ความเดิมตอนที่แล้ว คือ ผมได้ไปอยู่สุโขทัย และได้กราบพระพุทธรูปองค์พระอจนะ คราวนี้ถึงคราวที่จะเดินทางต่อ ไปยังจุดหมายที่ผมคิดว่า จะหาเหตุผลที่จะไม่ถึงอีกนั้นแหละ นั้นคือ "ปัว" จังหวัดน่าน


และก่อนที่จะเดินทาง ทริปนี้ คือมันไม่ได้ตั้งตัวว่าจะไปไงครับ 555 แค่เอาเต็นท์ สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือ ตั้งหลัก จัดเส้นทาง เลยมาแวะร้านกาแฟร้านนี้ ฃื่อร้าน "ที่นี่สุโขทัย กาแฟสด" เจ้าร้านอัธยาศัยดี กาแฟเข้มดี พร้อมเดินทางยาวๆ ประมาณ 6 ชั่วโมงจาก GPS แต่ สิ่งที่อยากเล่าไม่ได้แค่เรื่องดูทาง

มันคือเส้นนี้ครับ เส้น 101 ตั้งแต่จุดบริการนักท่องเที่ยว จนถึงแยกปางเคาะ มันดียังไงน่ะหรอครับ

ดีที่ถนนสวยมากครับ โค้งสวย สลับเนิน ยาวๆ แต่มันไม่มีปั้มน้ำมันเลย เป็นระยะทางกว่า 50 กิโล ตอนนั้นคือยอมรับว่า กังวลมาก หิวก็หิว นานก็นานมาก บ้านคนจะผ่านทีไกลๆ จะลองลงวีดีโอดูนะครับ

https://www.facebook.com/jirakomb/videos/102157892...

พอเรามาถึงแยก เส้นทางสก็เรื่อยๆละครับ แวะพักไปสารพัดกว่าจะไปถึงอำเภอปัว และสิ่งที่ผมเจอคือวิวนี้ตอนรับเบาๆ

คือบ้านผมไม่มีวิวนี้นะ มันก็สวยกับสลับกับอากาศที่เริ่มเย็นมากแล้วล่ะ ต้องหาที่พัก และที่พักที่ผมเลือก ก็สามารถกางเต็นท์ได้ และราคาถ้าเอาเต็นท์มาก็แค่ 100 เดียว ถ้าเช่าเต็นท์เขา ก็รวมผ้าห่มแล้ว คนละ 200 นะ

เตรียมมาทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ แต่กระทะ กระทะ กระท๊ะ ทำไมไม่เอามา ปั้ดโถ้วววววว ตามที่เห็นแหละ เต๊นท์มาหมอนมี แต่ทำอะไรกินไม่ได้ ไม่เป็นไร ผมมาถึงตอนมืด รู้แค่ว่ามันติดริมน้ำ แต่วิวต่างๆ ยังไม่เห็นเท่าไหร่ เอาไว้เช้าก็ได้ สัญญานก็ไม่ค่อยมี นอนพักเลยแล้วกัน อากาศตรงนี้หนาวพอสมควรนะ หลับไปตั้งแต่ประมาณ 2 ทุ่ม และห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมนะครับ พอผ่านคืนนั้นก็เช้า.....


ผมเดินออกมา "โอ่ว แม่เจ้า กูหลุดมาในสถานที่ที่ถ่ายหนังเรื่องอะไรวะเนี้ย" ยอมรับว่าผมปรับภาพนะออกตัวก่อน แต่เพราะกล้องมันบางทีก็ไม่ได้ถ่ายทอดในสิ่งที่ตาเราเห็นได้ทั้งหมด ผมเลยพยามทำให้ใกล้เคียงกับภาพที่ผมเห็นที่สุด คือ มันเป็นแบบที่เห็นละครับ

สถานที่ที่ผมได้พักนั้นคือที่ที่มีชื่อว่า "วังน้ำปัว" ผมจะแปะ Link เอาให้นะครับ https://www.facebook.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%...

คือที่ผมเข้าใจอ่ะ สถานที่นี้คือ คล้ายๆ กับนครนายก หรือ น้ำตกย่านเมืองกาญ ที่คนกรุงเทพไปกัน แต่สำหรับคนจังหวัดน่าน หรือจังหวัดใกล้เคียง เขาก็จะมาที่นี่ในหน้าร้อน แอบไปดูในเพจมาคนเยอะเหมืือนกันครับ แต่ในช่วงหน้าหนาวเนี้ย คนไม่ค่อยมา มันเลยกลายเป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ที่ผมประทับใจนะ ไปดูอีกหน่อยครับ

ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ที่ วังน้ำปัว เนี้ย มีที่พัก ติดกันอีก 3 ที่นะครับ เข้าใจน่าจะเป็น ญาติๆ กันที่เปิดเอาไว้รองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งผมจะลงภาพเยอะหน่อยสำหรับ Blog นี้นะครับ

มุมนี้เป็นที่ที่ผมพักนะครับ เต๊นท์อยู่ชั้น 2 นอนแบบเหนือชั้น อาคารเป็นไม้ เวลาเดินต้องเดินเบาๆ หน่อยนะ

มีมุมให้นั่งพัก หรือ กางเต๊นท์เยอะพอสมควรเลยครับ

โรแมนติสเหมือนกันนะ ไอเราก็ดันมาคนเดียว

กลายเป็นการรีวิวสมบูรณ์แบบแล้วล่ะมั้งครับเนี้ย ที่นี่มีขายอาหารด้วยนะครับ อาหารค่อนข้างอร่อย แบบบ้านๆ นะครับ อาจจะไม่เหมาะกับสายคลีนเท่าไหร่ เพราะแถวนี้มีอะไรก็ต้องกินไปก่อน ค่อยไปจัดหนักตัวอำเภอนะครับ

เส้นทางบางส่วนจะเป็นแนว Adventure หน่อยนะครับ เตรียมรองเท้าที่เหมาะๆ มาหน่อยก็ดี

กางเต็นท์กันริมน้ำแบบนี้ โอเคไหมครับ

ผมรู้สึกว่าการนอนเต๊นท์มันเป็นอะไรที่สบายดีนะ ผมไม่รู้ว่าทำไม ถึงชอบการนอนในราคาถูกแบบนี้ มันมีเสน่ห์ของมัน เรามาพักพิงธรรมชาติไม่นาน เราจะมาซึมซับแต่อากาศบริสุทธิ์ ผมตัดสินใจพักที่นี่อีกคืน ผมนอนมากี่คืนแล้วเนี้ย คงเป็นคืนที่ 5 สำหรับการเดินทางของผม ที่ได้อยู่กับธรรมชาติ ผมใช้เวลาเดินเตะน้ำ เย็นๆ ถ่ายรูปเล็กๆ น้อยๆ ฟังเสียงนก มองแดด มองแสงที่มันเปลี่ยน และข้อความก็ดังเข้ามา คราวนี้ เหมือนผมจะไม่เหงาแล้วล่ะ เพราะ ยังมีการเดินทางของ ไบค์เกอร์ อีกคัน กำลังเดินทางมาหาผม ที่ปัว ที่น่าน ที่นี่ และเราจะไปกันต่อ ^^


ติดตาม ต่อ ในวันต่อไปนะครับ ถือว่าเป็นตอนที่สอง ของการเดินทางของผม

วันนี้ ขอฝากไว้เท่านี้ก่อน ขอบคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยกัน

ผมทำเพจการเดินทางเล็กๆ ที่พึ่งเริ่มออกตัวนะครับ เราจะเดินทางพร้อมกันให้ครบ 3,966 กิโล

หากเพื่อนๆ ชอบการเดินทางแบบผม ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้นะครับ

www.facebook.com/holidayrider.th/

Jirakom Bunjaruswong

 วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.13 น.

ความคิดเห็น