี่มาส่งเราที่หน้าที่พักเลยครับ ร้อยกว่าบาท เราบินมาดึกด้วยหละ มาถึงนี้ก็เกือบ5ทุ่ม

แน่นอนครับเรื่องที่พัก เป็นเรืองสำคัญ เราก็ทำการหาที่พักที่ราคาโอเค และอยู่ในตัวเมืองหน่อย

และที่พักของเราคืนนี้ มีชื่อว่า Lemme's Chok Dee Guesthouse คืนละ 200 บาท เท่านั้นหละครับ

ด้านล่างเป็นบารืด้วยนะ แต่ถ้าใครไม่ชอบเสียงดัง ที่นี่อาจจะไม่เหมาะครับ

แต่ถ้าคอดื่มอย่างเรา นิ บอกเลยครับ แจ่มแมว !!! ไม่ต้องเดินไปหาบารืนั่งกินให้เมื่อย เมาเสร็จก็ขึ้นนอนสบาย

อยากจะบอกว่าreception ที่นี่ น่ารักมากก นะ อิอิ



ว่าแต่ทำไมเราจองเตียงคู่นิ 555



ที่นี่ แถมไกล แหล่ง ท่องเที่ยวด้วยหละครับ

เดินมาได้สบาย เพราอยู่ตัวเมือง เดินมานิดเดียวก็หอนาฬิกา

และก็ใกล้กับ เชียงรายไนท์บาซาร์ ครับ

วันแรกก่อนเดินทางไกล เราไปดอยใกล้ๆ กันก่อนครับ

สถานที่เป็น ไฮไลท์ของจังหวัดเชียงราย "ดอยตุง"

เอาจริงๆเราก็ยังไม่เคยไป ลองไปดูกันสักหน่อยแล้วกัน

เราก็เดินทางด้วยรถประจำทางนี้หละครับ 30 บาท



ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงนิดๆ

เราก็มาถึง ดอยตุงครับ

รถประจำทางจะจอดตรงทางแยก

จากนั้นต้องต่อวินขึ้น อีก 70 บาทครับ

ขาลง ก้ขอเบอร์พี่วิน แกไว้

ไปกลับ ก็ 140 บาท

และนี้ก็คือดอยตุงครับ ค่าเข้าชม 90 บาท



เบอร์ลุงวินมอเตอร์ไซร์ตรงสี่แยกครับ ลุงบอกว่าจะลงให้โทรมาเดี่ยวจะมารับ



เอาหละครับได้เวลาเดินทางไกลกันหละ

วันนี้เราจะขึ้นดอยบ้านยะฟูกันครับ

จากนี้ไม่มีรถประจำทางผ่านที่หมู่บ้านเลย

ครับ ต้องเหมารถไปที่ บ้านห้วยแม่ซ้าย

จากนั้นก็ให้ชาวบ้านมารับ

เหมาแอบแพงครับ ตอนแรกลุงแกบอก 500

เราต่อไปต่อมา จนเหลือ 300 ลุงไปเหอะ

ผมมาคนเดียวไม่มีเงินด้วย แต่อยากเที่ยว555

ลุงแก ก็ใจดี พาไป 555



ปล.ปลถ้าให้ชาวบ้านจากบ้านยะฟู

มารับที่ตัวเมืองยันขึ้นหมู่บ้านเค้าคิด 300 ครับ ซึ้งถูกกว่า 555

เพราะขากลับเราก็ให้พี่ในหมู่บ้านไปส่งเค้าคิดแค่ 300 จากบนดอยเลยนะ

เบอร์ติดต่อ พี่บนดอย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พี่จะบู่ : 095-819-1310

บนดอยมีสัญญาณโทรศัพท์และ 4G แต่ไม่มีไฟฟ้าใช้นะครับ



พอถึงบ้านห้วยแม่ซ้าย ก็ลุงคนที่เราเหมารถมา

เค้าติดต่อ ให้มารับ จากบ้านห้วยแม่ซ้าย - บ้านยะฟู

ราคา 200 บาทครับ ทางแอบโหดครับ



ก่อนเรื่องราวที่บ้านยะฟู จะเริ่มขึ้น เรามี VDO ที่เราถ่ายทำ
ตลอดการเดินทางที่เราไปสัมผัสที่บ้านยะฟู มาให้ชมครับ
แบบว่า ไปคนเดียว ถ่ายทำคนเดียว พิธีกร ตากล้อง ตัดต่อ อะไรเองคนเดียวหมดเลยครับ
และรายการของเรา ทำกันมาถึง Seasonที่3 ตอนที่2 แล้ว
ไม่รู้ว่ามีใครติดตามหรือ เพิ่งดูกันบ้าง 5555


โอเคครับ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเดินทางกัน

อย่าให้เรื่องเงินมาเป้นข้ออ้างของการเดินทาง

ถ้าอยากเที่ยวก้ออกมา ไม่กี่บาท หรอกครับ

เดินทางไปกับเรานะครับ

อบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่..

เพจ : https://www.facebook.com/maikeebaht/

IG : https://www.instagram.com/mr.konr/

ทางถือว่าโหดใช้ได้ครับ สำหรับใครที่จะขับรถขึ้นมาเอง

แต่ที่นี่สามารถเดินเท้าขึ้นมาได้นะ เราเดินมาแล้ว เดี่ยวจะเล่าให้ฟัง 555

เกือบ 2 ชั่วโมง เล่นเอาแฮ่ก

เราใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบๆ ชั่วโมง จากบ้านห้วยแม่ซ้าย ทุลักทุเล กันพอสมควรครับ

และที่นี่ก็คือ "บ้านยะฟู" ที่เราเดินทางขึ้นมาเพื่อที่จะมาใช้ชีวิตที่นี่ กัน 3วัน2คืนครับ



และที่พักของเราคืนนี้ เรานอนกันที่บ้านพี่ จะบูครับ พี่คนที่เค้าขับรถมารับเรานี้หละครับ

ก็แค่คืนละ 100 บาทเท่านั้นหละครับ เป็นบ้านที่ทำจากไม้ไผ่ ตอนกลางคืนอากาศเย็นสบายครับ

ห้องน้ำจะอยุ่นอกบ้านครับ



บรรยกาศในหมู่บ้านยะฟู ครับ ที่นี่มีสัญญาณ โทรศัทพ์ แต่ไม่มีไฟฟ้าครับ

บ้างบ้านต้องใช้ไฟ จากแพงโวล่าเซลล์ครับ บ้างบ้านก้ไม่มีอย่างบ้านเรานี้หละครับ 555

แต่ก็ดีครับ ทิ้งความสะดวกสะบายแล้วมาใช้ชีวิตกันจริงๆ

พี่จะบู พาเราเดินทัวร์บ้านของชาวลาหูครับ

บ้านของชาวลาหู ส่วนใหญ่ ครัวจะอยุ่กลางบ้านเลยครับ

เพราะเป็นพื้นทีก่อกองไฟได้ เวลาทำกับข้าวหรืออาหาร จุดไฟ กลางบ้านมันอุ่นดีครับ

ที่นี่ยังมี ความเชื่อเรื่องผี การนับถือผี

มีความเชื่อต่างครับ และผู้นำศาสนาครับ

ที่นี่เค้าเรียก โตโบ คล้ายกับเจ้าอาวาสในวัดครับ

ในส่วนของเรื่องอาหาร เราบอกเลยครับว่า ที่นี่ อร่อยถูกปากแน่นอนครับ

คนที่นี่กินเผ็ดนะ แซ่บอีหลีครับ 555 ก็กินท่ามกลางบรรยากาศ แบบนี้หละครับ

มื้อละ 100 บาท ไม่อิ่มเติมได้ไม่อันครับ

ข้าวที่นี่ อร่อย แบบไม่เคยกินในเมืองอะเม็ดจะใหญ่ๆ

ว่าแต่ใครกัดรองเท้าเราเนี่ย !!!!!



ที่นี่ตอนกลางคืนจะเงียบมากครับ และไร้แสงไฟ

วันนี้เราต้องรีบนอนครับ เพราะพรุ้งนี้ เรามีนัดเดินป่า กับพี่จะบูกันแต่เช้าครับ

แล้วพรุ้งนี้ เจอกันครับ

เช้านี้เรามีนัดกับพี่ จะบุ ในการเดินป่ากับเขาหลังบ้านนี้

เราตื่นเช้าเพื่อนที่จะเดิไปยังจุดชมวิวของหมุ่บ้าน ซึ่งเดินไป ประมาณ 100-200 เมตรนี้หละครับ

พี่เค้าบอกว่า กินเช้าเช้าแล้วเดินป่ากัน

วิวของหมู่บ้านสวยดีครับ

บ้านยะฟู

เราก็เริ่มออกเดินทางจากหมู่บ้าน เพื่อนที่จะไปเดินป่ากันครับ

เส้นทางวันนี้คือ ดอยบ่อ นาขั้นบันได น้ำตกห้วยแม่ซ้าย

พี่จะบูครับ : "วันนี้เราต้องเดินประมาร กี่กิโล หรอครับ ?"

10 กิโล เอาหละได้เรื่อง 5555



ทางก็เป็นป่ากันจริงๆครับ ไม่มีตัวทาก แต่มีแมลง และยุง พอใช้ได้ครับ

ยังไม่ถึง กิโล เล่นเอาแฮ่ก เลยครับ พี่จะบูบอกว่า จุดแรกจะชัดหน่อยทางไปดอยบ่อ

หลังจากนั้นจะลงอย่างเดียว ยาวๆๆ แล้วก็จะมาขึ้นหมุ่บ้านยะฟูกันอีกที



และที่นี่ คือที่แรก ที่เราเดินมาจากหมุ่บ้าน

ใช้เวลาเดินประมาณ ชั่วโมงครึ่ง

ที่นี่ ดอยบ่อ ครับ มีลานกลางเต็นท์อย่างดี

รถสามารถขับขึ้นมาถึง แต่ต้องไม่ใช่หน้าฝนนะ

บอกเลยครับว่าทางอย่างเละ

วิวมองเห็นวัดห้วยปลากั้ง ด้วยหละครับ



จากดอยบ่อ เดินกันยาว อีกประมาณ 1 ชั่วโมง

เรามาอยู่ในไร่กลางเขา แห่งหนึง

ซึ่งวิวสวยมากๆครับ เป็นแบบนาขั้นบันไดเลย

พี่จะบูบอกว่า ตรงนี้ เมื่อก่อนเคยเป็นหมุ่บ้านยะฟู นี้หละครับ



เป็นเส้นทางที่สวยมากๆ อีกเส้นทางหนึ่งเลยหละครับ

เหมือนเรากำลังเดินอยู่มน เขาซับสับซ้อน

เรามาพักกินข้าวกันที่ กระต๊อบทุ่งนาแห่งหนึ่งครับ

เราก็กิน อาหาร ท้องถิ่น นั้นก็คือ มาม่า 555

แต่เด็ดดีครับ ทำในไม้ไผ่ และวันนี้ เรามีวัตถุดิบพิเศษ

ที่หาได้จาก หลังบ้านแถวนี้ นั้นก็คือ ผักกูด ที่เพิ่มรสชาติให้กับอาหาร

วันนี้ บอกเลยครับ ว่า น้ำแกงอย่าวงเด็ด

มาม่า ไข่ตุ่นไม้ไผ่ ข้าว อาหารง่าย แต่กลับอร่อย อย่างบอกไม่ถูกเลยหละครับ

กินกันง่ายๆ แบบนี้หละครับ ท่ามกลางภุเขามันก็ฟินเหมือนกันแห่ะ

อิ่มแล้ว เราก็เดินทางกันต่อครับ

กับจุดหมายปลายทางสุดท้าย

น้ำตกห้วยแม่ซ้าย

และ ฝนก็ตกกระหน่ำ มาเลยครับ

ทางเดินสวยครับ เป็นธารน้ำตลอด

โอ้ยยยยยยยยยยยยย !!!

ถึงกันสักทีคครับ กับน้ำตกห้วยแม่ซ้าย

เราใช้เวลาเดินทางมาจาก บ้านยะฟู ราวๆ 6 ชั่วโมงได้

แต่เห็นน้ำตก ใส แบบนี้ มันก็คุ้มค่าหละครับ

น้ำตกห้วยแม่ซ้าย



และเล่นน้ำเสร็จเราก็ต้องเดินทางกลับบ้านครับ 5555

เราก็ต้องเดินขึ้นบ้านยะฟุ อีกประมาณ ชั่วโมงกว่าได้ครับ

ที่นี่ก็ยังพอมีร้านค้า ให้เราดับกระหาย เราก็จัดการซื้อน้ำชาไป 1 กระป๋องครับ

บอกก่อนนะคัรบ ไม่ค่อยเย็น 5555

ร้านค้าที่บ้านยะฟูครับ



บรรยากาศยามเย็น เหมือนฝนกำลังจะตก แต่ก็มีหมอกวิ่งมากลางหมุ่บ้านเลยหละครับ

ก็นี้หละครับ คือเรื่องราว ที่บ้านยะฟู 3วัน2คืน จังหวัดเชียงราย ที่เราเดินทางมาสัมผัสกัน

บ้านยะฟู ห่างตัวเมืองเชียงราย ประมาณ 30 กิโลได้ครับ เดินทางไม่ยากและก้ไม่ง่ายครับ



ยังไง ก็ฝากรายการเราไว้ด้วยนะครับ

อย่าให้เรื่องเงินมาเป้นข้ออ้างของการเดินทาง

ถ้าอยากเที่ยวก้ออกมา ไม่กี่บาท หรอกครับ

เดินทางไปกับเรานะครับ



สอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่..

เพจ : https://www.facebook.com/maikeebaht/

IG : https://www.instagram.com/mr.konr/

ไม่กี่บาทBackPacker

 วันพฤหัสที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.04 น.

ความคิดเห็น