พาหัวใจไปเที่ยวระนองกันเถอะทุกคน
ทริปนี้เป็นทริปส้มหล่นที่เราโชคดีได้ติดสอยห้อยตามเขาไปสัมมนา พอมีคนชวนว่า ไปสัมมนากับพี่ป่าวน้อง เราเลยตอบตกลงในทันใดเลยค่ะ
เป้าหมายนั้นอยู่ที่เมืองระนองฮินั่นเอง แอบกระซิบถามเจ้ามือ ว่าค่าทัวร์เท่าไหร่หรอเธอ เขาตอบมาว่า คนละ 2 หมื่นเอง ถ้าเธอยกเลิกไม่ไป เราต้องเสียเงินให้บริษัทนะ .... โอววววว ไปสิไป เราไม่พลาดแน่นอน
เรานั่งเครื่อง จากดอนเมือง ไปลงสุราษฎร์ธานี แล้วจากนั้นทัวร์ก็มารับนั่งรถไปที่เมืองระนอง ไม่ช้าไม่นาน ก็มาถึงหัวเมืองระนอง แล้วไปทานกลางวันกันที่นี่ค่ะ "ร้านเคียงเล" ขอบอกเลยว่า อาหารอร่อย บรรยากาศดี ควรค่าแก่การรอคอยมาก
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่ออิ่มแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เป้าหมายต่อไปคือ บ่อน้ำร้อนค่ะ ไกด์บอกว่า ใครอยาดแช่เท้าหรือแช่ตัวก็ได้ ให้เวลาได้ตามสบายเลยค่ะ
บ่อน้ำร้อนที่นี่มี 3 บ่อด้วยกันค่ะ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว ส่วนอุณหภูมิก็ประมาณ 65 องศาเซลเซียส มีที่ให้ลงแช่ตัวและเท้า แช่ตัวต้องเสียงเงิน ส่วนแช่เท้าฟรีค่ะ... ส่วนเรานั้น แช่แค่เท้าพอค่ะ พอจุ่มเท้าลงบ่อเท่านั้นแหละ ขุ่นพระ !!! ขาแทบสุก 555
เมื่อจบกิจกรรมจากบ่อน้ำร้อนแล้ว เราก็กลับไปนอนพักผ่อนให้ชาวบ้านเค้าได้ทำกิจกรรมกับบริษัทเขาไป ส่วนเรานั้น ขอนอนเก็บแรงไว้ข้ามฝั่งไปพม่าในวันพรุ่งนี้ดีกว่าค่ะ...
1 คืนผ่านไปไวเหมือนโกหก และวันที่เรารอคอยก็มาถึง วันที่จะได้ข้ามฝั่งไปดำน้ำที่ทะเลพม่า ที่เขาลือกันว่ามันสวยนักหนา ได้แต่บอกกับตัวเองว่า เราไม่เชื่อจนกว่าจะได้ไปเห็นด้วยตาของตัวเองเอง
และการเดินทาง เราจะข้ามฟากไปพม่ากันด้วยเรือ ท่าเรือที่ไปข้ามนั้นมีชื่อว่า อันดามันคลับ ส่วนเอกสารผ่านแดน ใช้แค่บัตรประชาชนค่ะ รอทำเรื่องข้ามฝั่ง จากนั้นเมื่อเสร็จเรียบร้อย ก็ไปรอขึ้นเรือกันเลย...
ข้ามฟากด้วยเรือประมาณ 30 นาทีก็ถึง จากนั้นนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปเพื่อยื่นเอกสารทำเรื่องผ่านแดน และไปดำน้ำกัน เป้าหมายของทริปนี้ 4 เกาะด้วยกันคือ เกาะฮอร์สชู เกาะย่านเชือก เกาะตาฟุ๊ก และเกาะหัวใจมรกต พร้อมแล้วไปกันเลย....
นั่งเรือมาประมาณเกือบชั่วโมงก็ถึงเกาะแรก เกาะฮอร์สชู ไกด์ก็ปล่อยลงทะเลดำน้ำเลยค่ะ พอลงใต้น้ำเท่านั้นแหละ ถึงกับต้องอุทานออกมาดัง ๆ ว่า ขุ่นพระ !!! ปะการังจะเยอะไปไหนเนี่ย...
ครึ่งชั่วโมง ไกด์เรียกขึ้นเรือค่ะ เพราะคลื่นแรง ดำไปเมาไป ปลาการ์ตูนก็ได้กินอาหารจากเราไปค่ะ แต่คุ้มค่ามาก โลกใต้น้ำมันสวยมากจริง ๆ
จากนั้นนั่งเรือไปเกาะย่านเชือก เพื่อไปดำน้ำต่อ ไกด์บอกว่า เกาะนี้สวยกว่าเกาะแรกมาก เราไม่เชื่อค่ะ มาถึงกระโดดลงทะเลพิสูจน์เลย....พอลงไปได้เท่านั้นแหละ แม่เจ้า !!!! ใต้ท้องทะเลมีแต่ปะการังค่ะ แทบไม่มีพื้นที่ว่างเลย โอ๊ย.....ตื่นตาตื่นใจมาก
ขอบอกเลยนะคะว่า น้ำนี่ใส่จริง ๆ ค่ะ สวยมาก เพลิดเพลินมากค่ะ
หลังจากที่ดำผุดดำว่ายอยู่นาน ก็ต้องรีบขึ้นเรือ แอบเซ็งนิดหน่อย เพราะยังไม่สมใจอยากเท่าไหร่ แต่ก็นะ ต้องทำใจมากับคนหมู่มาก...และเป้าหมายต่อไปคือ เกาะตาฟุ๊ก ไปทานข้าวกลางวันกันที่นั้น ไกด์บอกว่า ระวังทรายเข้าโทรศัพท์กับกล้องนะ พังมาหลายรายแล้ว เพราะทรายที่นั่นขาวและละเอียดมาก แต่ก็นะ คิดในใจ จะขนาดนั้นเลยรึ 555
และแล้ว ไม่นานก็มาถึง "เกาะตาฟุ๊ก" แว๊บแรกที่เห็น ขุ่นพระ !!! ทำไมสวยอย่างนี้ ทรายขาวละเอียด ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า โอ๊ยคุณขา สวยเกินคำบรรยายจริง ๆ ....คุณค่าที่อิชั้น คู่ควร !!! ไม่พูดมาก ให้ภาพมันบรรยายค่ะ
และสุดท้าย หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศเสร็จ ก็ไปทานมื้อกลางวัน ซึ่งเป็นอาหารพม่าแบบง่าย ๆ แต่อร่อยมาก หรืออาจจะเพราะหิวมากด้วย 555 จนลืมถ่ายรูป ลืมทุกสิ่ง ลืมทุกอย่าง ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว...
เมื่อกินอิ่ม ก็มาเดินกลางแดดถ่ายรูปเล่น ๆ และด้วยความที่อยากมีรูปกับทะเลสวย ๆ บ้าง มันก็ทำให้ลืมความร้อนของแดดที่แรงระดับ 10 ไปเลย งานนี้ดำก็ยอมค่ะ เพราะมันสวยมากจริง ๆ
หลังจากนั้น จะไปเกาะที่ 4 "เกาะหัวใจมรกต" ซึ่งเป็นรูปหัวใจ การไปเยือนที่นั่นต้องจอดเรือไว้ในทะเล และลอยคอลอดซุ้มหินเข้าไปเท่านั้น บุญมีแต่กรรมบังค่ะ คลื่นแรงมากถึงมากที่สุด ได้แต่ตัดพ้อเบา ๆ ในใจ หมดกัน หัวใจมรกตของฉัน...หันหัวเรือกลับก็ได้ พอเรือออกตัวเท่านั้น หลับสิคะ เหนื่อยมาก หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีกลับถึงท่าเรือแล้ว ไปอาบน้ำเตรียมทานมื้อเย็น จากนั้นนั่งเรือกลับฝั่งระนองอีกประมาณชั่วโมง พอไปถึงที่พักได้เท่านั้นแหละ สลบเลยค่ะ.....
บรรยากาศท่าเรือยามค่ำคืน
และวันต่อมา นั่งรถเที่ยวต่อในเมืองอีกนิดหน่อย และนั่งรถกลับไปขึ้นเครื่องที่สุราษฎร์ธานีเช่นเดิม....จบทริปนี้ ถึงบ้านโดยปลอดภัย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินในกระเป๋า...อุทานเบา ๆ เที่ยวสนุกจัง ตังค์อยู่ครบ 555 กราบงาม ๆ ให้แก่ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการค่ะ..
ปล. ต้องขออภัยสำหรับรูปนะคะ ที่อาจจะเบลอตรงขอบบ้าง เพราะเอากล้องใส่ในถุงกันน้ำ แล้วเอาลงทะเลเลย อีกอย่าง ตอนดำน้ำคลื่นแรงด้วยค่ะ เลยทำให้ภาพค่อนข้างเบลอ
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางครั้งหน้า สวัสดีค่ะ
หญิงนุช
วันพฤหัสที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 14.45 น.