ประเทศจอร์เจีย หนึ่งในประเทศบนเส้นทางสายไหม และได้ชื่อว่าเป็นประเทศ 2 ทวีปอีกประเทศนึง ตั้งอยู่สุดขอบเอเชียกับยุโรป แถวๆทะเลดำ บนเทือกเขาคอเคซัสตอนใต้ และเคยเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต ประวัติศาศตร์ของจอร์เจียนั้นมีมายาวนานกว่า 2,500 ปี ภาษาจอร์เจียก็เป็นหนึ่งในภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบันการท่องเที่ยวประเทศจอร์เจีย มีความโดดเด่นในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงาม และยังคงความเป็นธรรมชาติที่น่าหลงใหลจริงๆ สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ต่างๆก็ดูน่าสนใจ ดูไม่ค่อยประดิษฐ์ประดอยอย่างหนัก แต่มีสเน่ห์ชวนให้ไม่เบื่อ :)ในเมืองหลวง ส่วนที่เป็นศูนย์กลางทางการท่องเที่ยว หน้าตาก็ละม้ายคล้ายคลึงยุโรป ส่วนชานเมือง ตึกราบ้านช่องที่ถูกทำลาย และยังคงอยู่ตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต ก็ดูทรุดโทรมพอสมควร คนที่นี่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ความสวยงามนอกบ้าน ข้างนอกนี่.. ถ้าไม่ดูให้ดีก็นึกว่าไม่มีคนอยู่ แต่ข้างในตกแต่งเรียบร้อยสวยงาม


Quick Tips

❉ วีซ่า : Max Stay 1 ปี โดยไม่ต้องมีวีซ่า

❉ ค่าเงิน : ใช้เงิน Lari (GEL) 1 GEL = 15 ฿ (Convert ค่าเงิน : https://goo.gl/ONHBSZ )

❉ ภาษาหลัก : จอร์เจี้ยน และ รัสเซีย (คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษได้)

❉ สภาพอากาศ :

หน้าหนาว (ธค. – เม.ย.) ไม่หนาวจัดประมาณ 2-4 องศา บนภูเขาค่อนข้างหนาว -5 ถึง -20 องศา

ฤดูใบไม้ผลิ (ปลาย เม.ย. – กค.) อากาศเย็นสบาย

หน้าร้อน (สค. – พย.) อบอุ่นถึงค่อนข้างร้อน 25 – 35 องศา บนภูเขาเย็นสบาย 10 – 20 องศา

❉ เวลา : ช้ากว่าไทย 3 ชม.

❉ Sim Card แนะนำ : Beeline (Check Promotion)

❉ Transportation :

ที่เมืองหลวง Tbilisi : Metro ส่วนใหญ่คลอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งเมือง, Taxi Meter ก็สะดวกดี, รถตู้ ไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ใช้ภาษาจอร์เจีย

ต่างจังหวัด : รถไฟ (Check ตาราง&จองตั๋ว) , รถตู้


ทบิลิซี่ (Tbilisi)

เมืองที่มีเสน่ห์ทางสถาปัตยกรรมเก่าแก่ แต่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ

แผนที่

A. Tbilisi AirportB. Avlabari Metro Station

C. Holy Trinity Cathedral

D. Liberty Square Metro Station

E. Freedom Square

F. The Bridge of Peace

G. Europe Square

H. Metekhi Church

I. Sulphur Spring Bath

J. Narikala Castle

K. National Botanical Garden

L. Ghrmaghele Metro Station

M. Tbilisi Sea

N. Lake Lisi

การเดินทาง Bangkok – Tbilisi

ไม่มีเที่ยวบินตรงมาประเทศจอร์เจีย ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเครื่องแถวประเทศใกล้เคียงเช่น สายการบิน Aeroflot เปลี่ยนเครื่องที่มอสโคว ประเทศรัสเซีย, สายการบิน Turkish Airline เปลี่ยนเครื่องที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี ฯลฯถ้ามีแผนจะเที่ยวประเทศเส้นทางสายไหมด้วยกันหรือประเทศใกล้ๆอยู่แล้วก็บินไปลงประเทศข้างเคียง เหลือเงินติดกระเป๋าเยอะเลย :)

การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง

สนามบินทบิลิซี่ห่างจากตัวเมืองราวๆ 16 กม. จากสนามบินมี Shuttle bus เข้าเมืองตลอด 24 ชม. บัสจะไปส่ง 3 สถานี คือ Freedom Square , Heroes Square , 26 May Square ทุกสถานีก็อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟฟ้า (Metro) ค่าโดยสาร ราวๆ 150 บาท ต่อคน

หรือ เรียก Taxi เข้าเมือง ถ้ากลางวันก็ราวๆ 25- 30 GEL (375 THB) ถ้ากลางคืนก็ 30 – 35 GEL (450 THB)

การเดินทางในเมือง

เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสะดวกที่สุด ถือว่าครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งเมือง ซื้อบัตร Metro 2 GEL (30 THB) แล้วเติมเงิน ค่าโดยสาร 0.5 ลารี (8 บาท) ต่อคน ตลอดสาย

ส่วน Taxi ก็สะดวกเหมือนกัน ส่วนใหญ่ใกล้ไกล Taxi มักจะชาร์จ 5 GEL (75 THB)



Freedom Square/Liberty Square

เดิมเคยชื่อ Pashkevich-Erivanskaya แล้วก็เปลี่ยนเป็น Beria Square เปลี่ยนอีกทีเป็น Lenin Square ในช่วงที่ประเทศตกอยู่ภายใต้สหภาพโซเวียต หลังจากประเทศจอร์เจียเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียตก็เปลี่ยนชื่อครั้งสุดท้ายเป็น Freedom Square

ย่านนี่สวยงามร่มรื่น ตึกราหน้าตาแบบยุโรป เป็นเหมือนศูนย์กลางทางการท่องเที่ยวทบิลิซี่ รอบๆเต็มไป้ด้วย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เบเกอร์รี่ ร้านดอกไม้

➟ Metro Station : Liberty Square


Old Town

ย่านเมืองเก่า ตึกราหน้าตาคลาสสิคเรียงราย ร่องรอยเมื่อครั้งตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 บ้านเรือนเก่าแก่ถูกทำลายและมีการซ่อมแซมใหม่หลายครั้ง ทั้งร่องรอยก่อนสหภาพโซเวียตล่มสลาย เดินเล่นที่นี่มันสนุก ลุ้นๆดีว่าจะได้เห็นอะไรเก่าๆ อีกมั๊ย (เก่าจริงๆ ไม่ต้องซ่อม ^__^)


Holy Trinity Cathedral

ชาวจอร์เจียส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายออโธดอกซ์ (Orthodox Christianity) ทำให้ที่นี่มีคริสตศาสนสถานที่สวยงามแปลกตามากมาย Holy Trinity Cathedral of Tbilisi เป็นโบถส์คริสต์ นิกายออกโธดอกซ์หลักในประเทศจอร์เจีย สไตล์ Georgian cross-dome เริ่มสร้างในปี 1995 แล้วเสร็จในปี 2004 และเป็นโบถส์ออโธดอกซ์ที่มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

บรรยากาศภายในโอ่อ่า สวยงาม แต่ดูไม่ประดิษฐ์ประดอยมากนัก ส่วนบรรยากาศภายนอกก็ร่มรื่น ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้สีชมพูรอบๆโบสภ์พากันบานสะพรั่ง ฟรุ้งฟริ้งมาก

➟ Metro Station : Avlabari แล้วเดินต่ออีกราวๆ กิโลนึง การเดินช่วยให้ได้ดูบ้านเมืองไปในตัว^^


The Bridge of Peace

สะพานสวยแปลกตา ดีไซน์ล้ำ รูปคันธนูข้ามแม่น้ำคูรา (Kura River) ออกแบบโดยสถาปนิคชาวอิตาลี่ Michele De Lucchi สะพานยาว 150 เมตร สร้างเสร็จและเปิดใช้ตั้งแต่ปี 2010 ข้ามมาจากฝั่งเมืองเก่า อีกด้านเป็น Rike Park สถานที่นั่งเล่น ปิคนิค และทำกิจกรรมวันหยุดต่างๆ

➟ Metro Station : Liberty Square เดินต่ออีกราวกิโลนึง


Metekhi Church

โบสถ์คริสต์ออโธดอกซ์เก่าแก่ นามว่า Metekhi Church ตั้งอยู่บนเนินเหนือแม่น้ำ Mtkvari ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่พักของกษัตริย์วัคตัง จอร์กาซาลีด้วยเช่นกัน ต่อมาถูกทำลายและบูรณะใหม่หลายครั้ง ทั้งยังมีการสร้างพระบรมรูปทรงม้าขององค์กษัตริย์วัคตังใกล้เคียงกันด้วย

➟ Metro Station : Liberty Square หรือ Avlabari แต่ละสถานีเดินต่ออีกราวกิโลนึง หรือ จาก The Bridge of Peace ฝั่ง Rike Park แล้วเดินข้าม Europe Square โบสถ์มองเห็นไปแต่ไกล


Sulphur Bath

ที่นี่ยังมีตำนานเล่าขานกันมาว่า ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 กษัตริย์จอร์เจียร์พระนามว่าวัคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang I Gorgasali) เสด็จออกล่าสัตว์ในป่าแห่งหนึ่งพร้อมกับเหยี่ยวคู่พระทัย ต่อมาเหยี่ยวของพระองค์จับไก่ฟ้าตัวหนึ่งได้ เกิดการต่อสู้กัน สู้กันดุเดือดเลือดพล่าน จนพลาดท่าเสียทีทั้งคู่ ร่วงลงสู่น้ำพุร้อนอันพวยพุ่ง สภาพนกทั้งสองตัวสุกจนพร้อมขึ้นโต๊ะ กษัตริย์วัคตังเห็นดังนั้นก็เกิดความประทับใจ เพราะเชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุที่ดี ..ตรรกะน่าสนใจ .. กษัตริย์จึงสั่งให้ตัดต้นไม้และสร้างเมืองขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ซึ่งต่อมากษัตริย์ดาชี อูจารเมลิ (Dachi I Ujarmeli) พระโอรสผู้ครองราชย์ต่อจากพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงจากมิทสเคตา (Mtskheta) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ห่างกันราว 25 กิโลเมตร มายังทบิลิซี่ตามความประสงค์สุดท้ายของพระบิดา ทบิลิซี่แปลว่าที่ตั้งอันอบอุ่นเนื่องจากเจ้าบ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง

Sulphur Bath หรือ โรงอาบน้ำแร่กำมะถัน สถานที่ที่ไก่ฟ้าและเหยี่ยวได้พลีชีพ จนทำให้เกิดการค้นพบนั่นเอง ลักษณะของโรงอาบน้ำคล้าย ๆ กับการแช่ออนเซ็นของชาวญี่ปุ่นผสมรวมกับการอาบน้ำแบบตุรกี มีการสร้างและให้บริการตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่ามีรูปแบบตัวอาคารหลากหลาย แต่อันนี้เป็นแบบสร้างเป็นหลังโดม ใครๆมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปกันแถวนี้ โรงอาบจะอยู่ข้างล่าง แยกชายหญิง

➟ เยื้อง Metekhi Church อีกฝั่งของแม่น้ำ Mtkvari


ชมวิวเมืองจากป้อม Narikala

ขึ้นไปชมเมืองทั้งเมืองตรงเชิงเขา Narikala ใช้บัตร Metro จ่ายค่าบริการ ราคาเดียวกันกะค่า Metro

สถานี Cable Car อยู่ใกล้กับ The Bridge of Peace ฝั่ง Rike Park


National Botanical Garden

เนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ ร่มรื่นชื่นตาชื่นใจมากๆ มีทั้งโซนสนามเด็กเล่น ต้นไม้ใหญ่เก่าแก่แปลกตา น้ำตกสายเล็กๆที่มีสะพานด้านบนมันดูโรแมนติกมากเลย ถ้าใครชอบเดินเล่น กินลม ชมวิว เดินที่นี่ทั้งวันก็แทบไม่หวาดไม่ไหว

ลงมาด้านหลังป้อม Narikala



Tbilisi Sea

Tbilisi Sea เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ไม่ใกลจากตัวเมือง Tbilisi (9 กม. x 3 กม.) หน้าตาเเหมือนทะเลสาบสีฟ้าท่ามกลางหุบเขา โผล่มาเป็นสวรรค์ของชาว Tbilisi เพราะช่วงซัมเมอร์ บางส่วนกลายเป็นที่อาบแดด เล่นน้ำไปซะอย่างงั้น

➟ Metro Station : Ghrmaghele และเดินต่อประมาณกิโลครึ่ง


จากเมโทร Ghrmaghele เส้นทางจากแผนที่ต้องเดินต่ออีกราวๆ เกือบ 2 กม. เส้นทางชานเมืองจะได้เห็นตึกรา บ้านช่องที่เก่าแสนเก่า แต่เก่าเฉพาะข้างนอก ข้างในตกแต่งอย่างดี

พอใกล้ๆจะถึง Tbilisi Sea วิวจะเปลี่ยนไป กลายเป็นภูเขา สายลม แสดงแดด นี่เป็นไฮไลท์อีกอย่างของการเดิน

Tbilisi Sea ช่วงซัมเมอร์ก็ร้อนเอาการเลยหละ แต่ความสวยงามก็เอาการอยู่เหมือนกัน ที่นี่ไม่ได้พัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เงียบๆ เดินเลียบทะเลสาบไปเรื่อยๆ ก็มีที่เล่นน้ำ อาบแดด สำหรับคนรักแสงอาทิตย์



Lake Lisi

Lake Lisi เป็นทะเลสาบกลางหุบเขาใกล้ๆเมือง Tbilisi ที่ร่มรื่น และเย็นสบายมากๆ บรรยากาศดีกว่า Tbilisi Sea เพราะมีต้นไม้สูงล้อมรอบ ส่วนใหญ่ชาว Tิbilisi มักจะมาทำกิจกรรมวันหยุดกันที่นี่ หรือไม่ก็มาปิคนิค/อาบแดด

➟ Metro Station : Delisi และเดินต่อประมาณกิโลครึ่ง

เส้นทางเดินมาที่นี่ไม่ง่ายเท่าไหร่ แต่การเดินผ่านชุมชนปลูกผัก เลี้ยงป็ด เลี้ยงไก่งวง ก็ถือว่าสนุกดี นอกจากนั้นอาจยังต้องเดินผ่านสุสานนิดหน่อย แต่ก็ยังเข้าทีอยู่ :) เส้นทางสำหรับเดินจะต้องเดินจนทะลุเขตป่าสงวน ซึ่งร่มรื่นมาก แต่ถ้าขับรถมาก็ต้องจอดไว้หน้าป่าสงวน หรือไปเข้าอีกทางนึงใกล้ๆทะเลสาบเลย

บรรยากาศทะเลสาบ เงียบๆ ร่มรื่น ด้านซ้ายเดินไปใกลอีกหน่อยเป็นที่อาบแดด


ที่พักที่ทบิลิซี่

โรงแรม /Hostel / Guest House ครอบคลุมทั้งเมือง Guest House ห้องพักสำหรับ 2 คน ห้องน้ำในตัว คืนละประมาณ 50 GEL (750 THB) ถ้าเป็นห้องรวมก็ถูกกว่าไปอีก


ถ้าพักระยะยาวอพาร์ทเม้นสภาพดีหน่อย ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ที่นี่ส่วนใหญ่จะมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องครัว ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ทีวี ทุกอย่างพร้อมสรรพ ราคาเดือนละประมาณ 300 – 500 USD


อาหาร

อาหารที่นี่ถือว่าค่อนข้างผสมผสานระหว่างเอเชียกับยุโรป มีการนำเครื่องเทศเข้าใช้ในการปรุงอาหารอย่างหลากหลาย มีทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ซุป สลัด สเต็ก ขนมปัง ข้าว..

ถ้าทานอาหารทั่วไป จะตกประมาณคนละ 15 GEL (225 THB) ต่อมื้อ

ถ้าเป็นร้านข้าวแกงจะตกประมาณคนละ 7 GEL (100 THB) ต่อมื้อ



Khinkali อาหารที่ว่ากันว่าถ้ามาจอร์เจียแล้วใครไม่ทานสิ่งนี้แสดงว่ามาไม่ถึง สั่งได้จากร้านอาหารทั่วไป หรือซื้อมาต้มเองที่ก็ได้ ข้างในอันนี้เป็นไส้เห็ดผสมสมุนไพรต่างๆ บ้างก็ใช้เนื้อ มีทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู กินเดี่ยวๆก็อร่อยอยู่แล้วเพราะไส้ปรุงเสร็จสรรพ หรือจะลองกะมายองเนสนิดหน่อยก็อร่อยไปอีกแบบ แต่ลางเนื้อชอบลางยา บางคนก็อาจจะไม่ถูกปากเอาซะเลย ต้องลองเองถึงจะรู้!


Churchkhela‬ ขนมโบราณของจอร์เจีย ทำจากพวกถั่ววอร์ลนัท เฮเซลนัท อัลมอนด์ ลูกเกด เคลือบแป้งโฮลวีทกวนกับน้ำองุ่น+น้ำตาล แอนโดนมาเรียบร้อย รสชาติหวานมันไม่เลี่ยน เป็นอีกอย่างที่มาที่นี่แล้วต้องลอง ไม่งั้นจะโดนกล่าวหาว่ามาไม่ถึงจอร์เจีย


ถ้าทำอาหารทานเอง เครื่องปรุงค่อนข้างหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเครื่องเทศ ก็ลางเนื้อชอบลางยาอีกตามเคย :)


ส่วนไฮไลท์ที่ประเทศจอร์เจียในช่วงสปริง – ซัมเมอร์ คงหนีไม่พ้นความหลากหลายและอร่อยแถมราคาถูกของผลไม้พื้นเมือง


➽ ถ้าเป็นไปได้ให้เก็บกระเป๋ามาเที่ยวทบิลิซี่ ช่วงสปริง – ซัมเมอร์ (ราวๆ ต้นพฤษภา – ปลายตุลา) ถึงจะเจอไฮไลท์แจ่มๆ


Anne Niparat

 วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.00 น.

ความคิดเห็น