วัดถ้ำเสือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในไทย เป็นวัดที่มีองค์พระใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี

มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่นี่เพื่อทำบุญสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองกาญจน์พร้อมๆ กับการถ่ายรูปเก็บความประทับใจในมุมต่างๆในวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมาเที่ยวที่วัดแบบไม่ขาดสาย แต่ในวันนี้ไม่ใช่วันหยุดหรือนักขัตฤกษ์ใดๆ ปริมาณนักท่องเที่ยวก็ยังถือว่าเยอะมากๆ

เราเลือกมาที่นี่เพราะการเดินทางจากกรุงเทพฯ ที่มาได้ง่ายและสะดวก ระยะทางห่างจากกรุงเทพเพียง 134 กม. เราใช้เวลาชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นก็มาถึงที่นี่ ทางเข้ามีลานจอดรถไม่ใหญ่มากซึ่งอยู่ด้านหน้าของทางขึ้นเขาไปด้านบนของวัดถ้ำเสือ

ทางขึ้นวัดถ้ำเสือ

ความอดทนเป็นสิ่งที่ขมขื่น แต่ผลของมันหวานชื่นเสมอ
Patience is bitter, but its fruit is sweet
ARISTOTLE

การขึ้นไปบนเขาที่ประดิษฐานของหลวงพ่อชินประทานพร และพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท มีสองทางคือเดินขึ้นบันไดนาคจำนวน 157 ขั้น แต่สำหรับใครที่เหนื่อยง่ายก็สามารถขึ้นรถรางทางด้านซ้ายมือของบันไดนาค จุดนี้มีค่าบริการขึ้นรถรางเพียง 10 บาทเท่านั้น เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนบริเวณวัด ซ้ายมือของรถรางจะเป็นพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท บริเวณลานทางเข้ามีจำหน่ายเครื่องดื่ม น้ำ ขนม และของที่ระลึกเช่น เครื่องรางต่างๆ ถัดมาจะเป็นองค์พระใหญ่ ตรงข้ามองค์พระคือจุดที่มีดอกไม้ ธูป เทียน และกล่องทำบุญตามศรัทธา ซึ่งที่นี่ดอกไม้จะเป็นดอกดาหลา ต่างจากที่อื่นที่เป็นดอกบัว

บรรยากาศรอบ พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท

วัดถ้ำเสือมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมองค์พระใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร ที่เห็นโดดเด่นตั้งแต่ถนนทางเข้าแล้ว ยังมีมุมถ่ายรูปอีกมุมหนึ่งที่เป็นมุมสูงจากชั้นบนของพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท ซึ่งเป็นที่สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ชั้นบนสุด ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดวนหลายชั้น แต่ละชั้นบ้างก็มีพระพุทธรูปประดิษฐาน และมีจิตกรรมฝาผนังเป็นพุทธประวัติ รวมถึงภาพวาดพระมหากษัตริย์ของไทย ทุกชั้นจะมีหน้าต่างทำให้มองเห็นวิวเมืองกาญจน์และแม่น้ำแม่กลองได้รอบทิศ เราเดินขึ้นจนเกือบถึงชั้นบนสุดจะมีช่องหน้าต่างให้ชมวิวได้ พอมองลงมาจะมีมุมที่เห็นองค์พระใหญ่ ด้านซ้ายขององค์พระเป็นวิหาร ส่วนด้านขวาเป็นพระอุโบสถอัฏมุข ฉากหลังเป็นทุ่งนาเขียวขจีให้ความรู้สึกสดชื่นมากกกเพราะต้องเดินขึ้นมาถึงชั้นเกือบบนสุดเมื่อมาเจอลมที่เข้ามาประทะหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อเราจึงขอหยุดต่ออีกหน่อยก่อนขึ้นชั้นถัดไป

ภายในพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท


ชั้นถัดไปคือชั้นบนสุดของพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท เราได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ถึงเวลาลงมาแล้วเราก็เดินลงด้วยขาที่ยังสั่นๆ 555 เราไปซื้อดอกดาหลา ธูป เทียน มาสักการะหลวงพ่อชินประทานพร ถัดมาเราเดินไปทางขวามือขององค์พระเข้าพระอุโบสถอัฏมุขจะมีฆ้องใหญ่ หากเราใช้ 2 มือวนฆ้องแล้วเสียงดัง ตามความเชื่อจะได้โชคลาภ ในอุโบสถ์สามารถทำบุญถวายสังฆทานได้
ออกจากอุโบสถบริเวณด้านล่างมีถ้ำเสือ เป็นถ้ำขนาดเล็กอยู่บริเวณเชิงเขาด้านล่าง ภายในถ้ำประดิษฐานพระประจำวันเกิดและจำหน่ายวัตถุมงคล

ก่อนกลับเราแวะขับรถเข้าวัดถ้ำเขาน้อย ที่อยู่ข้างๆ วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน เราทำได้แค่แวะเพื่อถ่ายรูปด้านหน้าของวัดเท่านั้น เนื่องจากเวลาน้อยน่าเสียดายมากที่เราไม่ได้เข้าไปด้านในของวัดเพราะเราเพิ่งรู้ตอนมาถึง วัดถ้ำเสือว่าคืออีกวัดที่อยู่ข้างกัน


วัดถ้ำเสือเป็นวัดที่อยากแนะนำให้มา เพราะไม่ได้ที่แค่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมองค์พระใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท แต่ยังได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ถูกอัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย และที่ได้มากกว่าการเป็นวัดคือเปรียบเสมือนจุดแลนด์มาร์กที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีและจุดชมวิวมุมสูงเหนือแม่น้ำแม่กลองอีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด
จันทร์-ศุกร์ 8.30-16.30 น.
เสาร์-อาทิตย์ 8.00-16.30 น.
พิกัด : ม่วงชุม, ท่าม่วง, กาญจนบุรี

Map : https://goo.gl/maps/sTJANqJh2in

ช่องทางติดตามเรา

Website : www.funfoodfriend.com

Facebook Fanpage : www.facebook.com/FunFoodFriend

Twitter : twitter.com/FunFoodFriendGo

เพื่อนกิน บินเที่ยว

 วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.29 น.

ความคิดเห็น