เมื่อพูดถึงย่างกุ้ง หลายๆคนอาจจะนึกถึงวัด อาจะไม่อยู่ใน Bucket lists ของใครหลายๆคนที่ไม่ใช่สายบุญ

แต่!! ที่นี่ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกหลายจุดที่ดูรูปเฉยๆคงไม่คิดว่าที่นี่คือย่างกุ้ง 😆

ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องสไตล์วินเทจอังกฤษที่ได้รับอิทธิพลมาจากสมัยล่าอาณานิคม คาเฟ่ต่างๆรอบเมือง

พูดคำเดียวว่าชิคมากกกกกกก 😍 แถมค่าครองชีพยังถูกแสนถูก งบไม่กี่พัน กินหรูอยู่สบายเลยทีเดียว

การเดินทางก็ถือว่าง่ายมาก เพราะที่เที่ยวในเมืองอยู่ใกล้ๆกันหมด รัศมีไม่เกิน 3 กม. ทริปนี้เรานั่ง Grab ตลอดทาง เพราะสามารถเช็คราคาในแอพได้ นั่งเปลี่ยนที่เที่ยวแต่ละครั้งประมาน 2000จ๊าด ไม่มีหลงแน่นอน!

ลองมาพม่าดูสิ แล้วจะหลงสเน่ห์ของมัน 🇲🇲

ดูรีวิวอื่นๆได้ที่ Left Home : หนีออกจากบ้าน เลยคร้าาา ❤️


📍 สถานที่ท่องเที่ยวย่างกุ้ง

  • Yangon Central Railway Station
  • St. Mary’s Cathedral
  • ถนน Maha Bandoola Rd. [City Hall, Maha Bandoola Garden, AYA Bank, Sule Pagoda]
  • ถนน Strand Rd. [Yangon Division Court, Myanmar Economic Bank, Lokanat Gallery]
  • Shwedagon Pagoda เจดีย์ชเวดากอง
  • Bogyoke Aung San Market ตลาดสก๊อต


📍 สถานที่กินย่างกุ้ง

  • โซนร้านอาหารริม Kan Daw Gyi Lake
  • Acacia Tea Salon
  • Rangoon Tea House
  • Esperado Lake View

✈️ ตั๋วเครื่องบิน AirAsia ไปกลับ 3,800 บาท (ราคานี้คือจองพุธไปศุกร์เลยนะ ถ้าจองล่วงหน้าไว้ก็จะได้ราคา 2พันนิดๆเอ๊งง) บิน 1.30 ชม.

🚘 การเดินทางในย่างกุ้ง ใช้ Grab Taxi ตลอดทริป (ราคาถูกกว่าบ้านเรา), รถเมล์มี (สภาพดีกว่าบ้านเราอีก) แต่นั่งไม่เป็น 😂

Taxi จากสนามบินเข้าเมือง 6,000-8,000 จ๊าด ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าๆ (รถติดมากกกก)

📞 ซื้อซิมที่นู่น ราคาเริ่มต้น 850จ๊าด (18 บาท...) ประมาน 800MB เราซื้อซิมของ ooredoo ที่สถานีรถไฟย่างกุ้ง แต่สนามบินก็มีเหมือนกัน

💵 ค่าเงิน 1,000จ๊าด=21 บาท (เอาเงินไทยไปแลกที่สนามบินย่างกุ้ง)

🏨 โรงแรม Esperado Lake View (2คน 1,400บาท), Yama Hotel&Rooftop Bar (1,100บาท)

⏰ เวลาย่างกุ้งช้ากว่าไทย 30 นาที


Plan ทริป

[DAY 1]

17.10 Arrive Yangon International Airport

19.00 Check-in Esperado Lake View Hotel

19.30 Kan Daw Gyi Lake (Dinner)


[DAY 2]

08.30 Yangon Central Railway Station

09.30 St. Mary’s Cathedral

10.00 ย่าน Colonial Building (City Hall, Maha Bandoola Garden, AYA Bank, Sule Pagoda, Yangon Division Court, Myanmar Economic Bank, Lokanat Gallery]

12.30 Acacia Tea House

14.00 Bogyoke Aung San Market ตลาดสก๊อต

15.30 Check-in Yama Hotel&Rooftop Bar

16.30 Shwedagon Pagoda เจดีย์ชเวดากอง


[DAY 3]

10.30 Rangoon Teahouse

12.00 The Secretariat

14.30 China Town

17.00 Botahtaung Pagoda


[DAY 1]

วันแรกเรามาถึงกันเย็นๆ นั่งรถจากสนามบินเข้าเมืองรถติดมากกกก 😅 เพิ่งรู้เลยว่าย่างกุ้งก็เป็นเมืองรถติด

มา Check-in ที่โรงแรม Esperado Lake View ก่อน โรงแรมนี้จะอยู่ติดทะเลสาบ Kan Daw Gyi Lake เลย ซึ่งเราจะไปกินข้าวเย็นกันที่นี่แหละ

ที่ทะเลสาบ Kan Daw Gyi Lake จะต้องเสียค่าเข้าคนละ 300จ๊าด (6บาท) ด้านในจะสามารถเดินชม Karaweik Palace เปิดไฟตอนกลางคืนได้สวยๆ และมีร้านอาหารเรียงรายตามทางเดินอยู่หลายร้านเลยจ้า


กลับมาจากทะเลสาบเราก็มานั่งดริ๊งชมวิวบน Bar ของโรงแรมกันต่อ

จะบอกว่าในราคาห้องพัก 1,400 บาท แต่ได้วิวที่แบบว่า 😍 ถ้าอยู่กรุงเทพฯคงเป็นหมื่นแน่ๆ

ที่ชั้น 9 ของโรงแรมจะเป็นชั้นทานอาหารและบาร์ จะมีที่นั่งริมกระจกให้ชมวิวเมืองย่างกุ้งตอนกลางคืน มองเห็น Karaweik Palace กับชเวดากองเปิดไฟตอนกลางคืนได้เลย สวยมากกกก 🥰


[DAY 2]

วันนี้เราจะไปตะลุยในเมืองย่างกุ้งกันคร่าาาา 😉

เราออกกันตั้งแต่เช้า ที่แรกที่ไปก็คือ “Yangon Central Railway Station” หรือสถานีรถไฟย่างกุ้งนั่นเองงง

เรียก Grab จากโรงแรมมาสถานีรถไฟ 2,000 จ๊าด ใช้เวลาแค่ 5 นาทีใกล๊ใกล้

เขาว่ากันว่าสถานีรถไฟย่างกุ้งเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า ใครไปเที่ยวก็สามารถนั่งรถไฟเล่นๆชมเมืองได้ค่า

ส่วนเราไม่ได้นั่งไปไหน แต่เดินถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆสถานีแทน

ซึ่งตัวสถานีมีความวินเทจ เก่าๆแลดูมีมนต์ขลังสุดๆ 😆


ที่ถัดมาอยู่ห่างจากสถานีรถไฟแค่ 5 นาทีเหมือนกัน จะเดินมาก็ได้ถ้าอึด 😂

“St. Mary’s Cathedral” 🕍 โบสถ์คริสต์โรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในพม่า

ตัวโบสถ์เป็นอิฐสีส้มสวยมากกกก ทั้งภายนอกและภายใน

มาแล้วก็อย่าพลาดที่จะเข้าไปชมสถาปัตยกรรมด้านในกันนะคะ


จากโบสถ์เรานั่ง Grab มาลงที่จุดศูนย์กลางเมืองย่างกุ้ง Sule Pagoda กันค่า

ที่จริงจะเดินมาเรื่อยๆก็ได้แต่อากาศมันก็จะร้อนแรงไป 😂

โซนนี้จะเป็นแหล่งรวมจุดเช็คอินสำคัญๆสามารถเดินเที่ยวได้เลยค่ะ หรือในหมู่นักท่องเที่ยวจะเรียกแถวนี้ว่า Colonial Building เพราะตัวตึกต่างๆจะเป็นสไตล์อังกฤษทั้งแถบเลย

ตั้งต้นกันที่ Sule Pagoda เจดีย์สุเหล่ ทรงแปดเหลี่ยมสีทองที่อยู่ตรงกลางวงเวียนเด่นๆมาเลย

วงเวียนนี้ให้อารมณ์เหมือนอนุสาวรีย์บ้านเรา อยู่เป็นศูนย์กลาง 4 แยก ถ้าใครมาพักแถวนี้ก็สะดวกมาก

สามารถเข้าชมด้านในได้ (เสียค่าเข้า) แต่เราเดินชมถ่ายรูปรอบนอกกันค่า


เดินข้ามถนนมาจากวงเวียนเราจะเจอ “Yangon City Hall” หรือศาลาว่าการนั่นเองจ้า ✨

ตัวตึกจะเป็นสีขาวอร่าม แนะนำให้ข้ามถนนไปถ่ายรูปจากในสวนสาธารณะ เราก็จะได้รูปตึกสวยๆพร้อมน้ำพุแบบนี้เลยค่าา ❤️

รอบๆบริเวณนี้สามารถเดินเที่ยวถ่ายรูปได้อีกยาววววๆ อย่างเช่น “AYA Bank” ในรูปแรกๆ มันคือตึกธนาคารจ้า อยู่ติดกับ City Hall เลย


และสวนสาธารณะที่บอกเมื่อตะกี้ ก็ไม่ใช่ที่ไหน “Maha Bandoola Garden”

สวนลานกว้างที่คนนิยมมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกัน ตอนเย็นๆบรรยากาศจะดีมาก เพราะที่นี่ไม่มีแดดแล้วอากาศดี๊ดี

ในสวนจะมีงานนิทรรศการวนเวียนไปเรื่อยๆ และจุดสำคัญของสวนนี้ที่จะพลาดไม่ได้เลยคือตึกหอคอยสีขาวนี้น่ะเอง


เดินไหลลงมาเรื่อยๆ มุ่งหน้าไปทางถนน Strand Rd. ก็จะเป็นโซน Yangon Heritage

จะมีตึกเก่าๆสำคัญๆต่างๆเรียงยาวกันไป บรรยากาศมันก็จะดูวินเทจๆแบบนี้หล่ะ


Next ถึงเวลาเติมท้องแล้ววว!! เที่ยงนี้เราไปกินกันที่ “Acacia Tea House”

ร้านอาหารและคาเฟ่ร้านดังของย่างกุ้ง ดูจากชื่อก็รู้แล้วว่าต้องมาจิบชา Afternoon Tea สไตล์บริทิช ☕️

ตัวร้านค่อนข้างใหญ่ มี 2 ชั้น ตกแต่งสไตล์บ้านอังกฤษ มีของหวานเยอะมากกกก 🍰

ราคาถือว่ากลางๆ (แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราถือว่าถูกเลย) เราสั่ง Main dishes 2 อย่าง น้ำส้ม และเซ็ทชาพร้อมขนมชุดเล็ก ทั้งหมด 56,000 จ๊าด กินกันได้ 2-3 คนอิ่มๆ


บ่ายๆเราไปเดินช้อปกันต่อที่ตลาดสก๊อต หรือที่นี่เค้าเรียกกันว่า “Bogyoke Aung San Market”

ใครอยากหาของฝากกลับไทย ของพื้นเมือง ให้มาซื้อที่นี่เลยค่า ✨

ส่วนเรามาซื้อผ้าถุงกับโสร่งลายสวยๆมาใส่เดินเล่นในเมืองกับใส่เข้าวัด ผ้ามีให้เลือกเยอะมากกๆ ราคาก็แล้วแต่แบบ มีตั้งแต่ 8,000-40,000 จ๊าด ถ้าผ้าหนาๆลายปักสวยๆก็จะแพงหน่อย

ส่วนใหญ่ผ้าที่นี่จะขายเป็นผืนๆยังไม่ได้ตัด แบบ Ready to wear มีน้อยและลายไม่ถูกใจ เราเลยซื้อแบบผ้ามาแล้วเอาไปตัดร้านในตลาดนี่แหละ ค่าตัด 5,500 จ๊าดดด 😆

ติดกับตลาดจะเป็นห้างหรู มีแบรนด์เนมดังๆเพียบบ! ใครสายช้อปก็อย่าพลาด!!


ที่สุดท้ายของ Day 2 จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก “Shwedagon Pagoda” เจดีย์ชเวดากอง 🎉

ที่เที่ยว Landmark สำคัญของย่างกุ้ง เจดีย์ที่สีทองอร่ามสวยและใหญ่อลังการด้วยความสูงเกือบ 100 เมตร!!

ทั้งชาวเมียนม่าและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมที่จะเข้ามาสักการะ ทำบุญไหว้พระกันที่นี่ค่ะ

ทุกคนที่จะเข้าด้านในจะต้องนุ่งยาว ห้ามใส่รองเท้า,กางเกงกระโปรงสั้น,กางเกงรัดรูป ทางวัดมีบริการให้เช่าผ้าถุง (มัดจำ 3,000จ๊าด) ด้วยความที่รู้งานอยู่แล้ว เราเลยใส่ผ้าถุงที่ซื้อมาจากตลาดสก๊อตมาใส่กันสวยๆไปจ้าา

ค่าเข้าชมคนละ 10,000 จ๊าด


[DAY 3]

วันนี้หลังจากเรา check-out จากโรงแรม เราก็เดินกันตามทางมาเรื่อยๆชมวิวเมืองย่างกุ้ง ก็จะเจอตึกวินเทจๆแบบนี้อยู่ตลอดทาง เลือกเอาได้เลยว่าอยากถ่ายตึกไหน 😂

หลังจากเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ ความหิวโหยก็เริ่มทำงาน!

เราก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บร้านอาหารแนะนำตามรีวิวต่างๆ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “Rangoon Teahouse”

จะเป็นร้านอาหารพื้นเมืองที่ดูดีและสะอาด ชาวต่างชาติมากันเยอะ และมีเมนูหลากหลายให้เลือกสรร

เมนูเบาๆสำหรับเช้านี้

รสชาติ confirm ว่าอร่อย ผ่าน! ราคาถูกด้วย กินไป 3-4 อย่างร้อยกว่าบาทเองแกร

นอกจากอาหารคาวแล้ว ที่นี่ก็ยังโดดเด่นตามชื่อร้านก็คือชานั่นเอง

ซึ่งเราสามารถ customize ชา/กาแฟตามที่เราชอบได้เลย เมนูจะมีให้เลือกเป็นเลเวลต่างๆ ถือว่าแจ๋วมาก!


หลังจากที่เติมท้องแล้ว เราก็เริ่มเดินทางไปกันต่อ

จุดหมายต่อไปของเราก็คือ “The Secretariat Office” (Former Minister’ Office) หรือรัฐสภาเก่าของเมืองย่างกุ้ง

ตรงนี้จะมีค่าเข้าชมประมาน 8,000 จ๊าด

เข้าไปด้านในจะมีไกด์คอยบรรยายประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ การเมืองและบุคคลสำคัญในสมัยก่อน รวมๆแล้วใช้เวลาประมาน 40 นาที

ถ้าใครชอบแนวนี้แนะนำให้มาเลย ด้านในก็สวยวินเทจจจจสุด ✨


หลังจากเราทัวร์รอบรัฐสภากันเสร็จแล้ว สิ่งที่ขาดไปได้เลยเวลามาย่างกุ้งก็ต้องที่นี่เลย...

วัดเทพทันใจ ใจ ใจ ใจ...... (echo)

Botahtaung Pagoda

เป็นสถานที่ที่คนไทยมากันเยอะมากๆ เพื่อมาขอพรเทพทันใจกัน

ค่าเข้าสถานที่ 6,000 จ๊าด


ทำบุญและขอพรเทพทันใจเรียบร้อยแล้ว จุดหมายสุดท้ายในการตะลุยกิน ณ ย่างกุ้งก็คือ..!!

China Town town town town…… (echo)

เราก็ได้ทำการเดินสำรวจทั่วซอย อาหาร streetfood ของพม่าส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อเสียบไม้ปิ้งย่าง จะมีให้เลือกเยอะ! มาก! ทั้งเนื้อสัตว์ ปลา ผักปิ้งหลากหลายเมนูกันทีเดียวเชียว

น้ำจิ้มที่เค้ามีมาให้จะอารมณ์น้ำจิ้มแจ่วบ้านเรา

ปล. ราคาถูกมากๆ


และทริปย่างกุ้งสั้นๆ 3 วัน 2 คืน ของเราก็จบลงอย่าง Happy ending

เป็นการมาพม่าครั้งแรกที่ประทับใจ บ้านเมืองมีความวินเทจ เก่าๆขลังๆ อากาศเย็นๆกว่าบ้านเราหน่อยแต่แดดก็แรงใช้ได้ ค่าครองชีพถูก ของกินของใช้ราคาถู๊กถูก ที่พักโรงแรมต่างๆก็ถูกมาก

ขอแนะนำถ้าใครอยากมาลองเที่ยวดูแล้วจะหลงสเน่ห์ของมัน ย่างกุ้งไม่ได้มีดีแค่วัดนะจ๊าาา ❤️

ใครชอบรีวิวของเรา ขอแค่กำลังจาก 1 Like ของเพื่อนๆ แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ❤️❤️ Left Home : หนีออกจากบ้าน


LEFT HOME หนีออกจากบ้าน

 วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 20.57 น.

ความคิดเห็น