..หนีร้อนไปซบหนาว ณ เวียดนามเหนือ..

เวียดนามเหนือ slow life เดินทาง 3 วัน 2 คืน เพราะหยุดงานได้แค่นั้น 555+

หลังจากพบตั๋วโปรจากหางแดง จึงสุมหัวกันจองไว้เกือบปี ระหว่างนั้นก็ค้นหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ว่า 3 วันนี้เราอยากทำอะไร และทำอะไรได้บ้าง เพราะเท่าที่ดูมาการเดินทางไปนอกเมืองจะใช้เวลาพอสมควร สุดท้ายจึงตัดสินใจไปซบไอหนาวที่ซาปา แค่คิดก็ฟินแล้ววววว...\(^w^)/

ในเรื่องการเดินทางตัดสินใจเลือก คุณเฮือง จาก vietnam express ยอดฮิตผู้เป็นมิตรกับชาวไทย... เนื่องจากวันแรกพอถึงสนามบินปุ๊บอยากได้รถที่ไปส่งที่ซาปาเลย ซึ่งต้องจ้างรถพิเศษ เพราะรถบัสนอนและรถไฟเวลาไม่ได้... จึงติดต่อสอบถามราคา โดยคุณเฮิองให้ราคามาที่ 190usd แต่ด้วยความงกจึงไปเจออีกเจ้าชื่อ noibaiservice ได้มาในราคา 125usd ก็เลยเลือกบริการเจ้านี้ไปซาปา และที่เหลือเป็นบริการจากทางคุณเฮือง (ค่ารถรับจาก รร. ในซาปามาส่งสถานีรถไฟหล่าวไก + ค่ารถไฟนอน + รถรับจากสถานีฮานอยไปออฟฟิสคุณเฮิองฟรี + อาบน้ำฝากกระเป๋าฟรี + ค่ารถจากออฟฟิสไปส่งสนามบิน)

ด้วยเวลาจำกัดหลังจากที่ลงเครื่องมา จึงแลกเงินที่ Superich ไว้ล่วงหน้าเป็นเงิน vnd และ usd ติดต่อซื้อ sim4G ไว้ก่อนผ่าน shopee อาจจะแพงกว่านิดหน่อยแต่ถือเป็นการซื้อเวลาล่ะนะ^^

"http://www.noibaiservices.com (มีประเด็นที่ทำให้เสีย self ตั้งแต่มาถึงเลย)"

"ใบเสนอราคาจากทางคุณเฮือง"

เอาล่ะ!! เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็เดินทางกันเล้ย!!!!! <(^ ^)/ (รูปแผนท่องเที่ยวแบบอนุบาลหมีน้อย)

>>>> วันที่ 27 พ.ย. 61

เดินทางไฟล์ทเช้าด้วยสายการบิน Air Asia เครื่องออกตรงเวลาและมาถึงก่อนกำหนด 5นาที หลังจากทำธุระกันเรียบร้อย จึงออกไปรอด้านหน้าสนามบิน NoiBai จุดนัดพบเวลา 9.30น. ตรงเสาแถวที่ 10...

เวลาร่วงเลยมา 5นาที รู้สึกร้อนใจเพราะกลัวว่าจะโดนเท หรือเรามารอผิดที่... sim ที่เตรียมมามีแต่เล่น Net... นาทีนั้นลองส่ง Mail ไปถามอีกครั้ง และหันไปสบตากับทางคุณเวียดนามที่มารอรับคนอื่นอยู่ จึงขอความช่วยเหลือยืมมือถือในการติดต่อบริษัทที่จองรถไว้ แต่โทรแล้วก็ไม่มีคนรับสาย ระหว่างโทรอีกครั้งมี Mail กลับมาพอดีว่าจะ Late 9.45-10.00น. จึงขอบคุณคุณเวียดนามที่ให้ยืมมือถือ และเฟ้ารอคนมารับ...

ผ่านไป 10โมงกว่า... ก็ยังไร้วี่แววของผู้มารับ ทันใดนั้นเองคุณAndy (คนที่เรา contact ด้วย) ก็ปรากฏตัว และเดินเข้ามาหาพร้อมขอโทษเนื่องจากรถที่จะใช้ไปส่งเราเกิดเสีย ซ่อมไม่ทัน (เอิ่ม...) และเขาพยายามหารถของ Agent เจ้าอื่นไปส่ง แต่ขอเพิ่มค่ารถอีก 75usd.... (ห๊ะ!!!) ชี้แจงว่าเป็นรอบพิเศษที่ต้องดีลกับคนนู้นคนนี้ จึงส่งตัวแทนผู้ร่วมทริปเจรจาเหลือ 70usd หรือ 1,600,000vnd ... ทำไมถึงยอมจ่ายเพิ่ม?? ก็เพราะ late ไปจากแผนเยอะแล้ว จึงยอมตกลงเพราะถาม option เขาบอกทำนองขอเพิ่มตังค์อย่างเดียว ถ้าเราปฎิเสธกลัวว่าเขาจะไม่คืนค่ารถ หรือหากคืนก็จะเสียเวลาหลายอย่างในการเดินทางและหารถใหม่... (กลายเป็นว่าสุดท้ายค่ารถก็พอๆกับคุณเฮือง รู้งี้เจ้าเดียวจบดีกว่า เห่อๆ)

"หลังผ่านไป 2ชม.จากที่เหยียบเวียดนาม เราก็ได้เดินทางกันแล้วค่ะ"

รถที่มารับ เรียกว่า Limousine Bus มีน้ำฟรี และWifi ในรถ จะแวะพักรถให้กินข้าวและเข้าห้องน้ำ 2 ครั้ง พี่ที่มาขับรถให้พูดอังกฤษได้ชัดและฟังเข้าใจง่าย นั่งยาวไป 5ชม...

เคยได้ยินเรื่องการขับรถที่เวียดนามว่าเขาบังคับให้เหยียบ80 แต่ดูลีลาการขับของพี่เขาน่าจะเกินไปมาก วิธีขับก็มีเสียวๆ หลายจังหวะ โดยเฉพาะตอนจะแซงแล้วมีรถสวนมาด้วยความเร็วสูง ซึ่งทางก็โค้งเยอะมาก พวกเรากรี้ดกร้าดกัน จนพี่เขาเม้าท์ให้ฟังว่า "ผมขับเส้นนี้ทุกวันมา 40ปี ไม่ต้องกังวลนะครับ ดูสิครับ!! ผมฝึกฝนด้วยการวางแก้วน้ำร้อนแก้วนี้ไว้ข้างรถโดยน้ำไม่กระฉอกออกมาสักหยดเดียว" (มือซ้ายจับพวงมาลัยกำลังโค้งหักศอก มือขวาชูแก้วพลาสติกควันฉุยขึ้นมาโชว์ - OMG!! Initial D มาเอง ทางค่ะพี่! ดูทางค่ะ! 555+) และแล้วเราก็ซิ่งสายฟ้ามาจนถึงซาปาตอน 5 โมงเย็นแบบครบ32จ้า (ขับแบบนี้แต่ไม่มีใครเมารถสักแอ๊ะ พี่เขาโปรจริงๆ รู้งี้ขอ บ. ติดต่อโดยตรงดีกว่า ติดใจ 555+)

ค่ำนี้ฝากตัวที่ PhuongNam Hotel (เรียกกันเองว่า "พุงนำ" 555+) จองผ่าน booking.com ไว้ 2 ห้อง คิอ แบบ panorama สำหรับ 2คน และแบบ Mountain View สำหรับ 3คน รวมอาหารเช้า ราคา 2ห้อง 2,435บ. ใช้โค้ดลด 550บ. เหลือ 1,885บ. (มีส่วนลดอะไรงัดมาให้หมด)...

พอมาถึงเราจะอยู่ที่ชั้น 5 (Lobby) ส่วนที่พักอยู่ชั้น 2 ต้องใช้ลิฟท์ลงไป คือแบบตอนแรกงง 555+... สำหรับน้ำดื่มที่ไม่แช่ตู้เย็นจะฟรี ส่วนเตียงนอนมีปรับอุ่นได้ ฟินมากกกกกกก ^^ (ไม่ได้ถ่ายรูปห้อง panorama มา เลยจิ๊กมาจากเว็ป Booking แต่ของจริงก็เหมือนกันเลย)

หลังจากเก็บของกันเรียบร้อย มื้อแรกจัดหนักด้วย Buffet ปิ้งย่างที่ไม่ไกลจากที่พัก ชื่อร้าน Haiyen Restaurant มาถึงหน้า รร.Haiyen ให้ขึ้นบันไดวนที่อยู่ข้างๆ ไปที่ ชั้น 2 ราคา Buffet จะมี 2 ราคา คือ

ปิ้งย่างอย่างเดียว 179,000vnd (อาหาร 16 อย่าง + อาหารจานเดียว + ของหวานและไอศกรีม)
ปิ้งย่าง+ชาบู 299,000vnd (อาหาร 21 อย่าง + อาหารจานเดียว + ของหวานและไอศกรีม)

ส่วนเวลาในการทาน พนง. บอกว่า up to you!! **ราคาไม่รวมเครื่องดื่ม // ร้านนี้เนื้อดีค่ะ อร่อยมาก ^^

หลังอิ่มท้องก็แวะซื้อกรุบกริบใน Minimart ที่ติดกัน และเดินดูบรรยากาศของเมืองไปเรื่อยๆ อากาศซาปาวันนี้เย็นสบายและมีลมหนาวพัดมาเป็นช่วงๆ ซึ่งช่วงนี้เมืองกำลังก่อสร้างหลายจุด จะมีฝุนผงมาเป็นละออง และทางขรุขระเดินยากหลายโซนพอสมควร.. สุดท้ายวันนี้เราจบด้วยชานมไข่มุกจากไต้หวันร้าน Kaiten ข้างๆ SunPlaza จ้า

>>>> วันที่ 28 พ.ย. 61

ตื่นมารับอรุณด้วยไอหมอก ลงไปทานมื้อเช้า ทาง รร.จัดเป็น American Buffet และมีอาหารเวียดนามด้วยนิดหน่อย รสชาติใช้ได้เลย (^ ^)b

หลังจากอิ่มท้องก็กลับมาแต่งตัวเก็บของเพื่อเตรียมไปต่อกันที่หลังคาอินโดจีน หรือ Fansipan จึง check-out และฝากกระเป๋าไว้ที่ รร.ก่อน แต่ก่อนจะไปก็ชอเก็บภาพที่พัก และแวะจิบชาอีกรอบ...

เดินเตาะแตะไปที่ Sun Plaza เพื่อไปยัง Fansipan จากจุดนี้การจะขึ้นไปมีให้เลือก 2 แบบคือ

นั่งรถรางจาก Sun Plaza + กระเช้า + รถรางต่อที่ 2 ขึ้นไปชั้นสูงสุด (850,000-900,000vnd)
นั่งรถรางจาก Sun Plaza + กระเช้า + เดินเท้าขึ้นบันได 600 ขั้น (750,000vnd)

จากประสบการณ์ทั้งทีมงานเคยผ่านเขาวงพระจันทร์ 3,790ขั้นมาแล้ว จึงเลือกแบบที่ 2 เพื่อความประหยัด และได้ชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ... แต่พอเดินเข้าจริงยอมรับเลยว่าอากาศที่น้อยกว่าทำให้ 600 ขั้น นี่โหดกว่าที่คิด เพราะหายใจลำบาก 555+

ปล.กระเช้าใหญ่มาก จุคนได้เยอะ แต่ถ้าเรามาเป็นแก๊งค์ เขาให้ขึ้นเฉพาะกลุ่มได้ แถมไล่คนอื่นลงให้ด้วย 555+ ทั้งสูงทั้งซิ่ง สรุปกระเช้าหรือรถไฟเหาะ!!!

ใช้เวลาขึ้น-ลงนานพอควร เพราะบ้าถ่ายรูป และพักกันเป็นระยะๆ แวะกินขนมไอติมกันเพลิดเพลิน ในที่สุดเราก็มาถึงยอดได้สำเร็จ!!!

หลังจากพิชิตได้แล้วก็หมดไปวันนึง เลยไม่ได้ไปหมู่บ้าน CatCat ซะงั้น 555+... ลงมาทานข้าวที่ร้าน Viet Emotion 2 Cafe Restaurant เป็นร้านที่เน้นไปที่สเต็กและสปาเก็ตตี้ รสชาติกลมกล่อม และเหมือนจะเป็นคุณเจ้าของร้านมาบริการด้วยตนเอง ดูแลดีม้ากกกกกกก ^^ (ยืมรูปหน้าร้านมาจากเว็ปจ้า)

กลับมาที่พัก รอรถมารับที่หน้า รร. เพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟหล่าวไก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. พอมาถึงก็รอเวลารถออกตอน 21.40น. รถไฟขบวนที่เลือกใช้บริการคือ Deluxe King Express ของกินและน้ำในตะกร้าฟรีหมด และมีชา+กาแฟรถเข็นบริการฟรี พนง.จะพูดอังกฤษไม่ได้ เพราะฉะนั้นถามอะไรเขาก็จะมึนใส่ ไม่พูดอะไรนอกจาก "coffee or tea?" เห่อๆๆๆ...

บนรถไฟจะมีคนเข็นรถขายของอยู่เป็นระยะๆ ราคาไม่แพง ทางเดินในโบกี้จะแคบมาก เดินสวนกันจะลำบากพอควร หมอนและเตียงนอนสบายถึงจะเล็กก็ตาม... ใน 1 ห้องจะมี 4 เตียง คนขึ้นชั้น 2 จะค่อนข้างลำบากเพราะที่เหยียบเล็กเหมือนที่วางสบู่เลย ^^"

ข้อเสียของรถไฟที่เด่นชัดคือเขาวางเตียงเป็นแนวขวางกับรถไฟ ทำให้สั่น กระแทกมาก ใครเมารถแนะนำทานยาแก้เมาแล้วนอนไปเลยจะดีกว่า.. ลาก่อนซีรี่ย์ที่เตรียมมา.. (ยืมรูปรถไฟภายนอกมาอีกทีค่า)

>>>> วันที่ 29 พ.ย. 61

ผ่านไปเกือบ 8ชม. ก่อนถึงปลายทางประมาณ 1ชม. พนง.จะมาปลุกก่อน และบริการกาแฟ+ชา+โกโก้ ซึ่งก็หลงสั่งโกโก้ไป เพราะไม่รู้ว่าเขาคิดตังค์ (ก็ดันไม่บอกก่อนน้อ - -") แต่ชา+กาแฟฟรีเหมือนเดิม ส่วนรสชาติก็ตามสภาพ...

มาถึงสถานีตอน 5.30น. รอคนจาก บ.คุณเฮืองมารับ และเราไปอาบน้ำฝากกระเป๋าที่ออฟฟิสได้ สมาชิกทีมเที่ยวติดใจผ้าขนหนูอยากหิ้วกลับกันใหญ่ 555+

หลังแต่งตัวเสร็จก็ถึงเวลาลุยฮานอยในวันสุดท้าย แวะกินเฝอข้างออฟฟิสคุณเฮืองและเดินชิมอาหารท้องถิ่นไปเรื่อย ซึ่งเหล่าพวกของทอดอร่อยมว้ากกกก

ส่วนการท่องเที่ยวในฮานอยไม่ได้แวะอะไรมากก็จะมีเดินไปชมรอบๆ ทะเลสาบ ไปโบสถ์ ดูของฝาก และแวะจิบกาแฟ กินขนมไปเรื่อยๆ

"บรรดา Landmark ที่ได้แวะ"

"บรรยากาศเมือง"

"โรงงานไอติมท้องถิ่น พอสงสัยว่ารสอะไรลูกค้าที่กำลังซื้อให้เราจิ้มของเขาชิมด้วย (มีงี้ด้วย 555)"

"Eden ร้านกาแฟบรรยากาศสุด Art เครื่องดื่มหน้าตาแปลกๆ เพียบ!! พิกัดข้างโบสถ์" ปล.ของทอดหน้าทางเข้าร้านหย่อย!!

"ปิดท้ายมื้อเย็นด้วยร้าน Green Farm Restaurant ชามบิ๊กทุกอย่าง และราคาเป็นมิตรสุดๆ" (ยืมรูปหน้าร้านจากเว็ปเช่นเดิม)

หลังจากเดินเที่ยวเสร็จ กลับมาที่ออฟฟิสรอรถมารับตอน 17.30น. เพื่อไปส่งสนามบิน การจราจรช่วงนี้จะติดขัดมาก พอถึงสนามบินรอขึ้นเครื่องตอน 21.40น. จบการเดินทางกับเวียดนามครั้งแรกนี้ ^^