ทริปส่งท้ายปี 2561 และรับปีใหม่ 2562 เป็นอีกปีที่ไปเดินชมงานเชียงรายดอกไม้งาม และก็ถือว่าโชคดีที่ได้ตั๋วรถวันเดินทาง เราออกจากกรุงเทพฯ 30 ธันวาคม 2561 เพื่อที่จะไปเดินชมงานเชียงรายดิกไม้งามครั้งที่ 15 ณ สวนตุงและโคม ในช่วงเช้าๆ คนจะได้ไม่เยอะ ปีนี้งานเชียงรายดอกไม้งามครั้งที่ 15 จัดระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2561 - 28 มกราคม 2562 (ข้อมูลจากเวปเทศบาลนครเชียงราย ส่วนข้อมูลจากเวปเชียงรายโฟกัสแจ้งว่า 28 ธันวาคม 2561 - 31 มกราคม 2562)

รถทัวร์มาถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย 2 เราเบือกต่อรถบัส CR bus มาที่สถานีขนส่งเก่าในเมืองเชียงราย ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ใช้เหรียญหยอดเอา ถ้าไม่มีก็แลกกับคนขับได้


จากนั้นออกเดินไปสวนตุงและโคมอีกประมาณ 550 เมตร เช้าๆ อากาศเย็น เดินสบาย มาถึงคนน้อยมาก มีหลายจุดต่างจากปีก่อน ดอกไม้ยังสดใสมาก ยังไม่มีแดดและความร้อนทำให้ดูหงอยๆ เราใช้เวลาที่นี่ชั่วโมงกว่าๆ


เดินเก็บตกบรรยากาศรอบๆ อีกสักชุด ถ่ายมันส์มากจริงๆ ใครมาถ่ายก็สวย เพราะดอกไม้สวย


ออกเดินจากสวนตุงและโคมไปที่สวนไม้งามริมน้ำกก ปีนี้มีจัดงาน "มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2018" จัดระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 - 13 มกราคม 2562 มาถึงนี่ 9 โมงแล้ว คนเริ่มคึกคักมากแล้ว แต่พื้นที่กว้างขวาง มีหลายมุมให้ถ่ายรูปคนเลยไม่แน่นมาก






เดินย้อนกลับเข้าเมือง เจอร้านกาแฟน่ารักๆ ก็แวะจิบกาแฟกันก่อน


ผ่านแยกพ่อขุนแวะสักการะพ่อขุนเม็งราย


เดินจน 11:30 ตัดสินใจไปดูตั๋วรถเมล์เขียวไปเชียงใหม่เลย ได้รถรอบ 12:30 มีเวลาแวะกินเนื้อลวกร้านเจ๊เฮียง ก๋วยเตี๋ยวก็ให้เยอะ มื้อนี้จ่ายไป 100 บาท


รถออกตรงเวลา เราก็หลับบ้างตื่นบ้างจนมาถึงเชียงใหม่ มาถึงไม่เจอรถบัส มีแต่รถแดง เราเลยเลือกเดินจากอาเขตมาที่พัก คืนสิ้นปีเราพักที่โรงแรมท่าแพอินน์ โรงแรมวินเทจที่ราคาย่อมเยาว์ ใกล้ของกิน จะไปไหนก็ง่าย


เก็บกระเป๋า อาบน้ำ แล้วก็ออกมาสำรวจเมืองในคืนสิ้นปีกัน และก็เหมือนทุกปีที่ถนนคนเดินประตูท่าแพจะเปิดพิเศษอีก 1 วัน เลยได้แวะกินส้มตำร้านพี่แพท เราชอบรสมือแก เราสั่งตำซั่วพริกแห้ง 3 เม็ด ฝรั่งมาข้างๆ แล้วสั่งตามเรา สุดท้ายกินไปซี้ดไปทั้ง 2 คน ยอมรับฝรั่งกินเผ็ดเก่งกว่าเราอีก


อิ่มแล้วก็มาที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร มาเก็บภาพก่อนที่จะมีการเจริญพระพุทธมนต์สวดมนต์ข้ามปีกัน


แวะจิบกาแฟที่ร้าน araksa พิเศษวันนี้ปิด 4 ทุ่ม


ย้อนมาที่วัดพันเตา วัดนี้จัดสถานที่สวยทุกเทศกาล



เดินต่อมาที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ที่นี่ก็มีสวดมนต์ข้ามปี แต่เราแวะมาไหว้พระธาตุหลวง (พระธาตุประจำปีเกิดเรา)


เดินมาถึงข่วงสามกษัตริย์มีจัดงาน countdown ด้วย เราก็เลยหยุดร่วมสนุกที่นี่



จับมัด vdo เป็นไฟล์เดียว มือถือรุ่นเก่ามากแล้ว แถมมือสั่นมากด้วย ขออภัย

หลังจบงาน countdown ที่ข่วงสามกษัตริย์ เราเลือกเดินไปวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร มาร่วมสวดมนต์ข้ามปีในช่วงหลังงานพิธี

เริ่มต้นปีที่ดีมาก ได้ทั้งความสนุก และเจริญสติ เข้าที่พักก็ตี 2 แล้ว ก่อนนอนก็แวะถ่ายประตูท่าแพสักนิด


เช้าวันปีใหม่ตื่นสายหน่อย เริ่มต้นปีด้วยการทัวร์วัด วัดแรกคือวัดแสนฝาง



ข้ามถนนมาที่วัดบุพพาราม


แวะจิบยาธาตุที่สล่ามองโอสถ นั่งสภายาธาตุพูดคุยหลายเรื่องคนเมืองเล่าเรื่องเชียงใหม่ให้คนกรุงฟัง แก้วละ 5 บาท


เดินต่อมาที่วัดช่างฆ้อง ด้านข้างโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จุดนี้ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยโรงแรม วัดที่มีพระสงฆ์จะอยู่อีกจุด แต่เราชอบที่นี่มาก สงบ



เดินต่อมาที่วัดศรีดอนไชย วัดนี้เงียบสงบมาก


เดินเส้นทางเลียบน้ำปิงมาที่วัดชัยมงคล วัดนี้คนเยอะทุกปี


ย้อนกลับมากินทับทิมกรอบมะพร้าวกะทิร้านเจ๊อ้วน เราชอบมะพร้าวกะทิร้านนี้มาก กินตั้งแต่มาเชียงใหม่สมัยเรียน


เปลี่ยนเส้นทางเดินมาเจอวัดทรายมูลเมือง ฝากนี้ของคูเมืองเราแทบไม่เคยมาเลย


ไม่เคยมาก็เดินต่อไปอีกนิด และแล้วเราก็เจอวัดทรายมูล - พม่า เราอยากมาสัดนี้ตั้งแต่เห็นขบวนแห่ของวัดในงาน 720 ปี๋เมืองเจียงใหม่และขบวนปี๋ใหม่เมืองแล้ว ดึงดูดเราจนอยากมาที่วัดสักครั้ง แล้วก็ไม่ผิดหวังวัดสวยงามแบบพม่า สงบเงียบมากๆ



เดินวนรอบคูเมืองมาเจอวัดเจ็ดลิน ช่วงนี้คนเยอะคนมาสะพานโต่วะเยอะ ปกติเงียบสงบมากๆ


เดินต่อมาวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วันนี้มีพิธีสรงน้ำพระธาตุหลวง พระธาตุประจำปีเกิดมะโรง เรามาร่วมตั้งแต่ต้นจนจบ ได้ฟังข้อมูลต่างๆ ที่เพิ่งเคยรู้เกี่ยวกับพระธาตุหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร สร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 1888 อายุครบ 673 ปีแล้ว การสรงน้ำพระธาตุหลวง ใช้หงส์เงินแท้ และน้ำจากแหล่งน้ำตามความเชื่อของล้านนา


จบพิธีส่งพระสงฆ์ผู้ใหญ่ของเชียงใหม่กลับวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ท่านอายุ 94 ปี เราก็เป็นหนึ่งในคนที่ท่านใช้ตาลปัตรเคาะหัวให้ จากนั้นเราก็มีเวลาอีกไม่มากนัก ต้องกลับกรุงเทพฯ คืนนี้เลย มีเวลาอีกพอควรเลยแวะวัดทุงยูก่อน


เดินกลับมารับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่ท่าแพอินน์ มาเจอรูบี้ด้วย เหมือนน้องจะจำไม่ได้แล้ว ไม่ได้มานาน เมินใส่ซะเลย


รับกระเป๋าแล้วก็ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ ไปอาเขต ระหว่างทางแวะกินโน้นกินนี่ ไม่นานก็ถึง เราแวะอาบน้ำที่ห้องน้ำของนครชัยแอร์ก่อน ที่นี่มีบริการ 10 บาท ใครอยากอาบน้ำอุ่นก็ 20 บาท ขึ้นรถจะได้นอนสบาย เป็นอีกทริปที่ไปเร็วกลับเร็ว แต่ได้ครบทุกอย่างที่อยากได้


ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่:

เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว



ความคิดเห็น