การรวมตัวของ 13 คน ที่ชอบเที่ยว ชอบถ่ายรูป เดินทางสู่ เลห์ลาดัก ประเทศอินเดีย ในช่วง 13-18 เมษายน 2019 ใช้เงินคนละประมาณ 25,000 บาท รวม ค่าเครื่องบิน ค่าไกด์ ที่พัก และค่าที่พักใน เดลี 1 คืน

โดยรีวิวนี้จะเน้นไปที่วิว การเตรียมตัวและสิ่งที่ควรรู้ก่อนไป

---

การเตรียมตัว

1.จองตั๋วเครื่องบิน BKK --> DEL // DEL --> LEH และขากลับ LEH-->DEL // DEL-->BKK

ของเราได้ราคาที่ 13,000 บาท

2.ติดต่อไกด์ ของเราใช้บริการของ Mystic Mountains Ladakh https://web.facebook.com/mysticmountainsladakh/?_rdc=1&_rdr

โดยค่าใช้จ่าย Rs 19250/คน (หาร 2 ก็ คนละ 9,600 บาท) สำหรับ 5 วัน 4คืน ในลาดักห์

ราคานี้รวม คนขับ 2 คน รถ 2 คัน ไกด์ 1 คน ที่พัก 4 คืน

3.ทำ Visa ตามลิ้งนี้เลยครับ https://goanywhere.co/2017/11/22/indiaevisa2017/

4.ประกันการเดินทาง แนะนำว่าให้ทำไว้ดีที่สุด เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด

---

แพลนการเดินทางที่ไกด์จัดมาให้

Dear ......

Greetings from Mystic Mountains Ladakh!!!!!!!!! As per your requirement I will suggest the below itinerary with nett cost for the same. Pls check the itinerary and let me know if need any changes. If you want to add or remove anything pls let me know so I can change accordingly.

For 14 pax using 7 DBL room with : 3 Innova car : Rs- 19250/- ( per person ) 2 Tempo traveller: Rs- 17950/- ( per person )

DAY TO DAY ITINERARY:

- Day 1 : Delhi – Leh Arrive at Kushok Bakula airport Leh situated at 3500m altitude, met by our representative at the airport and transfer to your hotel in Leh city 3 to 4 km. On arrival at the hotel welcome drink and then proceed to your rooms and take full-day at rest to acclimatize yourself completely to the high altitudes of Ladakh which is must. Evening around 3:30 pm visit Leh Palace and Shanti stupa which offers the best aerial views of Leh town and then visit Leh bazaar.Overnight at the Hotel.

Day 2: Leh – Alchi After breakfast excursion to visit the 1000 year old paintings of Alchi Monastery 68 km from Leh en-route visit the great statue of Maitreya Buddha at Likir monastery, Sangam of Indus & Zanskar rivers which are the two major rivers in Ladakh, Magnetic Hill and military Hall of Fame. Overnight at the Hotel.

Day 3 : Leh – Nubra Valley Morning drive to Nubra Valley 125km crossing Khardongla Pass 18360 ft, the world highest motorable pass. Afternoon visit Diskit & Hunder Monasteries and the white sand dunes with perhaps a Camel Safari on the double humped camles which are found only in Nubra as far as India is concerned. Overnight at the Deluxe Camp / Hotel.

Day 4 : Nubra Valley – Pangong Lake-Leh Early Morning After Breakfast we will start our journey towards Pangong Lake Via Shayok River ( this road is not open all the time its only open remain till end of may after that it will be closed due to high level of Water on the road ) around 2 to 3 pm we can arrived pangong lake and guest can enjoy the view of lake and enjoy photograpy perhaps pangong lake is one of the most amazing lakes in Asia which changes its color 4 – 5 times a day. Late afternoon start your journey back to Leh crossing Changla Pass 17500ft and driving via Durbuk and Tangtse villages in the Changthang region of Ladakh and Overnight at the hotel at Leh.

Day 5 : Leh - Indus Valley Tour Today we shall take you for a Fullday tour of some of the most important and beautiful Monastries and Palaces on the Indus Valley along driving along River Indus. You shall visit the former summer Palace of the kings of Ladakh i.e. Shey Palace, mini potala like Monastery in Ladakh i.e. Thiksey Monastery which also enshrines the most beautiful statue of Maitrey Buddha and later the largest and the richest monastery in Ladakh i.e. Hemis Monastery and last Stok village which is also know as royal village because of king of ladakh living in stok village.Back to Leh by evening and free at leisure. Overnight at the hotel.

Day 6: Leh – Delhi (Flight) Morning transfer to KBR airport to board flight for Delhi..

includes:

- MAP for complete tour (breakfast and dinner every Day)

- for 14 pax 7 DBL room

- 3 Non AC innova car / 2 tempo traveller for all sightseeing as per the itinerary. (Point to Point) as per package.

- airport transfers pickup and drop both - personal Driver

- Welcome tea/ biscuits on arrival at the hotel - Early check-in

- Ladakh Govt. Environment fee

-wild life fee -red cross fee

- inner line permit fee for Nubra valley and Pangong lake

- All applicable road tax

excludes:

- Any airfare & Train fare.

- Any extra, extension and optional tour then the above.

- all items of personal nature

- Monument Entrances, Camera charges, Rafting & Camel Safari Charges.

- Anything not specifically mentioned under the head “Prices included”. - Monument Entrances.

- extra cost for hotel and transfers incase of flight cancellation and road blocks or any factors beyond control.

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป

เลห์เป็นเมืองหนึ่งของประเทศอินเดีย อยู่ตอนเหนือสุดของประเทศ บรรยากาศ ธรรมชาติ จะต่างกับในเมืองของอินเดียมากๆ ตอนที่พวกเราแวะพักเพื่อรอต่อเครื่องใน Delhi นั้น ร้อน วุ่นวาย แท็กซี่... นะ เหมือนแท็กซี่ไทยรับต่างชาติประมาณนั้น อากาศในเลห์ค่อนข้างหนาวมากโดยเฉพาะช่วงกลางคืน

เลห์ลาดัก แต่ละช่วง

พฤศจิกายน – มีนาคม เป็นช่วงหน้าหนาว ที่หนาวมากๆๆๆๆ
เมษายน – พฤษภาคม ช่วงปลายหนาว คนไทยนิยมไปช่วงนี้ (เจอคนไทยเยอะมากๆ)
มิถุนายน – สิงหาคม ช่วงหน้าร้อนของเลห์ อากาศสบายๆ ต้นไม้เขียวๆ ช่วงนี้จะมีกิจกรรมให้ทำค่อน ข้างเยอะครับ
ตุลาคม – พฤศจิกายน ช่วงที่เลห์กำลังจะเข้าหน้าหนาว

ค่าเงินอินเดีย

อินเดียใช้เงิน รูปี (คิดง่ายๆ เอาจะนวนเงินหาร 2 จะเท่ากับเงินไทย)

ของกันหนาว

ช่วงที่พวกเราไป ยังมีหิมะอยู่ หนาวสุดนี่ 5 องศา เพราะฉะนั้นเตรียมเสื้อผ้า ถุงเท้า ถุงมือ ให้พร้อมครับ จะได้เที่ยวแบบไม่ทรมาน

โรค Altitude Sickness หรือ โรคแพ้ความสูง

อันนี้อันตราย ควรทานยา Diamox ก่อนเดินทาง ซัก 2 วัน ทาน เช้า-เย็น และเมื่อถึงเลห์แล้วควรทานทุกวันครับ

แดดแรง อากาศแห้ง ฝุ่นเยอะมาก

ขาดไม่ได้เลยคือผ้าปิดจมูก ดื่มน้ำเยอะๆ โลชั่นกันแดด

การเช่ารถมอเตอร์ไซค์

เราติดต่อทางไกด์ให้เช่าให้ครับ ค่าเช่า 1,200 รูปี หรือประมาณ 600 บาท ต่อวัน เติมน้ำมันแค่ 300 รูปี ตามไกด์แนะนำ เราใช้ใบขับขี่ไทย แต่บางรีวิวก็บอกต้องใช้ใบขับขี่สากล ต่อมาต้องดูโปรแกรมที่เราจะไปด้วยนะ อย่างโปรแกรมเที่ยวของเรา เช่าขี่ในวันที่ 2 เพราะเที่ยวไม่ไกลจากเมืองเลห์มากนัก ถ่ายรูปคู่กับรถมอเตอร์ไซค์มีธงมนต์ติดไว้หน้ารถ โคตรเท่

สัญญาณโทรศัพท์ internet

ไม่มีจ้า เพราะฉะนั้นตอนติดต่อไกด์ให้เน้นว่าพักโรงแรมที่มี Wifi และ heater โรงแรมที่พวกเราได้ คือ คืนแรก มี Wifi แต่ heater เสีย พอคืนที่2 ไกด์ เปลี่ยนที่พักให้ โดยไปพักโรงแรมที่แพงที่สุดในเลห์ แต่ว่าโรงแรมนี้ มี heater แต่ Wifi ใช้ไม่ได้ จ้า...และด้วยความสุดยอดของไกด์เรา เขาแชร์ Wifi ให้ตลอดการเดินทาง ดีงามตรงนี้

อาหาร

บอกเลยว่า ไม่ใช่ทางของคนไทยอะ ควรพก มาม่า ปลากระป๋อง น้ำพริก ไปด้วย เรื่องนี้มีเตือนทุกรีวิวจริงๆ เชื่อพวกเราเถอะ กรุณาเตรียมไป

บุหรี่

ตลอดการเดินทาง เราตามหาบุหรี่มิ้น ดูดเย็นๆ ไม่มีเลย มีแต่แนวร้อนแรงแบบซองแดง ใครดูดเย็น เตรียมไปให้พอ

ในวันที่ 2 ของการเดินทางไป Alchi Monastery ระยะทาง 68 km เราเช่ารถมอเตอร์ไซค์ และเป็นช่วงต้นอะไรซักอย่างคล้ายๆซากุระ ออกเต็มเป็นสีชมพูเต็มต้น

---

ต่อมาวันที่ 3 วันนี้เดินทางไป Nubra Valley ระยะทาง 125 km ไปขี่อูฐ และนอนที่ Nubra 1 คืน วันนี้จะเดินทางผ่านผ่าน Khardung La Pass ถนนที่เคยสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 18360 ft ไม่แนะนำให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เลย ทางชัน ลื่น เดินทางผ่านหิมะ หนาวทรมาน

วิวตลอดทาง อลังการมากๆ ง่วงก็ง่วง วิวก็สวย ขึงตาขึ้นทนเอา อยากเก็บความสวยตลอด 125 km

ขี่อูฐ

ราคา 250 รูปี ขี่ได้ประมาณ 15 นาที โดยคนจูงจะพาไปเดินวันแล้วก็กลับมา น่าเสียดายที่พายุเข้า ฟ้าปิด พายุทรายก็มา

---

วันที่ 4

วันนี่เดินทางไป Pangong Lake

ตื่นเช้ามากับวิวหน้าโรงแรม วิวดีมากมาย ชื่อโรงแรมที่เราพักคือ Nubra Hotel อาหารดีมากๆ มีน้ำจิ้มสุกี้ ให้ด้วย มาอินเดียหลายวัน กินเต็มอิ่มก็วันนี้แหละ

Pangong Lake

ระหว่างทาง ก็สวยไม่แพ้ปลายทางเช่นกัน หลังจากเที่ยว Pangong Lake เสร็จ มุ่งหน้ากลับเมืองเลห์ เพราะพรุ่งนี้เช้าก็หมดเวลาของพวกเราแล้ว

---

วันที่ 5

วันนี้สายบุญครับ ไปหลายวัดเลย มีโอกาสผ่านสนามกีฬาในเมือง วิวอลังการอีกแล้ว ผมคิดว่าใครที่ได้มาเที่ยวที่นี่คงคิดเหมือนกัน ว่าเลห์เป็นเมืองๆหนึ่งที่สวยงาม ผู้คนเป็นมิตรมาก วิวทั้งที่พัก ที่ไปเที่ยว รอบๆตัว มองไปทางไหนก็สวยเหลือเกิน อยากจะจอดถ่ายรูปไปซะทุกตรอกซอกซอย ขนาดห้องน้ำยังวิวดี (รูปสุดท้าย)

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ กับคนที่หาข้อมูล คนที่กำลังจะไป ไม่มากก็น้อย หากมีอะไรสอบถาม ถามเข้ามาได้ใน Facebook เลยนะครับ ตอบได้จะตอบ ยินดีอย่างยิ่ง . .