ขอกล่าวสวัสดีทุกท่าน

ขอสวัสดีปีใหม่ 2018 กันก่อนนะครับ

ขอให้ทุทท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีเงินทองร่ำรวย และมีความสุขทุกท่าน

ผมชื่อ ยุ เดินทางบ่อยมาก แต่ไม่เคยมาเล่าประสบการณ์เลย

ขอเล่าที่นี่เป็นที่แรกครับ

ปีนี้ไม่ได้เที่ยวไหนไกล ขอเที่ยวใกล้ๆ วันเดียวไปกลับ ที่ราชบุรี แต่อยากลองเข้าเมืองราชบุรีบ้าง มาราชบุรีกี่ครั้ง ยอมรับว่าไม่เคยเข้ามาเลย

มาเจอ "พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ราชบุรี"

ค่าเข้าเพียง 20 บาท สถานที่สะอาดมากๆ พี่ๆ พนักงานน่ารักมาก


ภายในเป็นพื้นที่จัดแสดงความเป็นมาของจังหวัดราชบุรี และราชบุรีในปัจจุบัน


ผมเคยสงสัยว่า "ทำไม ราชบุรีถึงมีของดีเป็นโอ่ง" คือไม่คิดว่าจะสงสัยอะไรแบบนี้ แต่ข้อมูลที่ได้มานั้นมีสาระมากๆ โดยจากคำบอกเล่าของพี่เจ้าหน้าที่เล่าว่า สมัยก่อนโอ่งที่เอาไว้เก็บน้ำชั้นดี ต้องนำเข้าจากประเทศจีน แบบโล้สำเภากันมา แถมการนำเข้ามาในสมัยนั้น ก็ถือว่ายากมาก จึงมีความคิดที่จะทำโอ่งกันในตัวจังหวัด เพื่อลดความยาก และเพิ่มความง่ายของการรอโอ่งจากพี่จีน

การทำโอ่งในยุคแรก ๆ จะเป็นโอ่งไม่มีลวดลาย เรียกว่า "โอ่งเลี่ยน" แต่ต่อมามีการวาดลวดลายโดยใช้ดินขาวจากเมืองจีน และภายหลังสามารถหาดินขาวทดแทนได้ที่จังหวัดจันทบุรี และสุราษฎร์ธานี สำหรับลวดลายที่วาดบนตัวโอ่งมักจะเป็นลายมังกร เนื่องจากตามความเชื่อของคนจีน มังกร ถือเป็นสัตว์ชั้นสูง และเป็นมงคล ด้วยความที่ลายต่างๆนี้มีความสวยงาม จึงเป็นแบบ และเป็นความคิดริเริ่ม จุดประกายให้กับคนรุ่นต่อๆ มา

คือ พอเสร็จจากที่แรก ผมก็เดินจนเมื่อยขา มองไปรอบๆ ก็เห็นอาคารบ้านเรือนในตัวอำเภอนั้นเป็นตึกเก่าเยอะ ด้วยความที่เป็นคนชอบอะไรแบบ Old School อยู่ด้วยสิ เดินก็คงไม่ไหว เลยขอเรียกพี่วินดีกว่า พี่เขาก็ใจดีนะครับ ต่อรองราคากันได้ ก็ ซ้อนพี่เขาไปเลย ฟริ้วววว

ผมก็นึกว่า จะนั่งชิวๆ สบายๆ ไม่พอครับ นอกจากจะลัดเลาะ เข้าซอยน้อยใหญ่ พี่เขาก็เล่าความเป็นมา ให้พอเข้าใจ ที่ไหนเป็นที่ไหน ตั้งอยู่ตั้งแต่ช่วงไหน ฟังๆไปก็เพลิน มานั่งแบบนี้ ก็เปลี่ยนแนวการเที่ยวดีนะครับ อาคาร และ บรรยากาศที่นี่ค่อนข้าง สบายๆ เบาๆ ครับ

วันที่ผมไปนี่เป็นวันเสาร์ครับ รถรานี้ก็ไม่หนาแน่น แต่คนอาจจะเยอะหน่อย ในช่วงเย็นเพราะริมแม่น้ำแถวหน้าตลาดเนี้ย มีตลาดนัดครับ


ในบรรยากาศตึกเก่าๆ ก็มีกราฟฟิคตี้ แบบเนี้ยครับ ให้เห็นอยู่เป็นโซนๆ ไปครับ มารู้ที่หลังว่า อ่อ!!! บรรดาพี่ๆ สายอาร์ท และ ฮิปส์เตอร์ มารวมตัวสร้างสรรค์ผลงานที่นี่กันเยอะ ใครสนใจจะไปเดินเล่นถ่ายรูปเนี้ย ก็น่าจะไปลองนะครับ



ด้วยความบังเอิญรึเปล่า อันนี้ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจนะครับ มาถึงวัดนี้ คือ "วัดสุริยวงศ์" ซึ่งเป็นที่ดินของสมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นบุคคลสำคัญของมหาลัยวิทยาลัยของผมที่จบมาเนี้ยละครับ -/\-


และก่อนจะแยกย้าย กับพี่เขา พี่ก็อยากฝากบอกเพื่อนๆ นะครับ ว่าหากสนใจมารถรับลมแบบนี้แล้ว ก็มาได้ พี่วินแถวนั้นใจดีทุกคนล่ะครับ แต่อาจจะต้องต่อรองราคาการเดินกันสักเล็กน้อย แต่ละคนก็อาจจะไม่เท่ากันนะครับ


สำหรับวันนี้ ก็ขออนุญาติ รีวิวการเดินทางง่ายๆ สั้นๆ เอาไว้เท่านี้ก่อน คราวหน้าจะพยามหาเรื่องที่น่าสนใจ ที่ไกลๆ หรือที่ใกล้ๆ แต่สวยๆ ดีๆ มาฝากกันนะครับ

ขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันนะครับ

Thank you

Jirakom Bunjaruswong

 วันพฤหัสที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 00.29 น.

ความคิดเห็น