ทริปนี้เราเดินทางตั้งแต่วันที่ 21-29 เมษายน 2562 ค่ะ อ่านรีวิวการเดินทางแต่ละวัน ตามนี้เลยค่ะ

EP.1 ตอน ทบิลิซีที่เลิฟ

EP. 2 ตอน Mestia...แต่วิวไม่เพลียนะจ๊ะ

EP. 3 ตอน Ushguli...หมู่บ้านอันไกลโพ้น

EP. 4 ตอน Kazbegi...สวรรค์บนดิน ฟินสุดๆ

ส่วนนี่เป็นวิดีโอใน YouTube ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=mdGTqJ5IPJc


Ep.5 นั้นวันที่ 27 -29 เษายน 2562 ค่ะ

หลังจาก Ep.4 ที่เราเปลี่ยนโรงแรมกระทันหัน พากันมาแต่ตัว มานอนโรงแรมใหม่

เราก็นอนสบายยยยเลยเเหละ ตื่นมาก็รีบอาบน้ำแต่งตัว

หน้ายังไม่ได้แต่ง เพราะของใช้ต่างๆอยู่ที่โรงแรมเดิม5555

เอาหละ เราสามคนพร้อมที่จะไปเอากระเป๋าใบมหึมาเรามาไว้ที่โรงแรมใหม่แระ

เราพากันตื่นเช้ากัน เดินไปที่โรงแรมเดิม ไม่ไกลมากหรอกแค่เดินลงเขา

ผู้คนที่นี่เริ่มต้นชีวิตค่อนข้างช้า เมือง slow life ก็ว่าได้

เราเดินไปนะ ห้างร้านต่างๆยังไม่เปิดเล้ยยย กว่าจะเปิดนู่นแหละ 10 โมงค่ะ

พวกเราเข้าไปเอากระเป๋าที่โรงแรมเดิม

ไม่อยากเจอลุงเจ้าของโรงแรมด้วย กลัวแกสงสัยว่าทำไมไม่นอนที่นี่กัน5555

ดีนะเมื่อวานเราจ่ายค่าโรงแรมไว้แระ 100 GEL

ได้กระเป๋าก็พากันห้อยกุญแจคืนไว้ที่ประตูห้อง

ได้เวลาโชว์ความถึกอีกแล้ว ยกกระเป๋าลงบันได้อันแสนชัน

ออกจากโรงแรมได้ก็ลากๆๆๆ ไม่ใช่ลากธรรมดานะจ๊ะ

ลากขึ้นเขาอีกแล้ว5555 โอ๊ย ชันมาก ถนน เพราะเราพักบนเขาจ้า

ลากไปนี่ เหนื่อย หอบ เอาการเลยจ้า ป้าจะต้องทน สิบล้อชนต้องไม่ตาย555

เกือบครึ่งชั่วโมงได้มั้ง เราก็มาถึงที่พัก จัดแจงของ พากัน อาบน้ำแต่งตัว เตรียมออกไปหาไรทาน

วันนี้แพลนเดิมคือจะไปประเทศอาร์เมเนีย แต่เราเพลียกัน เลยจะใช้ชีวิตที่กรุงทบิลิซีกัน

เราออกมาทาน Brunch กันที่ร้านนี้ เมื่อวานเราก็ทาน แต่วันนี้อยากได้วิวด้านบน ชมเมืองค่ะ

ถามว่าหิวมั้ย ก็ไม่ กินไปตามหน้าที่5555

มาดูมื้อเช้าเราค่ะ

กินเสร็จเราก็พากันเดินเรื่อยๆ หารถที่จะไปเที่ยวกัน

คือไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีรถนะคะ ริมถนน มีรถจอดเยอะแยะ

พร้อมขึ้นป้ายราคาไว้

เราดันไปสะดุดตารถคันนี้ บางครั้งก็ไม่เข้าใจตัวเอง555

อยากได้เป็นพร็อพถ่ายรูป เลยยอมเช่ารถคันนี้พร้อมไกด์ที่พูดเก่งมากกกกกกกกก

เก่งจนไม่อยากฟัง5555

วันนี้เราจะไป 3 จุด มี Jvari monastery, Mtskheta เมืองหลวงเก่า และ The Chronicle of Georgia (จุดนี้เค้าไม่มีเเพลน.....เเต่เราขอให้เค้าพาไปเอง) เอาจริงๆถ้าเช่าเฉพาะแท็กซี่จะถูกกว่านี่ครึ่งนึง

แต่เราเอาไกด์ด้วยเลยแพง(จริงๆมะอยากได้ไกด์ แต่อยากถ่ายรูปกะรถ555)

รถก็คลาสสิค(เก่านั่นเอง) เพลงก็ไม่มีให้ฟัง ราคาที่เราเช่านี้ได้รถดีๆเลยนะ5555 แต่พวกเราอินดี้จ้าาาา

เอาหละ คนพร้อม ไกด์พร้อม รถก็พร้อม ออกเดินทางกันจ้า

นั่งไปก็ตื่นเต้นดี ตื่นเต้นที่ในระหว่างขับรถคนขับ ชี้ซ้าย ชี้ขวา

โดนรถบีบแตรใส่ ลุงแกก็จะเร่งเครื่อง5555

นี่หัวใจจะวายจ้า ลุงแกเฟี้ยวมาก555

ข้อดีของการมากับไกด์ ลุงแกจอดให้เราถ่ายรูป

แกว่าตรงนี้สวยแกก็แวะ เราก็อะ... ลงไปถ่ายรูปก็ได้


อยากถ่ายคนเดียวอ่ะลุง

จุดแรกที่เราแวะคือ Jvari monastery เป็นโบสถ์นิกาย Georgian Orthodox

สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 สร้างขึ้นบนเขาตรงข้าม Mtskheta เห็นวิวแม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกัน

คือ แม่น้ำ Aragvi เเละ Mtkvari จะเห็นได้ชัดว่า แม่น้ำมี 2 สีต่างกันชัดเจน

ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วยนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

https://georgia.travel/en_US/mtskheta-mtianeti/mtskheta/Jvari-Monastery

ในระหว่างที่เดินดู ลุงแกก็จะคอยอธิบายประวัติศาสตร์ความเป็นมา

มองเห็น Mtskheta เมืองหลวงเก่าของจอร์เจียได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ

มุมมหาชนค่ะ กว่าจะรอคิวถ่ายมุมนี้ได้

เราใช้เวลาซึมซับวิว ทิวทัศน์พอสมควร

เรายังสนใจวิวดอกหญ้าข้างๆด้วยนะ

สีสันสวยงาม

เอาหละ ได้เวลาเคลื่อนขบวนสู่ Mtskheta เมืองหลวงเก่าของจอร์เจียแล้วค่ะ

เราแวะที่ Svetitskhoveli Cathedral สิ่งก่อสร้างในศตวรรษที่ 6

ที่แห่งนี้มีสุสานของ ผู้สถาปนากรุงทบิลิซี นั่นคือ King Vakhtang Gorgasali ข้างใต้มหาวิหารด้วยค่ะ

ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ด้วยนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

https://georgia.travel/en_US/mtskheta-mtianeti/mtskheta/Svetitskhoveli-Cathedral

คือเวลาถึงที่ถ่ายรูป เราก็อยากใช้เวลากับตัวเอง ถ่ายรูป

แต่ลุงแกก็เรียกให้มาฟังแก555

โบสถ์ยิ่งใหญ่อลังการมาก เดินเข้าโบสถ์ไกด์เรานี่พูดเสียงดังมาก จนพวกเราได้ทำสัญญาณให้แก เบาๆ555

บางช่วงนะเราอยากใช้เวลากับตัวเอง555 แต่ไกด์นี่ดิ

ยังกะครูคอยคุมความประพฤติ แกจะคอยพูดว่า we have to go together (เราต้องไปด้วยกันนะ!),Listen to me! (ฟังฉัน!) ...โอ๊ยย!! บางทีเราก็ฟังแบบหูทวนลม55 แต่ลุงแกก็เรียกให้มาฟังแก555 เออ แกทำหน้าที่แกได้ดีมากกกกก ดีสุดๆ (เราผิดเองที่ไม่ฟังแก555)

ในโบสถ์นี่อลังการมาก มีความขลังพอสมควร

เรื่องขำๆมาอีกแล้วค่ะ

รุ่นพี่เราเดินออกไปรอข้างนอก

แล้วลุงไกด์ก็ถามหาว่า เพื่อนอีกคนไปไหน We have to go together and listen to me5555....

เราสองสาวเลยต้องฟังแกสาธยายความเป็นมาของโบสถ์แห่งนี้

เวลาไม่เข้าใจไรนี่อย่าหลงถามแกเชียว555 ถ้าถามแกนะ ต้องฟังประวัติศาสตร์ย้อนไปกี่พันปีไม่รู้5555

แกทำหน้าที่แกได้ดีมากพูดเลย แต่เรานี่แหละ อยากอยู่เงียบ555 เลยออกมาถ่ายรูปเเละสมทบรุ่นพี่ด้านนอก

เราใช้เวลาที่เมืองหลวงเก่านานพอสมควร

ช่วงนั้นเราขอตัวเข้าห้องน้ำ (เรื่องนี้ทำให้ตื่นเต้นทั้งทริปเหอะ ห้องน้ำเนี่ย)

ห้องน้ำที่นี่ก็ ต้องจ่ายเงินเข้า ห้องน้ำก็สะอาดอยู่ เป็นชักโครก

แต่!!!!!.....ประตูเป็นแบบ ปิดตั้งแต่หัวเข่าขึ้นไป เลยหัวไปนิดนึง

เป็นประตูที่มี 2 บาน เปิดตรงกลาง ที่สำคัญไม่มีที่ล็อค!!!!

ใครๆก็เปิดมาได้...เรานี่ตื่นเต้นชะมัด5555 ดีนะที่แยกชายหญิง

แต่ห้องน้ำที่จอร์เจียส่วนใหญ่ก็แยกชายหญิงแหละ

ไอ้เรานั่งอยู่ดีๆ ไม่เสียงดัง คนต่อคิวคิดว่าไม่มีคน เปิดเข้ามาซะงั้น5555 โอ๊ย ชีวิตช้านนนนน

เสร็จจากห้องน้ำ พวกเราก็เดินรอบๆกำแพงโบสถ์ ซึ่งมีร้านค้า ของที่ระลึกเต็มไปหมด

นี่เลย ต้องชิม Wine ice-cream ไอศครีมรสไวน์องุ่น อร่อยดีค่ะ โคนละ 5 GEL (60 บาท)

เดินไปเรื่อยๆ ไกด์บอกว่าจะพาไปดูริมน้ำ เราก็เดินลัดเลาะไป

เห็นแม่น้ำ มองไปด้านบนจะเห็น Jvari Monastery ที่เราไปมาก่อนหน้านี้ค่ะ

ถ่ายรูปเสร็จก็ได้เวลาเคลื่อนขบวนไปที่ The Chronicle of Georgia

The Chronicle of Georgia ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใน list ของทัวร์เท่าไหร่ค่ะ

แต่เราเคยเห็นรูปในอินเตอร์เน็ตเลยโชว์รูปให้ ไกด์เราดู

เค้าเลยว่ามันอยู่ใกล้ๆกรุงทบิลิซีค่ะ

พอมาถึงก็สวยดี อลังการจริงๆค่ะ

ถึงแม้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นไม่นาน สร้างในป ค.ศ.1985 ค่ะ

อยู่บนเขา เห็นวิวเมือง และทะเลสาบ ฟ้าก็ใส

แต่อากาศวันนี้เริ่มอุ่น ออกร้อนเลยแหละ เสื้อแขนยาวที่ใส่มาก็ได้ถอดออก

ทุกอย่างอลังการเป็นหินแท่งใหญ่ๆ มีเรื่องราวของศาสนาคริสต์ค่ะ

เราใช้เวลาที่นี่พอสมควรก็ได้เวลากลับทบิลิซีแล้ว

ตอนกลับลุงไกด์ ก็ขับรถลงเขา ชี้ซ้าย ชี้ขวา

จนรุ่นพี่เราบอกว่า Please concentrate on your driving (กรุณาตั้งใจขับรถด้วย)

แต่ลุงแกนี่ดิ ตอบมาเป็นชุด5555 เอาเป็นว่า อดทนฟังแกแล้วกันนน ......ใกล้ถึงแระ555

พวกเราปรึกษาไกด์เรื่องเติมเนตในมือถือแกเลยไปส่งเราที่ร้านมือถือที่พวกเราใช้ เราเลยแยกย้ายกะไกด์

แต่พอมาถึงร้าน ร้านมือถือปิดจ้า เราเลยเดินลัดเลาะ ถามร้านมือถือบางร้านก็บอกว่าเลิกงานแระ

ที่นี่เริ่มต้นวันช้า ร้านค้าก็ปิดเร็ว เอาวะ ยังไม่ท้อ เดินไปห้างก็ได้

ระหว่างทางไปก็เจอ The Parliament of Georgia (sakartvelos parlament’i)

อาคารรัฐสภาแห่งจอร์เจียนั่นเอง

ระหว่างทางก็เจอ Tbilisi Street Market เป็นร้านสินค้าแฮนด์เมดค่ะ

มีดนตรีบรรเลง บรรยากาศ สบายๆ

เดินเข้าห้างอีกรอบ ไปร้านมือถือถามเค้า.....เค้าเลยแนะนำไปชั้นล่างสุดชื่อร้านนี้ค่ะ SILKNET

เราเป็นคิวที่ 2 แต่ปรากฏว่านานเหลือเกินกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ

เนต ราคา 11 GEL ถูกกว่าสนามบินเยอะเลย

การบริการก็ช้าหน่อยเพราะมีพนักงานแค่คนเดียว

มีคนมาต่อคิวเยอะเลย ได้เนตแล้วสบายใจ 555 เอาล่ะ เดินไปทานมื้อเย็นกัน ได้เนตแระ

ออกมาจากห้างเดินมาสักพักก็เจอ Freedom Square

ร้านนี้คนเข้าเยอะ แต่อาหารได้ช้ามาก

นี่ เค้าเรียกว่า Churchkhela เป็นพวกของทานเล่นของจอร์เจียนะคะ

ไม่ใช่ไส้กรอกค่ะ เป็นพวก ถั่ว ข้างใน ชุบน้ำองุ่นหรือน้ำผลไม้ และตากจนแห้งค่ะ

พบได้ทั่วไปในจอร์เจียเลยค่ะ

กินเสร็จพวกเราก็ยังไม่กลับโรงแรม เดินลัดเลาะไปต่อ

รุ่นพี่เราอยากไปเสพงานศิลป์ที่ Dry bridge เลยไปกัน

ระหว่างทางเดินไปก็เจอสินค้าแฮนด์เมด

ร้านขายพรมสวยๆ

เดินมาเรื่อยๆ ก็เจอ Tbilisi Sioni หรือ Cathedral of Saint Mary of Zion

โบสถ์จอร์เจียนออร์โธด็อกซ์สร้างราวๆ ศตวรรษที่ 6 ค่ะ

ออกจากนี่เลี้ยวซ้าย ทะลุออกมาเจอ the Bridge of Peace


เดินไปร่วมครึ่งชั่วโมง เปิด google maps ไป

ข้ามถนนก็มาถึงแล้วค่ะ Dry Bridge

แต่พวกเราไปตอนหกโมง ร้านค้าต่างๆก็ปิดไป

เราเลยจะกลับมาใหม่พรุ่งนี้เช้า

ได้เวลาเดินกลับโรงแรมไปพักผ่อนแล้วค่ะ เพลียร่างเหลือเกินวันนี้

เจอตลาดขายดอกไม้ สวยๆทั้งนั้นเลย

วันนี้ยาวนานเหลือเกินค่ะ

ซื้อน้ำ ขนมเข้าที่พัก ไปอัพเดทโซเชี่ยล เป็นอันจบวันค่ะ

รุ่งเช้ารู้สึกตัวแต่ยังอยากนอนต่อ เพราะเราจะ slow life กัน...เลยงีบต่อ
แต่!!! จู่ๆ ป้าเจ้าของโรงแรมก็เปิดเข้าห้องเรามาจ้า!!!!

ห้องพักเรานี่ไม่เป็นส่วนตัวเลย555

เปิดเข้าห้องพวกเราพร้อมกับปลุกพวกเราด้วย5555

พวกเราก็งัวเงียๆตื่นมาฟังแกพูด......แกพูดอังกฤษไม่ได้

แต่ก็พอจะเข้าใจว่า ให้เก็บของเช็คเอ้าท์ออกจ้าเพราะแกจะมาทำความสะอาดรอแขกคนใหม่เข้าพัก

เอาไงล่ะที่นี้...ก็ตื่นซิคร้าบบบ...ตื่นมาจัดของ ยัดลงกระเป๋า

พร้อม...ลากกระเป๋าออกจากบ้าน AF เลยจ้า5555...

น้ำไม่อาบ จำไม่ได้ว่าฟันได้แปรงมั้ย555...

ดีนะ.....พวกเราจองที่พักนี้ใกล้ๆบ้านพักคุณยายใจดีไว้...

เราลากกระเป๋ามาประมาณ 2 บล็อกมั้ง เดินมาไม่ไกล

มาถึงบ้านยายประมาณ เก้าโมงกว่าๆ ได้มั้ง

เจอคุณยายใจดีกับป้าใจดีกำลังทำความสะอาดห้องรอต้อนรับพวกเราอีกครั้ง

คุณยายกับคุณป้าใจดีอาจจะงงๆ หน่อยนะคะที่พวกเรามาในสภาพเหมือนตื่นนอนใหม่.....

ใช่ค่ะ พวกเราเพิ่งตื่นนอนใหม่555

ยายกับป้าจะจำเราได้มั้ยน้า วันแรกที่มาถึงเมืองทีบิลิซีก็พักที่นี่

ยายกับป้านี่ชมแล้วชมอีกว่าเราสวย แต่พอมาวันนี้อาจจะตกใจหน่อยนะคะ555

พอพวกเราสามคนมาถึงป้ากับยายก็ใจดีอีกแระ

ให้เราขึ้นไปจิบกาแฟ ชมวิว บนบ้าน รอแกทำความสะอาดเสร็จ

รู้สึกเหมือนอยู่กับญาติเลย......ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราไปผจญภัยหลายเมืองมา

พอห้องพร้อม พวกเราก็เข้าเอาของไปเก็บ นั่งเล่นมือถือ อาบน้ำแต่งตัว...

เริ่มต้นวันก็ปาเข้าไปเที่ยงจ้า สมแล้วที่อยู่ slow life ก่อนกลับไทย

นี่ไวน์ยังไม่หมด ยังอุตส่าห์หอบมาอีก555

ออกจากบ้านพัก......เราก็เดินลัดเลาะลงมาหาอาหารทานค่ะ

วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศร้านใหม่ เดินไปเจอร้านนี้ก็ตกลงกันว่าลองซะหน่อย

แต่ความบังเอิญก็เกิดขึ้นอีก เราเดินสวนทางกับน้องคนไทยที่เราไปเจอที่ Mestia อีกแล้วจ้า

เลยนัดกันว่า เย็นๆเรากินกาแฟ ขนมเค้กและเม้าส์มอยกัน

เอาหละ มาดูร้านนี้กันค่ะ ร้านนี้เป็นห้องใต้ดิน มืดๆหน่อย

อาหารก็ดูพิถีพิถันดีค่ะ

สั่งอะไรเกี่ยวกับแป้งนี่ได้ยินเสียงนวดแป้งเลยค่ะ

พิซซ่าจอร์เจียค่ะ มีไส้หมูข้างใน เมนูนี้เราเคยทานตอนไป Mestia

อาหารร้านนี้เราว่าอร่อยดี แต่ปริมาณเยอะเราเลยทานไม่หมด

อันนี้รสชาติตรงกลางเหมือนแหนมหมูค่ะ

นี่ก็บอกเค้าห่อนะ555 (เหลือเยอะเดี๋ยวเค้าว่าอาหารเค้าไม่อร่อย.....หรอ555 ห่อไปแต่ไม่กินจ้า

ส่วนคนหอบนั้นก็รุ่นพี่เราเอง ถามแกมั้ย...ก็ไม่555)

ค่าเสียหายรอบนี้ค่ะ

กินมื้อนี้เสร็จพวกเราก็มุ่งหน้าไปซ่อมกิจกรรมเสพงานศิลป์ใหม่ค่ะ

เมื่อวานร้านปิดเพราะมันเย็นเเระ...วันนี้ไปช่วงกลางวัน ร้านค้าน่าจะเยอะเลยแหละ

เดิน........ เดิน........... แล้วก็เดินวนไปค่ะ วันนี้เราใส่รองเท้าพร้อมเดินแระ

จริงๆจอร์เจียเป็นประเทศที่คนยุโรปมาเที่ยวเยอะนะคะ

เป็นเมืองท่องเที่ยวเลยแหละ เนื่องจากสถาปัตยกรรมสวยงาม ความขลัง

ความเก่าแก่มีมายาวนานเป็น 3,000 ปี

แถมราคาค่าครองชีพก็ถูกด้วย

Dry Bridge เป็น Flea market ที่ขายของเก่า ของที่ระลึกโซเวียต งานศิลปะ เครื่องประดับ

เปิดเวลา 10:00 - 17:00 น.

ร้านส่วนใหญ่ถ่ายรูปได้ค่ะ

จะมีบางร้านที่ห้ามถ่ายรูปค่ะ ดูป้ายดีๆนะคะ

ศิลปินเค้าจะวาดภาพเองแล้วเอามาขายเองค่ะ

ส่วนของที่ระลึกของฝาก เราก็ได้จากที่นี่แหละค่ะ

บรรยากาศร่มรื่น ภาพวาดก็สวยๆ ทั้งนั้น

เราต่างคนต่างแยกย้ายเดินดูในสิ่งที่ตัวเองสนใจนานพอสมควร

สวยๆทั้งนั้น

ได้เวลาพวกเราก็เคลื่อนขบวนค่ะ

เราจะไปโบสถ์ที่สวยและอลังการของกรุงทบิลิซีกันค่ะ

คนที่นี่นิยมปลูกองุ่นค่ะ เป็นรั้วบ้านเลย

หูยย.....ถ้าช่วงเป็นลูกนะ จะน่ากินขนาดไหน เค้าดูปลูกกันง่ายเนอะ

เรานะปลูกไว้ที่บ้านไม่เคยสำเร็จเล้ยยย

เดินกลับมาทางเดิมค่ะ

ไม่ได้เปิดแผนที่หรอก ดูความเป็นไปได้เอาค่ะ555

เพราะ Holy Trinity Cathedral มองเห็นเด่นชัดมากค่ะ ตั้งอยู่บนเขา เราก็แค่หาทางเดินไปให้ใกล้ที่สุด ลัดเลาะไปเรื่อย

ระหว่างทางที่เดินไป ทางใต้ดินก็มีภาพวาดสวยงามให้เราถ่ายรูปได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อค่ะ สวยๆทั้งนั้น

กิจกรรมวันนี้เราก็เก็บสถานที่ต่างๆ ในเมืองค่ะ


เอาหละ ถึงเวลาเดินขึ้นเขาอีกแล้วค่าาาา

เดินขึ้นเขามาก็จะเห็นความอลังการของ Holy Trinity Cathedral

นักท่องเที่ยวก็เยอะพอสมควรค่ะ

Holy Trinity Cathedral (Sameba) เป็น 1 ในมหาวิหารนิกายออร์โธด็อกซ์ที่สูงที่สุดในโลก

ในมหาวิหารแห่งนี้ประกอบไปด้วย ส่วนใต้ดิน และมีโบสถ์เล็กๆถึง 9แห่ง และสวนสวยๆ


มุมนี้ถ่ายยากมากค่ะ คนเดินไปมาตลอด

เราเดินเก็บบรรยากาศ

นั่งพักชมความงามแล้วก็เดินกลับกันค่ะ

บรรยากาศก็เริ่มอึมครึม ดีนะคะเนี่ยตอนเราถ่ายรูปนั้นแดดออกฟ้าสวยสดใส

วิวเมือง ทบิลิซีสวยจริง

Metekhi (Metechi) เเละ รูปปั้นของ Vakhtang Gorgasali ค่ะ

เราเดินข้าม Metekhi Bridge

ภาพตรงหน้าคือวิว Old Tbilisi ค่ะ

พอเดินกลับถึงที่พักก็ยังไม่มืดมีเวลาเก็บรูปอีกเยอะ

ทางขึ้นบ้านพักเรา มองลงมาก็เห็นโบสถ์ที่เราเพิ่งไปมาพอดีค่ะ

เรากลับถึงที่พักปุ๊บเปลี่ยนชุดปั๊บ

รุ่นพี่ผู้ชายเราก็จะงงๆกับความเยอะนี้หน่อย555

ถามว่าจะไปไหนกัน เราสองสาวตอบว่า ไปถ่ายแบบ5555

เอาหละแยกย้ายค่ะ สองสาวก็ใส่เดรสไปเก็บภาพที่ Sulfur bath ค่ะ

ถ่ายกับมัสยิดสีฟ้า Jumah masjid สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1700 ค่ะ


เขินๆหน่อยแต่ก็อยากได้ภาพสวยๆ ก็จัดไปค่ะ

ไม่มีใครรู้จักเราหรอก55555

คือที่พีกเราใกล้สถานที่ท่องเที่ยวค่ะ อยากจะเปลี่ยนกี่ชุดก็ได้555

ถ่ายแบบซะหน่อย แต่รองเท้านี่ดิ เราไม่ได้เอาส้นแบนมา ใส่แตะแล้วกัน555

Sulfur Bath

ผ่านไป 20 นาทีได้ ได้รูปพอสมควร

กลับไปเปลี่ยนชุดจ้า555

ได้เวลาไปเม้าส์มอยกับน้องคนไทยแระ

ร้านกาแฟก็ใกล้กับบ้านพักเราเลยค่ะ

เจอคนไทยก็ต่างแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ได้ไปผจญภัยมา

เอาเป็นว่าการเดินทาง ทำให้พบมิตรภาพใหม่ๆ ได้คนรู้จักเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ

เราใช้เวลาคุยกันนานพอสมควรแล้วก็แยกย้าย

น้องนั้นอยู่เที่ยวต่อ ส่วนพวกเราสามคนนั้นกลับไทยพรุ่งนี้แล้วจ้า


เราก็กลับที่พัก พักผ่อน แล้วลงมาหาซื้อของฝาก

บ้านใกล้แหล่งท่องเที่ยว สะดวกสบายมากค่ะ

คืนนี้ก็ทำการเก็บของ พรุ่งนี้เช้าเราให้ป้าหาแท็กซี่ให้ซึ่งเป็นเพื่อนป้าเอง

ได้ราคา 40 GEL ถูกกว่าตอนมาตั้งเยอะ

Good night Georgia ^^

รุ่งเช้า เราตื่นขึ้นมาแต่งตัว เก็บของเรียบร้อย นัดแท็กซี่ไว้ 10 โมง เวลาเหลือเฟือ

เอ๊ะ! วันนี้คุณยายไม่ชวนไปดื่มกาแฟหรอ5555

นี่ช่างวางแผน.... รุ่นพี่เราบอกให้เราขึ้นไปหายายกะป้าเอาของฝากไปให้แก

เราก็เอาไปให้ ป้ากับยายขอบคุณ...

เอ๊ะ!! ไม่เห็นชวนกิน555........... เราลงมาบอกรุ่นพี่ว่า วันนี้ไม่เห็นชวนเรากินเลย

จากนั้นป้ากับยายเดินตามลงมา กล่าวขอบอกขอบใจ เราก็ให้เหรียญบาทไทยเป็นของที่ระลึกกับยายอีก

ยายเลยถามว่า Coffee?...นี่แหละที่เราต้องการได้ยิน5555

ตอบไปทันทีเลยว่า YES!!!!!

5555 จอมวางแผนจริงๆ

เอาล่ะ ขึ้นไปบนบ้านกันเรา5555

นั่งชมวิว

ยายก็ชงกาแฟมาให้ เอาแอปเปิ้ลมาให้ ขนมปัง

พร้อมกับถุงลูกอม

บอกว่าเอาไว้ฝากเพื่อนๆที่ไทยนะ

น่าร้ากกกกก

แกบอกว่าเราเป็นกลุ่มคนไทยกลุ่มแรกที่มาพักแกประทับใจมาก

เราก็ประทับใจที่นี่มากค่ะ แนะนำเลยค่ะ ที่พักวิวดี ต้อนรับดุจญาติมิตร

เถียงแท็กซี่ที่โกงพวกเราให้อีกตอนห้าทุ่มเกือบเที่ยงคืน555

Anzori House ค่ะ 90 GEL

ลืมบอกค่ะ หลังจากที่เราแจ้งสถานทูตไทยในตุรกีทางสถานทูตก็ติดต่อทางเฟซบุคมาว่า

เค้าให้คนพื้นที่โทรคุยกับเจ้าของบ้านที่ Mestia ให้แล้ว

หากมีปัญหาให้ติดต่อคนในพื้นที่ที่จอร์เจียของสถานทูตได้เลยพร้อมให้เบอร์ติดต่อ

สบายใจค่ะ กลับบ้านได้

ได้เวลาแท็กซี่มา ก็ร่ำลากัน

เรามุ่งหน้าสู่สนามบิน

สนามบินที่นี่เล็กมาก เล็กกว่าดอนเมืองอีกค่ะ

เรานั่งรอจนกระทั่งเค้าท์เตอร์เปิด

ได้เวลาเข้า ตม.ไปหาซื้อของฝากแล้ว

ผ่านตม.ฉลุยนะคะ ไม่มีการจับกุมตัวไว้ตามที่พวกเรามโนไว้ค่ะ5555

ของดีของเด่นที่ Duty free ที่นี่คือไวน์ค่ะ

มีให้เลือกเยอะแยะค่ะ

บ๊ายบายแล้วนะจอร์เจีย

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว แอบลุ้นว่าจะลำเล็กเหมือนตอนมามั้ย

ดีที่รอบนี้ที่นั่ง 3-3 ค่ะ ใหญ่ขึ้นมาหน่อย

นั่งเครื่องเกือบ 4 ชั่วโมงค่ะกว่าจะถึงคาซัคสถาน

นั่งฟังเพลงในมือถือ แต่งรูป ไปแล้วกัน จอทีวีส่วนตัวไม่มีค่ะ

เครื่องไม่สั่นเหมือนตอนมา

แต่ก็มีเหตุระทึกเกิดขึ้นค่ะ

เพราะอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนถึงคาซัคสถาน

บนเครื่องประกาศว่า มีหมอบนเครื่องมั้ย ถ้ามี ให้ติดต่อพนักงานต้อนรับด่วน

เมื่อประกาศหลายรอบ เราเริ่มเห็นผู้โดยสารปลดเข็มขัด

แล้วยืนขึ้นมองไปด้านหลัง...เค้าหันกันเยอะ เราก็หันมั่ง

ภาพที่เห็นคือแอร์ สจ๊วด สีหน้าเคร่งเครียด เดินไปเอากล่องยามาบ้าง

ถังอ็อกซิเจนบ้าง เอิ่ม....... สถานการณ์ตึงเครียดพอๆกับเครื่องสั่นเลย

เรามองไม่เห็นชัดมากว่าเกิดไรขึ้น

แต่รุ่นพี่เรานั่งติดทางเดินรายงานว่า มีผู้หญิงวัยกลางคน น่าจะหมดสติ สามีเค้าก็พยายามเรียกชื่อ

ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เราก็เครียดด้วย ผู้โดยสารก็สีหน้าเคร่งเครียดกัน

รอบนี้เราก็ภาวนาช่วยเค้าขอให้ปลอดภัย

เป็น 1 ชั่วโมงที่ยาวนานเหลือเกิน

พอถึงคาซัคสถาน ก็มีเสียงตบมือเกรียวกราวเป็นวัฒนธรรมที่เครื่องลงจอดอย่างปลอดภัยค่ะ

ส่วนคุณป้าคนนั้นก็ฟื้น เดินเองได้ โล่งอกไปที

สนามบิน Almalty นี่วิวสวยมากนะ จะมองเห็นภูเขาปกคลุมด้วยหิมะ แต่ถ้ามีหมอกก็อดเห็นค่ะ

นี่เราถ่ายบนรถบัส เลยไม่ชัดเอาซะเลย

เรารอเวลาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินอัลมัลตี้หลายชั่วโมงเลยค่ะ

เนตไม่มีก็นั่งแต่งรูปวนไป

ชั้นล่างกลิ่นบุหรี่ฉุนมาก แต่คนไม่พลุกพล่านค่ะ

พี่จีนนั้นเล่นไพ่กันกลางสนามบินเลยจ้า

มีผู้โดยสารเมาเหล้า เดินแทบไม่ไหว โวยวาย จนขึ้นเครื่องไม่ได้ก็มีค่ะ มีหลายเหตุการณ์จริงทริปนี้

เราสามคนทนกลิ่นบุหรี่ไม่ไหว ชวนกันไปด้านบน

พอไปด้านบนก็รู้สึกดีหน่อย แต่คนจะเยอะมาก แออัดมาก

แต่ก็เจอพี่คนไทยเยอะเลยค่ะ พี่ๆกลุ่มนั้นเหมือนทักพวกเราเลยว่าเหมือนคนไทยเลย คุยไปคุยมา

พวกพี่เค้ามาทำงานที่คาซัคสถานของกรมแรงงาน แล้วได้เวลาไปเยี่ยมบ้านที่ไทย

โชคดีที่เจอพวกพี่เค้า เพราะพี่เค้าแชร์เนตให้เราได้อัพเดทจ้าาาาา

คุยกันสนุกสนาน ไม่เหงาดี บางคนก็มาจากจังหวัดเดียวกะเราเลย ดูอบอุ่นดีค่ะ

พอได้เเวลาก็ขึ้นเครื่อง ที่นั่งก็ 2-3-2 ค่ะ

นั่งกินอาหาร ดูหนังวนไปจ้า บิน 6 ชั่วโมงกว่าๆเกือบ 7 ชั่วโมง

น่านฟ้าจีนค่ะ สวยดี ใกล้สว่างแล้ว....ยังไม่ได้นอนเลยยย มัวแต่ดูหนัง

เเสงเเยงตา......นี่เรางีบนิดเดียวเอง

มุมที่คุ้นเคย ไทยแลนด์!!!! แล้วค่ะ

และแล้วการเดินทางของเราก็ได้สิ้นสุดลง สุดท้ายก็ไม่มีที่ไหนอบอุ่นใจเท่าบ้านเราเองค่ะ

กลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพค่ะ

ถึงไทยก็แปดโมงเช้า เป็นอันจบทริปตะลุยจอร์เจียดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ 3,000 ปีค่ะ

การเดินทางไม่เพียงแต่จะงดงามที่จุดหมายปลายทาง

ระหว่างทางก็มีเรื่องราวให้น่าจดจำ มิตรภาพดีๆ และความสวยงามให้เราได้เก็บเกี่ยวค่ะ

อย่าลืมให้รางวัลตัวเองโดยการพาตัวเองไปในที่ใหม่ๆ เจอคนใหม่ๆ และประสบการณ์ใหม่ๆนะคะ

เพราะเงินหาใหม่ได้....... แต่เวลาไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ค่ะ

แล้วพบกันในตอนถัดไปนะคะ

ปล.สถานทูตไทยในตุรกียังส่งข้อความมาถามอีกว่าถึงบ้านโดยปลอดภัยกันทุกคนมั้ย น่ารักมากค่ะ

ต้องขอบพระคุณทางสถานทูตอีกครั้งนะคะที่คอยช่วยเหลือค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

ที่สำคัญขอบคุณสำหรับการกดแชร์ประสบการณ์....เรื่องราวท่องเที่ยวของเราด้วยนะคะ^____^

พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้เพิ่มเติมที่ เพจ Facebook : Be Cool by Kru Gib ได้เลยค่ะ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://www.facebook.com/becoolbykrugib/


Be Cool by Gib

 วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 18.38 น.

ความคิดเห็น