ช่วงนี้ฝุ่น PM 2.5 คงอยู่กับเมืองกรุงและเมืองไทยอีกเป็นเดือนๆ ดังนั้นการเดินทางและการท่องเที่ยวไปหาสิ่งใหม่ๆ จะเยียวยาชีวิตเราได้มากขึ้น กับความสวยงามของเมืองไทย…ที่ทำให้ทุกคนประทับใจได้เสมอ

โดยเฉพาะในยุคโซเชียลเบ่งบานเช่นนี้ อะไรที่น่าสนใจ? อะไรที่โดดเด่น? อะไรที่แปลก? รับรองว่าไม่รอดหูรอดตาคนชอบเที่ยวแน่นอน และยังขยายต่อไปในวงกว้างระดับโลกได้รวดเร็ว เหมือนอย่างความอลังการและมหัศจรรย์ของ “ทะเลบัวแดง อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี” แห่งนี้ครับ...ที่เรามาทันบัวแดงบานช่วงสุดท้ายพอดิบพอดี

ลองจินตนาการกันดู…บึงน้ำจืดกว้างใหญ่ประมาณ 22,500 ไร่ ครอบคลุมถึง 3 อำเภอ คือ กุมภวาปี ประจักต์ศิลปาคม และกู่แก้ว เหมือนเอาสนามฟุตบอลโอลด์ แทรฟฟอร์ดของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จุได้เกือบ 75,000 คน มารวมกันไว้ถึง 200 สนาม แล้วก็มีดอกบัวสีแดงขึ้นอยู่มากมายเป็นเวลาประมาณ 5 เดือน คือพฤศจิกายนถึงมีนาคม และจะโรยราไปตามธรรมชาติ พร้อมจะกลับมาเบ่งบานอีกครั้งในช่วงเวลานี้ของทุกปี

ด้วยปรากฎการณ์แบบนี้เองครับ ทำให้นิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก “Travel+Leisure” ได้จัดอันดับให้ “ทุ่งทะเลบัวแดง” เป็น 1 ใน 15 ทะเลสาบน้ำจืดที่แปลกและสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2557 (World’s Strangest Lakes 2014) โดยลงตีพิมพ์ไปเมื่อเมษายนปีที่ผ่านมานี้เอง และสำนักข่าวอย่าง CNN ก็ยังช่วยโปรโมตไปทั่วโลกอีกด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย โดยในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มีมากถึง 100,000 คนต่อวันเลย

หลายคนคงสงสัยนะครับว่า…บัวแดงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร? มีคนไปปลูกไว้หรือเปล่า? ผมไปสำรวจมาแล้ว ยืนยันได้เลยว่า “บัวแดงเกิดขึ้นโดยธรรมชาติครับ” ผู้เฒ่าผู้แก่ที่อาศัยอยู่กุมภวาปีได้ใช้บึงน้ำนี้ในการดำรงชีพ ทั้งหาปลาและเก็บบัวไปทำอาหารมาหลายยุคสมัย ซึ่งเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้บัวแดงบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมของทุกปีคือ “ระบบนิเวศที่มหัศจรรย์” เพราะหลังจากบัวหมดอายุขัยในเดือนเมษายน เหง้าบัวจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำ แมลงต่างๆ ก็จะมาวางไข่ ส่วนนกก็จะมาจิกกิน ทำให้เมล็ดบัวที่อยู่ในเหง้ากระจัดกระจายลงบึงน้ำไปตามทิศทางที่นกบิน เพื่อรอเติบโตต่อไป แต่ด้วยเหง้าบัวและรากของหญ้าที่ลอยอยู่เหนือน้ำมากมายได้กลายเป็นวัชพืช หรือที่คนอีสานเรียกว่า “สนม” ทำให้บังแสงแดดซึ่งเป็นอุปสรรคในการเติบโตของบัวแดง แต่เพราะฤดูกาลทำให้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่เป็นช่วงน้ำหลาก ได้พัดพาให้สนมเคลื่อนที่ออกจากกันทั้งหมด ประกอบกับลมที่พัดแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้แสงแดดส่องลงไปผิวน้ำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดอกบัวแดงจึงเติบโตและพร้อมใจกันบานนับล้านดอกอย่างที่ทุกคนเห็นกัน

ทะเลบัวแดงกลายเป็นที่รู้จักในเชิงการท่องเที่ยวหลังจากที่ ผอ. โรงเรียนบ้านเดียม ได้มีโอกาสไปที่ทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง ในปี 2548 จึงคิดว่าบึงที่กุมภวาปีน่าจะทำได้ดีไม่แตกต่างกัน จึงได้รวบรวมผู้คนในบ้านเดียมจัดตั้งเป็น “สหกรณ์เรือประมงท่องเที่ยว” ขึ้นมา จากเพียงแค่ 10 ลำ ถึงตอนนี้มีมากกว่า 100 ลำแล้วครับ สำหรับการล่องเรือบนทะเลบัวแดงนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เริ่มออกเรือตั้งแต่ 6 โมงเช้า เรือหางยาวจะพาเราวิ่งฝ่าสายน้ำไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น โดยมีภาพของบัวแดงนับร้อยนับพันกำลังเบ่งบานไปพร้อมๆ กับเช้าวันใหม่ที่สดใส จากนั้นก็จะเป็นคิวของการล่องเรือชมทุ่งทะเลบัวแดงแบบสุดลูกหูลูกตา คดเคี้ยวไปตามโค้งน้ำที่ชาวเรือทำกันขึ้นมาครับ หากเราต้องการหยุดถ่ายรูปบริเวณไหนก็บอกคนขับได้ เขาจะค่อยๆ เบาเครื่องยนต์และปักหลักจอดในจุดนั้นได้อย่างแม่นยำ ซึ่งบัวแดงเหล่านี้จะบานถึงประมาณ 11 โมงเช้าและค่อยๆ หุบตามแสงแดดที่มีมากขึ้น ระหว่างทางจะได้เห็นและได้ยินเสียงนกกระสาและนกน้ำร้องเป็นระยะๆ แบบเพลินๆ แถมบางเกาะแก่งก็จะมีน้องควายตัวใหญ่แแอบมาเล่นน้ำอยู่ทุกวัน พอตกเย็นก็ว่ายน้ำกลับฝั่ง ซึ่งมีมากถึง 20 – 30 ตัวเลย

อีกช่วงเวลาที่ไม่อยากให้พลาดคือพระอาทิตย์ตก คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเวลาที่ดอกบัวแดงหุบหมดแล้ว ไม่รู้จะดูอะไร แต่นี่แหละคืออีกหนึ่งไฮไลท์สวยๆ ยามเย็น เพราะจะได้เห็นดวงอาทิตย์สีส้มกลมโตกำลังตกลงบนยอดเจดีย์วัดเชียงแหวที่อยู่บนอีกฝั่ง โดยมีดอกบัวหุบย้อนแสงสีดำเป็นฉากหน้า จนชาวบ้านเรียกว่า “ปิดท้ายวันทะเลบัวแดง…ต้องดูทะเลบัวดำ”

ความมหัศจรรย์ของทุ่งทะเลบัวแดงยังมีอีกหนึ่งครับนั่นคือ “วัดดอนหลวง” เป็นวัดที่ตั้งอยู่เกาะกลางบึงเพียงหนึ่งเดียว มีพระเพียง 3 รูป พร้อมกับพระประธานองค์สีขาวขนาดใหญ่ และพื้นที่แค่ประมาณ 200 ตารางวา แต่สร้างมาได้เกือบ 30 ปีแล้วครับ พระที่วัดนี้บิณฑบาตโดยการขับเรือไปที่ฝั่งและกลับมาในช่วงสายของทุกวัน ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่รอดพ้นจากน้ำท่วมเมือง ตามตำนานการทำสงครามระหว่างมนุษย์และพญานาคที่เล่าต่อกันมา

เป็นไงครับ? ความอลังการและมหัศจรรย์ของทุ่งทะเลบัวแดง…ระดับโลกสัญชาติไทยแบบนี้ ห้ามพลาด! ไปเยือนกันให้ได้นะครับ!

แถม / ท้าย / ทริป…กับ Trick เท่ห์ๆ :

• อยากดูบัวแดงบานเช้าๆ พร้อมพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ต้องมาค้างคืนที่ “กลุ่มโฮมสเตย์บ้านป้าแก้ว” จะสะดวกที่สุดครับ เพราะมีให้เลือกมากถึง 10 หลัง แถมใกล้ท่าเรือแบบเดินไปถึงได้สบายๆ

• ท่าเรือที่ล่องชมทะเลบัวแดงมีถึง 3 จุด ได้แก่ บ้านแชแล บ้านเชียงแหว และบ้านเดียม ซึ่งปัจจุบันที่นี่จะสะดวกที่สุด เพราะถือเป็นจุดแรกของกุมภวาปี มีครบครันตั้งแต่ที่พักและอาหาร แต่ในอนาคตน่าจะมีการขยับขยายสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปยังจุดอื่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นในทุกปีครับ

Go to :

จาก กทม. มุ่งหน้าจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ผ่านครราชสีมา ขอนแก่น ถึงอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี กิโลเมตรที่ 432 กลับรถที่สถานีบริการ Susco และเลี้ยวซ้ายที่แยกบ้านเดียม (1071) เข้าไปอีกประมาณ 15 กม. ก็จะถึง “ทะเลบัวแดง” รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 580 กม.

Contact & Camping :

• กลุ่มโฮมสเตย์บ้านป้าแก้ว 086-222-2486

• กลุ่มเรือบริการท่องเที่ยวบ้านเดียม 089-395-0871

#RedLotus #Kumphawapi #NuimNavigator #UdonThani #Thailand

Nuim Navigator

 วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 14.44 น.

ความคิดเห็น