บาร์กาแฟอยู่ใต้ถุนบ้านไม้สองชั้น ดูเหมือนรก แต่รู้สึกได้ถึงความเรียบง่าย

เหยือกตราหัวม้าลายใส่น้ำเปล่ากับน้ำแข็งวางอยู่บนสแตนเสิร์ฟนำ้ แก้วเปล่าวางคว่ำอยู่ใกล้ๆ สำหรับลูกค้าบริการตัวเอง ง่ายดี เหมือนคนที่นี่ไม่ได้ต้องการความเป็นพิธีรีตอง

เวสป้าแดง น้ำเงิน จอดอยู่ใต้บันไดขึ้นชั้นสอง หลังบาร์กาแฟอีกชั้น อย่างหนึ่งที่ผมพอเดาสไตล์ของเจ้าของได้บ้าง

ห้องกระจกด้านซ้ายดูเหมือนห้องทำงาน มีหนังสือกระกระจาย บนผนังมีแบบแปลนออกแบบพริ้นต์ติดอยู่ เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าของคือ สถาปนิก

หลังจากความเสือกของสายตา ที่เรียกให้สวยหน่อยว่า ช่างสังเกต หยุดทำงาน ผมมานั่งเพลิน นั่งดูบารืสต้า สาละวนอยู่หลังบาร์

จากที่ดูว่าคิวไม่น่าแน่นมาก ผมสั่งแก้วแรกมาลอง บาริสต้าหน้าเหมือนจะดุ เลยยังไม่กล้าชวนคุย กลับไปนั่งรอ สายตาสำรวจไปรอบๆ อีกครั้ง

ลูกค้าที่เข้ามาไม่มีทีท่าเร่งรีบ สั่งเสร็จต่างคนต่างเข้ามุมของตัวเอง แล้วรอ

เรื่อยๆ

บางครั้ง ช้า จนรู้สึกกำลังล่องลอยเหมือนขนนกปลิวเบากลางทำนองดนตรีคลอ


กาแฟผมเสร็จและถูกส่งด้วยมือบาริสต้ามายังโต๊ะ 379 drip เย็น มีนม กาแฟผสม เย็นๆ หอม ดื่มง่าย แต่อร่อยไม่ยาก

ผมนั่งเรื่อยๆ เวลาเหลือเฟือ คนเริ่มเว้นช่วง เลยขยับไปนั่งที่บาร์

“ถ่ายรูปได้นะครับ”

ประโยคแรกที่ยังไม่ค่อยกล้า

“ได้ๆ”

ผมสั่งดริปร้อนมาอีกแก้ว ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ คุยกันบ้าง เลยได้รู้ว่า 379 คือเลขที่บ้าน

แดดร้อนขึ้น ผมขอตัวกลับ รู้สึกคุ้มค่ากับการตามกูเกิ้ลไปจนเจอ อาจจะยากหน่อยสำหรับมือใหม่ในสุโขทัย


พิกัด : https://www.facebook.com/379Drip/ เปิดแผนที่ร้าน แล้วตามกูเกิ้ลแมบโลด

traveltrap

 วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.45 น.

ความคิดเห็น